“อาหารแถวนี้ไม่ค่อยอร่อย!” ฟางฉีพึมพำแล้วนั่งลงบนเก้าอี้
เขาเลือกที่จะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารเช้า ส่วนมือกลางวันและมือเย็นนั้น .. ใช่! จะพ้นใครไปได้นอกจากซูโม แต่นั่นก็ไม่ทำให้ฟางฉีคิดถึงอาหารฝีมือเจียงเสี่ยวหยูสักนิด เพราะเจียงเสี่ยวหยูฝีมือดีกว่าซูโมมาก ตอนนี้เขาเริ่มเบื่อจนจำต้องซื้ออาหารจากร้านอาหารมากินแทน
“หากเจ้าเบื่อกับร้านอาหารแถวนี้ เจ้าลองออกไปลองร้านอาหารอื่นๆ ดูสิ” ซียื่อแนะนำ “นอกจากบริเวณใกล้เคียงแล้วยังมีที่อื่นๆ ที่ร้านอาหารดีๆ เยอะแยะข้ารู้จักร้านอยู่ร้านหนึ่งอยู่ในล็อคที่สิบแปดที่นั่นดีจริงๆ แต่อยู่ห่างจากที่นี่ไปนิดหน่อย”
“โอ้ ..” ฟางฉีนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้าอย่างงั้นข้าคงไม่ไป”
จากนั้นเขาก็กวักมือเรียกซูโมและควักคริสตัลออกมา “โมน้อย! รับเงินนี่ไปแล้วซื้ออาหารจากล็อคสิบแปดมาให้ข้าที”
“…”
“โอ้ย! ข้าละหมดคำจะต่อว่า” ซียื่อเงียบไปเสี้ยววิก่อนจะระเบิดความโมโหทำให้ฟางฉีแทบหูหนวก
“เจ้าต้องการกินแต่ดันให้คนอื่นไปแทน แถมไกลอีก!” เธอพึมพำ
ฟางฉีกล่าวด้วยสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว “มีลูกค้าจำนวนมากที่ร้าน ข้าไปปล่อยโดยไร้คนดูแลได้ยังไง”
…
“มาที่วัดซูมะเพื่อจัดการกับพวกสมาคมราชวงศ์!”
“คนจากวิลมะกำลังส่งกำลังเสริมไปยังวัดซูมะ!”
ผู้คนตะโกนคุยในคาเฟ่การต่อสู้เริ่มขึ้นอย่างดุเดือด ขณะเดียวกันฟางฉีไม่ได้รู้สึกกังวลหรือกดดันใดๆ เพราะเขาเป็นผู้ตัดสิน เขานั่งเล่นคิงออฟไฟเตอร์และแพลนท์เวอร์ซัสซอมบี้อย่างสบายใจ
“ตึ้ง!” กล่องอาหารวางลงตรงหน้าฟางฉี เขาหันกลับมามองแต่กลับกลายเป็นสาวชุดแดงที่มีวาวตาดุร้าย
“อ้าว! ทำไมเจ้าถึงมองข้าด้วยสายตาแบบนั้น?” ฟางฉีมองหน้ารวนหนิง “ทำไมเจ้าถึงเป็นคนส่งอาหารแทนแล้วโมน้อยของข้าไปไหน!?”
“หน้าด้านจริง!” รวนหนิงยืนเท้าเอว “ถ้าข้าไม่ผ่านไปป่านนี้โมน้อยของเจ้าคงถูกปล้นไปแล้ว! เจ้าก็รู้ว่าพลังในการฝึกฝนของเขาไม่สูง แต่ก็ยังส่งเขาไปไกลขนาดนั้นเพื่อทำธุระให้เจ้า!”
