บทที่ 108 ทำให้นายหญิงใหญ่เซียวไม่เหลืออะไรเลย
เซียวไห่หลงตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า!
เขารู้ว่าเย่เฉินเก่งกาจ แต่ไม่คาดคิดว่าบอดี้การ์ดที่มีมีดยังไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเย่เฉินได้!
เมื่อเผชิญหน้ากับเทพสังหารอย่างเย่เฉิน เขาก็หวาดกลัวจนขาสั่น
การมาปล้นคฤหาสน์เป็นคำสั่งของนายหญิงใหญ่เซียว เขามีความแค้นกับเย่เฉิน ดังนั้นจึงอาสามาเอง คิดจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้เพื่อกำจัดเย่เฉิน
แต่เขาไม่คาดคิดว่าเย่เฉินจะล้มบอดี้การ์ดที่พกมีดได้ทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว!
เย่เฉินคนนี้ ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?!
ในเวลานี้เย่เฉินเดินเข้าไปหาเซียวไห่หลงด้วยสีหน้าที่เย็นชา
เขาต้องการสอนบทเรียนให้กับเพลย์บอยคนนี้แล้วให้เขาได้ชดใช้อย่างสาสม!
เมื่อเห็นเย่เฉินกำลังเดินเข้ามาหาตน ใบหน้าของเซียวไห่หลงก็ซีดลงด้วยความหวาดกลัว เขาโพล่งออกมาว่า “แกฆ่าฉันไม่ได้! ฉันเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเซียว ถ้าแกกล้าแตะต้องฉันแม้แต่ปลายเส้นขน ตระกูลเซียวจะไม่ปล่อยแกไปแน่!”
เย่เฉินเดินไปทีละก้าวอย่างเฉยเมย พอมาถึงเซียวไห่หลงก็คว้าคอเสื้อแล้วยกขึ้น พูดอย่างเย็นชา “ตระกูลเซียวที่แกพูดถึงนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาฉันเลยแม้แต่น้อย!”
“ชูหรัน อารอง พวกคุณรีบบอกให้เย่เฉินวางมือเร็วเข้า…”
ในช่วงเวลาแห่งความกังวล เซียวไห่หลงรีบขอร้องเซียวชูหรันและเซียวฉางควน โดยลืมภาพลักษณ์ที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาก่อนหน้านี้ไป
“เซียวชูหรันกล่าวอย่างเย็นชา “วันนี้แกมีจุดจบแล้ว สมควรได้รับมันทั้งสิ้น!”
เซียวฉางควนมองไปที่เซียวชูหรัน แล้วมองไปที่เซียวไห่หลงอีกครั้ง กำลังดิ้นรนสับสนอยู่ในใจ
เซียวฉางควนผิดหวังกับคนในตระกูลเซียวอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าเซียวไห่หลงจะเป็นหลานชายของตน แต่เขาก็ไม่สนใจความเป็นญาติพี่น้อง แล้วตัวเองจะสนใจทำไม
แต่ตระกูลเซียวก็ยังคงมีอำนาจอยู่บ้าง ถ้าเย่เฉินฆ่าเซียวไห่หลงจริงๆ ตระกูลเซียวก็จะเข้ามาแก้แค้นอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อคิดได้ดังนี้ เซียวฉางควนจึงพูดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “เย่เฉิน แค่สั่งสอนบทเรียนให้เขาก็พอ”
หลังจากเย่เฉินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งเขาก็พยักหน้าอย่างเย็นชาแล้วจับเซียวไห่หลงกดลงบนพื้น เศษหินเจาะเข้าไปในใบหน้าของเขา เลือดไหลออกมาไม่หยุด
“ฉันสามารถไว้ชีวิตแกได้ แต่ถ้าแกสร้างความรำคาญให้ฉัน โทษตายเลี่ยงได้แต่ก็ยากที่จะเลี่ยงโทษเป็น!”
