891 พูดคุย
“ดีครับ รักษาต่อไปเรื่อยๆ ร่างกายของลุงก็จะค่อยๆฟื้นตัวเอง” หวังเย้าพูด
มันเป็นเรื่องจริงที่อาการป่วยดีขึ้นหลังจากรักษาโดยการฝังเข็มและกินยาเนื้อร้ายก็ไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มขึ้นและมีขนาดเล็กลง นี่ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีมาก
“ใช่ ทั้งหมดก็ต้องขอบคุณเธอ” “เราเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วล่ะครับ”หวังเย้าที่เก็บเข็มอยู่พูดขึ้นมา
“เรียบร้อยแล้วครับ กลับบ้านไปพักผ่อนได้เลยลุงน่าจะกินยาที่ผมให้ไปครั้งก่อนเกือบหมดแล้วผมจะเตรียมยาเพิ่มให้บอกให้พี่เจ๋อเชิงแวะมาเอายาตอนที่เขาว่างด้วยนะครับ”
“ได้สิ”
ชายชราเดินออกไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“เขาดีขึ้นจริงๆ!”หวังเข้าจดบันทึกการฟื้นตัวของหวังยหลง
“ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆเขาอาจจะหายได้ในสามเดือน!”
การรักษาราบรื่นเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้เขารักษาโรคนี้ได้จริงๆ
ถึงเขาจะมีความสามารถ แต่เขาก็จําเป็นต้องพึ่งพาประสบการณ์ด้วย
ถ้ามีคนรู้ว่าเขาสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาตามมามากมายแค่ไหนหากใครคนใดคนหนึ่งเชี่ยวชาญการรักษาโรคนี้ พวกเขาคงพยายามหาทางทําให้ตัวเองมีชื่อเสียงและหากําไรจากมัน พวกเขาคงไม่มีทางทําตัวแบบเขาที่อยู่อย่างสงบและใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนคนทั่วไป
ยูนนานใต้ที่ห่างออกไปหลายพันไมล์
กั่วเจิ้งเหอใช้อํานาจทุกอย่างที่เขามีอยู่“เรื่องนี้เกิดจากฝีมือของผู้ที่หลบหนีออกมาจากหุบเขาพันโอสถ”เสวี่ยซินหยวนพูดเขารู้สึกว่า เป็นไปได้
มากว่าคนพวกนั้นจะเป็นผู้ต้องสงสัย “เข้าใจแล้วครับ” ภายในตึกที่เป็นที่อยู่อาศัยซึ่งตั้งห่างจากเขตเหอไปหลายร้อยไมล์
ชายวัยกลางคนเดินถือถุงใส่ผักไปยังบ้านของเขา เขาที่กําลังหยิบกุญแจออกมาก็ชะงักค้างไป
“ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะไม่ขยับ” เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังของเขา
“เป็นพี่นี่เอง” เขาหันกลับไปช้าๆ
“เมี่ยวชิงเหอ”
“สวัสดี พี่ชิงเฟิง” ชายที่ถือถุงผักพูด
“นายไม่คิดจะเชิญฉันเข้าไปคุยในบ้านหน่อยเหรอ?” เมี่ยวชิงเฟิงพูด
เพียงกร็กเดียวประตูก็เปิดออก
“เชิญ”
“เฮ้อ ฉันต้องระวังตัวมากเลยนะนายถือเป็นที่รู้กันในหมู่บ้านว่ามีความคิดสร้างสรรค์มากแค่ไหน”
“ความคิดสร้างสรรค์?”เขายิ้มเล็กน้อย มันเป็นยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความขมขื่น
“พี่มาที่นี่ต้องการอะไร?”ชายวัยกลางคนถาม
“แน่นอนว่าฉันมาตามหานาย”
“พี่คิดจะฆ่าพวกเราทุกคนเหรอ?” ชายวัยกลางคนวางถุงผักลงและถามออกไป
“ผู้นําอยากในนายกลับไปรําลึกความหลังต่างหาก”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“ถึงยังไงก็ไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว”
“ฮาฮา ตั้งแต่ที่หนีออกมาเราก็ไม่เคยคิดจะกลับไปที่นั่นอีกเลย” ชายวัยกลางคนพูด“เราหนีมาที่นี่แต่พวกนายก็ยังไม่คิดจะปล่อยพวกเราไปอีกงั้นเหรอ?”
