4/5

 

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.394 – อย่าทำในสิ่งที่คุณไม่อยากให้คนอื่นทำกับคุณ

 

“นำผงดึงดูดสัตว์ร้ายมา แล้วไปโปรยใส่พวกมัน!”

 

เล่ยหยิงกล่าวด้วยความเย็นชา

 

มนุษย์และสัตว์ร้าย ต่อสู้กันมานานนับร้อยปี ดังนั้น ในเมื่อเกิดการคิดค้นผงขับไล่สัตว์ร้ายขึ้น ก็ย่อมมีการคิดค้นผงดึงดูดสัตว์ร้ายเป็นธรรมดา

 

ผงดึงดูดสัตว์ร้าย จะถูกใช้ได้อย่างเหมาะสมก็ต่อเมื่อในสถานการที่คุณแข็งแกร่งมากๆ และไม่อยากเดินทางออกค้นหาตลอดเวลาในทุ่งล่า คุณสามารถใช้ผงดึงดูดสัตว์ร้ายให้เข้ามาได้ด้วยผงนี้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้มันวางกับดักได้อีกด้วย

 

เมื่อก่อนในตอนที่ฉินเฟิงอยู่ในเมืองไห่ เขาก็เคยถูกลอบวางกับดักด้วยผงนี้เช่นกัน อันที่จริง นี่ถือเป็นวิธีเล่นตุกติกในแบบฉบับกลุ่มเล่ยถัง

 

“ส่งใครไปดี?”

 

“เล่ยเต๋า แกไป”

 

“น้อมรับคำสั่งบอส! คอยดูผลงานฉันได้เลย”

 

เล่ยเต๋าแห่งกลุ่มเล่ยถัง มิใช่ผู้ใช้พลังธรรมดาๆ แต่เขาคือผู้ใช้อบิลิตี้มืด!

 

ช่วงเวลานี้ อบิลิตี้มืดถูกเปิดใช้งาน  ทั้งคนทั้งร่างของเขาพลันกลายเป็นเงา แฝงตัวมุ่งตรงไปยังทิศทางของฉินเฟิงและคนอื่นๆอย่างรวดเร็ว เตรียมลอบวางกับดัก

 

เกาหยูคังเป็นผู้ใช้พลังเลเวล C ก็จริง แต่พลังสมาธิของเขามิได้แข็งแกร่งถึงขนาดตรวจจับได้

 

เนื่องจากเอกลักษณ์ของรูนมืด ที่เน้นไปทางความสามารถในการซ่อนเร้น และบดบังสายตา หากเป็นคนในระดับเดียวกัน ย่อมไม่มีทางตระหนักได้ถึงการดำรงอยู่ของเล่ยเต๋า

 

ย่อมไม่มีผู้ใดรู้ตัว อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มกองกำลังทั้งสอง บังเอิญมีใครคนหนึ่งที่ดันแข็งแกร่งกว่าเล่ยเต๋าเนี่ยสิ

 

–เป็นไป๋หลี!

 

เดิมไป๋หลีก็คอยจับตาดูเล่ยหยิงและคนอื่นๆอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อเล่ยเต๋าลอบเคลื่อนตัวเข้ามา ชัดเจนว่าย่อมไม่คิดดี!

 

“มีคนลอบเข้ามา”

 

ไป๋หลีส่งข่าวผ่านทางพันธะสัญญา

 

สีหน้าของฉินเฟิงหมองลง

 

หากเป็นคนของกลุ่มเล่ยถัง จำต้องระวังไว้!

 

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เกาหยูคังเป็นเป้าหมายของพวกมันอยู่ก่อนแล้ว

 

ต้องระวังไม่ปล่อยให้พวกมันลอบทำเรื่องชั่วร้าย!

 

เมื่อคิดถึงจุดนี้ ฉินเฟิงก็ถอนตัวออกจากท่ามกลางสนามรบ

 

เขากวาดพลังสมาธิออกไป เมื่อมันกระทบเข้ากับรูนมืด ฉินเฟิงก็พบกับเป้าหมายทันที

 

วิซซซ!

