ยาไม่มีรสชาติเลย มันเหมือนกับการดื่มน้ำแร่

แต่หลังจากที่ดื่มเข้าไปสักพัก ร่างกายของฉิวโหย่วก็อุ่นขึ้นมา

โดยเฉพาะตรงขาซ้ายที่หัก ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกับกำลังแช่น้ำพุร้อนอยู่ มันสบายตัวมาก

และหลังจากผ่านไปสักพัก ฉิวโหย่วก็เหมือนจะลืมไปว่าขาของเขาหักอยู่ เขาได้ขยับขาของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ

จากนั้น ฉิวโหย่วก็ได้พบว่าเขาสามารถขยับขาซ้ายได้แล้ว

จนสุดท้ายเขาก็ลุกขึ้นยืน!

“นี่มัน……”

ฉิวโหย่วเดินไปมาในห้องนั่งเล่น ใบหน้าแก่ๆของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

“ตาแก่ฉิว คุณขยับขาได้แล้วหรอ?” หวางฮุ่ยพูดด้วยความประหลาดใจ

“ฉัน…ฉันไม่รู้…” ฉิวโหย่วตกอยู่ในความสับสน

ถ้ามีกระดูกแตกหรือหัก อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาถึงหนึ่งร้อยวันในการพักฟื้น

และนอกจากนี้ ขาซ้ายของฉิวโหย่วยังเป็นการหักอย่างสมบูรณ์

แต่ นี่ยังไม่ถึงร้อยวันเลย…

แม้แต่ฉิวโหย่วเอง ก็เตรียมใจที่จะไม่ได้ใช้ขาซ้ายของเขาไปตลอดชีวิตแล้ว

แต่ด้วยระยะเวลาที่สั้นขนาดนี้…

เขากลับสามารถยืนขึ้นมาและเดินได้แล้ว?

น้ำตาแห่งความสุขของฉิวจือเฉียนได้ไหลออกมา

“หลินฟาน ขอบคุณนะ”

เธอเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นเพราะอะไร ที่ทำให้พ่อของเธอสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง

มันต้องเป็นผลมาจากยาขวดเล็กๆที่หลินฟานเอาออกมา

ฉิวจือเฉียนไม่รู้ว่ามันคือยาอะไร และเธอก็จะไม่ถาม

แต่ในเวลาอันสั้นขนาดนี้ มันสามารถทำให้ขาซ้ายของพ่อหายดีได้

ฉิวจือเฉียนคิดว่ามันจะต้องเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างมากแน่ๆ

และหลินฟานกลับเอาสิ่งที่ล้ำค่าขนาดนี้ออกมาให้พ่อของเธอโดยไม่ลังเลเลย

จากนั้นความรู้สึกในหัวใจของฉิวจือเฉียนก็ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ทันใดนั้นเอง เสียงที่ชัดเจนก็ดังขึ้นมาในจิตใจของหลินฟาน

【ติ๊ง! ออร่าเสน่ห์ (โอกาส 5%) ไม่สามารถลืมเลือนได้ ทำงาน ! 】

หลินฟานอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฉิวจือเฉียนด้วยดวงตาแห่งความจริง

【คะแนนรูปร่างหน้าตา: 96】

【คะแนนความชื่นชอบ: 96】

ซึ่งในตอนนี้ ฉิวโหย่วและหวางฮุ่ยก็ต่างหันมาหาหลินฟาน

“ขอบคุณ ขอบคุณมากนะหลินฟาน”

“ขอบคุณมากจริงๆ!”

หลินฟานพูด “พวกคุณลุงคุณป้าไม่ต้องไม่สุภาพกับผมมากหรอกครับ นี่เป็นสิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้ว”

ตอนนี้ ฉิวโหย่วไม่เพียงแต่ถูกพากลับมาอย่างปลอดภัยเท่านั้น

แม้แต่ขาซ้ายของเขาก็ยังถูกรักษาแล้วด้วย

ครอบครัวของฉิวจือเฉียนทุกคนมีความสุขกันมาก

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง หวางฮุ่ยได้จึงทำอาหารกลางวันมามากมายหลายอย่าง

ทุกคนพอใจกับอาหารมาก

หลังจากนั้น หวางฮุ่ยก็เอาผ้าที่ซักแล้วออกไปตากข้างนอกบ้าน

หนึ่งสองสาม…

รถสีดำจำนวนสี่คันและรถตู้หนึ่งคันหยุดอยู่ที่หน้าประตูหน้าบ้านอย่างกะทันหัน

จากนั้นผู้ชายมากกว่าสิบคนที่ย้อมผมและมีรอยสักต่างๆตามตัวก็ลงมาจากรถทีละคน

ในรถตู้นั้น มีชายหัวล้านนอนหน้าซีดอยู่ข้างใน

นี่….

