บทที่ 48 ตระกูลมี่ผู้โชคดี[รีไรท์]

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

บทที่ 48 ตระกูลมี่ผู้โชคดี[รีไรท์] EnjoyBook

บทที่ 48 ตระกูลมี่ผู้โชคดี[รีไรท์]

มี่ไลผู้ถูกเรียกตัวมา เมื่อนางเห็นหลิวเฟ่ยเฟ่ย นางดูค่อนข้างสับสน

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ความสนใจทั้งหมดของมี่ไลอยู่ที่ต้นไผ่เซียนสวรรค์จนไม่ได้สนใจเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเรือน ดังนั้นนางจึงไม่สังเกตเห็นว่ามีผู้หญิงคนใหม่เข้ามาอยู่กับหลิงตู้ฉิง

เมื่อนางเห็นหลิวเฟ่ยเฟ่ยและหลิงตู้ฉิงในตอนนี้ดูค่อนข้างสนิทสนมกัน นางก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ

แม้ว่านางจะงุนงง แต่นางก็รู้ว่าอะไรที่นางควรจะถามหรืออะไรที่นางควรจะไม่ถาม นางจึงไม่ได้เอ่ยถามอะไรเกี่ยวกับหลิวเฟ่ยเฟ่ย นางเอ่ยถามกับหลิงตู้ฉิงว่า “นายท่าน ท่านเรียกหาข้างั้นหรือ?”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ข้าต้องการวัสดุบางอย่าง ข้าต้องการให้เจ้าไปแจ้งกับพ่อของเจ้าให้เตรียมพวกมันมาให้ข้า นอกจากนี้ข้ายังมีสูตรโอสถที่พึ่งคิดค้นได้ในไม่กี่วันที่ผ่านมา มันสามารถสร้างรากฐานทางจิตวิญญาณให้สำหรับคนที่ไม่สามารถบ่มเพาะได้ ข้าตั้งชื่อมันว่าโอสถกำเนิดรากฐาน”

“แต่ข้ามีวัตถุดิบไม่เพียงพอ ข้าจึงยังไม่ได้ทดลองหลอมโอสถนี้ขึ้นมา แต่จากการคำนวณของข้า สูตรโอสถนี้สามารถนำไปหลอมเป็นเม็ดโอสถได้อย่างแน่นอน เจ้านำมันไปให้หวงยี่เฟย เขาควรที่จะรู้วิธีการหลอมมันขึ้นมา นอกจากนี้ให้เตรียมวัตถุดิบสำหรับหลอมโอสถเอาไว้ให้ข้าด้วยส่วนหนึ่ง ข้าต้องการที่จะหลอมโอสถกำเนิดรากฐานให้กับหลิวเฟ่ยเฟ่ยด้วยเช่นกัน”

มี่ไลมองหลิงตู้ฉิงอย่างไม่อยากเชื่อและถามว่า “ท่านหลิง นี่หมายความว่าท่านสามารถสร้างโอสถที่ช่วยให้ผู้คนธรรมดาสามารถบ่มเพาะได้งั้นเหรอ!?”

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างจริงจัง “อันที่จริง บนโลกนี้ไม่มีใครที่จะบ่มเพาะไม่ได้หรอก  แต่แค่คนธรรมดาอาจจะต้องใช้ตัวช่วยบางอย่างในการสร้างรากฐานจิตวิญญาณขึ้นมาก็แค่นั้น ซึ่งโอสถกำเนิดรากฐานก็เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เอาล่ะ เจ้ารีบไปหาพ่อของเจ้าและเตรียมสิ่งที่ข้าต้องการมาโดยเร็วที่สุด”

มี่ไลพยักหน้าอย่างรวดเร็วและหยิบรายการจากมือของหลิงตู้ฉิงราวกับว่ามันเป็นสมบัติอันล้ำค่า

เนื่องจากนางเป็นบุตรคนโตของหัวหน้าตระกูล นางจึงได้มีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจหลาย ๆ อย่างของตระกูล และด้วยประสบการณ์การทำธุรกิจที่ผ่านมาทำให้นางรู้ว่ามูลค่าของสูตรโอสถนี้มีค่าขนาดไหน ด้วยสูตรหลอมโอสถกำเนิดรากฐานอันนี้มันจะทำให้ตระกูลของนางรุ่งเรืองไปได้เป็นพันปี