 

ร่างของฉินเฟิงกระพริบไหว ข้ามผ่านผืนป่าอย่างรวดเร็ว ตรงไปปรากฏกายเบื้องหน้าเล่ยเต๋า

 

เล่ยเต๋าสะดุ้งตกใจ!

 

มองไปยังผู้มาเยือน เล่ยเต๋าจดจำได้ทันทีว่าเป็นฉินเฟิง เพราะท้ายที่สุดแล้ว ฉินเฟิงคือคนที่สังหารเล่ยชาง!

 

“กองทหารรับจ้างของพวกเรากำลังออกล่าอยู่ข้างหน้า เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ขอให้หยุดเพียงเท่านี้” ฉินเฟิงกล่าวเสียงจม

 

สีหน้าของเล่ยเต๋ามืดมนลง

 

‘นี่มันเจอฉันแล้วงั้นหรือ?’

 

‘ไม่หรอกน่า บางทีมันอาจหลอกกันก็ได้!’

 

เมื่อได้ข้อสรุป เล่ยเต๋าที่อยู่ในซ่อนเงาก็เริ่มก้าวต่อไปข้างหน้า

 

ฟุบบบ!

 

ซ่อนเงาของเล่ยเต๋าเคลื่อนกายผ่านฉินเฟิงไปอย่างรวดเร็ว

 

‘หลอกกันจริงๆด้วย ไอ้สารเลวน้อย!’

 

ระหว่างสบถในใจ พริบตานั้นเขาพลันรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆเป่าใส่เบื้องหลัง

 

ขนทั้งร่างลุกเกรียว!

 

“แฝงกายสู่ความมืดมิด!”

 

อบิลิตี้ถูกใช้ออก ทั่วบริเวณพลันฟุ้งไปด้วยรังสีทมิฬ เล่ยเต๋าจมดิ่งหายเข้าไปในความมืดมิด

 

และในเวลาเดียวกันกับใบมีดที่ลุกไหม้ไปด้วยไฟสีฟ้า ตัดผ่านในจุดที่เล่ยเต๋าเคยยืนอยู่

 

หากถูกคมมีดนี้ เล่ยเต๋าย่อมตายอย่างไม่ต้องสงสัย

 

เมื่อมีดโฉบพ้น ประกายแสงที่ลุกไหม้บนใบมีดก็กระทบเข้ากับต้นไม้ข้างๆ ระเบิดขึ้นในฉับพลัน

 

ตูม!

 

ลำต้นไม้หนาหักโค่นลงในคราวเดียว

 

“อ๊ากกก!” เล่ยเต๋าร้องครวญด้วยความเจ็บปวด แรงระเบิดนี้มิเพียงโค่นต้นไม้ แต่แตกกระจาย ส่งผลกระทบมาถึงเขา ต้องไม่ลืมนะว่า โดยปกติแล้ว ร่างกายของผู้ใช้อบิลิตี้น่ะอ่อนแอมาก!

 

ช่วงเวลานี้ ร่างของเล่ยเต๋าถูกเปิดเผยออกมา ไร้ซึ่งอบิลิตี้ใดๆคอยปกปิด

 

“สารเลว! ไปลงนรกซะ!”

 

พลังสมาธิของเล่ยเต๋าถูกเร่งเร้า เงามืดรอบกายบิดกระตุก มันยืดขยายออก ฉกเข้าพัวพันรอบเท้าและลำตัวของฉินเฟิง

 

ยังไม่หมด เล่ยเต๋าชี้นิ้วไปทางฉินเฟิง ปลดปล่อยลำแสงสีดำออกมาทันใด

 

ลำแสงนี้ ฉินเฟิงคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี เพราะมันคือลำแสงแห่งความมืด!

