สมองกลถูกนำออกมา

กู่ฉิงซานมองสมองกลส่วนตัวจนอดที่จะคิดไม่ได้

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงสามารถเอาเจ้านี่ออกมาได้

มันคือการเรียกใช้ของเจตจำนงโลกหรือเปล่า

เมื่อคิดถึงตรงนี้ กู่ฉิงซานทำการระดมความคิด

น่าเสียดายที่จิตเทพยังไม่สามารถออกมาจากร่างกายได้ ทำได้เพียงมองในทะเลแห่งความตระหนักรู้เท่านั้น

กู่ฉิงซานไม่ท้อถอยขณะเปลี่ยนความคิดไปมา

ทีนี้ก็คำใบ้ของโลกดิน จะสามารถนำหลายสิ่งจากทะเลแห่งความตระหนักรู้ออกมาได้หรือเปล่านะ

เขาควบคุมจิตเทพเพื่อดึงสิ่งอื่นๆ

เขาพยายามทำทุกสิ่งด้วยพลังพิเศษ แต่ยังไม่สามารถนำอะไรออกมาได้

กู่ฉิงซานมองสมองกลอีกครั้ง

…ในกฎของโลกดิน เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่ของพิเศษ

สมองกลไม่ได้ครอบครองพลังวิเศษใดๆ แถมยังสอดคล้องกับการพัฒนาทางเทคโนโลยีของโลกนี้

ยังมีอะไรที่ข้องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอีกล่ะ

กู่ฉิงซานค้นหาในทะเลแห่งความตระหนักรู้อย่างรวดเร็ว

ผ่านไปสักพัก เขาตัดใจจากความพยายามนี้

ในฐานะผู้ฝึกฝนระดับสูง นอกจากสมองกลพกพาแล้ว ไม่มีสิ่งอื่นบนร่างกายที่สามารถเข้าถึงคนธรรมดาได้

แม้กระทั่งยาเม็ดวิญญาณขั้นต้นก็ไม่สามารถนำออกมาได้

แม้กระทั่งอาหารทะเลในทะเลมารโกลาหลก็เช่นกัน

เมื่อสงบสติลงแล้ว กู่ฉิงซานเปิดสมองกลส่วนตัว

“เปรี้ยะ!”

สมองกลทั้งหมดแตกสลายต่อหน้าเขา

กู่ฉิงซานจ้องสมองกลที่เหลืออย่างเหม่อลอย

กลายเป็นว่าแม้แต่สมองกลก็ไม่สามารถใช้ได้

แต่ทำไมเขาถึงสามารถนำออกมาได้กันล่ะ

เขายืนอยู่ตรงนั้นสักพัก ทันใดนั้นจึงตอบสนอง

“นี่คืออะไร” เหล่าหลี่ถาม

“หน่วยประมวลผลส่วนตัวของผมน่ะ” กู่ฉิงซานเก็บสมองกลที่แตกสลายบนพื้นขึ้นมาอย่างระวังก่อนวางไว้บนโต๊ะ

เขาหยิบสมองกลที่แตกสลายขึ้นมา จากนั้นเลือกหน่วยความรู้ โมดูลการตัดสินใจอันชาญฉลาด ศูนย์สำรองข้อมูลและของดีอีกมากมาย

“วิเศษ”

กู่ฉิงซานพึมพำ

มีเพียงส่วนไม่สำคัญของสมองกลเท่านั้นที่ได้รับความเสียหาย

องค์ประกอบหลักที่แท้จริงล้วนไม่ได้รับความเสียหายใดๆ

ส่วนเหล่านี้ไม่ได้ครอบครองพลังวิเศษใดๆ และเคยถูกทำลายมาแล้วหนหนึ่ง ดังนั้นพวกมันจึงมีสิทธิ์อยู่ในโลกดิน

