การชนท้ายที่เกิดขึ้นไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น
⁠⁠⁠⁠⁠⁠⁠

จึงทำให้ลัมโบร์กินี่แทบจะไม่มีรอยขีดข่วนเลย การชนที่เกิดขึ้นเหมือนกับว่ารถทั้งสองคันได้มาจูบปากกันเบาๆมากกว่า

และภายใต้การนำทางของหลินฟาน ทำให้ทั้งสองได้มาถึงร้านอาหารสตาร์ ที่อยู่ใจกลางของเจียงเป่ยอย่างรวดเร็ว

ร้านอาหารแห่งนี้มีวัตถุดิบที่หรูหราหลายอย่าง มีเชฟชื่อดังระดับแนวหน้าอีกหลายคน และเรื่องของรสชาติเองก็ถือว่ายอดเยี่ยมไร้ที่ติ

ซึ่งราคาอาหารก็จัดว่าสูงมากเช่นกัน

หลังจากมาถึง สาวสวยก็พูดขึ้น “ร้านอาหารสตาร์หรอเนี่ย ฉันตื่นเต้นจังเลย”

เห็นได้ชัดว่าเธอก็รู้จักชื่อเสียงของร้านอาหารแห่งนี้

หลินฟานยิ้มออกมาและพูด “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เกินไปสำหรับคุณใช่มั้ย ที่จะมากินอาหารร้านนี้”

“ฉันไม่เคยมากินอาหารในร้านหรูๆแบบนี้เลย นี่เป็นครั้งแรกสำหรับฉันที่ได้มา” สาวสวยมองไปที่หลินฟานอย่างน่าสงสาร

ราวกับว่าหลินฟานกำลังรังแกเธออยู่

ต่อมา หลินฟานก็กระแอมออกมาเบาๆแล้วพูดว่า “พวกเราเข้าไปข้างในร้านกันเถอะ”

“ดิ๊ง!”

เมื่อทั้งสองได้เดินเข้ามาข้างในร้านอาหาร ก็มีเสียงกริ่งดังก้องอยู่ในหูของพวกเขา

และจากนั้น พนักงานเสิร์ฟก็ทักทายพวกเขาอย่างอบอุ่น

“ยินดีต้อนรับสู่ร้านอาหารสตาร์ของเรา!”

“ว่าแต่คุณลูกค้าได้จองโต๊ะเอาไว้หรือเปล่าคะ?” พนักงานเสิร์ฟถาม

หลินฟานได้ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ครับ”

จากนั้นพนักงานเสิร์ฟก็เหลือบมองแท็บเล็ตที่ถืออยู่ในมือของเขาแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น คุณลูกค้าก็อาจจะได้นั่งในที่ๆอยู่หลังสุดของร้านนะคะ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่พนักงานเสิร์ฟพูด หลินฟานก็หันศีรษะไปทางสาวสวยที่ยืนอยู่ข้างๆ

“จะนั่งกินที่ไหนก็ไม่สำคัญหรอก” สาวสวยบอก

“งั้นเชิญทางนี้ได้เลยค่ะ” พนักงานเสิร์ฟพูด

ในไม่ช้าหลังจากนั้น ทั้งสองก็ถูกจัดเตรียมโต๊ะอาหารเอาไว้ให้ ซึ่งอยู่หลังสุดของร้านอาหารแห่งนี้

และเมื่อทั้งสองนั่งลง สาวสวยก็พูดขึ้น “ดูเหมือนว่าฉันจะยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ฉันชื่อเซี่ยหยาน”

แซ่เซี่ย?

ในตอนนี้ หลินฟานก็นึกออกแล้ว ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นน้ำหอมของเซี่ยหยาน

เพราะเซี่ยปิงและเซี่ยเสว่เอง ก็ใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกันกับที่เธอใช้อยู่ตอนนี้!

ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน หลินฟานไม่สามารถรู้ได้เลย

แต่ตอนนี้ เขามีทักษะผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอม ที่สามารถจดจำและแยกแยะกลิ่นต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

และหลินฟานเอง ก็ยังเคยอยู่ไกล้ๆกับเซี่ยปิงและเซี่ยเสว่ตั้งหลายครั้ง เขาไม่มีทางที่จะลืมกลิ่นนี้ได้อย่างแน่นอน

และยังแซ่เซี่ย กับรสนิยมเรื่องน้ำหอมเหมือนกันอีก…

บางทีพวกเธออาจจะเป็น…

จากนั้นหลินฟานจึงแอบสังเกตุใบหน้าของเซี่ยหยานอย่างระมัดระวัง

ดูเหมือนใบหน้าของเธอจะมีความแตกต่างจากเซี่ยปิงและเซี่ยเสว่อยู่พอสมควร เธอดูเต็มไปด้วยเสน่ห์ของผู้หญิง ต่างกับเซี่ยปิงและเซี่ยเสว่ที่ดูน่ารักราวกับตุ๊กตา

แต่คะแนนของพวกเธอนั้นสมบูรณ์แบบ!

