ตอนที่ 17 พบกับ “เพื่อน” เก่า

The rise of the white lotus

ตอนที่17 พบกับ “เพื่อน” เก่า

 

[ภายในร้านอาหารสุดหรู]

 

เล็กซี่จิบชาอย่างสง่างาม ขณะที่เธอมองไปที่ผู้คนเพียงไม่กี่คนที่อยู่ในบริเวณนั้น เนื่องจากที่นี่สร้างขึ้นเพื่อบุคคลสำคัญและร่ำรวย เล็กซี่สามารถจดจำใบหน้าคนที่คุ้นเคยจากวงการบันเทิงและธุรกิจได้เพียงไม่กี่คน

 

อย่างไรก็ตามแม้ความอัปยศอดสูที่เกิดขึ้นกับเธอจากเรื่องอื้อฉาวที่มอริสแพร่ออกไป แต่เล็กซี่ก็ยังคงแสดงออกอย่างอดทน ไม่สนใจสายตาแปลก ๆ บางอย่างที่จับจ้องมาทางเธอ

 

” คุณแน่ใจเหรอว่านายทานากะจะอยู่ที่นี่ชู? ” ชูรูสอบถามขณะที่เธอตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดราวกับว่าเธอเป็นทหารตัวน้อย พร้อมตั้งรับกับเหตุการณ์ต่าง ๆ

 

‘ ไม่ แต่มันก็คุ้มค่าที่จะลองไม่ใช่เหรอ ‘ เล็กซี่ตอบกลับทางโทรจิต แม้ว่าเธอจะพยายามนัดหมายกับทานากะเร็นแล้ว แต่อนิจจา เธอได้รับแจ้งว่า ประธานทานากะไม่ว่างในขณะนี้ และการจัดการอาจใช้เวลาถึงสองสามเดือนเนื่องจากตารางงานที่ยุ่ง

 

“คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเขาชู” เกี๊ยวน้อยสอบถามอีกครั้ง จากที่เล็กซี่หาข้อมูลมาทั้งหมด เธอไม่สามารถหารูปถ่ายของชายที่น่านับถือคนดังกล่าวได้แม้แต่รูปเดียว ดังนั้นชูรูจึงรู้สึกทึ่งมากที่เล็กซี่รู้ได้อย่างไรว่าทานะกะคือคนไหน

 

‘ฉันเคยได้ยินมาน่ะตัวเล็ก ว่าในสถานที่แบบนี้มักจะเจอพวกนักธุรกิจชื่อดังที่มาพร้อมกับหญิงสาวหลายคนคอยปรนนิบัติ ‘ เล็กซี่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังนัก เหตุผลเพราะเธอต้องสังเกตรอบข้างอย่างละเอียด และคอยฟังสิ่งที่เกิดขึ้น

 

‘โอ้ … จะช่วยแอบฟังนะชู!’ ชูรูราวกับกำลังลุกเป็นไฟ เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเธอต้องทำ และจากที่ไม่ได้ใส่ใจมาก เธอก็ตั้งใจแอบฟังขึ้นเป็นสองเท่า

 

เมื่อเห็นเธอตั้งใจจะช่วย เล็กซี่ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ กับความตั้งใจแสนน่ารักของชูรู แน่นอนว่าชูรูเป็นเพื่อนแบบที่เธอต้องการ ซึ่งผลักดันให้เธอทำสิ่งที่ควรทำแม้จะมีงานที่ระบบกำหนดก็ตาม

 

ขณะที่เล็กซี่จิบชาของเธออยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของคนที่เธอจำได้ดีเลยหล่ะ

 

“ เล็กซี่?”

 

เล็กซี่ค่อยๆวางถ้วยชาของเธอลง ขณะที่เธอวางตัวอย่างสงบและหันศีรษะไปด้านข้างเพื่อมองคนที่เรียก

 

“ เช่อเตียหยู?”

