ผมและเคราสีขาวเงินของเขานั้นยาวมากพอจนสามารถจะสอดเข้าไปในเข็มขัดได้ เขาสวมเสื้อคลุมยาวสีม่วงอ่อนพลางกววาดสายตา ดวงตาของเขามีสีฟ้าเป็นกระกายหลังแว่นพระจันทร์ครึ่งดวง
เครื่องแต่งกายและรูปร่างหน้าตาของเขาดูไม่เหมือนผู้ฝึกฝน เขากลับดูคล้ายกับนักเรียนแต่เป็นนักวิชาการที่มีอายุท่าทางของเขาช่างอ่อนโยน
ใช่ .. เขาเป็นนักวิชาการ ชายชราคนนี้มักมอบความประทับใจให้ทุกคนครั้งแรกเมื่อได้เห็นเขา
อัลบัสดัมเบิลดอร์เป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเวทย์มนตร์ฮอกวอตส์ “ฉันไม่คาดคิดว่าจะเจอท่านที่นี่ ศาสตราจารย์มักกอนนากัน”
เขายิ้มให้แมว
เจ้าแมวหายแว๊บไปกลับกลายเป็นหญิงคนหนึ่งที่มีหน้าตาเคร่งขรึมเธอสวมแว่นสี่เหลี่ยมแววตาของเธอคล้ายคลึงกับแมว
“คาถาแปลงร่าง ..” ทุกคนที่กำลังดูคิดตามว่าไม่ว่าจะมองมุมไหนรูปลักษณ์หรือท่าทางของเจ้าแมวนั้นดูปกติมากไม่รู้เลยว่านี่คือคน น่าแปลกที่มีคาถาแบบนี้มันสามารถเก็บรายละเอียดโครงสร้างทางกายภาพของมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์
“นี่คือคาถาแปลงร่างหรือ!?” บุเช่ผู้ที่นั่งอยู่กับอันเฉิงพลางเล่นดรูอิดใน Diablo หันหน้ามาถาม เขาพบว่าคาถานี้ช่างเป็นที่คุ้นเคย
“คาถาเปลี่ยนร่าง!?” ทุกคนที่ได้ยินคำถามหันมองหน้าเขาด้วยแววตาชวนประหลาดใจ
“มันคล้ายกับเวทย์มนตร์ทางจิตวิญญาณที่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของตัวตนเดิมให้กลายเป็นตัวตนหรือสายพันธุ์อื่นได้” บุเช่อธิบาย
“งั้นหรอ!?”
จากตัวละครในหนังผู้ฝึกฝนไม่รู้สึกถึงพลังการฝึกฝนอันน่ากลัว เพียงแต่พวกเขารู้สึกแปลกใจที่เห็นคาถาและสิ่งของทางจิตวิญญาณที่แปลกและแตกต่างออกไป มันมีประสิทธิภาพมาก ตัวอย่างเช่น อัลบัสดัมเบิลดอร์ใช้ไม้กายสิทธิ์ปิดไฟบนถนนด้วยความเงียบ
หากผู้ฝึกฝนทำอะไรแบบนี้ไปพวกเขาคงก่อให้เกิดความวุ่นวายอย่างมากและดึงดูดความสนใจได้แน่นอน พวกเขาคิดในหัว
“คาถาช่างน่าสนใจ” หนิงไป่ดูสนใจ
“เขาใช่พ่อมดที่เจ้าของร้านเคยเอ่ยถึงมาก่อนหรือเปล่า!?”
