ตอนที่ 1113 ไห่รุ่ยช่างรวดเร็ว เด็ดขาด และโหดเหี้ยม!

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

เหลียงหย่งอวี๋ทุ่มทุนในการอาศัยชื่อของมดราชินี แต่ถังหนิงตั้งใจจะทำให้เธอต้องสูญเสียทุกสิ่งไป

ตอนนี้เธอกำลังพยายามขายภาพลักษณ์จอมปลอมที่เธอสร้างขึ้นมาให้ตัวเอง แต่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเธอไม่อาจมีบางอย่างมาแสดงให้เห็นเพื่อกู้หน้าของตัวเอง

บางทีตัวตนที่แท้จริงของเธออาจถูกเปิดโปง หรือบางทีอาจถูกทำลายไม่มีชิ้นดี!

อีกอย่างเธอเองก็ไม่มีสิทธิ์จะจะใช้ชื่อถังหนิงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง การทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรไปกับการขุดหลุมฝังตัวเอง!

หรือเธอพยายามจะเอาภาพลักษณ์ลวงโลกมาหากิน

เธอเลือกลูกสาวตัวเองมากกว่าฐานะภรรยาของคนใหญ่คนโต ความซื่อสัตย์ในครั้งนี้นับว่าเป็นจุดขายที่ดี…

ทว่าอย่าลืมว่าเมื่อคราวที่เธอทอดทิ้งลูกสาวตัวเองไว้ข้างรถของโม่ถิง โม่ถิงก็ได้บอกให้ลูเช่อเก็บภาพกล้องวงจรปิดจากที่โรงภาพยนตร์เอาไว้ เขามีแม้กระทั่งภาพที่เธอทิ้งลูกเป็นครั้งที่สอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้นทำไมพวกเขาต้องยอมอ่อนข้อให้ด้วยล่ะ

แน่นอนว่าลู่เช่อไม่ได้เปิดเผยเทปบันทึกภาพนั้นในนามไห่รุ่ยหรือถังหนิง เขาทำทีเป็นเพียงคนเดินผ่านมาเห็นเท่านั้น จึงเริ่มลงมือโดยการโพสต์ข้อความลงไป

[ผมไม่เข้าใจว่าพวกคุณหลงเชื่อเหลียงหย่งอวี๋ได้ยังไงกัน ตอนที่เธอทิ้งลูกเธอไม่เห็นจะกังวลเลยสักนิด!

[ผมเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์ในลานจอดรถของโรงหนัง ตอนแรกว่าจะไม่ออกมาพูดอะไรอยู่หรอก แต่พอตอนนี้เหลียงหย่งอวี๋กำลังไปได้สวยและโด่งดังขึ้นมา ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าคนเราจะจอมปลอมได้ขนาดนี้!]

จากนั้นแฟนๆ ของเหลียงหย่งอวี๋ได้แสดงความคิดเห็นให้เอาหลักฐานออกมา นี่มันเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ถามถึงกันไม่ใช่หรือ ถ้าอย่างนั้นลู่เช่อจะจะทำตามที่หลายคนต้องการเอง…

ลู่เช่อปล่อยวิดีโอที่เหลียงหย่งอวี๋ทิ้งลูกสาวไว้ข้างรถของโม่ถิงในวันหิมะตกที่หนาวเหน็บ

อากาศเย็นขนาดนี้ แต่เหลียงหย่งอวี๋กลับทิ้งลูกของตัวเองไว้อย่างไม่ลังเลก่อนจะเดินจากไป…

นั่นได้ปลุกความเกลียดชังจากคนเป็นแม่เป็นอย่างมาก

[ฉันต้องขอโทษที่พูดตรงๆ นะ แต่แค่เห็นนังชั่วนั่นทิ้งลูกตัวเองกลางหิมะอย่างนั้นได้ลงคอฉันก็เจ็บใจไปหมดแล้ว!]

[เธอเป็นพวกลวงโลกชัดๆ เหลียงหย่งอวี๋ตั้งใจไม่ใช่เหรอ เธอถึงได้ทิ้งเด็กไว้ข้างรถของโม่ถิง เห็นกันชัดๆ ว่าเธอพยายามโยนความผิดให้กับคู่รักโม่ แล้วยังจะมีคนมาสนับสนุนว่าเธอกล้าหาญได้อีกยังไงกัน มันน่าหงุดหงิดจนฉันอยากจะควักลูกตาตัวเองออกมาจะได้ไม่ต้องเห็นมัน!]

