106 ขีดเส้นแบ่งเขตแดน

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 106 ขีดเส้นแบ่งเขตแดน

“พวกคุณทำได้แค่มองดูเซียวไห่หลงฆาตกรรมเฉยๆ เหรอ?!”

เซียวฉางควนรู้สึกตัว คำรามอย่างโกรธเกรี้ยว เมื่อเห็นเซียวไห่หลงเอาขวานฟันเย่เฉิน

แต่ทว่านายหญิงใหญ่เซียวที่นั่งอยู่ในห้องโถงและเซียวฉางเฉียนที่ยืนอยู่บนขั้นบันไดก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ!

ไม่แม้แต่จะกะพริบตาด้วยซ้ำ!

บรรดาญาติมิตรของตระกูลเซียวที่เหลือก็เงียบเช่นกัน! ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา!

ส่วนนายหญิงใหญ่ ตอนนี้เธอต้องการซื้อคฤหาสน์เท่านั้น!

ไม่อยากคิดถึงเรื่องอื่น!

บางครั้งคนเรายิ่งแก่ตัวลงก็ยิ่งมีความโลภมากขึ้นเท่านั้น!

ในสมัยโบราณกษัตริย์ยิ่งแก่ก็ยิ่งโง่เขลา ยิ่งแก่ก็ยิ่งโอหัง ยิ่งแก่ก็ยิ่งฟุ่มเฟือย สร้างพระราชวังและสุสานให้ตัวเองเป็นการใหญ่

สำหรับนายหญิงใหญ่เซียว ก็ยิ่งแก่ยิ่งหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้นและได้รับการเสวยสุขมากขึ้น!

นายหญิงใหญ่ต้องการอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ ตายในที่ที่ดีกว่านี้ และฝังในที่ที่ดีกว่าดี

เป็นการแสดงให้เห็นล่วงหน้าว่าตนจะมีความมั่งคั่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในชาติหน้า!

ดังนั้น นี่คือเหตุผลที่ผู้สูงอายุหวังที่จะเตรียมโลงศพหนาและหลุมฝังศพที่สวยงามให้ตัวเองเสมอ

ดังนั้นสำหรับนายหญิงใหญ่เซียวแล้ว เธอต้องได้คฤหาสน์มูลค่าหนึ่งร้อยสามสิบล้านมาไว้ในมือให้ได้!

แม้ว่าเซียวไห่หลงจะฆ่าเย่เฉินจริงๆ ก็ไม่เห็นเป็นไรหากได้คฤหาสน์มาครอบครอง!

เซียวฉางควนและเซียวชูหรันเงยหน้าขึ้นมองคนกลุ่มนี้ หัวใจเย็นชาอย่างสิ้นเชิง

นี่หรือคือสิ่งที่เรียกว่าญาติ “ในสายเลือด”!

เพื่อเงิน เพื่อปล้นทรัพย์สินของเขา ถึงกับวางกับดักเพื่อปล้นและยังต้องการฆ่าครอบครัวของเขาอีก!

พี่ใหญ่เซียวฉางเฉียนยังพูดอย่างสบายใจ “น้องรอง ไห่หลงยังเป็นแค่เด็ก เขาแค่เล่นสนุก ทำไมแกต้องคิดเป็นจริงเป็นจังด้วย? จะว่าไปแล้ว ต่อให้เขาจะฆ่าเย่เฉินจริงๆ แล้วยังไงล่ะ เขาไม่ใช่สมาชิกของตระกูลเซียวของเราเสียหน่อย!”

ในความคิดของเขา เย่เฉินในฐานะลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน เขาไม่มีอำนาจหรืออิทธิพลใดๆ แม้ว่าเซียวไห่หลงจะหั่นเขาเป็นชิ้นๆ มากสุดก็แค่ต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเท่านั้น

เช่นนั้นก็จะได้รับทั้งเงินและอำนาจ

คฤหาสน์หลังนั้นมีมูลค่าหนึ่งร้อยสามสิบล้านเชียวนะ!

และตอนนี้ราคาที่อยู่อาศัยก็ยังพุ่งสูงขึ้น!

ถ้าคว้ามันมาได้แล้วให้นายหญิงใหญ่อยู่อาศัยก่อน คฤหาสน์จะมีมูลค่าอย่างน้อยสองร้อยล้านเมื่อนายหญิงใหญ่ตาย!

สองร้อยล้านนะ! พอถึงตอนนั้นทั้งหมดก็จะเป็นของตน?

เงินมากมายขนาดนี้ ใครจะต้านทานต่อการยั่วยวนได้?

“ฉันไม่มีพี่ใหญ่อย่างแก!!”

