เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1216 ซุ่มโจมตีในกำแพงภูมิภาค

แปลโดย iPAT

ลมหายใจมังกรทำให้วูอี้ไห่รู้สึกเหมือนมีเข็มพุ่งเข้ามาที่ใบหน้า

เขาตกใจมากแต่ไม่มีเวลาหลบ

“เคร้ง!”

โล่โลหะสีทองปรากฏขึ้นด้านหน้าวูอี้ไห่ในช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย

ลมหายใจมังกรทำลายโล่ทองคำแต่พลังงานที่เหลือยังพุ่งตรงไปที่ใบหน้าของวูอี้ไห่

แต่โล่ทองคำก็ทำให้วูอี้ไห่มีเวลารักษาชีวิตของเขาเอาไว้

เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่มีชื่อเสียงของทะเลตะวันออก เป็นธรรมดาที่เขาจะสามารถตอบสนองโดยการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

วูอี้ไห่แปลงร่างเป็นเต่าตัวโตทันที

แขนขาและศีรษะของมันหลบอยู่ในกระดอง

ลมหายใจมังกรปะทะกระดองเต่าและฝากรอยฝังลึกเอาไว้

‘ช่างเป็นลมหายใจมังกรที่น่ากลัวนัก! เต่าศักดิ์สิทธิ์เป็นสัตว์อสูรบรรพกาลที่มีพลังป้องกันอยู่ในสิบอันดับแรกท่ามกลางสัตว์อสูรบรรพกาลของทะเลตะวันออกแต่มันกลับแทบไม่สามารถป้องกันการโจมตีนี้’ วูอี้ไห่ตกใจมาก ‘ศัตรูแข็งแกร่งกว่า ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับท่านลุงจางและพี่เล้งแล้ว’

วูอี้ไห่เป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เต่าศักดิ์สิทธิ์มีขนาดใหญ่และเคลื่อนที่ในน้ำได้รวดเร็ว แต่การเคลื่อนไหวบนบกของมันช้ามาก

นี่ทำให้พลังการต่อสู้ของวูอี้ไห่ลดลงอย่างมาก ตอนนี้เขาทำได้เพียงป้องกันตัวเท่านั้น

ในสถานการณ์นี้วูอี้ไห่สูญเสียเจตจำนงแห่งการต่อสู้ทั้งหมดไปแล้ว

เขามีท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเช่นกัน แต่อย่าลืมจุดอ่อนสำคัญของเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

นั่นคือพวกเขาต้องลบพลังงานแห่งเต๋าเดิมออกไปก่อนจะสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกครั้ง ระหว่างกระบวนการนี้ต้องใช้เวลาค่อนข้างเยอะ

ฟางหยวนมีร่างทารกอมตะ นั่นทำให้เขาไม่มีจุดอ่อนนี้

ดังนั้นหลังจากวูอี้ไห่เปลี่ยนร่างเป็นเต่าศักดิ์สิทธิ์ แม้มันจะสามารถรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ แต่เขาก็ไม่สามารถโจมตี

แต่วูอี้ไห่ไม่ตื่นตระหนก

เขามีผู้อมตะระดับเจ็ดสองคนคุ้มครองอยู่

หนึ่งคือลุงจาง อีกหนึ่งคือพี่เล้ง วูอี้ไห่ไม่รู้ชื่อจริงของคนทั้งสอง แต่เขารู้ว่าสองคนนี้ถูกมารดาของเขาส่งมาจากภาคใต้เพื่อคุ้มครองเขา

ระหว่างการเดินทางครั้งนี้ผู้อมตะทั้งสองแสดงพลังการต่อสู้ที่น่าทึ่งออกมาและทำให้วูอี้ไห่รู้สึกมั่นใจว่าสามารถฝากความหวังไว้กับพวกเขา

แต่ลุงจางกลับกระอักเลือดออกมาเพราะโล่ทองคำของเขาถูกทำลายโดยลมหายใจมังกร

นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันของลุงจาง ดังนั้นเมื่อมันถูกทำลาย ลุงจางจึงได้รับผลกระทบย้อนกลับ

เช่นเดียวกับวูอี้ไห่ ลุงจางตกใจมาก

‘ในกำแพงภูมิภาค ท่าไม้ตายอมตะจะอ่อนแอลง แต่ลมหายใจมังกรกลับสามารถทำลายการป้องกันของข้าและทิ้งรอยฝังลึกไว้บนกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์!’

