บทที่ 119 ติดหนี้ก็ต้องใช้คืน

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

เพียงแต่ ถึงแม้ราคาที่ทุกคนเสนอให้จะล่อใจมาก แต่เย่เทียนกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะไม่ขาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หยกขนาดเท่าลูกฟุตบอลก้อนนี้ในสายตาของพวกเขาเป็นหยกชั้นดีที่ประเมินค่าไม่ได้ แต่ในสายตาของเย่เทียน นี่เป็นหินทิพย์ที่หาได้ยากมาก!

นึกมาถึงตรงนี้ เย่เทียนส่ายหน้าแบบไม่ลังเล กล่าวขอโทษ “ทุกท่าน ต้องขอโทษจริงๆ หยกก้อนนี้ผมอยากส่งให้ภรรยา ไม่เคยคิดจะขายครับ”

พูดแบบนี้ออกมา ทุกคนในเหตุการณ์ต่างมองเย่เทียนเหมือนมองคนโง่

ส่งให้ภรรยา? ข้ออ้างนี้ค่อนข้างโกหกเกินไปมั้ง!

ต่อให้ความรู้สึกลึกซึ้งแค่ไหนดีเลวอย่างไรก็ควรส่งของสำเร็จรูปไม่ใช่เหรอ? ให้หยกก้อนใหญ่ขนาดนี้เข้าไป นี่ล้อเล่นหรือไง?

ยิ่งไปกว่านั้น นายไม่ใช่เป็นบอดี้การ์ดตัวเล็กๆ คนหนึ่งเหรอ? ทิ้งเงินมากขนาดนี้หลุดลอยไป? ไม่แลกเอาเงินมาปรับปรุงชีวิตให้ดีก่อน?

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขอแค่มีเงินเรื่องอะไรก็มีคนทำแทน! มีเงินยังต้องกังวลจะไม่มีผู้หญิงอีกเหรอ?

พอคนคนนั้นที่เสนอราคายี่สิบห้าล้านได้ยิน กลับกลั้นไม่อยู่ตะลึงครู่หนึ่ง รีบดึงสติกลับมา หัวเราะขมขื่นบอกว่า “นึกไม่ถึงน้องชายนายจะเป็นผู้ชายที่ความรู้สึกลึกซึ้งขนาดนี้ เอาแบบนี้แล้วกัน นี่คือนามบัตรฉัน ถ้านายอยากจะขายแล้ว สามารถมาหาฉันได้ทุกเมื่อ”

มีคนนำทางให้ พ่อค้าเพชรพลอยกลุ่มหนึ่งต่างตอบสนองเข้ามา ขยับเข้าไปยัดนามบัตรใส่ในมือของเย่เทียนกันหมด

ช่วงเวลาพริบตาเดียว ในมือเย่เทียนมีนามบัตรปึกน้อยเพิ่มขึ้นมา

“พี่ชาย รบกวนนายช่วยฉันหากล่องกระดาษมาห่อหยกก้อนนั้นเอาไว้จะได้ไหม?”

พูดแสดงความเกรงใจกับเหล่าพ่อค้าเพชรพลอยง่ายๆ สักหน่อย เย่เทียนย้ายสายตามองกลับไปบนตัวชายกำยำแล้ว “วางใจได้ ที่รับปากจะให้นายรับรองไม่น้อยแน่”

การกระทำโดยสำนึกของชายกำยำที่ตัดหินเมื่อสักครู่เพียงพอพิสูจน์ได้ว่าเขามีสิทธิ์ได้รับเงินรางวัลไม่น้อยก้อนหนึ่ง

“เถ้าแก่คุณวางใจได้ครับ เรื่องนี้ให้ผมจัดการเองครับ!” ชายกำยำจะปฏิเสธที่ไหน ตบหน้าอกรับประกัน

หลังได้รับคำตอบยืนยัน เย่เทียนย้ายสายตากลับไปบนตัวเฉินหวั่นชิง “หวั่นชิง รบกวนเธอช่วยฉันดูไว้ได้ไหม?”