โดยปกติแล้วจะมีเพียงคนที่มีรากฐานทางจิตวิญญาณเท่านั้นที่สามารถบ่มเพาะได้ และอัตราส่วนของผู้ที่มีรากฐานจิตวิญญาณนั้นถือว่ามีน้อยมาก ๆ

มี่ไลที่กำลังถือสูตรโอสถกำเนิดรากฐาน รู้สึกตื่นเต้นราวกับจะบินได้ ร่างกายของนางสั่นเทา นางโค้งคำนับให้หลิงตู้ฉิงด้วยความเคารพและกล่าวขอบคุณอย่างสุดซึ้ง “ขอบคุณนายท่านมากที่ดูแลตระกูลมี่ของข้า”

หลิงตู้ฉิงโบกมืออย่างเมินเฉย “อือ เจ้าจงรีบทำให้ไผ่เซียนสวรรค์ของข้าโตไว ๆ ข้าจะได้ใช้มันได้สักที”

มี่ไลพยักหน้าและพูดว่า “ข้าได้ใช้ฝนใบไม้ผลิหล่อเลี้ยงไปแล้วกว่า 735 ครั้งแล้ว  ต้นไผ่เซียนสวรรค์ของนายท่านจะพร้อมใช้งานในเร็ว ๆ นี้แน่นอน ตอนนี้ข้าขอตัวไปจัดการธุระเกี่ยวกับวัตถุดิบให้นายท่านที่ตระกูลของข้าก่อน เสร็จแล้วข้าจะรีบมาดูแลต้นไผ่เซียนสวรรค์ให้พร้อมใช้งานโดยเร็วที่สุด”

หลังจากพูดจบมี่ไลก็ออกจากเรือนหลิงไปยังตระกูลมี่อย่างรีบร้อน

หลิวเฟ่ยเฟ่ยได้แต่ถามด้วยความสงสัย “นายท่าน หากข้าจำไม่ผิดนางคือบุตรสาวของผู้นำตระกูลมี่ มี่ไล ใช่หรือไม่?”

“ใช่ ตอนนี้นางเป็นบ่าวรับใช้ของข้า” หลิงตู้ฉิงกล่าวอย่างชัดเจน “ข้าให้นางไปเอาวัตถุดิบสำหรับโอสถกำเนิดรากฐานมาให้ เมื่อนางกลับมา ข้าจะทำให้เจ้าสามารถบ่มเพาะได้ แต่อันที่จริงแล้วยังมีวิธีการอื่นที่จะทำให้เจ้าสามารถบ่มเพาะได้เช่นกัน แต่การใช้โอสถกำเนิดรากฐานมันเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด”

หลิวเฟ่ยเฟ่ยพูดไม่ออกไปชั่วครู่ นางนึกไปถึงคืนที่หลิงตู้ฉิงไปที่หอมรกตแดง โม่หยูถังเคยกล่าวกับนางว่า หากความสามารถของหลิงตู้ฉิงเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้คนแล้ว ถึงต่อให้มีฐานะเป็นองค์หญิงจากอาณาจักรใหญ่ แต่เมื่อเจอกับคนเช่นหลิงตู้ฉิง องค์หญิงเหล่านั้นยังต้องยอมยินดีถวายตัวเป็นบ่าวรับใช้ให้กับหลิงตู้ฉิงแน่นอน

ในเวลานั้นนางไม่เชื่อคำที่โม่หยูถังกล่าวแม้แต่น้อย แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าโม่หยูถังจะไม่ได้โอ้อวดเกินจริง

อย่างน้อย ๆ วันนี้นางก็ได้เห็นแล้วว่าขนาดลูกสาวของหัวหน้าตระกูลมี่ยังต้องยอมมาเป็นบ่าวรับใช้ให้กับเขา

นอกจากนี้นางยังได้ยินเรื่องของโอสถกำเนิดรากฐาน นางรู้ได้ทันทีว่าในอนาคตตระกูลมี่จะต้องเป็นตระกูลที่โด่งดังที่สุดในโลกแน่นอน

หลังจากนางเงียบไปสักพัก หลิวเฟ่ยเฟ่ยก็กล่าวขอบคุณอย่างสุดซึ้ง “ขอบคุณนายท่านมาก”