ขณะที่ลุงจางกำลังกระอักเลือด พี่เล้งบินออกไปข้างหน้า

ทั้งสองทำงานร่วมกัน

ผู้อมตะหนุ่มรู้ว่าลุงจางต้องการเวลาพักผ่อนหลังจากถูกทำลายท่าไม้ตายอมตะสายป้องกัน

เขาพุ่งไปข้างหน้าก่อนจะเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าสายฟ้า

หมาป่าสายฟ้าตัวนี้เป็นสัตว์อสูรบรรพกาล มันมีขนเป็นผลึกคริสตัลสีฟ้าที่ปลดปล่อยกระแสสายฟ้าออกมารอบๆ

เมื่อหมาป่าสายฟ้าปรากฏตัว มันทำให้พื้นที่บริเวณนั้นสว่างไสวไปด้วยแสงสีฟ้าม่วงทันที

สายฟ้าบนร่างของมันควบรวมเป็นอสรพิษสายฟ้าพุ่งออกไป

นี่คือท่าไม้ตายอมตะ

ในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจลุงจางสามารถควบคุมอาการบาดเจ็บขณะที่ร่างกายของเขาส่องแสงสีทองออกมาและเปลี่ยนร่างเป็นพยัคฆ์ทองคำที่มีร่างกายใหญ่โตกว่าหมาป่าสายฟ้าสองเท่า

ปรากฏว่าเขาก็เป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

นี่เป็นการจัดเตรียมโดยเจตนาของวูตู๋ซิ่ว

ในกำแพงภูมิภาค ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจะมีความได้เปรียบ

โดยปกติแล้วการใช้ท่าไม้ตายอมตะในกำแพงภูมิภาค ผู้อมตะจะได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะสามารถปลดปล่อยการโจมตีออกไป

แต่ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งของสัตว์อสูร พวกเขาจะมีข้อได้เปรียบในการต่อสู้กับผู้อมตะร่างมนุษย์ที่อ่อนแอ

ลุงจางตระหนักถึงพลังป้องกันของเต่าศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเขาจึงติดตามหมาป่าสายฟ้าบรรพกาลไปโดยไร้กังวล

ไม่นานหลังจากนั้นลุงจางกลับเห็นหมาป่าสายฟ้าบรรพกาลวิ่งกลับมา

ด้านหลังหมาป่าสายฟ้าบรรพกาลมีลมหายใจมังกรพุ่งตามมา นอกจากนั้นท่ามกลางแสงสีฟ้าม่วงยังมีเสียงคำรามของมังกรดังขึ้น

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ลุงจางตกใจมาก เขารู้จักความกล้าหายของพี่เล้ง แต่ตอนนี้ผู้อมตะหนุ่มกลับวิ่งหนี มันต้องมีบางสิ่งผิดปกติ!

“อย่าสู้ ถอย!” หมาป่าสายฟ้าบรรพกาลพี่เล้งกล่าวด้วยภาษามนุษย์

นี่ทำให้ลุงจางยิ่งตกใจมากขึ้น เหตุใดพี่เล้งถึงหลีกเลี่ยงการต่อสู้?

เขากำลังจะถามแต่ในที่สุดเขาก็มองเห็นคู่ต่อสู้

มังกรดาบบรรพกาลพุ่งเข้ามาอยู่ต่อหน้าพวกเขา

เกล็ดมังกรสีเงิน ดวงตาสีขาวซีด เขามังกรพุ่งขึ้นสู้ท้องฟ้า กรงเล็บที่แหลมคม ฟันที่ส่องประกายเย็นเยียบ และกลิ่นอายของวิญญาณอมตะจำนวนมากที่ปะทุออกมาจากร่างกายของมัน

“นี่คือมังกรดาบบรรพกาลป่างั้นหรือ?” พยัคฆ์ทองคำลุงจางเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

แต่ความจริงอยู่ตรงหน้า เขาต้องยอมรับมันเท่านั้น

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดผู้อมตะหนุ่มที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดกลับวิ่งหนีอย่างน่าสมเพช

เนื่องจากมังกรดาบบรรพกาลตัวนี้ไม่ได้มาจากห้าภูมิภาคแต่มันมาจากสวรรค์สีขาวหรือสีดำ

เหตุใดลุงจางจึงแน่ใจในความคิดนี้?