ว่าแล้วเย่เฉินก็ชกไปที่หน้าท้องของเขาอย่างแรง หมัดนั้นทรงพลังมาก โดนเข้าที่จุดตันเถียนของเซียวหลงไห่เข้าอย่างจัง
แม้ว่าเซียวไห่หลงจะเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่มีพื้นฐานศิลปะการต่อสู้ แต่หมัดนี้ก็เพียงพอที่จะทำลายความสามารถของเขาในด้านนั้นได้ จากนี้ไปเจ้าหมอนี่จะกลายเป็นผู้ชายที่เสื่อมสมรรถภาพ
ในเวลานี้เซียวไห่หลงรู้สึกเพียงว่าหมัดนี้เป็นการโจมตีที่เจ็บปวดที่สุดในโลก! มันทำให้เขาเจ็บจนต้องนอนลงกลิ้งกับพื้น ไม่รู้เลยว่าหมัดนี้จะสร้างผลข้างเคียงให้เขาเช่นไร
จากนั้นเย่เฉินจึงเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของชุมชนเข้ามาจับกุมคนเหล่านี้แล้วส่งไปที่สถานีตำรวจทันที จากนั้นเขาก็ดูอาการบาดเจ็บของลุงหลี่
โชคดีที่ลุงหลี่มีเพียงบาดแผลฟกช้ำภายนอก ไม่มีอะไรร้ายแรง เย่เฉินจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
แต่ในใจของเย่เฉินนั้นโกรธแค้นตระกูลเซียวมากจนถึงที่สุด ในเมื่อตระกูลเซียวไร้ยางอายแบบนี้ ดังนั้นก็อย่าโทษตัวเองว่าโหดเหี้ยมเลย!
…
เมื่อกลับมาถึงบ้าน
เซียวฉางควนนั่งลงบนโซฟา รอยเลือดบนใบหน้าของเขาได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว แต่มันยังคงหน้าตาฟกช้ำดำเขียวอยู่และมีรอยช้ำที่หน้าผากของเขา ยังใจลอยและรู้สึกเวียนหัว
วันนี้ พี่ใหญ่สั่งให้บอดี้การ์ดทุบตีเขา เขารู้สึกเย็นวาบในหัวใจและยังคงโกรธแค้นอยู่จนถึงตอนนี้
เซียวชูหรันเอายาทาที่หน้าผากของเขาพลางกล่าวว่า “พ่อ เย่เฉินแก้แค้นให้พ่อแล้ว พ่อก็อย่าเก็บเอามาใส่ใจจนเกินไป”
เซียวฉางควนถอนหายใจแล้วพูดว่า “ฉันรู้สึกขมขื่น ทั้งแม่และพี่ชายแท้ๆ ไม่มีใครเห็นฉันเป็นคนในครอบครัว”
ว่าแล้วเซียวฉางควนก็พูดต่อ “ชูหรัน ตอนนี้พวกเขาไล่คุณออกจากบริษัทเซียวซื่อแล้ว คุณวางแผนจะทำอะไรต่อไป?”
“ยังจะมีแผนอะไรได้อีกล่ะ หางานทำก่อนแล้วกัน”
เย่เฉินเห็นดังนั้นก็ไม่พูดอะไร แต่เดินไปที่ระเบียงแล้วโทรหาหวังเจิ้งกาง
พอเอ่ยปาก เย่เสินก็ถามเขาว่า “หวังเหวินเฟยหลานชายคุณของมีการหมั้นหมายกับเซียวเวยเวยหรือไม่?”
“ใช่” หวังเจิ้งกางถามอย่างรีบร้อน “อาจารย์เย่มีอะไรแนะนำได้บ้าง”
เย่เฉินพูดอย่างเย็นชา “ฉันแยกทางกับตระกูลเซียวแล้ว ถ้าตระกูลหวังของพวกคุณยังจะแต่งงานกับตระกูลเซียว นั่นก็แสดงว่าไม่เห็นแก่หน้าของเย่เฉิน พอถึงเวลานั้นหากมีความขัดแย้งใดๆ ก็อย่าโทษว่าผมไม่เกรงใจ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หวังเจิ้งกางก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาแล้วโพล่งออกมาทันที “อาจารย์เย่อย่าเข้าใจผิด ความจริงตระกูลหวังของเราอยากจะถอนหมั้นมานานแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าของอาจารย์เย่ซึ่งเป็นลูกเขยของตระกูลเซียว พวกเราจะรับผู้หญิงอย่างเซียวเวยเวยให้แต่งเข้าบ้านได้ยังไง! คุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะส่งคนไปแจ้งตระกูลเซียวให้ยกเลิกการหมั้น!”
เย่เฉินพยักหน้าแล้วพูดด้วยความพึงพอใจ “ถือว่าคุณอยู่เป็น”
หวังเจิ้งกางกล่าวอย่างรีบร้อน “อาจารย์เย่ไม่ต้องกังวล ต่อไปตระกูลหวังของเราจะขึ้นอยู่กับคุณทุกอย่าง!”
