กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 587
“ไม่ไป” เหวินเส่าอี๋กล่าวด้วยความโกรธ

“ไม่ไปก็ล้มเลิกเช่นไรผู้ที่หิวก็เป็นท่านไม่ใช่ข้าสักหน่อย”

กู้ชูหน่วนค้นหาสถานที่ที่สะดวกสบายโดยนั่งไขว้เท้าในปากคาบหญ้าหางหมาจิ้งจอกที่ไม่รู้ว่าเอามาจากที่ใด รออย่างสบายๆให้รัฐชาววะค้นหาเรียบร้อยแล้วจากไป

“ความเชื่อจิตวิญญาณของรัฐพวกนางคือไม่บรรลุเป้าหมายจะไม่เลิกราเป็นแน่” ความหมายของเหวินเส่าอี๋คือหากว่าค้นหาพวกเขาไม่พบรัฐชาววะจะไม่ยอมล่าถอยทัพไป

“วุ่นวายมาหลายวันเช่นนั้นข้าก็เหนื่อยแล้วด้วย ขอหลับสักงีบอย่าได้ปลุกข้านะ”

นางหันศีรษะและหลับตาลงราวกับว่าได้หลับไปแล้วจริงๆเช่นนั้น

ในใจคิดที่จะกระทำเช่นไรที่จะไม่เป็นการทำร้ายรัฐชาววะและไปทางขั้วโลกเหนืออีกครั้งเพื่อตามหาไข่มุกมังกรลูกที่หกให้ได้โดยเร็ว

หากว่าพบมังกรวารีระดับเจ็ดแล้วควรจะจัดการเช่นไร

ในวันนั้นที่หุบเขาโลหิตหูหลูมังกรไฟระดับเจ็ดนั้นแข็งแกร่งเพียงใดนางยังคงจดจำอยู่ในสายตามาได้จนถึงทุกวันนี้

หากว่าไม่มีหนทางต่อกรกับมังกรอสูรระดับเจ็ด เกรงว่าไข่มุกมังกรลูกที่หกก็จะไม่สามารถนำมาได้โดยง่าย

กู้ชูหน่วนพยายามคิดทุกวิถีทางที่จะใช้สิ่งของที่สามารถใช้ได้ในร่างกาย แต่ก็ไม่สามารถหาวิธีต่อกรกับมังกรวารีได้

ช่องว่างระหว่างพละกำลังนั้นมากเกินไป

ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาขั้นสูงสุดของเยี่ยจิ่งหานและจอมมารก็ใช่ว่าจะสามารถเอาชนะได้

ยิ่งกว่านั้นนาง……

ต้องการที่จะได้ไข่มุกมังกรลูกที่หกจำต้องหลีกเลี่ยงมังกรวารีหรือเอาชนะด้วยความเฉลียวฉลาด

และก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับท่านพี่เฉินเฟยและผู้คนของเผ่าหยก

กู้ชูหน่วนร้อนรนดั่งไฟ

ความเป็นจริงนั้นทำให้นางลำบากใจยิ่งนัก

ทันใดนั้นก็มีเสียงจากด้านนอกดังขึ้นเป็นพักๆพร้อมกับเสียงพูดอันแผ่วเบา

กู้ชูหน่วนลืมตาขึ้นมากระทันหันพร้อมด้วยความรู้สึกอันหนาวเย็นได้พุ่งออกมา

นางขยับหูพร้อมกับได้ยินเสียงภายนอกอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง

“ค้น ค้นให้ละเอียด ที่ใดก็ห้ามปล่อยผ่านไปทั้งสิ้น”

“ท่านแม่ทัพดูเหมือนว่าด้านหน้าจะมีถ้ำๆหนึ่งอยู่”

“ยังยืนนิ่งทำอันใดอยู่ รีบเข้าไปดูว่าพวกเขาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นั่นหรือไม่”

เสียงฝีเท้าเดินมาทางถ้ำที่กู้ชูหน่วนอยู่ไม่หยุด

ไม่ว่ากู้ชูหน่วนจะอารมณ์ดีเพียงใดก็โมโหเสียแล้ว

นางเร่งรีบไปทางขั้วโลกเหนือ แต่ผู้คนเหล่านี้กลับตามติดนางไม่ยอมปล่อย

หากว่าพวกเขาบุกเข้ามาก็อย่าได้โทษนางที่ลงมืออย่างไร้ความปราณี

ในขณะที่กู้ชูหน่วนเตรียมการเอาไว้พร้อมแล้ว ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงอันอ่อนเยาว์และคุ้นเคยดังขึ้นมา

“แม่ทัพซ่ง ถ้ำนั้นเมื่อครู่ข้าได้ให้คนตรวจดูแล้วไม่มีสิ่งใดเลย พวกเจ้าลองไปค้นหาที่อื่นกันดูเถอะ”

“หม่อมฉันคารวะมกุฏราชกุมารี มกุฏราชกุมารี นางมารผู้นั้นฉลาดเป็นกรดยิ่งนักบางทีพวกนางอาจจะไปแล้วกลับมาก็เป็นได้เช่นไรก็ให้หม่อมฉันไปตรวจสอบดูเถอะเพคะ”

“เจ้าสารเลว เจ้าสงสัยในความสามารถของข้าหรือ? หรือว่าเจ้าสงสัยว่าข้าจะกล้ำกลืนฝืนทนต่อคนร้าย?”