เพราะมังกรดาบบรรพกาลตัวนี้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในกำแพงภูมิภาค นี่คือการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลราวกับมันไม่รู้สึกถึงแรงกดดันหรือแรงต่อต้านใดๆทั้งสิ้น

หากเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง พวกเขาจะได้รับผลกระทบอย่างมาก

มีเพียงรูปแบบชีวิตที่อาศัยอยู่ในสวรรค์สีขาวหรือสวรรค์สีดำเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในกำแพงภูมิภาค

ลุงจางไม่ลังเลที่จะหันหลังและวิ่งหนี

ในกำแพงภูมิภาค ผู้อมตะจะสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจออกมาได้เพียงห้าสิบหรือหกสิบส่วนเท่านั้น

กระทั่งการต่อสู้กับมังกรดาบบรรพกาลที่โลกภายนอก ลุงจางยังไม่มีความมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะโดยไม่ต้องกล่าวถึงสภาพแวดล้อมพิเศษเช่นกำแพงภูมิภาค

“เหตุใดพวกเราจึงโชคร้ายนัก?”

“ข้าเดาว่ามังกรดาบบรรพกาลตัวนี้น่าจะถูกล่อมาที่นี่เพื่อขัดขวางพวกเราโดยผู้อมตะบางคน!”

ลุงจางกับพี่เล้งสนทนากันระหว่างหลบหนี

ในไม่ช้าพวกเขาก็พบกับเต่าศักดิ์สิทธิ์วูอี้ไห่

วูอี้ไห่ได้รับการแจ้งเตือนจากลุงจาง “พยายามอย่าต่อสู้กับมังกรดาบบรรพกาลตัวนี้ มันอาจถูกล่อมาที่นี่โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดพลังงานอมตะและพลังการต่อสู้ของพวกเรา!”

“แล้วเราควรทำอย่างไร?” วูอี้ไห่ถาม

“ถอย ปล่อยมังการดาบบรรพกาลไว้ข้างหลังและไม่ยั่วยุมัน แต่เราต้องแสดงความแข็งแกร่งออกมาเช่นกัน สัตว์ป่ามีสติปัญญาเพียงเล็กน้อย เมื่อมันตระหนักว่าเหยื่อไม่อ่อนแอ มันจะยอมแพ้”

ผู้อมตะทั้งสามวางแผนและตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

ทั้งสองพยายามหลบหนีพร้อมกับต่อต้านลมหายใจมังกรตลอดเวลา

“เราจะทำอย่างไร? มังกรดาบบรรพกาลตัวนี้ดูเหมือนจะไม่ยอมปล่อยพวกเราไปง่ายๆ!”

“บางทีอาจเป็นเพราะการโจมตีด้วยท่าไม้ตายอมตะของข้าก่อนหน้านี้ที่ยั่วยุมัน!”

“ข้ามีท่าไม้ตายอมตะที่สามารถลดความโกรธของสัตวป่า แต่ข้าต้องการเวลา!”

ผู้อมตะทั้งสามพูดคุยกัน

ลุงจางและพี่เล้งปกป้องวูอี้ไห่ขณะที่คนหลังใช้วิธีการบางอย่างเพื่อกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนร่างกายของตนออกไปเพื่อเปลี่ยนร่างอีกครั้ง

ในฐานะสัตว์ป่า มังกรดาบบรรพกาลมีสติปัญญาเพียงเล็กน้อยและตอนนี้มันกำลังโจมตีหมาป่าสายฟ้าบรรพกาลกับพยัคฆ์ทองคำ

ลุงจางกับพี่เล้งต่อต้านการโจมตีของมังกรดาบบรรพกาลอย่างยากลำบาก ทั้งสองได้รับบาดเจ็บ แต่การขับไล่มังกรดาบบรรพกาลตัวนี้ พวกเขาไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายที่ทรงพลังเพราะอาจตกลงสู่หลุมพรางของศัตรู

“เกือบแล้ว ท่าไม้ตายอมตะของข้าคือ…อา…” วูอี้ไห่กำลังจะกล่าวแต่เขากลับอุทานออกมาด้วยความตกใจ

เพราะเขาเห็นศีรษะของพยัคฆ์ทองคำถูกตัดออกและตาย ณ จุดเกิดเหตุ!

ท่าไม้ตายอมตะลอบสังหารในความมืด!

มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ

จากนั้นมังกรดาบบรรพกาลก็ระเบิดความเร็วที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดออกมาและหายไปจากสายตาของผู้อมตะทั้งหมด

พี่เล้งตกใจมาก!

“พวกเราตกหลุมพราง โอ้ ไม่!”

เขาหันหน้ากลับไปเพียงเพื่อเห็นศีรษะของวูอี้ไห่ถูกสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยพร้อมกับเลือดและสมองที่ระเบิดออกไปรอบๆ

ศพไร้หัวของวูอี้ไห่ถูกจับยัดเข้าไปในมิติช่องว่างของมังกรดาบบรรพกาลอย่างรวดเร็ว