“บอกตามตรง ผู้นําคิดถึงพวกนายมาก” เสี่ยวชิงเฟิงพูด“เขาพูดถึงพวกนายเมื่อไม่กี่วันก่อนฉันเลยต้องรีบออกมาจากหมู่บ้านและเสียแรงไปมากกว่าจะหานายพบนายซ่อนตัวได้ดีจริงๆ!”
“สองคนนั้นไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ชายวัยกลางคนถาม
“พวกเขาไม่เป็นอะไร” เมี่ยวชิงเฟิงพูด “ตอนที่ฉันบอกว่าเป็นญาติกับนาย พวกเขาเชิญฉันดื่มชาด้วยกันแต่ชารสชาติไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่ต้องห่วงหรอกนะพวกแค่หลับไปเท่านั้นหลังจากที่พวกเขาฟื้นขึ้นมาพวกเขาก็จะไม่เป็นอะไรเธอมีปัญหาโรคหัวใจด้วยฉันเลยตรวจและรักษาให้แล้วพอตื่นขึ้นมาเธอก็จะรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของตัวเองได้”
“พี่เป็นคนดีจริงๆ!”
“ชมเกินไปแล้ว” เมี่ยวชิงเฟิงพูด
“เอาล่ะ ได้เวลาที่เราต้องไปและโทรตามคนอื่นได้แล้ว ฉันว่านายน่าจะรู้นะว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนกัน”
“ทําไมถึงไม่ปล่อยพวกเราไป?”
“ฉันขอพูดตามตรงนะ” เมี่ยวชิงเฟิงพูด “นายรู้รึเปล่าว่าช่วงนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ฉันจะเล่ายังไงดีล่ะ? นายพอจะรู้จักเขตเหอไหม?” เมี่ยวชิงเฟิงถาม
“รู้จัก”
“อืม มีคนมากกว่าหนึ่งโหลตายที่นั่น” เมี่ยวชิงเฟิงพูด “พูดให้ชัดก็คือ 19 คน”“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเรา?”
“พวกเขาตายจากพิษ มันเป็นพิษที่ไร้ร่องรอยและไม่สามารถตรวจสอบได้
สีหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไป
“แล้วยังไง?”
“เดี๋ยวนะ หรือว่าพี่สงสัยพวกเรา?”
“ใช่ เราต้องการยืนยันว่าเรื่องนั้นไม่ได้เป็นฝีมือของคนในหุบเขา” เมียวชิงเฟิงพูด
“พี่เป็นคนยืนยันหรือว่าเดี๋ยวเหอเป็นคนยืนยันล่ะ?” ชายวัยกลางคนถาม “เขาไม่มีทางบอกคนนอกหรอกว่าเขาทําอะไรไปบ้าง”
เมี่ยวชิงเฟิงจุดบุหรี่ “นายจะบอกว่าฉันเป็นคนนอกเหรอ?”
“เราไม่ได้ทํา”
“อืม เรื่องนั้นก็พูดยาก” เมี่ยวชิงเฟิงพูด “ฉันคิดว่า พวกนายควรกลับไปอธิบายเรื่องนี้ให้อาจารย์ฟังด้วยตัวเองจะดีกว่านะ”
“ถ้าเรากลับไปก็คงมีแต่ต้องตายเท่านั้น”
“เรื่องนั้นก็ไม่แน่หรอก” เมี่ยวชิงเฟิงพูด“เรามาจากหมู่บ้านเดียวกัน อาจารย์ยังใส่ใจเรื่องนี้มากนายก็รู้เรื่องนี้ดีนี่”
“เชื่อตายล่ะ!”