แม่ทัพซ่งตกใจและหวาดกลัวตัวสั่น

“หม่อมฉันมิกล้า หม่อมฉันจะถอยออกไปเดี๋ยวนี้เพคะ”

ผู้คนจากไปกันทีละคนๆเหลือเพียงแค่องครักษ์กลุ่มหนึ่งเท่านั้น

มกุฏราชกุมารีโบกมืออย่างเหน็ดเหนื่อย “เพื่อค้นหาผู้สอดแนมสองคนทำให้ข้าเหนื่อยแทบตาย ข้าจะพักที่นี่ครู่หนึ่งพวกเจ้าลองไปตรวจค้นทางโน้นดู”

“ฝ่าบาท พระองค์เพียงลำพังเกรงว่าที่นี่จะไม่ปลอดภัยเพคะ”

“มีสิ่งใดที่ไม่ปลอดภัย? โดยรอบระยะใกล้ๆนี้มีคนของเราอยู่เต็มไปหมด เพียงแค่ข้าร้องเรียกพวกเจ้าก็สามารถมาได้ในทันที นอกจากนี้แล้วข้าอยู่ในรัฐของข้าเองแล้วข้ายังจะต้องเป็นกังวลอันใดหรือ?”

“นี่……”

“นี่อันใดนี่ นี่คือคำสั่งยังไม่รีบไปค้นหาผู้สอดแนมอีก

“เพคะ”

องครักษ์กลุ่มหนึ่งถูกมกุฏราชกุมารีไล่ออกไปแล้ว

มกุฏราชกุมารียิ้มและวิ่งไปที่ถ้ำโดยก้าวสองก้างในการก้าวสามก้าวและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พี่หญิงข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ พวกนางไปกันหมดแล้วเจ้าสามารถออกมาได้แล้ว”

กู้ชูหน่วนมองไปยังเหวินเส่าอี๋ระยะไกลและให้สัญญาณด้วยสายตา

“ท่านไม่ได้แม้แต่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเช่นนี้ก็หาประโยชน์ด้วยหรอกนะ?”

เหวินเส่าอี๋เลียนแบบท่าทางของนางโดยกลอกตามองบนโดยไร้ซึ่งคำพูด

เขามายังรัฐชาววะเมื่อสามปีก่อนนางพึ่งอายุได้เพียงกี่ขวบเอง

นอกจากนี้เขาเป็นคนเช่นนั้นหรือ?

“พี่หญิงท่านไม่พูดจาข้าจะเข้าไปแล้วนะ”

“ชู่ว์……”

กู้ชูหน่วนนำของที่ทางเข้าถ้ำออกโดยมือทั้งคู่กอดหน้าอกอยู่และมองลงไปจากที่สูงอย่างเย็นชาเห็นมกุฏราชกุมารีที่สูงเพียงแค่ถึงต้นขาของนาง

“ฝ่าบาทพระองค์ต้องการจับตัวพวกเราเอาไว้ ด้วยพระองค์เพียงผู้เดียวเกรงว่าจะไม่เพียงพอสินะ”

“ข้าจะไม่ทำร้ายพี่หญิงหรอกนะ ข้าก็ไม่ต้องการให้เสด็จแม่ทรงอภิเษกสมรสเขาเป็นจักรพรรดิ เขาสูงตั้งเท่าใดหากว่าเสด็จแม่ทรงอภิเษกกับเขาจริงๆพระตำหนักและภูเขาจำลองทั้งหมดในรัฐชาววะของเราก็จะไม่ต้องสร้างใหม่ซึ่งเป็นการเสียกำลังคนและสูญเงินมากมาย”

“มองไม่ออก พระองค์อายุยังน้อยแต่พบเห็นมาไม่น้อยเลยนะ”

“เป็นเช่นนั้น ท่านอาจารย์ของข้าชมว่าข้าเป็นมกุฏราชกุมารีที่ดี ต่อไปภายภาคหน้าขึ้นครองราชบัลลังก์จะต้องเป็นจักรพรรดินีผู้ทรงคุณธรรมเป็นแน่”

“ขอถามจักรพรรดินีผู้ทรงคุณธรรมไม่รู้ว่าพระองค์เสด็จมาทำกระทำเรื่องสูงส่งอันใดกัน?”

มกุฏราชกุมารีทรงพระสรวลและวิ่งไปยังตรงหน้าของกู้ชูหน่วนด้วยขาอันสั้นให้สัญญาณนางก้มศีรษะลงมา

กู้ชูหน่วนค่อยๆย่อตัวลงเพื่อดูว่านางต้องการสิ่งใดกันแน่

“พี่หญิง เจ้าต้องการออกจากรัฐชาววะใช่หรือเปล่า?”