“นั่นสิ เขาดูคล้ายผู้ฝึกฝนแต่ .. เขามีลักษณ์พิเศษและเอกลักษณ์เฉพาะตัว”
ในตอนแรกของหนังตัวละครได้พูดถึงเรื่องราวของการฆาตกรรมพ่อแม่ของแฮร์รี่พอตเตอร์โดยโวลเดอมอร์และแผนการที่จะส่งแฮร์รี่กลับสู่โลกมนุษย์ เมื่อดูมาถึงตอนนี้ผู้ชมได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่อย่างคำว่า มักเกิล มันเป็นชื่อที่ใช้เรียกมนุษย์ธรรมดาที่ไม่มีความสามารถด้านเวทย์มนตร์
ทันใดนั้นพวกเขาก็จำได้ลางๆ ว่าเจ้าของร้านเคยเรียกพวกเขาบางคนว่า ‘กลุ่มมักเกิล’ และบางคนเองก็ยังคงงงกับคำศัพท์ใหม่ ตอนนี้พวกที่เขาใจพวกเขาเริ่มหันมองหน้าเจ้าของร้านด้วยรอยยิ้มมุมปาก
ในไม่ช้าพวกเขาก็ต้องหันกลับมาจ้องที่หน้าจอเช่นเดิม เขาพบว่าโลกที่นั้นมีความพิเศษมาก ตัวอย่างเช่นตรอกไดแอกอนนั้นเป็นที่ที่ซ่อนอยู่ในโลกมนุษย์เห็นได้ชัดว่าพ่อมดแม่มดนั้นอาศัยอยู่ในสถานที่เดียวกันกับคนธรรมดาทั่วไป แต่พวกเขาแยกตัวออกจากมักเกิล นอกจากพ่อมดแม่มดแล้วก็ยังคงมีก๊อบลินที่หน้าตาคล้ายคลึงกับมนุยษ์เช่นกันเพียงแต่พวกมันนั้นน่าตาหน้ากลัวและตัวสั้นกว่า
เรื่องราวการดำเนินเรื่องภาพในหนังนั้นมีความน่าสนใจ ภาพถ่ายของดัมเบิลดอร์นั้นดูเหมือนเขามีชีวิตในแบบของเขาเอง เขาสามารถจากไปและอยู่ตามที่เขาต้องการ เขากลับมาเพื่อทักทายแฮร์รี่ด้วยรอยยิ้ม มันน่าสนใจมากขึ้นเมื่อแฮร์รี่ได้เดินทางมาถึงฮอกวอตส์พร้อมกับเพื่อนๆ ชายหญิงคนอื่นๆ และเริ่มด้วยกระบวนการการคัดแยก
“ท่านอาจารย์! หมวกนั้นร้องเพลงได้!” เฟงหัวและยูซินเรียกซูเทียนจิ
บนม้านั่ง ณ ห้องโถงใหญ่มีหมวกของพ่อมด หน้าตาของมันดูดุเล็กน้อย สภาพดูเก่าและเปรอะฝุ่น แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญสิ่งที่น่าอัศจรรย์คือมันสามารถพูดและร้องเพลงได้
“โอ้พวกเธออาจคิดว่าฉันนั้นไม่น่ารักเหมือนหมวกใบอื่นๆ แต่อย่าเพิ่งตัดสินใจในสิ่งที่เห็น แน่นอนพวกเธอหาหมวกที่ฉลาดแบบฉันไม่ได้อีกแล้ว ..”
“ฮ่าๆ หมวกใบนี้ตลก!” เจียงเสี่ยวหยูหัวเราะจนเจ็บท้อง
“ฮะๆ” หนิงไป่หัวเราะคิกคักเห็นได้ชัดว่าเจ้าหมวกคงตลกมากจริงๆ “พวกเขาทำอย่างนั้นได้ยังไง!?” เห็นได้ชัดว่าเธอเองไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมหมวกนี้ถึงมีวิญญาณมันเหมือนกับสิ่งมีชีวิตและมีสติปัญญาสูง มันสามารถร้องเพลงและจัดเรียงลำดับนักเรียนใหม่ตามบุคลิกนอกจากนี้ยังจำแนกความสามารถของพวกเขาได้อีกด้วย
ขณะเดียวกันจุนหยางชีและคนอื่นๆ เองก็มีความคิดที่ลึกซึ้ง คล้ายกับว่าพวกเขาเริ่มค้นพบสมบัติล้ำเลิศ ถึงตอนนี้แม้ว่าเหล่าพ่อมดแม่มดยังไม่ได้แสดงพลังอันยิ่งใหญ่ออกมา แต่ฉากที่ผู้ชมได้รับชมนั้นทั้งสนุกและชวนตื่นเต้นทำให้พวกเขาสนใจมันอย่างมาก