ในเวลานี้ หลินฟานกำลังสงสัยว่าที่รถของเขาถูกชน มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญจริงๆงั้นหรอ

แต่ในขณะที่หลินฟานกำลังงงงวยอยู่นั้น ไข่ปลาคาเวียร์หลากสีที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยหมอกสีขาว ก็ได้ถูกนำมาเสิร์ฟลงบนโต๊ะ

ไข่ปลาคาเวียร์สีเหลือง สีเทา และสีเขียว เป็นความแตกต่างของทั้งสามสี ที่ได้มารวมตัวกันจนทำให้ทั้งจานเต็มไปด้วยแสงสีรุ้ง ซึ่งมันงดงามเป็นอย่างมาก

และถึงแม้เซี่ยหยานจะเคยทานอาหารดีๆมามากมายแล้วก็ตาม แต่เมื่อไข่ปลาคาเวียร์ได้เข้ามาอยู่ในปากของเธอ ดวงตาของเธอก็เปร่งประกายขึ้นมาในทันที

กรอบ นุ่ม หนึบ ลื่น!

วิเศษมาก

ในเวลาต่อมา ทั้งสองได้ยื่นแก้วที่มีวิสกี้สีอ่อนใส่อยู่ไปข้างหน้า

จากนั้นหลินฟานก็กล่าวว่า “ดื่ม!”

“ดื่ม!” เซี่ยหยานก็พูดเช่นกัน

และหลังจากสิ้นสุดเสียงของเธอ เธอก็ทำการจิบแล้วอุทานว่า “ไวน์เยี่ยมมาก!”

ซึ่งตอนนี้หลินฟาน ก็กำลังเขย่าแก้วไวน์ก่อนดื่มเหมือนทุกครั้ง

เขาค่อยๆ เทมันเข้าปาก

การเคลื่อนไหวของหลินฟานนั้นนุ่มนวลและไหลลื่น เขาค่อยๆลิ้มรสอย่างช้าๆ

เมื่อเธอได้เห็นท่าทาง…

เซี่ยหยานที่นั่งอยู่ตรงข้ามนั้น ก็รู้สึกตกตะลงทันที

ถึงแม้ว่าหลินฟานจะไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิสกี้ออกมา

แต่ดูจากลีลาท่าทางการดื่มของเขา ที่ดูมีอิสระและง่ายดาย น่าหลงใหลและมีเกียรติ ถึงเขาไม่ต้องพูดออกมาก็รู้แล้วว่า เขาเป็นนักดื่มตัวพ่อ

สุภาพบุรุษนักดื่ม เสน่ห์ไร้ขีดจำกัด ทำงาน!

“ฟุบ!”

ในครานี้ เป็นปลาสีทองที่ถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะ

มันน่ากินจนทำให้เซี่ยหยานไม่อาจถอนสายตาไปจากปลาสีทองตัวนี้ได้ เขารีบคีบมาหนึ่งชื้น

และทันทีที่เนื้อปลาได้สัมผัสกับลิ้น มันก็ละลายพร้อมกับส่งกลิ่นที่หอมหวลออกมาอย่างไม่รู้จบ

เซี่ยหยานถึงกับต้องพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ต่อไปก็ มัตสึทาเกะ ฟัวกราส์ วากิว…

ในแต่ละจานอาหารมีปริมาณที่ไม่เยอะมาก แต่ด้วยรสชาติที่อร่อยสุดยอด ก็สามารถทำให้เราเพลิดเพลินไปกับมันได้

เมื่อผ่านไปได้สักพัก เซี่ยหยานก็เช็ดปากอันเล็กๆของเธอและพูดว่า “อิ่มแล้ว”

จากนั้นหลินฟานก็คำนวณราคาค่าอาหารที่เขาได้สั่งมา และหลังจากยืนยันได้แล้วว่าเกิน 100,000 หยวน เขาก็กล่าวว่า ” เก็บตังได้เลยบริกร ”

” ค่าอาหารบวกกับค่าบริการ 10% รวมทั้งหมดเป็น 122,000 หยวนค่ะ” พนักงานเสิร์ฟกล่าว

หลินฟานได้มอบบัตรธนาคารให้ทันทีที่เขาพูดจบ

“บี๊บ!”

หลังจากมีเสียงบี๊บเบา ๆ ก็เท่ากับว่าการจ่ายตังได้เสร็จสิ้นแล้ว

จากนั้นหลินฟาน ก็ได้เหลือบไปมองที่ภารกิจของเขา

[ภารกิจ: ร้านอาหารสตาร์ เชิญสาวงามที่มีคะแนน 90 ขึ้นไปรับประทานอาหารมูลค่าคนละกว่า 100,000 หยวน รางวัลคือซองแดงสีเงิน 5 ซอง ความคืบหน้า: 1/5 】

เมื่อได้ดู…

ปากของหลินฟานก็กระตุกเล็กน้อย

จากนั้น เซี่ยหยานที่นั่งตรงข้ามกับเขาก็กล่าวว่า “อาหารราคา 120,000 หยวน ถือว่าเป็นมื้ออาหารที่หรูหราที่สุดตั้งแต่ฉันเคยกินมา”

“กริ๊ง!”