ด้วยวิธีนี้ เจตจำนองของโลกดินจึงถูกปล่อยออกมา

ด้วยเหตที่ไม่ทำผิดกฎ เจตจำนงของโลกจึงทำการช่วยเขา

หรือก็คือ มันกำลังช่วยตัวเอง

กู่ฉิงซานคลิ้กบนแขนซ่อมหุ่นยนต์ก่อนหยิบบางสิ่งจากคลังชิ้นส่วน

เขาเริ่มประกอบสมองกลใหม่ขึ้นมา

เมื่อชิ้นส่วนของโลกนี้ผสานกัน เกรงว่าสมองกลจะไม่ถูกทำลายโดยกฎเกณฑ์ของโลกดินอีก

ผ่านไปสักพัก สมองกลใหม่ได้ถูกประกอบขึ้น

“เริ่มทำงาน” กู่ฉิงซานสั่ง

สมองกลส่องแสง

สำเร็จ

คราวนี้กู่ฉิงซานเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว

กฎเกณฑ์ของโลกอันเคร่งครัดที่ถูกสร้างโดยโลกดินมีขึ้นเพื่อปกป้องตัวเอง

ตอนนี้ ถึงแม้จะละเมิดกฎเล็กน้อย แต่จุดประสงค์ก็เพื่อช่วยเหลือ ดังนั้นมันจึงช่วยตัวเองด้วยการเลี่ยงกฎให้

ชิ

อย่างที่คิด ไม่มีใครคิดอะไรเรียบง่ายอยู่แล้ว

กู่ฉิงซานปล่อยวางความคิดก่อนเริ่มทำงานอย่างจริงจัง

“ทีนี้บันทึกภาษาใหม่ได้” กู่ฉิงซานกล่าวกับสมองกล

“เตรียมการบันทึก” สมองกลตอบ

กู่ฉิงซานออกเสียงสามสิบหกตัวอักษร จากนั้นอ่านคำศัพท์กับวลีเป็นเวลาสิบนาที

“การวิเคราะห์ภาษาอยู่ระหว่างดำเนินการ หน้าต่างระบบทำการสร้างใหม่”

“ดีมาก ตอนนี้ผมจะเชื่อมต่อคุณเข้ากับสายส่งข้อมูลกับสายชาร์จของจักรกล คุณต้องตรวจสอบรหัสผ่าน จากนั้นลองเชื่อมต่อกับเครือข่ายของโลก”

“สมองกลพร้อมแล้ว โปรดทำการเชื่อมต่อกับเครือข่าย”

“การเชื่อมต่อสำเร็จ เริ่มคำนวณรหัสผ่าน”

“วิธีการเข้ารหัสผ่านค่อนข้างเก่าแก่ ใช้เวลาในการถอดภายในยี่สิบวินาที”

“ทำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต พวกเราควรทำอะไรต่อ”

กู่ฉิงซานหันไปมองชายผมบลอนด์แล้วถามว่า “ผมจำได้ว่าศูนย์วิจัยจักรกลอยู่ในชานเมืองของเมืองหลวงใช่หรือเปล่า”

“ใช่ อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มาก” ชายผมบลอนด์ตอบ

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักก่อนกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “เวลามีค่า รีบจัดการให้ไวดีกว่า”

เขาถ่ายทอดคำสั่งใหม่ให้กับสมองกล “ทำการรุกล้ำและยึดครองเครือข่ายของศูนย์วิจัยจักรกล ผสานเข้ากับโครงสร้างเกราะศึกเคลื่อนที่ยี่สิบเอ็ดตัวที่เก็บเอาไว้ เลือกประเภทจักรกลจู่โจม ค้นหาวัสดุที่เหมาะสมต่อการสร้าง”

“รับทราบ”

“โครงสร้างจักรกลที่เหมาะสมถูกเลือกแล้ว”

“ทำการควบคุมห้องปฏิบัติการของศูนย์วิจัยจักรกลจากระยะไกล ปิดกันข่าวสารทั้งหมด ปิดกล้องรักษาความปลอดภัยทุกตัว ทำการทดลองผลิตเกราะศึกเคลื่อนที่สำหรับจู่โจม”

“เริ่มการทดลองผลิต โปรดรอเจ็ดนาที”

“การทดลองผลิตเสร็จสิ้นแล้ว”

“เกราะศึกจู่โจมได้รับการผลิตแล้ว”

กู่ฉิงซานถ่ายทอดคำสั่ง “เตรียมทดสอบข้อมูล”