เซียวฉางควนคำรามด้วยความโกรธ หยิบไม้ถูพื้นขึ้นมาแล้วตีเซียวไห่หลงอย่างแรง

เซียวฉางเฉียนขมวดคิ้ว กลัวลูกชายจะถูกตี จึงรีบเข้าไปขวางไว้

“แกไม่ละอายแก่ใจบ้างเลยเหรอ…”

เขายังพูดไม่ทันจบ เซียวฉางควนก็เข้ามาตีเขา โชคดีที่เซียวฉางเฉียนหลบได้อย่างรวดเร็ว โดนตีแค่ที่หัวไหล่เท่านั้น เขาแยกเขี้ยวด้วยความเจ็บปวด

เมื่อเห็นบิดาที่เคยเชื่อฟังมาโดยตลอดโกรธมากจนถึงกับลงมือ เซียวชูหรันทั้งเกลียดชังความโหดเหี้ยมของตระกูลเซียวและเป็นห่วงความปลอดภัยของเย่เฉิน

ในเวลานี้เย่เฉินจับใบขวานเอาไว้ จ้องมองเซียวไห่หลงด้วยสีหน้าเยาะเย้ยพลางกดเสียงต่ำพูดว่า “เซียวไห่หลง ฉันจะบอกบอกความจริงกับแก ความจริงไอ้เศษสวะอย่างแกไม่มีความหมายอะไรในสายตาของฉันเลย!”

“เย่เฉิน ไอ้เชี้ย!”

ความโกรธพุ่งขึ้นมายังหน้าผากของเซียวไห่หลง “แกมันไอ้ขี้แพ้ กล้าพูดกับฉันแบบนี้ได้ยังไง…”

ยังพูดไม่ทันจบ เย่เฉินก็คว้าข้อมือของเขาไว้แล้วดึงกลับอย่างแรง

‘ป๊อก’ เสียงหักดังชัดเจน เซียวไห่หลงร้องลั่นราวกับจะขาดใจ!

ฝ่ามือขวาของเขาถูกเย่เฉินจับหักไปด้านหลัง 180 องศา!

เซียวไห่หลงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม

พอเห็นมือของหลานชายถูกเย่เฉินจับหักอย่างง่ายดาย นายหญิงใหญ่เซียวซึ่งกำลังมองดู “การถ่ายทอดวิชา” อย่างสบายใจก็โกรธขึ้นทันใด!

เธอพุ่งเข้ามาหาทันทีด้วยความโกรธแล้วตบเข้าที่ใบหน้าของเย่เฉิน

ขณะที่ฝ่ามือของเธอกำลังโบกขึ้นกลางอากาศ ทันใดนั้นเย่เฉินก็หันกลับมาแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ไอ้แก่ รนหาที่ตาย!”

พูดจบก็ฟาดเข้าที่ใบหน้าของนายหญิงใหญ่ จนทำให้นายหญิงใหญ่ผงะถอยหลังไปหลายก้าว!

ในเวลานี้นัยน์ตาของเย่เฉินนั้นเย็นชาอย่างที่สุด พลังสังหารแผ่กระจายอยู่รอบตัวเขา!

แม้ว่านายหญิงใหญ่เซียวจะถูกตบหน้าเจ็บปวดเจียนตาย แต่ก็ตัวสั่นเทิ้มอย่างควบคุมไม่ได้…

เธอเอามือปิดหน้าแล้วก้าวถอยหลังด้วยความหวาดกลัว

นายหญิงใหญ่ที่ถอยหลังไม่กล้าแม้แต่จะมองเย่เฉินตรงๆ เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นสายตาที่น่ากลัวขนาดนี้ของเขา

ทุกคนในตระกูลเซียวถึงกับอึ้งไป!

นี่มันคนบ้าอะไรวะเนี่ย!

ไอ้เศษสวะนี่กล้าตบแม้กระทั่งนายหญิงใหญ่?

แต่ใครจะสามารถแก้แค้นแทนนายหญิงใหญ่ได้ในเวลานี้?

บอดี้การ์ดที่ได้รับบาดเจ็บล้มลงกับพื้น คนอื่นๆ ที่เหลือมีสีหน้าหวาดกลัว ไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าเลย…

แม้ว่านายหญิงใหญ่เซียวต้องการชีวิตของเย่เฉิน แต่เธอก็รู้ดีว่าเย่เฉินศึกษาศิลปะการต่อสู้มาจากไหน? เขาเก่งกาจเช่นนี้ ตนนั้นเอาเขาไว้ไม่ได้แล้ว!