เฉินหวั่นชิงกลับเข้าใจความกังวลของเย่เทียนดี พยักหน้าเล็กน้อยตอบตกลง เดินตามด้านหลังของชายกำยำที่ตัดหินไปด้านในลานพนันหิน บรรจุหยกขึ้นมาหลีกเลี่ยงเดี๋ยวออกไปจะได้ไม่สะดุดตาขนาดนั้น

รอหลังจากภาพเงาของทั้งสองหายลับไป เย่เทียนที่ยืนอยู่ที่เดิมในที่สุดก็มีการเคลื่อนไหวแล้ว มุมปากวาดรอยยิ้มร้ายกาจขึ้น ยกฝีเท้าก้าวออกไปข้างหน้าด้วยความมั่นคง

จางเวยสีหน้าเขียวปัดอยู่ นึกไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่าดวงของเย่เทียนจะดีขนาดนี้ ยังทำให้เขาพนันได้กำไรจริง และยังเป็นหยกจักรพรรดิ์ชั้นสูงอีกด้วย

นึกถึงตนเองอยู่ลานพนันหินแห่งนี้เสียไปไม่ต่ำกว่าสิบล้านแล้ว คำนวณดูจนปัจจุบันนี้ยังขาดทุนเกือบสามล้านกว่า เมื่อเปรียบเทียบกันคนอื่นยังมักจะหงุดหงิดใจ

“เชอะ! พวกเราไปกัน!” มองเย่เทียนถูกพ่อค้าเพชรพลอยกลุ่มใหญ่ล้อมรอบไว้ จางเวยยินยอมอยู่ที่นี่ต่อไปที่ไหน หมุนตัวอยากจะไป

“คุณชายใหญ่จาง นายรีบร้อนไปขนาดนั้นทำไมกัน!”

เพียงแค่ เย่เทียนที่มุดออกมาจากในฝูงชนจะปล่อยจางเวยไปแบบนี้ได้ที่ไหน ตะโกนอยู่ด้านหลัง “นายคงไม่ใช่อยากหนีหนี้หรอกมั้ง?”

พูดแบบนี้ออกมา ทุกคนในที่นี้เกือบส่งเสียงหัวเราะออกมา แต่ละคนยืนอยู่ด้านข้างรอดูเรื่องสนุกอยู่

ภายใต้การแนะนำของจางเวยก่อนหน้านี้ พวกเขารับรู้มาว่าเย่เทียนเป็นแค่บอดี้การ์ดกระจอกคนหนึ่ง ตอนนี้คาดไม่ถึงยังกล้ามาทวงหนี้คุณชายใหญ่ตระกูลจาง นี่กลัวว่าสมองคงผิดปกติแล้วมั้ง?

ไม่รอให้จางเวยเอ่ยปากอย่างโมโห สุนัขรับใช้กลุ่มหนึ่งด้านข้างเขากลับเยาะเย้ยขึ้นมาก่อน

“เชี้ยเอ๊ย! คุณชายจาง คุณไปรู้จักเจ้าโง่มาจากที่ไหนกันแน่ นึกไม่ถึงยังกล้ามาทวงหนี้กับคุณ!”

“ไอ้บอดี้การ์ดคนนั้น แกสมองผิดปกติอะไรมารึเปล่า? ไม่รู้ว่าพวกฉันมีสถานะอะไรเหรอ? ถึงกล้ามาทวงหนี้!”

“สถานะอะไร? ไม่ใช่พวกสำมะเลเทเมาที่รู้จักแต่หลบอยู่ใต้เงาพ่อแม่ก่อเรื่องวุ่นไปทั่วกลุ่มหนึ่งเหรอ?”

เย่เทียนหัวเราะเยาะดูหมิ่น เขาคาดคะเนได้แต่แรกแล้วว่าจางเวยไม่อาจยอมแพ้พนันให้เงินมาแบบเชื่อฟัง

เพียงแต่ว่า นี่พูดอย่างไรก็เป็นเงินสิบล้านเลยนะ? บำเพ็ญฌานเป็นเรื่องใช้เงินมาก เขาจะไม่ทวงกลับมาได้อย่างไรกัน!

“แกแม่งด่าใครว่าสำมะเลเทเมาวะ!” ชายหนุ่มที่ก่อนหน้านี้ให้เย่เทียนไปหนึ่งแสนหวังว่าจะแย่งความสนใจของสาวสวยได้ส่งเสียงต่อว่า

“ใครรับก็ว่าคนนั้น”

เย่เทียนเบ้ปากดูถูก หันเส้นสายตาไปบนตัวจางเวยที่ไม่พูดไม่จาสักคำ พูดแบบค่อนข้างไม่ทนเท่าไร “ฉันว่านายคนนี้มันเรื่องอะไรกัน? เป็นคนที่แม้แต่ความซื่อสัตย์ยังไม่มี นายหนีหนี้แบบนี้ไม่คิดว่าน่าอายบ้างเหรอ?”

ชั่วขณะนั้นจางเวยหน้าแดงขึ้นมา โกรธจนกัดฟันแน่น ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าเย่เทียนคงไม่รู้ว่าตายไปตั้งกี่ครั้งตั้งนานแล้ว

ตามองเห็นเย่เทียนไม่รู้จักดีเลวขนาดนี้ เขาโกรธจัดแต่กลับหัวเราะพูดว่า “แช่เย่ แกอยากเอาเงินจากฉันทางนี้ให้ได้?”