“อืม” เย่เฉินกล่าวอย่างราบเรียบ “เอาล่ะ รีบไปจัดการเถอะ”
“ครับอาจารย์เย่!”
ตระกูลเซียวต้องการเกาะตระกูลหวังใช่ไหม? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็จะทำให้พวกแกคว้าน้ำเหลว!
จากนั้นเย่เฉินก็โทรหาหวังตงเสวี่ยนของตี้เหากรุ๊ป
ตอนนี้ตระกูลเซียวกลายเป็นหมาขี้เรื้อน ถ้าจะตีหมาก็ต้องตีให้หนักหน่อย
พอโทรติดเย่เฉินก็พูดอย่างเย็นชา “ตงเสวี่ยน ตอนนี้ประกาศออกไปว่าตี้เหากรุ๊ปจะยุติความร่วมมือทั้งหมดกับตระกูลเซียว! แล้วพวกเขาจะตัดรายชื่อออกจากขอบเขตความร่วมมือตลอดไป!”
หวังตงเสวี่ยนถามด้วยความประหลาดใจ “คุณชาย นี่เป็นบริษัทครอบครัวของคุณนายน้อย มันจะเป็นการทำร้ายคุณนายน้อยมากเกินไปหรือเปล่า?”
เย่เฉินพูดอย่างราบเรียบ “ภรรยาของผมแยกทางเดินกับพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผมและภรรยาตั้งแต่นี้เป็นต้นไป!”
หวังตงเสวี่ยนถึงเพิ่งเข้าใจ เขาโพล่งออกมาทันทีว่า “คุณชายไม่ต้องกังวล ผมรู้แล้ว! จะจัดแถลงข่าวเดี๋ยวนี้!”
เช่นนี้ ตระกูลเซียวจะถูกทำลายอย่างสมบูรณ์!
นายหญิงใหญ่เซียวของคุณเย่อหยิ่งนักใช่ไหม? งั้นฉันจะทำให้คุณสูญเสียทุกอย่าง!
หลังจากวางสาย เย่เฉินก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่น มองดูเซียวฉางควน เห็นขอบตาของพ่อตาบวม รอยช้ำที่หน้าผากก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เกรงว่าสิบวันหรือครึ่งเดือนก็ยังไม่หาย
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมองเห็นว่าเซียวฉางควนไม่เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บภายนอกเท่านั้น แต่สมองของเขาก็ได้รับการกระทบกระเทือนด้วย มีเลือดคั่งเล็กน้อยในกะโหลก ควรไปโรงพยาบาลเพื่อทำการผ่าตัดเปิดกะโหลกแล้วเอาก้อนเลือดออก
มิฉะนั้นหากปล่อยนานไปการตกเลือดในกะโหลกศีรษะนี้จะเป็น ‘ระเบิดเวลา’ ไม่แน่ว่าวันหนึ่งอาจจะระเบิดและถึงแก่ชีวิตได้
แต่เย่เฉินกลัวว่าเซียวชูหรันจะตื่นตระหนก เขาจึงปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ก่อนในตอนนี้
เขาลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ผมจะออกไปซื้อสมุนไพรยามารักษาบาดแผลของพ่อ”
มีทักษะทางการแพทย์มากมายที่บันทึกไว้ในตำราเก้าเสวียนเทียน มีใบสั่งยาที่สามารถขจัดภาวะซึมเศร้าและส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด เหมาะสำหรับการรักษาอาการของพ่อตา
เซียวชูหรันถามขึ้นด้วยความอยากรู้ “ซื้อสมุนไพรยาอะไร ใช้ได้ผลไหม? เราไปโรงพยาบาลไม่ดีกว่าเหรอ?”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย “อย่าไปโรงพยาบาลเลย หมอส่วนมากจงใจทำให้คนกลัว ทำให้เรื่องดูร้ายแรงขึ้น พ่อจะเป็นกังวลขึ้นมาอีก ผมมีใบสั่งยาซึ่งใช้ได้ผลกับรอยฟกช้ำมาก”
เซียวชูหรันพยักหน้า
พอเย่เฉินเปิดประตูก็มีคนรู้จักคนหนึ่งมาหาพอดี
เขาคือฉินกางจากตระกูลฉิน
เขาขมวดคิ้วมองไปที่ฉินกางแล้วถามว่า “คุณมาที่นี่ทำไม?”