 

หากถูกโจมตีโดยอบิลิตี้นี้ พละกำลังจะหดหาย กลายเป็นคนอ่อนแอ ความแข็งแกร่งลดทอนลงอย่างรวดเร็ว

 

แต่แน่นอน ว่าต่อให้ฉินเฟิงคุ้นเคยกับมันมากเพียงใด แต่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้การโจมตีของเล่ยเต๋าตกกระทบลงถึงตัว

 

พลังสมาธิของฉินเฟิงถูกปลุกเร้าในทำนองเดียวกัน

 

รังสีแสงสีแดงพลันปะทุ ก่อร่างเป็นมังกรขนาดใหญ่ขึ้นทันใด

 

มังกรใหญ่โอบล้อม ว่ายวนรอบกายฉินเฟิง กวาดเอารูนมืดที่มุ่งร้ายกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง จากนั้นร้องคำราม อ้าปากฉกเข้าสังหารเล่ยเต๋า

 

“นี่มันเทคนิคมังกรไฟ!” เล่ยเต๋ากรีดร้อง

 

จะกรีดร้องก็ไม่แปลก เพราะท้ายที่สุดแล้ว เจ้าสิ่งนี้มันทรงพลังเกินไป ต่อให้เล่ยเต๋าอยู่ในเลเวล D แต่เขาไม่ได้เชี่ยวชาญอบิลิตี้มากถึงขนาดนั้น ยิ่งเป็นท่าอบิลิตี้มืด เรียกได้เลยว่ามีน้อยนิด แทบจะขาดแคลน สรุปสั้นๆว่าแทบไม่มีท่าใดจะใช้รับมือกับมันได้

 

เมื่อเห็นเทคนิคมังกรไฟ เล่ยเต๋าก็ตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายมิใช่ตัวตนที่สมควรประมาท!

 

“เงาเขมือบ!”

 

เล่ยเต๋าวาดมือออก

 

ทันใดนั้นเอง เบื้องหน้าเล่ยเต๋า จู่ๆก็ปรากฏกำแพงวังวนสีดำ มังกรไฟอ้าปากถลาเข้าไป จมลงสู่กระวังวนของเล่ยเต๋าโดยตรง

 

อย่างไรก็ตาม เวลานี้ หน้าผากของเล่ยเต๋าผุดไปด้วยเหงื่อเย็น

 

เงาเขมือบเป็นท่าที่ดี แต่ยิ่งพลังโจมตีที่มันต้องทานรับมหาศาลเท่าไหร่ พลังสมาธิของผู้ใช้ก็ยิ่งถูกสูบกลืนตามไปมากเท่านั้น

 

เล่ยเต๋าชัดเจนว่าไม่คาดคิด ว่าการโจมตีของฉินเฟิงจะทรงพลังถึงขนาดนี้

 

หัวมังกรใหญ่ถูกกลืนเข้าสู่วังวน ทว่าเมื่อช่วงลำตัวว่ายตามเข้าไปได้เพียงครึ่งการป้องกันจากเงาเขมือบก็ถึงขีดจำกัด

 

บรึ้ม!

 

กระแสวังวนทมิฬแหลกสลายลงทันใด

 

อีกครึ่งของมังกร บุกมาถึงตัวเล่ยเต๋า

 

“อ๊ากกกกก” มังกรไฟครึ่งหลังโถมกลืนเล่ยเต๋า หอบทั้งคนทั้งร่างของเขาไปกับมัน กระแทกเข้าใส่ต้นไม้ใหญ่โดยตรง ปังงง! แรงปะทะอันโหดเหี้ยมทั้งหมดซึมซาบเข้าสู่กายเขา ในชั่วพริบตา ชุดต่อสู้ภายนอกก็ได้รับความเสียหายโดยสมบูรณ์ เปิดเผยให้เห็นว่าภายในยังมีเสื้อกั๊กที่สาดแสงสีม่วง

 

“อ๊อก!”

 

เล่ยเต๋าได้รับบาดเจ็บสาหัสตรงหน้าท้อง ไอออกมาเป็นเลือด

 

ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว มีดกษัตริย์ครามในมือ ชี้ปลายแหลมไปยังเล่ยเต๋า

 

แต่ในจังหวะนั้นเอง เล่ยเต๋าลุกพรวดขึ้นทันใด

 

“เอานี่ไปกินซะ!”