“หัวหน้าข้าขอโทษ!” ซูโมตะโกนขอโทษฟางฉีพร้อมรอยช้ำบนใบหน้า
“มีคนกล้าที่จะมาปล้นหรือทำร้ายสมาชิกของสมาคมเกมแห่งสวรรค์ของเราหรือ!?” ฟางฉีทำหน้าประหลาดใจ “เจ้าบาดเจ็บมากหรือเปล่า? ถ้าไม่มากข้าจะขอให้ซูเหยาใช้ทักษะรักษาให้เจ้า เจ้าจะได้ดีขึ้น”
“ข้าหยุดพวกเขาได้ทันเวลา แน่นอนเขาไม่เป็นอะไรมาก!” รวนหนิงพูดตัดบท
ซูโมเกลาหัวทำหน้าสลดลงเล็กน้อย
…
เหตุการณ์เล็กๆ นี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว การบาดเจ็บของซูโมหายไปด้วยความรวดเร็วจากการรักษาด้วยคาถา หลังจากที่ฟางฉีได้กินข้าวสมใจแล้วเขายังมีเวลาเล็กน้อยก่อนการต่อสู้แย่งชิงเมืองจะเริ่ม เขาจึงขึ้นไปข้างบนห้องเพื่อฝึกฝน
จากภารกิจก่อนหน้าเขาได้ใช้บริการเข้าสู่ห้องฝึกฝนเกม
“แผนการต่อสู้ของสมาคมเราสิ่งของของเราจะต้องไม่ลดแม้ว่าเราจะต้องตาย!” มีคนตะโกนขึ้นในร้าน ผู้เล่นกำลังวางแผนการเพื่อเตรียมพร้อมก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
ทันใดนั้นปีศาจดำและคนอื่นๆ ที่กำลังลังเลใช้ว่าควรใช้แผนไหนพวกเขาได้รีบปรับเปลี่ยนอาวุธกันทันที หลายคนเองก็กลัวว่าอาวุธดีๆ จะตกไปอยู่ในมือของผู้เล่นคนอื่น
เกือบหนึ่งทุ่ม เวลาของทั้งสองดินแดน
ผู้เล่นหลายคนจากตาจินและทะเลดวงดาวได้นำรายการที่ดีดที่สุดของพวกเขาเก็บไว้ ตังหยวนจากหยวนเฮงได้เก็บคฆากระดูกไว้ในคลัง แน่นอนว่าจีวูเองก็เอากลับไปเก็บเช่นกัน
ในกลุ่มคนของตาจินตอนนี้เต็มไปด้วยนักรบระดับสูงที่สวมชุดเกราะพร้อมอาวุธครบมือ เหล่านักเวทย์และนักบวชเต๋าที่ยืนอยู่ข้างหลังรวมกันกว่าห้าร้อยคนเตรียมพร้อมเพื่อการต่อสู้
ด้านดินแดนทะเลดวงดาวเองก็ไม่น้อยหน้าแถวหน้าของพวกเขาคือเหล่าโครงกระดูกที่เต็มไปด้วยออร่าแสงสีน้ำเงิน
“พวกเขาสู้กันข้างนอก!” ก่อนที่จีวูจะเริ่มต่อสู้เขาได้รับข้อความว่าแต่ละสมาคมมีคนถึงห้าร้อยคน แต่มีกองกำลังเสริมกว่าพันคนมารวมตัวกันที่ทางเข้าและสถานที่ที่อยู่นอกพื้นที่การต่อสู้นั้นไม่ได้อยู่ในเขตปลอดภัยตั้งนั้นผู้เล่นสามารถฆ่ากันได้
“ผู้เล่นทุกคนที่อยู่นอกพื้นที่การต่อสู้ของสมาคมไปที่ช่องสองของการพูดคุยแล้วรอฟังคำสั่ง!”
ขณะเดียวกันฟางฉีเองก็ได้ประกาศว่าการต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
ณ ร้านค้าที่จิวหัวผู้เล่นหลายคนที่ไม่ได้เล่นเกมเจ้ากระบี่ขั้นเทพกำลังเฝ้ารอดูหน้าจอใหญ่กันอย่างตื่นเต้น บางคนก็เลือกที่จะมาก่อนเวลาเพื่อจับจองที่นั่งสบายๆ เพียงเพราะรอดูการแข่งขันระหว่างสองดินแดน
“กงซีเซี่ยว เจ้ามีความเห็นอย่างไรกับการต่อสู้นี้!?” มูตงไหล่เป็นหนึ่งในผู้คนที่มาตั้งแต่เนินๆ และได้นั่งดูในจุดที่สบายที่สุดคือโซฟา เขาถามเซียวหยูพลางมองจอด้วยความตั้งใจและหยิบขนมแท่งรสเผ็ดเข้าปาก
ขณะเดียวกันหลายคนเหลือบมองไปที่พวกเขา
เซียวหยูจิบไวน์จิตวิญญาณที่เขาซื้อมาจากร้านศาลาลมและพระจันทร์อย่างใจเย็น “ทั้งสองฝ่ายมีคนจำนวนห้าร้อยคนเท่ากัน จากมุมมองข้าไม่มีใครเหนือแต่ถึงอย่างนั้นตาจินของเราดีกว่าคู่ต่อสู้ในด้านอื่นๆ แน่นอน”
มูตงไหล่ถามทันทีว่า “เจ้าหมายความว่าสมาคมราชวงศ์ขงอตาจินจะเป็นผู้ชนะงั้นสิ!?”
เห็นได้ชักว่าเซียวหยูเริ่มเรียนรู้บทเรียนจากการให้คำตอบในครั้งก่อน “สถานการณ์ในสนามรบสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกวินาทีดังนั้นข้าคงจะตัดสินใจเลยไม่ได้ มาดูการแข่งขันกันเถอะ!”
มูตงไหล่พูดว่า “เจ้าพูดถูกอย่างไรก็ตามในฐานะพลเมืองของตาจินเราจะต้องเข้าข้างราชวงศ์สิจริงมั้ย? สุดท้ายแล้วราชวงศ์ตาจินของเรามีโอกาสที่จะชนะมากกว่า!”
“แน่นอน” เซียวหยูพยักหน้า “ในฐานะพลเมืองของตาจินข้าสนับสนุนสมาคมราชวงศ์!”