[พวกเธอเห็นไหมว่าหลังจากนั้นโม่ถิงกับถังหนิงก็ช่วยเด็กคนนั้นไว้น่ะ]

[กล้าดียังไงมาด่าหนิงของฉัน นังสวะนั่นไม่คู่ควรจะมาพูดถึงหนิงของฉันอย่างนั้น!]

[ถ้าแม้แต่ผู้หญิงร้ายกาจอย่างนี้ยังมีแฟนคลับ งั้นฉันคงต้องทบทวนคุณธรรมของตัวเองซะแล้วล่ะ!]

ข่าวฉาวเกี่ยวกับเหลียงหย่งอวี๋เริ่มแพร่ออกไป ด้วยเหตุนี้เธอเริ่มรู้สึกกดดัน ถังหนิงอาจช่วยให้เธอหลุดพ้นมาจากตระกูลตี๋ได้ แต่ชีวิตเธอในวงการบันเทิงก็ไม่ได้ดีขึ้นนัก อย่างไรเสียถังหนิงก็ต้องการให้เธอรู้ว่าเรื่องในอดีตของตัวเองจะคอยตามหลอกหลอนเธอตลอดไป…

ไม่นานเหลียงหย่งอวี๋จึงคิดเบี่ยงเบนความสนใจของผู้คน เธอตัดสินใจเปิดเผยรูปของถังหนิงกับลูกชายที่งานแต่งงานของเธอ

เธอพยายามใช้ฝาแฝดมาเบี่ยงเบนความสนใจของทุกคน

หากแต่เธอไม่ได้แค่ปล่อยรูปแต่ยังจ้างหมอดูมาทำนายดวงชะตาของเด็กทั้งสองคนด้วย

ดวงชะตาของจื่อซีไม่ได้แย่นัก หมอดูบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ แต่จื่อเฉินนั้นต่างออกไป หมอดูบอกว่าเขาเป็นกาลกิณีที่ถูกลิขิตมาทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อน และตระกูลโม่กับตระกูลถังจะพังพินาศเพราะเขา ทางแก้เดียวคือการเสริมดวงให้เขา

ด้วยความตกใจของทุกคน ข่าวนี้ได้กลายเป็นหัวข้อที่เป็นที่พูดถึงกันอย่างร้อนแรง!

หลายคนเริ่มด่าทอหมอดู [กล้าดียังไงมาใช้ลูกของคนอื่นมาหากิน ทำไมไม่ดูดวงให้ตัวเองบ้างว่าจะเหลือชีวิตให้ได้ใช้ไปได้อีกนานเท่าไหร่]

[ไม่ค่อยได้เห็นรูปลูกของถังหนิงนะ เธอแค่พาพวกเขาออกมาร่วมงานแต่ง สุดท้ายใครบางคนกลับมาพูดใส่ร้ายเธอได้ยังไงกัน]

ลูกของเธอ!

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นฝีมือของใครบางคน ถังหนิงนึกไม่ถึงว่าเหลียงหย่งอวี๋จะมายุ่งกับเรื่องสำคัญที่สุดของเธอ!

กล้าดียังไงมาใช้เจ้าแฝดมาเป็นเกราะกำบัง

เมื่อหลงเจี่ยนั่งลงและเห็นถังหนิงกำลังอ่านข่าวอยู่ เธอก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ…

ท่าทีของถังหนิงดูแปลกไป เธอมักจะนิ่งเฉยอยู่เสมอ ทว่าครั้งนี้ลูกของเธอถูกเอามาใช้เป็นเครื่องมือ!

“พอข่าวนี้ออกมาฉันก็โทรบอกให้ลู่เช่อตามสืบเรื่องนี้ แล้วบอกให้เขาลบทุกรูปที่เกี่ยวข้องกับเจ้าแฝดแล้ว”

“โชคดีนะคะที่ไม่ได้ลือไปไกล ถังหนิง คุณวางแผนจะทำอะไรเหรอคะ”

“เธอท้องอยู่ กลับไปพักผ่อนที่บ้านเถอะ” ถังหนิงเอ่ยเสียงเย็นเยียบไปถนัดหู

แต่หลงเจี่ยเข้าใจดี อย่างไรลูกๆ กับโม่ถิงก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับถังหนิง แต่เหลียงหย่งอวี๋ยังกล้ามายุ่งกับพวกเขา

ในขณะเดียวกันบรรยากาศในห้องทำงานของโม่ถิงก็ไม่ได้ดีนักเช่นกัน “ไม่ว่านายจะใช้วิธีไหน ฉันต้องการให้นายทำให้ทั้งวงการขึ้นบัญชีดำเหลียงหย่งอวี๋ ป่าวประกาศออกไปว่าถ้าใครกล้าเป็นศัตรูกับไห่รุ่ย ก็เชิญลองดูได้เลย”