 

” โอ้พระเจ้า เล็กซี่! เธอจริงๆ!” เช่อเตียหยูนั่งลงตรงข้ามเธออย่างไม่อาย ราวกับว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เจอเล็กซี่เพื่อนของเธอ เธอกล่าวเสริมว่า ” เธอเป็นอย่างไรบ้างฉันได้ยินที่เธอ…” เธอหยุดชั่วคราวราวกับว่าเธอลังเลที่จะพูดออกไป

 

‘ เยี่ยม! จากคนทั้งหมดในนี้ ทำไมฉันต้องมาเจอคนจอมปลอมนี่ด้วย ? ’  เล็กซี่เยาะเย้ยตนเองในใจ ขณะที่เธอรู้สึกอยากที่จะกลอกตาและแสร้งทำเป็นว่าเธอไม่เห็นเช่อเตียหยู อนิจจา เล็กซี่ต้องวางตัวให้ต่างจากเดิม และเธอก็ไม่สามารถเพิกเฉยคนอื่นได้ แม้ว่าตอนนี้คนที่เกลียดที่สุดในชีวิตของเธอจะอยู่ตรงหน้าเธอก็ตาม ดังนั้นเล็กซี่จึงยิ้มกลับราวกับว่าเธอไม่ได้รับผลกระทบจากการปรากฏตัวของเช่อเตียหยู

 

“ฉันสบายดีเตียหยู ขอบคุณที่เป็นห่วง”

 

เธอเหลือบมองเครื่องแต่งกายที่ดูเหมือนสบาย ๆ ของตี๋หย่าอย่างรวดเร็ว เช่อเตียหยูสวมชุดเดรสเปิดไหล่สีชมพูลายดอกไม้ที่โชว์กระดูกไหปลาร้าเซ็กซี่ของเธอ พร้อมสร้อยคอโรสโกลด์หลายชั้น ผมสีน้ำตาลช็อคโกแลตของเธอเป็นลอนใหญ่และผิวของเธอก็ขาวราวกับผ้าปูที่นอนที่เข้ากันกับชุดสีชมพูของเธอ

 

 

อันที่จริงเช่อเตียหยูดูสง่างามและอ่อนหวานจากการแต่งกายของเธอ และถ้าเล็กซี่ไม่รู้จักเธอดีกว่านี้เธออาจคิดพลาดไปว่า คุณหนูตระกูลเช่อ เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความไร้เดียงสา

 

อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่ในกรณีนี้ เพราะถ้าเล็กซี่ได้รับสิทธิเป็นดอกบัวขาว เช่อเตียหยูในทางกลับกันก็ถือได้ว่าเป็นชาเขียวท้องตลาด

 

” เธอไม่รู้ว่าฉันกังวลแค่ไหนตอนรู้ข่าว ฉันอยากไปหาเธอมากนะ แต่ช่วงนี้ตารางงานของฉันแน่นมาก” เช่อเตียหยูขมวดคิ้วแสดงความท้อแท้เมื่อเธอไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อนที่ดี แต่ความหมายเบื้องหลังคำพูดของเธอมีการโอ้อวด ราวกับบอกเล็กซี่ทางอ้อมว่างานทั้งหมดที่เคยเป็นของเล็กซี่ ตอนนี้เป็นของเธอ

 

“ไม่เป็นไรฉันเข้าใจ”

 

เช่อเตียหยูรู้สึกตกใจกับการตอบสนองอย่างสงบของเล็กซี่ เธอเคยเห็นแต่ด้านที่หงุดหงิดของเล็กซี่ ถ้าก่อนหน้านี้ เล็กซี่คงจะเยาะเย้ยเธอ และทำตัวหยิ่งยโสเหมือนที่เธอเคยเป็น แต่ตอนนี้ราวกับว่าเธอไม่รับรู้ความหมายเบื้องหลังคำพูด และราวกับว่าเธอกลายเป็นคนที่ใจกว้าง