“พระองค์จะทรงช่วยข้าหรือ?”

“ข้าสามารถช่วยเจ้าได้ แต่เจ้าต้องรับปากเงื่อนไขข้อหนึ่งกับข้า”

“ทรงว่ามา”

“รอให้เจ้ากลับมาจากขั้วโลกเหนือเจ้าพาข้าออกไปดูโลกภายนอกดีหรือไม่ ข้าเติบโตมาในรัชาววะตั้งแต่เด็กจึงไม่รู้ว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร ได้ยินท่านอาจารย์กล่าวว่าภายนอกเจริญรุ่งเรืองยิ่งนัก มีตุ๊กตาดินเผามากมายหลายชนิดและยังมีการร่ายรำด้วยนะ ใช่แล้วยังมีทะเลอีดกด้วย ข้าก็ไม่รู้ว่าทะเลมีลักษณะเป็นเช่นไร”

“โลกภายนอกไม่ได้สวยงามอย่างที่พระองค์คาดคิดไว้เช่นนั้น”

“ไม่เป็นไรหรอก ข้าชอบจำแต่สิ่งดีๆส่วนเรื่องที่ไม่ดีเหล่านั้นข้าลืมหมดได้อย่างรวดเร็ว”

กู้ชูหน่วนสัมผัสศีรษะน้อยๆของนาง

แววตาของสาวน้อยผู้นี้สะอาด สดใส บริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งเจือปนใดๆทำให้คนมองแล้วอดไม่ได้ที่จะชื่นชอบ

“ได้ รอให้ข้าออกมาจากขั้วโลกเหนือข้าจะพาพระองค์ออกไปเดินเล่นภายนอกหนึ่งรอบ เพียงแต่ว่าข้ารับปากพระองค์ได้เพียงว่าอย่างมากก็อยู่กับพระองค์หนึ่งวันเท่านั้นเนื่องจากข้ายังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ”

“ได้สิ ขอบคุณพี่หญิง พี่หญิงท่านใจดีจริงๆ”

“หยุดประจบสอพลอจะออกไปได้อย่างไร ข้ายังต้องเร่งกับเวลาอยู่ด้วย”

“สักครู่ข้าจะล่อพวกนางไป เจ้าเดินไปทางด้านหน้าอยู่ตลอดเมื่อพบทางแยกสองทางเจ้าก็เดินไปทางซ้าย เมื่อพบทางแยกมากกว่าสามทางให้เจ้าเดินไปทางขวา ข้ารับประกันว่าไม่มีผูัใดขวางพวกเจ้าแต่ว่าพวกเจ้าต้องรวดเร็วเนื่องจากแม่ทัพฮวาหลักแหลมยิ่งนัก ข้าเกรงว่านางจะสังเกตเห็นและทูลต่อเสด็จแม่งั้นข้าก็จะลำบากเสียแล้ว”

กู้ชูหน่วนบีบแก้มอันอ้วนถ้วนน้อยๆของพระองค์จากนั้นยิ้มแล้วกล่าวว่า “เหตุใดพระองค์ถึงได้น่ารักเช่นนี้นะ เหวินเส่าอี๋ ไป”

“รอเดี๋ยวก่อน พี่หญิงเจ้ายังไม่ได้เกี่ยวก้อยกับข้าเลย”

“ได้”

กู้ชูหน่วนเกี่ยวนิ้วแล้วยิ้มและกล่าวว่า “รอให้พี่หญิงจัดการธุระให้เรียบร้อยก็จะพาพระองค์ออกไปเดินเล่น”

“เกี่ยวก้อยสัญญาแล้วเจ้าอย่าได้โกหกข้านะ ออกจากรัฐชาววะไปดูโลกภายนอกเป็นความปรารถนาอันสูงสุดในชีวิตนี้ของข้าเลยนะ”

“พี่หญิงรับประกันว่าจะไม่โกหกพระองค์”

มกุฏราชกุมารีทรงเผยรอยยิ้มอันน่าอบอุ่นพระทัย

ด้านหนึ่งมองดูพวกเขาจากไปอีกด้านหนึ่งก็โบกมือน้อยๆลาพวกเขา

แต่พระองค์ไม่ได้ทรงคิดว่าการจากลาครั้งนี้จะเป็นการจากลาตลอดกาล

ด้วยการจัดการของมกุฏราชกุมารีแม้ว่ากู้ชูหน่วนจะกระแทกกระทั้นตลอดทางแต่ก็จากไปได้อย่างปลอดภัย

หลังจากข้ามผ่านอาณาเขตการค้นหาของชาววะ และเมื่อมั่นใจว่าบริเวณโดยรอบไม่มีชาววะอยู่กู้ชูหน่วนก็สั่งให้เสี่ยวจิ่งเอ๋อร์แบกพวกเขาไปทางขั้วโลกเหนือทันที