หลิงตู้ฉิงยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่หรอก เป็นข้าสิที่ต้องขอบคุณเจ้า”

หลิวเฟ่ยเฟ่ยเป็นผู้ช่วยเปิดประตูสู่วิถีแห่งอารมณ์ของเขา หลิงตู้ฉิงถือว่านี่สิที่เป็นเรื่องใหญ่

ตอนนี้หลิงตู้ฉิงได้เสร็จสิ้นการพัฒนาเต๋าตู้ฉิงของเขาแล้ว แม้ว่าเขาจะนั่งเฉย ๆ แต่พลังวิญญาณของเขาก็เพิ่มขึ้นทุกวินาที

หลิวเฟ่ยเฟ่ยไม่เข้าใจคำพูดของหลิงตู้ฉิง นางมองเขาด้วยความเสน่ห์หาและคิดกับตัวเองว่านางต้องการติดตามนายท่านคนนี้ไปจวบจนสิ้นลมหายใจ

อีกด้านหนึ่ง มี่ตั้วตั้วกำลังขมวดคิ้วแน่น ตอนนี้ตระกูลมี่ประสบกับปัญหายุ่งยาก

เนื่องจากพันธมิตรของตระกูลเจิ้นทั้งหมดได้ร่วมมือกันกดดันตระกูลมี่ และเรื่องนี้ก็แพร่กระจายไปยังที่อื่น ๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสมาคมหอการค้าจำนวนมากแม้แต่มี่ตั้วตั้วก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย และถึงแม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายชนะสงครามธุรกิจครั้งนี้ หอการค้าของเขาก็คงจะเสียหายอย่างมาก เขาปวดหัวและยังไม่สามารถคิดวิธีแก้ปัญหาได้

ขณะที่เขากำลังปวดหัว เขาก็เห็นว่ามี่ไลได้กลับมา

“ทำไมเจ้าถึงกลับมา?” มี่ตั้วตั้วถามด้วยความอยากรู้ เนื่องจากมี่ไลเข้าไปในเรือนหลิงเพื่อเป็นบ่าวรับใช้ นางย่อมไม่สามารถจากมาได้อย่างง่ายดายหากไม่มีเหตุผลที่ดีพอ

มี่ไลพูดอย่างตื่นเต้น “ท่านพ่อ คราวนี้เรารวยแน่!”

“จะเป็นไปได้ยังไง ตอนนี้ข้ายังไม่มีวิธีปราบปรามหอการค้าอื่น ๆ เลย!” มี่ตั้วตั้วพูดอย่างรวดเร็ว “ตอนนี้เจ้าเป็นบ่าวรับใช้ของหลิงตู้ฉิงเจ้าควรทำงานของเจ้าให้ดี ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าและเขา”

มี่ไลพูดอย่างกระวนกระวายว่า “ข้ามาทำธุระให้ท่านหลิงต่างหาก! ท่านนี่ขับไล่ไสส่งหยั่งกับข้าไม่ใช่ลูกของท่าน!”

นางวางสูตรโอสถกำเนิดรากฐานและรายการวัตถุดิบที่หลิงตู้ฉิงต้องการบนมือของมี่ตั้วตั้วและตะโกนว่า “ข้าให้ท่าน นี่คือผลตอบแทนสำหรับการขายลูกสาวของท่าน! และนี่คือวัตถุดิบที่ท่านหลิงต้องการ ท่านต้องเตรียมของเหล่านี้ให้เร็วที่สุด! ตั้งแต่ที่ท่านยกข้าให้ท่านหลิง ตั้งแต่นี้ต่อไปข้าไม่ได้เป็นคนของตระกูลมี่อีกแล้ว ท่านจะมาดุด่าข้าเหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้วนะ!”

มี่ตั้วตั้วในตอนนี้ไม่ได้ใส่ใจอะไรคำตัดพ้อของมี่ไลอีกต่อไป เขารีบมองไปยังแผ่นกระดาษสองแผ่นที่มี่ไลส่งมาให้เขา

เมื่อเขาดูรายการวัตถุดิบที่หลิงตู้ฉิงต้องการ คิ้วของเขาขมวดแน่น แต่เมื่อเขามองไปที่แผ่นกระดาษอีกใบที่ระบุสูตรยาเขาหัวเราะออกมาดัง ๆ ดั่งคนบ้า เขาลุกขึ้นยืนและตบไหล่ของมี่ไลอย่างตื่นเต้น

“ด้วยสิ่งนี้พวกเราตระกูลมี่จะต้องรุ่งโรจน์ไปอีกนานแสนนาน ฮ่าฮ่า เยี่ยมมากลูกข้า!”