หวางฮุ่ยใจเต้นแรง เธอทิ้งผ้าที่กำลังจะตากแล้วรีบวิ่งเข้าไปข้างในบ้านทันที

“แย่แล้ว…แย่แล้วล่ะ!” หวางฮุ่ยตะโกน

ฉิวโหย่วที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มก็ถึงกับหน้าซีดในทันที

“เรื่องทั้งหมดนี้เกิดจากฉัน ฉันจะเป็นคนไปคุยกับพวกเขาเอง…” ฉิวโหย่วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

แม้ว่าเขาจะกลัวมาก

แต่เพื่อครอบครัวของเขา เขาต้องยืนยัดขึ้น!

หลินฟานพูดว่า “ลุงกับป้าไม่ต้องกังวลครับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง”

ฉิวจือเฉียนจับมือของหลินฟานด้วยความกังวล

เพราะข้างนอกมีชายฉกรรจ์เป็นสิบคนรออยู่

หลินฟานตบลูบมือเล็กๆของฉิวจือเฉียนแล้วพูดปลอบ “ไม่ต้องกังวล ผมออยู่ที่นี่แล้ว”

“อืม!” ฉิวจือเฉียนพยักหน้าอย่างจริงจัง

จากนั้น หลินฟานก็เดินออกไปข้างนอกบ้าน

และฉิวโหย่วกับหวางฮุ่ยก็ตามออกมาอย่างใกล้ชิด

ในตอนนั้น ชายหัวล้านในรถตู้ก็ได้ถูกหามออกมา

เมื่อเขาเห็นหลินฟานและคนอื่นๆ ใบหน้าที่ซีดเผือดของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ เขาตะโกนออกมาทันที “ลูก…ลูกพี่ลูกน้อง เป็นพวกมันนี่แหละ…ที่ทำร้ายฉัน!”

ชายมีหนวดไว้เคราที่ยืนอยู่ข้างๆก็มองมาที่หลินฟานและคนอื่นๆ อย่างเย็นชาก่อนจะพูด “นายเป็นคนที่ไหนกัน?”

หลี่ซิงหนิงไม่ใช่คนประมาท ไม่อย่างนั้นเขาคงจะอยู่ในวงการนี้มาไม่ได้จนได้จนถึงทุกวันนี้

เขากำลังสอบถามข้อมูลของหลินฟานและคนอื่นๆ ก่อนจะเริ่มแผนการ

หลินฟานพูดเบาๆ “นายไม่สมควรที่จะรู้”

ทันทีที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา หลี่ซิงหนิงก็โกรธเป็นอย่างมาก

อีกฝ่ายกล้าทำการหักแขนกับขาของลูกพี่ลูกน้องของเขา

แล้วตอนนี้ยังมาทำให้เขาอับอายต่อหน้าทุกคนอีก!

มัน…หยิ่งเกินไป!

หลี่ซิงหนิงคิดอย่างชั่วร้ายในใจ: ไม่ว่ามันจะเป็นใคร วันนี้ฉันจะทำให้มันลงไปนอนร้องไห้เสียใจอยู่กับพื้นให้ได้!

“ไอหนุ่มนี่หาที่ตาย! จัดการมัน!” หลี่ซิงหนิงกรีดร้อง

“ตึก!”

เหล่าชายที่มีรอยสักเต็มตัวก็หยิบท่อเหล็กจากในรถออกมา พวกเขาเป็นเหมือนกับกลุ่มปีศาจ และกำลังเดินตรงไปหาหลินฟาน

ฉิวจือเฉียน,ฉิวโหย่วและหวางฮุ่ยต่างก็ตื่นตระหนกกันอย่างมาก

โดยเฉพาะฉิวโหย่วและหวางฮุ่ย ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้านไปหมด เพราะพวกเขาไม่สามารถป้องกันตัวเองได้แม้แต่นิดเดัยว

แต่หลินฟานยังคงสงบนิ่งอยู่ตลอด ราวกับว่ามองไม่เห็นชายที่มีรอยสักเหล่านั้น

“บรื้นน!”

ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังเข้ามาจากไกลๆ

รถเฟอร์รารีเปิดประทุนสีแดงอันร้อนแรง กำลังขับผ่านมาบนถนนสายนี้ ซึ่งในรถนั้นว่านหลางกำลังโอบสาวงามสุดเซ็กซี่อยู่

พวกเขาดูมีความสุขมาก

เมื่อรถเฟอร์รารีขับมาถึงประตูหน้าบ้านของฉิวจือเฉียน ก็ถูกรถสี่คันขวางทางเอาไว้

สาวสวย ย่นจมูกแล้วพูด “ทำไมมีรถมาจอดอยู่ตรงนี้ล่ะ”

“ปื้ดดด!”

ว่านหลางกดแตรของเขาแรงๆสองสามครั้ง

จากนั้นก็ได้มองไปรอบๆ

และในไม่ช้าเขาก็มองไปที่เหล่าชายฉกรรจ์ที่อยู่ไม่ไกล

ในวินาทีต่อมา รูม่านตาของว่านหลางก็ได้หดตัวลงรวดเน็วน เขารีบเปิดประตูรถและวิ่งเข้าไปฝูงชนนั้นทันที

เพราะเขาได้สังเกตเห็น หลินฟาน!

“พี่ฟาน ไม่คิดเลย ว่าจะได้เจอคุณที่นี่” ว่านหลางอุทานด้วยน้ำเสียงที่เคารพนับเป็นอย่างมาก

ต้องบอกเลยว่า ลูกคนรวยเหล่านี้มักจะฉลาดกว่าคนปกติทั่วไปมาก

เขารู้ว่าต้องทำยังไง……

ไม่นานมานี้ว่านหลางกับหลินฟานมีปัญหากันที่โรงแรมซินเยว่

ตอนนั้นทั้งสองได้เป็นศัตรู

ซึ่งตอนนี้หลินฟานได้ถูกรายล้อมไปด้วยกลุ่มชายฉกรรจ์หัวรุนแรง

ถ้าเปลี่ยนไปเป็นคนปกติ เขาจะต้องมองดูอยู่ห่างๆและยินดีกับความโชคร้ายของหลินฟานอย่างแน่นอน

แต่ว่านหลางไม่ได้ทำอย่างนั้น เขาไม่ลังเลเลยที่จะวิ่งออกไปและทักทายหลินฟานด้วยความเคารพ

เพราะว่านหลางจำได้อย่างชัดเจนว่าโจวกั๋วเถาผู้อาวุโสของตระกูลโจว นั้นสนิทสนมกับหลินฟานมากขนาดไหน

และต่อมา ว่านหลางก็ยังได้ยินว่าหลินฟาน เป็นคนที่ช่วยชีวิตผู้เฒ่าโจวไว้ด้วย!

เรื่องทั้งหมดนี้ แสดงว่าตระกูลโจวจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลินฟาน!

หนานจิง เป็นเมืองหลวงด้านรถยนต์ของมณฑลเจียงซู และว่านเจียมีอุตสาหกรรมบางส่วนอยู่ที่นี่

ในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้ ว่านหลางในฐานะผู้จัดการทั่วไปได้เดินทางมาที่หนานจิง เพื่อจัดการกับธุระบางอย่าง จากนั้นเขาก็พาสาวสวยไปเที่ยวเล่น และก็มาถึงตรงนี้ในปัจจุบัน

หลินฟานได้พยักหน้าไปทางว่านหลาง เป็นการทักทาย

แม้ว่าเขาจะทำเพียงแค่การพยักหน้าก็ตาม แค่นั่นก็ทำให้ว่านหลางมีความสุขมากพอแล้ว

ฉากทั้งหมดนี้ หลี่ซิงหนิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนเช่นกัน

นายน้อยของบริษัทรถยนต์ว่านเจีย ยังเคารพชายหนุ่มคนนั้นอย่างมาก

นี่……

นี่มัน……

หัวใจของหลี่ซิงหนิงตึงเครียดขึ้นทันที ลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีเกิดในใจเขาอย่างบ้าคลั่ง

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้สติก่อนจะมองไปที่เหล่าชายฉกรรจ์ที่กำลังเดินไปหาหลินฟานแล้วรีบตะโกนออกมาทันที “หยุด! หยุดมือก่อน!”