 

เศษผงบางอย่าง ถูกปาเข้าใส่ฉินเฟิง บดบังวิสัยทัศน์เขา

 

เล่ยเต๋าฉวยโอกาสนี้หันหลังวิ่งหลบหนีไป

 

ฉินเฟิงสูดดมได้ถึงกลิ่นของมัน ก็ตระหนักได้ทันทีว่าคืออะไร

 

นี่มันผงดึงดูดสัตว์ร้าย!

 

เหอๆ ดูเหมือนว่าไอ้วิธีเล่นตุกติกแบบนี้ กลุ่มเล่ยถังจะนิยมใช้มันซะจริงๆ

 

กำลังภายในของฉินเฟิงปลดปล่อยสู่ภายนอก ป้องกันมิให้ผงดึงดูดสัตว์ร้ายกระทบเข้ากับร่างกาย สองเท้าเริ่มขยับไหว ไล่ตามเล่ยเต๋า

 

“แกไม่ตายดีแน่”

 

ในเมื่อคิดทำร้ายผู้คนด้วยสิ่งนี้ ถึงเวลาก็เมื่อตนตกเป็นหยื่อบ้าง ก็ต้องแบกรับได้!

 

วิซ วิซ วิซซซ!

 

ฉินเฟิงที่กำลังไล่ตามจากเบื้องหลัง จู่ๆก็เริ่มใช้ซ่อนเงาอย่างกะทันหัน

 

เล่ยเต๋าไม่รู้เรื่องนี้ เขาเพียงนึกว่าตนว่องไวยิ่งกว่า รู้สึกตัวอีกทีคนที่ไล่ตามมาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

ทว่ายังมิทันได้ถอนหายใจโล่งอก ฉินเฟิงพลันปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้าของเล่ยเต๋า!

 

รูม่านตาของเล่ยเต๋าเบิกกว้าง ในแววตาสะท้อนให้เห็นถึงแสงกระพริบไหวของคมมีดที่กำลังปาดลงมา

 

มีดกษัตริย์คราม วาดผ่านสายตาเขาไป

 

ศีรษะขาดจากลำคอ ไหลตกลงทันที

 

พรวดดด!

 

เลือดทะลักออกจากเนื้อที่ดำไหม้ เจิ่งนองเป็นแอ่ง

 

เล่ยเต๋า –ตาย!

 

การต่อสู้ระหว่างฉินเฟิงกับเล่ยเต๋าไม่ได้ถูกปกปิดแต่อย่างใด ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งทหารรับจ้างเฟิงหลี หรือทหารรับจ้างของเกาหยูคัง กระทั่งกลุ่มเล่ยถังล้วนรับรู้ถึงมันได้ทั้งหมด!

 

ปัจจุบัน พลังสมาธิของแต่ละฝ่าย สามารถสแกนได้เฉพาะฉินเฟิงเท่านั้น แต่อีกคนหนึ่งไร้ซึ่งลมหายใจ ชัดเจนว่าเขาตายไปแล้ว

 

ณ สถานที่ห่างไกล สมาชิกของกลุ่มเล่ยถังกลายเป็นเงียบงัน

 

วินาทีต่อมา ทั้งหมดคลิ๊กลงบนอุปกรณ์สื่อสาร ส่งบางอย่างไปยังอุปกรณ์สื่อสารของเล่ยเต๋า

 

เล่ยเต๋าแน่นอนย่อมไม่ตอบสนองใดๆ เพราะคนก็ตายไปแล้ว

 

แต่เรื่องนี้พวกมันทำทำไม ฉินเฟิงไม่คิดสืบความให้เข้าใจ

 

ฉินเฟิงเผาร่างของเล่ยเต๋าอย่างรวดเร็วด้วยอบิลิตี้ไฟ ใช้พลังสมาธิเรียกอุปกรณ์รูนของศัตรูมาไว้ในมือตน

 

สิ่งที่อยู่ภายใน ถูกเปิดเผยออกมา

 

“ชอบวางกับดักคนอื่นด้วยวิธีนี้นัก งั้นคราวนี้ฉันจะทำแบบเดียวกันพวกแกบ้าง!”