หากเทียบกับกระบี่เทพสังการที่พวกเขาดูแล้วสองเรื่องมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้แต่ผู้ฝึกฝนระดับสูงบางคนเองยังพบว่าหนังเรื่องใหม่นี้เป็นโลกใหม่ที่ชวนค้นหาอย่างน่าทึ้งและพิศวง
การรับชมแฮร์รี่พอตเตอร์อย่างต่อเนื่องทำให้พวกเขาได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์และสิ่งของแปลกๆ มากมายที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน พวกเขาได้เรียนรู้วิ๔ีชีวิตของเพื่อนใหม่สภาพแวดล้อมบ้านเมืองที่ต่างจากความเป็นอยู่ บอกจากนี้ยังได้เห็นเหตุการณ์ที่สนุกสนานชวนตื่นตาและเหตุการณ์ที่น่าอับอายอย่างเช่น คาถาที่ถูกร่ายผิด การศึกษาวิธีร่ายเวทย์ตามห้องเรียน
สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ทุกคนรู้สึกอินและสบายใจยามได้ดู
“ที่นี่ดูสนุก ..” เฟงหัวกระซิบ
ยูซินตอบกลับว่า “ข้าอยากไปเรียนที่นี่เช่นกัน ..”
“ดูนั่น .. ศาสตราจารย์คนนั้นเสกหมูตัวนั้นให้กลายเป็นโต๊ะ!” ขณะเดียวกันอาจารย์หญิงคนหนึ่งกำลังสอนเธอเปลี่ยนให้เจ้าหมูกลายเป็นโต๊ะ มันวิ่งไปทั่วห้องเรียนอย่างไร้จุดหมาย เห็นได้ชัดว่าเธอได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ของหมูให้ต่างไปจากเดิม
ในไม่ช้า .. เจ้าหมูก็เปลี่ยนเป็นคน
หนิงไป่เริ่มให้ความสนใจมากขึ้น เธอหัวเราะ “คาถาจิตวิญญาณนี้น่าสนใจมาก หากใครกล้าหยาบคายกับข้าข้าจะเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นหมู!”
โมเซียนและคนอื่นๆ ที่กำลังเคี้ยวขนมแท่งรสเผ็ดตัวสั่นทันทีเมื่อได้ยิน
ขณะที่นักเรียนกำลังตกตะลึงกับคาถาแปลงร่างของอาจารย์ผู้สอน ผู้ฝึกฝนหลายคนกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้คาถานี้ พวกเขากำลังคิดอยากเปลี่ยนฝ่ายตรงข้ามหรือศัตรูให้เป็นสัตว์หรือสิ่งของตามใจอยาก
ราวกับว่าอาจารย์ได้ยินความคิดของผู้ชมเธอเริ่มสอนนักเรียนของเธอถึงวิธีการใช้คาถาเปลี่ยนร่าง มันซับซ้อนมาก เริ่มแรกคือเปลี่ยนไม้ขีดให้เป็นเข็มดูเหมือนง่ายแต่ไม่เลย กว่าจะเปลี่ยนให้ถูกร่างนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แม้ว่านักเรียนจะจดตามแล้วแต่การฝึกซ้อมเพื่อเปลี่ยนร่างหรือแปลงสิ่งของนั้นสำคัญกว่าจะแม่นยำต้องใช้เวลาไม่น้อย
เวลาเดียวกันเฉินชิงชิงพร้อมคนอื่นๆ พวกเธอมีสติพร้อมไหวพริบดีจึงเลือกจะหยิบกระดาษเพื่อนำมาจดบันทึกตาม
“เราเรียนรู้ได้จริงหรอ!?” หลานคนร้องถามด้วยความดีใจ พวกเขาเองเริ่มเลียนแบบสาวๆ ทันที พวกเธอรีบเข้าไปรายการเพื่อซื้อสมุดและปากกาในคิวโซนด้วยความรวดเร็ว
“คำพูดเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นพื้นฐานและรากฐานของภาษารูน” จุนหยางชีเริ่มเชื่อมโยง
ดวงตาของผู้ชำนาญการคนอื่นๆ นั้นสว่างขึ้นทันที!