“ทำไมโคงกระดูกฝั่งดินแดนทะเลดวงดาวเต็มไปด้วยออร่าสีน้ำเงิน? พวกเขาใช้เทคนิคอะไร?” ผู้ชมพึมพำ
ในไม่ช้าโครงกระดูกของทั้งสองฝ่ายก็ปะทะกันอักษรรูนและลำแสงเวทย์มนตร์นั้นปรากฎขึ้นบนอากาศ คลื่นเปลวไฟราวกับน้ำทะเลของโครงกระดูกจากตาจินนั้นซัดเข้าหาโครงกระดูกระดับเจ็ดของทะเลดวงดาว แสงสีน้ำเงินเข้มตัดการป้องกันของโครงกระดูกจากตาจินและบุกเข้าหาเหล่านักรบทันที!
ขณะเดียวกันฝ่ายนักเวทย์เองก็โโนคลื่นลำแสงสีน้ำเงินจนเซทำให้ความแข็งแกร่งของเหล่านักรบลดลง
“เดี๋ยว!” จีวูคำรามในชอง QQ “ผู้เล่นสำรองอยู่ไหน เข้ามาประจำตำแหน่ง!”
เวลาเดียวกันการต่อสู้ที่ดุเดือดนั้นก็ไม่แพ้เหตุการณ์ ณ ทางเข้าพื้นที่การต่อสู้เช่นกัน ข้างนอกนั้นมีผู้คนติดอยู่รวมกว่าสามพันคน ทางเข้าเวลานี้ได้เต็มไปด้วยเปลวไฟและพลังงานดาบใครก็ตามที่เข้าใกล้บริเวณนี้จะถูกโจมตีจากการโจมตีระยะไกลทันที!
ณ คาเฟ่จิวหัวตอนนี้ ทุกคนเห็นว่าฝั่งสมาคมราชวงศ์นั้นเริ่มเป็นฝ่ายเสียเปรียบ กำลังเสริมเองก็ไม่โผล่มาสักที!
“ผู้เล่นสำรองอยู่ที่ไหน!?”
“เน้นไปที่ทางเข้า!” ฝั่งดินแดนทะเลดวงดาวตอนนี้พวกเขาได้เปิดช่องพูดคุยใหม่เพื่อชี้นำผู้เล่นนอกแผนที่ “ฆ่าทุกคนที่เข้าใกล้!”
“ผู้คนที่อยู่นอกแผนที่อย่าไปกลัว โยนเปลวไฟและระเบิดไฟไปข้างหน้า อย่าไปกลัว!”
บางคนใจกล้าพุ่งไปแม้รู้ว่าจะต้องตายก็ยังคงสู้อย่างไม่หยุด ภายในแผนการต่อสู้ของสมาคมของแต่ละสมาคมนั้นมีแผนต่างกันอย่างของตาจินก็มักจะพุ่งชนกับข้างหน้าเสมอ แต่สมาคมอื่นๆ ก็จะเล่นแนวที่ฉีกออกไป
พวกชนชั้นสูงที่กำลังต่อสู้กันนอกพื้นที่พวกเขาได้ตายกันนับไม่ถ้วน สำหรับพวกเขาจากทั้งสองดินแดนเองมองว่าสถานที่ด้านนอกนั้นคล้ายกับสนามรบในชีวิตจริงมากกว่า พวกเขาต่างต่อสู้กันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและไม่มีเวลาแม้แต่จะหยิบสิ่งของที่กระจัดกระจายไปทั่วพื้น!
ขณะเดียวกันผู้เล่นในพื้นที่การต่อสู้เริ่มน้อยลงและหลายคนเดินทางเข้ามาสมทบไม่ได้ ทุกคนกำลังมองดูด้วยความสงสัยในขณะที่ชนชั้นสองของตาจินกำลังลดลงเรื่อยๆ จนไม่มีใครเหลือ!
การต่อสู้กันของนอกถือเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงตาย ซึ่งใครต่อใครที่จะเดินทางเข้าไปรบในเมืองก็ต่างต้องตายก่อนเข้าเมืองกันทั้งนั้นใครไม่แน่จริงก็ต้องกลับบ้านไปนอน ในที่สุดผู้ฝึกฝนของดินแดนทะเลดวงดาวก็สามารถครองเมืองได้สำเร็จ พวกเขาขึ้นไปยังหอสังเกตการของป้อมเมืองทะเลทรายพลางยืนมอง
“พวกเรายอดเยี่ยมมาก!”
“พันธมิตรของดินแดนทะเลดวงดาวเรานั้นไร้คู่แข่ง!”
ผู้คนนอกเมืองยังคงต่อสู้โดยไม่สนใจว่าตอนนี้การต่อสู้ในเมืองได้จบลงแล้ว แต่เมื่อออกจากโหมดเสมือนจริงพวกเขาต่างให้กำลังใจกันและแสดงความยินดีต่อกัน
“ฮ่าๆๆๆ” ตังหยวนหัวเราะเขาถอดหูฟัง VR ออกและหัวเราะร่า
ขณะนี้พวกเขารู้สึกเหมือนได้เป็นเจ้าผู้ครองโลกอย่างแท้จริง!