“นั่นมันแน่อยู่แล้ว!”

เย่เทียนพยักหน้าอย่างแน่ใจ หัวเราะหึๆ บอกว่า “ไม่ว่าจะพูดยังไงนั่นเป็นเงินตั้งสิบล้าน! ในสายตาของนายคุณชายใหญ่จางก็เป็นแค่เศษเงิน แต่สำหรับฉันที่เป็นบอดี้การ์ดตัวเล็กๆ นั่นคือเงินที่จนแก่ยังหาไม่ได้เลยนะ”

ให้เงินเหรอ?

เป็นไปไม่ได้!

เดิมทีจางเวยไม่เคยคิดความเป็นไปได้อันนี้ ถึงแม้เขาจะมีเงินแค่ไหนก็ตาม สิบล้านนี้ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นทำไมต้องให้เย่เทียนด้วย?

คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็นึกขึ้นได้ พูดจาเย้ยหยัน “อย่าหาว่าฉันไม่เตือนสติแก ถ้าแกรู้จักเอาตัวรอด รีบไสหัวไปให้ไกลเท่าไรได้ยิ่งดี ฉันจะคิดเสียว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น”

“ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันจะให้แกรู้ว่าจุดจบคนที่ล่วงเกินฉันมันเป็นแบบไหน!”

เย่เทียนยักคิ้วขึ้น พูดแบบหน้าโกรธเคืองเต็มที่ “นายคนนี้ทำไมถึงไม่มีเหตุผลเลย? ทั้งที่เป็นนายติดหนี้ไม่ใช้คืน ฉันมาทวงหนี้นายยังอยากให้ฉันไสหัวไป?”

จางเวยพูดแบบไม่กลัวเพราะมีคนหนุนหลัง “ถ้าแกยังพัวพันฉันต่อไป งั้นก็ไม่ใช่แค่ไสหัวไปธรรมดาแค่นี้แล้ว!”

ไม่ว่าพูดอย่างไร อยู่ด้านหลังเขามีพี่เก้าผู้มีอิทธิพลของที่นี่ยืนอยู่ ตนเองกับบอดี้การ์ดกระจอกเปรียบเทียบกันขึ้นมา เขาเชื่อว่าพี่เก้าจะเลือกอย่างชาญฉลาด

เย่เทียนยิ่งขมวดคิ้วลึกกว่าเดิม นัยน์ตาดำมืดมีแสงหนาวเหน็บระเบิดออกมา “ถ้านายไม่ให้เงิน วันนี้ฉันยากจะออกไปจากที่นี่”

“แกข่มขู่ฉัน?”

จางเวยหัวเราะฮาๆ เสียงดังเหมือนได้ยินเรื่องตลกที่น่าขำที่สุดแล้ว จากนั้นสีหน้าเข้มงวด “พูดดีๆ แกไม่ยอมฟังดันอยากให้ใช้กำลัง งั้นอย่ามาโทษว่าฉันไม่เกรงใจแล้วกัน!”

เส้นสายตาเขามองทางชายกำยำหัวล้านที่ออกมายืนอยู่ด้านข้างตนตั้งแต่แรก “พี่เก้า ช่วยผมจัดการเจ้าหนุ่มนี้ ราคาคุยกันได้!”

ชายกำยำหัวล้านที่ถูกเรียกว่าพี่เก้าเดินออกมาอย่างไม่ลังเลแต่อย่างใด เขาจัดการเรื่องยุ่งยากแทนลูกคนรวยพวกนี้ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้น ตอนเริ่มต้นเขาคงไม่อาจตะโกนว่าจะจัดการเย่เทียน

“ไอ้หนุ่ม อย่าหาว่าฉันไม่ให้โอกาสแกเลยนะ ขอแค่แกคุกเข่าลงมาคำนับหัวให้คุณชายจางสามทีอย่างเชื่อฟัง ฉันจะพิจารณาปล่อยแกไปสักครั้งก็ได้”

พี่เก้าหักนิ้วมืออยู่ ส่งเสียงดังแกรกออกมา

“ฆ่าคนชดใช้ด้วยชีวิต ติดหนี้ก็ใช้ด้วยเงิน อันนี้คือหลักเกณฑ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงมาแต่โบราณ!”

เย่เทียนพูดอย่างทรงพลัง “ถึงแม้ฉันจะเป็นแค่บอดี้การ์ดตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ทุกคนล้วนได้ยินที่ฉันกับคุณชายจางพนันกัน ตอนนี้หินหยาบพนันได้กำไรแล้ว ฉันทวงหนี้กับคุณชายจางมีอะไรผิดเหรอ!”