เซียวชูหรันเห็นดังนั้นก็หัวใจเต้นแรง ดวงตาอันงดงามมองติดตามเย่เฉินอยู่ตลอดเวลา มีความรู้สึกอย่างแปลกประหลาด ใบหน้าร้อนผะผ่าวอย่างควบคุมไม่อยู่

เป็นครั้งแรกที่เธอพบว่าเย่เฉินมีด้านที่โหดร้ายถึงเพียงนี้

เมื่อก่อนในภาพความทรงจำของเซียวชูหรัน เย่เฉินเป็นเพียงคนที่เงียบขรึม นอกจากซื้อกับข้าวและทำอาหารอย่างอื่นก็ทำไม่เป็น

เย่เฉินในเวลานี้ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครกล้าก้าวออกมาอีกก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่ผู้คนอย่างเย็นชา จากนั้นก็ตะโกนใส่บอดี้การ์ดสองคนที่ซ่อนตัวอยู่ไกลลิบว่า “ถ้ายังไม่เปิดประตูอีก ฉันจะหักคอพวกแก!”

บอดี้การ์ดทั้งสองกลัวจนขาอ่อน รีบเข้ามาเปิดประตูคฤหาสน์!

เซียวฉางเฉียนพูดด้วยความโมโห “แม่ จะปล่อยพวกเขาไปไม่ได้นะ!”

นายหญิงใหญ่เซียวขบฟันแน่น เพิ่งมองเย่เฉินแล้วพูดด้วยความเกลียดชัง “ปล่อยพวกเขาไป!”

“คุณย่า ทำไมถึงปล่อยพวกเขาไปแบบนี้” เซียวไห่หลงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “มันทำให้มือผมพิการ ผมจะสับมัน!”

นายหญิงใหญ่เซียวข่มความโกรธแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “หุบปากให้หมด!”

เซียวฉางเฉียนพูดอย่างเกรี้ยวกราด “เย่เฉิน แกทำร้ายลูกชายฉัน ทำผิดกฎของตระกูลเซียวของเรา แล้วแกจะต้องเสียใจวันหลัง!”

นายหญิงใหญ่เซียวพูดเน้นทีละคำ “จากนี้ไป ครอบครัวของเซียวฉางควนจะถูกลบชื่อ ไม่ได้เป็นสมาชิกของตระกูลเซียวอีกต่อไป!”

เซียวฉางควนเงยหน้าขึ้น ศีรษะแตก ใบหน้าอาบเลือด

เขาพูดอย่างเฉยเมย “ตระกูลเซียวแบบนี้ ผมไม่นึกเสียดาย!”

เซียวชูหรันพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ใช่! พวกเราไม่สน!”

นายหญิงใหญ่กัดฟันพูดว่า “เซียวชูหรัน! เธอมันตัวล้างผลาญของตระกูลเซียวเรา! นับจากนี้ไป เธอก็ถูกลบชื่อออกจากบริษัทเซียวซื่อด้วย! ตอนนี้บริษัทเซียวซื่อกำลังร่วมมือกับตี้เหากรุ๊ป จะมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน! หลานสาวที่ไม่ซื่อสัตย์อย่างเธอจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเซียวซื่ออีก! ไสหัวออกไปจากที่นี่ให้ไกลที่สุดยิ่งดี! ”

เซียวชูหรันยืนกราน “ฉันไม่สนใจบริษัทเซียวซื่อเลยสักนิด! พ่อคะ พวกเราไปกันเถอะ”

ว่าแล้วเซียวชูหรันและเย่เฉินก็ประคองเซียวฉางควนหันหลังเดินจากไปหลังจากมองดูสมาชิกของตระกูลเซียวด้วยความโกรธแค้น

เธอเดินออกจากประตูไปอย่างไม่อาลัยอาวรณ์แม้แต่นิดเดียว

วันนี้เธอได้เห็นสีหน้าที่แท้จริงของคนพวกนี้อย่างชัดเจน!

คนที่เรียกว่าญาตินั้นยังสู้คนนอกคนเดียวไม่ได้เลย!

ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ เธอคงขีดเส้นแบ่งเขตแดนกับ ‘ตระกูลเซียว’ ไปตั้งนานแล้ว!

ในใจของเย่เฉินก็เย็นชาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

นายหญิงใหญ่เซียว เซียวฉางเฉียน เซียวไห่หลง ปู่ย่าหลานทั้งสามรุ่นล้วนเป็นคนโง่เขลา!

ทำไมพวกคุณถึงกล้าคิดว่าพวกคุณยังสามารถร่วมมือกับตี้เหากรุ๊ปได้อยู่อีก?