มี่ไลรีบเตือนเขาว่า “ท่านพ่อ สูตรยานี้ล้ำค่ามากเกินไป ตระกูลมี่ของเราได้รับผลประโยชน์มากมายก็จริง แต่เราต้องระวังความริษยาของตระกูลอื่น ๆ เอาไว้ด้วย!”

มี่ตั้วตั้วพูดอย่างสุขุม “ความเสี่ยงยิ่งสูงผลตอบแทนที่ได้รับก็จะยิ่งสูงตาม พ่อเข้าใจถึงอันตรายของมันดี เราต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก่อนให้รู้ได้แต่เฉพาะคนที่ไว้ใจได้เท่านั้น ตราบใดที่พ่อไม่พูดเจ้าไม่พูด ใครจะรู้ เหอะ! พวกนั้นต้องการที่จะกำจัดพวกเรางั้นเหรอ? ข้าจะให้พวกมันลำพองใจไปก่อน เมื่อข้าพร้อม ข้าจะทำให้พวกมันพ่ายแพ้อย่างยับเยิน แต่ว่าในตอนนี้เรายังมีเรื่องที่ต้องจัดการ นั่นก็คือการหาวัตถุดิบสำหรับหลอมโอสถกำเนิดรากฐานอย่างลับ ๆ และหาวัตถุดิบที่ปรมาจารย์หลิงต้องการให้ครบ ตราบใดที่เราจัดการทั้งสองเรื่องนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ผลประโยชน์มหาศาลจะตกมาอยู่ที่เราแน่นอน”

มี่ไลพยักหน้า “ในเมื่อท่านพ่อเข้าใจแล้ว ข้าขอตัวกลับเรือนหลิงก่อนแล้วกัน”

“เดี๋ยวก่อน!” มี่ตั้วตั้วรีบพูดว่า “ลูกรักของข้า เรื่องระหว่างเจ้ากับปรมาจารย์หลิงมีความคืบหน้าอะไรไปถึงไหนแล้ว? เจ้าต้องรีบแล้วนะ หากเจ้าไม่รีบจับเขาในตอนนี้ หากรอนานไปเจ้าอาจจะไม่มีโอกาสเอานา นี่ขนาดผ่านไปเพียงไม่กี่วันเขายังสามารถคิดสูตรโอสถมหัศจรรย์นี้ขึ้นมาได้ แล้วต่อไปในอนาคตนี้ข้าเดาไม่ออกเลยว่าเขาจะสร้างเรื่องท้าทายสวรรค์อะไรขึ้นมาได้อีกบ้าง ถึงแม้ว่าเขาจะมีลูกแล้วตั้ง 7 คนก็เถอะ แต่เด็ก ๆ เหล่านั้นก็ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาจริง ๆ เจ้าจำเป็นต้องรีบสร้างจุดยืนที่มั่นคงให้กับตัวเองได้แล้วนะลูกพ่อ เจ้าอาจจะสร้างจุดยืนโดยการให้กำเนิดบุตรแท้ ๆ ของเขาสักคน สองคน ข้าว่ามันคงจะเหมาะดี”

มี่ไลตะโกนว่า “นี่ท่านยังเห็นข้ายังเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของท่านอยู่รึเปล่าเนี่ย ท่านพ่อ! ตอนนี้ท่านกำลังทำตัวเหมือนพ่อเล้าหัวใส ที่กำลังกลัวว่าจะไม่สามารถขายเด็กในสังกัดได้ในราคาที่ดีหยั่งงั้นแหละ ฮึ่ม! ข้าไปล่ะ!” นางจากไปโดยทิ้งความขุ่นเคืองไว้ข้างหลัง

มี่ตั้วตั้วส่ายหัวอย่างจนใจและพูดว่า “ข้าก็แค่คิดถึงความสุขของเจ้าต่างหาก ขายลูกสาวตัวเองงั้นเหรอ? เอาล่ะ… ต่อให้เจ้าจะคิดแบบนั้นข้าก็คงห้ามอะไรไม่ได้ล่ะนะ”