“ท่านประธานครับ จะให้เราจัดการขั้นเด็ดขาดเหรอครับ”

“ฉันไม่สนใจว่าจะจัดการขั้นเด็ดขาดหรือเปล่า แค่ต้องการให้ชื่อของเหลียงหย่งอวี๋หายไปจากปักกิ่งตลอดไป!” โม่ถิงว่าขึ้นเสียงเย็นยะเยือก “ตามสืบว่าใครกำลังช่วยเธออยู่ ฉันไม่สนใจว่าใครจะวางแผนให้เธอ จัดการแบบเดียวกันซะ ถ้าชีวิตของคนคนนั้นยังลำบากไม่พอ ชีวิตของนายก็จะลำบากแทน”

“รับทราบครับ ท่านประธาน!”

เป็นครั้งแรกที่โม่ถิงตัดสินใจบอกคนทั้งวงการให้ขึ้นบัญชีดำคนคนหนึ่ง!

หากใครกล้าใช้เหลียงหย่งอวี๋หรือร่วมงานกับเธอ พวกเขาก็จะตกเป็นศัตรูของไห่รุ่ย…

ทันทีที่ประกาศนี้ปล่อยออกไป ทุกคนตัดสินใจยกเลิกสัญญากับเหลียงหย่งอวี๋ทันที แม้แต่สื่อยังออกมาเตือนว่าคราวนี้ไห่รุ่ยลงมือจัดการขั้นเด็ดขาด!

ครั้งนี้ต่อให้เหลียงหย่งอวี๋จะออกมาบีบน้ำตาก็คงจะไม่มีใครได้เห็น!

แน่นอนว่าเหลียงหย่งอวี๋นึกไม่ถึงว่าเรื่องจะมาถึงจุดนี้ ความจริงแล้วเธออาจไม่รู้ว่าตัวเองถูกขึ้นบัญชีดำแล้วก็เป็นได้

แม้แต่ภาพยนตร์ของเธอยังต้องพังพินาศ ไม่ว่าเธอจะทุ่มทุนลงไปมากแค่ไหน ทุกคนก็ต้องการถอนตัวจากโครงการนี้เสียแล้ว

ใครจะกล้าไปกระตุกหนวดเสือกันล่ะ

ข่าวเริ่มแพร่สะพัดออกไปทั่ววงการว่าเหลียงหย่งอวี๋บอกว่าไห่รุ่ยใจแคบ หลังจากที่เธอถูกขึ้นบัญชีดำและโดนบริษัทที่เธอร่วมงานด้วยตีจากไป…

ครั้งนี้ไห่รุ่ยช่างรวดเร็ว เด็ดขาด และโหดเหี้ยม!

ยังไม่ทันเข้าวันถัดไป เหลียงหย่งอวี๋ก็ได้รับสายโทรศัพท์ขอยกเลิกสัญญาไม่หยุดหย่อน เธอจึงรู้ตัวว่าสถานการณ์นั้นรุนแรงเพียงไหน

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เธอก็ตัดสินใจโทรหาผู้กำกับที่เธอกำลังจะทำงานด้วย แต่เขากลับกลัวว่าจะมีใครมาได้ยินตัวเองคุยกับเธอ “คุณไม่ต้องโทรมาหาผมอีกจะดีที่สุดนะครับ ผมไม่อยากเสียหน้าที่การงานของผมไป ไห่รุ่ยประกาศให้รู้ทั่วกันแล้วว่าคุณถูกขึ้นบัญชีดำ ตอนนี้ทุกคนเลยต้องระวังตัว ขอให้คุณโชคดีแล้วกัน!”

ไห่รุ่ยขึ้นบัญชีดำเธออย่างนั้นหรือ

เป็นเพราะว่าเธอเปิดเผยรูปของลูกชายฝาแฝดของถังหนิงให้คนภายนอกเห็นอย่างนั้นหรือ

จำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยหรืออย่างไร เหลียงหย่งอวี๋นึกเย้ยหยันในใจ

สุดท้ายเธอจึงต่อสายหาคนที่คอยให้คำแนะนำกับเธอ “ฉันถูกไห่รุ่ยขึ้นบัญชีดำแล้ว ฉันควรทำยังไงต่อล่ะ”

“ไว้มาคุยกันที่บ้านฉัน!” ปลายสายตอบกลับเสียงหน่าย