ในตอนนี้โทรศัพท์มือถือของเซี่ยหยาน ได้ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ได้เลย ฉันอยู่ที่นี่แล้ว”

หลังจากที่เซี่ยหยานกดวางสาย เธอก็หันมาพูดกับหลินฟานว่า “คุณต้องการให้ฉันนำรถไปซ่อมที่ร้าน 4S ให้หรือเปล่า”

แต่หลินฟานก็ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก ไม่มีอะไรเสียหายด้วย ไม่ต้องไปซ่อมที่ร้าน 4S หรอก”

“แล้วฉันจะติดต่อกลับไปหาคุณในภายหลังนะ” เซี่ยหยานหยิบโทรศัพท์และเพิ่มวีแชทกับหลินฟาน ก่อนที่จะขึ้นรถปอร์เช่และมุ่งหน้าไปที่อื่น

หลินฟานได้สัมผัสที่ท้องของเขา จากนั้นก็หันหลังแล้วเดินไปขึ้นรถ เขากำลังมุ่งหน้าไปยังชุมชนยี่เกอ

ถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งกินอาหารในราคา 120,000 หยวนไป

แต่เขาไม่ได้มีความรู้สึกอิ่มเลย เนื่องจากอาหารในแต่ละจานมีปริมาณที่ค่อนข้างน้อย

ตอนนี้หลินฟานกำลังจะไปรับฉิวจือเฉียนและหวงหลิง เพื่อมาทานอาหารอีกครั้ง

สิ่งที่เขาต้องการอย่างแรกเลยคือ ทำภารกิจให้เสร็จ

สิ่งที่เขาต้องการอย่างที่สองคือ เรื่องของความอิ่มท้อง

แต่ก่อนที่หลินฟานจะกลับมาถึงยังชุมชนยี่เกอ เขาก็ได้พบกับหานเทียน ผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ของเหลียนเจีย

หลินฟานจึงได้จอดรถทันที

“คุณหลิน!” หานเทียนพูดด้วยความตกใจ

หลินฟานเองก็พูดตอบ “ผู้จัดการหาน เราเจอกันโดยบังเอิญอีกแล้ว! คุณกำลังรอลูกค้ามาดูบ้านหลังนี้อยู่หรอ”

“ใช่แล้วค่ะ แต่ลูกค้าพึ่งจะดูเสร็จและกลับไปเมื่อกี้นี้เอง” หานเทียนกล่าว

หลินฟานพูดต่อ “งั้นก็พอดีเลย ผมกำลังหาคนไปกินอาหารมื้อเย็นอยู่ คุณหานจะไปกับผมมั้ย”

ทานอาหารมื้อเย็นกับคุณหลิน?

เมื่อหานเทียนได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของเธอก็เต้นเร็วขึ้นในทันที

จากนั้นเธอก็โพล่งออกมาว่า “ไปค่ะ!”

หลังจากที่คำตอบนี้เงียบลง หลินฟานก็พาหานเทียนขึ้นรถแล้วมุ่งตรงกลับไปที่ร้านอาหารสตาร์อีกครั้ง

“ติ๊ง!”

หลังจากที่เข้ามาข้างในร้านอาหาร เสียงที่คุ้นเคยก็ดึงขึ้นมาอีกครั้ง

จากนั้นพนักงานเสิร์ฟก็เข้ามาต้อนรับเขาอย่างรวดเร็ว

แต่เมื่อเธอเห็นว่าเป็น หลินฟาน เธอก็ตกตะลึงในทันที

อะไรกัน คนๆ นี้เพิ่งจะกินไปเมื่อตอนเที่ยงไม่ใช่หรอ?

หรือว่าเขาลืมของบางอย่างไว้ที่ร้าน?

เมื่อพนักงานเสิร์ฟคิดได้อย่างนี้ เธอก็กำลังที่จะถามออกไป

ซึ่งหลินฟานเองก็ตกใจเหมือนกัน เมื่อได้เห็นจำนวนคนที่อยู่ในร้าน ณ ตอนนี้ เขาเองก็คิดว่าคงไม่มีโต๊ะว่างเหลืออยู่แล้ว

จากนั้นเขาจึงลองถาม ” เราไม่ได้จองเอาไว้ ยังมีโต๊ะว่างเหลืออยู่หรือเปล่า ”

อะไรกัน เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อตามหาของที่ลืมเอาไว้อย่างงั้นหรอ?

จากนั้นพนักงานเสิร์ฟก็สังเกตว่าหานเทียนที่ยืนอยู่ข้างๆหลินฟ่าน ไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวกันกับเมื่อตอนเที่ยง

มีคำมากมายปรากฏขึ้นในใจของเธอ

นี่เขาเป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเล โพไซดอนหรอ!

จากนั้นไม่นาน พนักงานเสิร์ฟก็ตอบกลับว่า ” อ้อ…ยังมีโต๊ะว่างเหลืออยู่ค่ะ ”

และตอนนี้ หลินฟานก็ถูกพาไปยังสถานที่ ที่เขาเพิ่งทานอาหารกลางวันกับเซี่ยหยานไป