“เราจะไปกันได้รึยัง?”
ปัง! เกิดการระเบิดขึ้น พร้อมกับควันสีดําพวยพุ่งออกมา
“ขอโทษทีนะ” ชายวัยกลางคนพูด
ฟ้ว ฟ้ว ฟัว เสียงลมพัด
“นี่มัน?!” เขาเบิกตากว้าง ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้น
หลังจากควันดําจางลง เมี่ยวชิงเฟิงก็ปรากฏตัวออกมา
“โชคดีที่ฉันเตรียมตัวก่อนมาที่นี่หลายปีที่ผ่านมาพวกนายไม่พัฒนาเลยสักนิดวิธีการก็ยังเหมือนเดิมไม่มีผิดการฝึกและการสอนจากหมู่บ้านไม่ได้ช่วยให้พวกนายดีขึ้นเลยสักนิด”
เมี่ยวชิงเฟิงแบกชายวัยกลางคนลงไปชั้นล่าง
“โอ้ ตายแล้ว!เกิดอะไรขึ้นกับเขาเหรอ?”ที่ทางเดินเขาบังเอิญเจอกับคนที่อาศัยอยู่ที่นี่เข้า
“อ่อ ถูกแก๊สพิษเข้าน่ะครับ”
“อะไรนะ?”
“ผมขอโทษด้วยแต่ผมต้องรีบพาเขาไปที่โรงพยาบาลช่วยหลีกทางด้วยครับ”
“ได้ๆ” สองสามีภรรยารีบหลีกทางให้เมียวชิงเฟิง
หลังจากเมียวซึ่งเพิ่งเดินผ่านพวกเขาไปแล้วผู้หญิงก็เอ่ยถามสามีของเธอว่า “ที่รักผู้ชายคนนั้นหน้าตาไม่คุ้นเลยนะว่าไหม?หรือเขาจะเป็นคนอันตราย?”
“ทําไมถึงสงสัยมากมายแบบนี้?รีบกลับไปทํากับข้าวที่บ้านได้แล้ว ฉันหิวแล้ว!”
“ก็คุณไม่เห็นข่าวช่วงนี้เหรอ? ทางจังหวัดกําลังทําการปราบปรามอย่างหนักพวกเขาบอกว่าจะให้รางวัลกับคนที่แจ้งข่าวด้วยนะ!”
“หา” เขาจึงยื่นหน้าออกไปและมองดูป้ายทะเบียนรถที่ไม่คุ้นเคยกันนั้น
ในตอนที่กําลังขับรถอยู่นั้น เมี่ยวชิงเฟิงก็ได้ยินเสียงไซเรนของรถตํารวจและเห็นรถตํารวจกําลังขับมาทางเขา
“บ้าเอ้ย หรือฉันจะโดนเจอตัวเข้าแล้ว?” เขาไม่ได้ตื่นตระหนก เขาจอดรถและแบกชายคนนั้นลงไป
“รถคันนั้นแหละ!” เจ้าหน้าที่ตํารวจมาถึงรถที่ถูกจอดทิ้งไว้ในเวลาไม่นาน
“มีคนอยู่ในรถรึเปล่า?”
“ลองสืบดูจากกล้องวงจรปิดแถวนี้ ฉันอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” เจ้าหน้าที่ตํารวจพูด
ยูนนานใต้กาลังตกอยู่ในความวุ่นวายเจ้าหน้าที่ตํารวจรู้ว่าเกิดคดีใหญ่ขึ้นที่เขตเหอซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ไปไม่ไกลในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนมีคนเสียชีวิตไปมากกว่าสิบคนเรื่องนี้ทําให้ทางจังหวัดและเบื้องบนพากันตื่นตัวเพราะเรื่องนี้ทําให้ทางจังหวัดต้องมีการจัดการประชุมขึ้นโดยเฉพาะเพื่อจัดการกับคดีนี้ให้แล้วเสร็จอย่างเร่งด่วน