“ขออภัยที่ถาม ให้ทำการทดสอบแบบไหน”

“การต่อสู้จริง”

“รับทราบ”

ผ่านไปเจ็ดถึงแปดนาที

“รายงานนายท่าน การต่อสู้จบลงแล้ว”

“ผลลัพธ์เป็นไงบ้าง”

“ผีดิบทั้งหมดถูกทำลายแล้ว”

“เอาเถอะ นี่นับเป็นเรื่องธรรมดา”

ว่าไปนั่น ในยุคที่เขาอาศัยอยู่ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้ากว่าโลกนี้หลายสิบเท่า เขาเชี่ยวชาญกับการเล่นอะไรแบบนี้ แถมผู้สร้างของโลกนี้ยังคอยหนุนหลังอีก หากเป็นเช่นนี้แล้วยังไม่สามารถสร้างจักรกลที่เหมาะสมได้อีก กู่ฉิงซานรู้สึกว่าเขาสมควรรับโทษด้วยความตาย

ต่อไปเป็นจุดสำคัญที่สุด

“ยึดครองเครือข่ายโลกและเริ่มการผลิตเกราะศึกจู่โจมจำนวนมากที่ศูนย์วิจัยและผลิตจักรกล”

“เพื่อหลีกเลี่ยงความโกลาหลที่อาจจะเกิดขึ้น ให้ทำการถ่ายทอดสดทั่วโลกในหนึ่งนาที ผมจะบอกกล่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเอง”

“รับทราบ”

กู่ฉิงซานหันศีรษะมามองชายผมบลอนด์และเหล่าหลี่ “เตรียมออกทีวี”

เหล่าหลี่รีบหยิบหวีมาหวีผม

ชายผมบลอนด์กล่าวอย่างประหม่าว่า “นี่…พวกฉันไม่ต้องออกทีวีก็ได้”

“คุณต้องปรากฏตัวเพราะเครื่องจักรไม่สามารถออกจากการควบคุมของมนุษย์ได้ ไม่อย่างนั้นมันอาจจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ด้วยเทคโนโลยีของโลกนี้ เป็นไปได้ว่าจะไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของจักรกลได้…จักรกลของโลกนี้จะทำตามคำสั่งของคุณในอนาคต” กู่ฉิงซานกล่าว

“แต่พวกฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” ชายผมบลอนด์กล่าว

“คุณช่วยผมไว้ นี่ถือเป็นรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ” กู่ฉิงซานกล่าว

หนึ่งนาทีผ่านไป

ม่านแสงสว่างขึ้น

กู่ฉิงซานเริ่มพูดให้ทั่วโลกฟัง

“ทุกท่าน โปรดจำวันนี้ให้ดี”

“ความมืดได้ผ่านพ้นไป ยุคของเกราะศึกเคลื่อนที่ได้มาถึงแล้ว”

เมื่อกู่ฉิงซานพูดผ่านการถ่ายทอดสดจบ เขาพบว่าตัวเองได้ออกจากโลกดินก่อนมาถึงพายุสีเทาไร้ที่สิ้นสุด

“ดูเหมือนข้าจะได้อยู่แค่สองวันเองนะ”

กู่ฉิงซานครุ่นคิด

เสียงหัวเราะของยักษ์ดังมาจากพายุสีเทา

“เจ้าอยากเป็นราชาของโลกใบนี้หรือ” เขาถาม

“เปล่า ข้าแค่มาเพื่อก้าวข้ามภัยพิบัติ” กู่ฉิงซานตอบ

ในพายุสีเทา ใบหน้ามนุษย์ขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นด้านตรงกันข้ามกับกู่ฉิงซาน

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าการสร้างเครื่องจักรจะคลี่คลายหายนะ” ยักษ์ถามด้วยเสียงดังฟังชัด

“ความรู้เปลี่ยนแปลงโชคชะตา เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงชีวิต ข้าเก่งด้านพวกนี้อยู่แล้ว” กู่ฉิงซานตอบ

“เจ้าเก่งหลายด้านเสียจริง” ยักษ์กล่าว

“จักรกลและการทำอาหาร ก็ไม่มากเท่าไหร่นะ” กู่ฉิงซานกล่าว

“เอาเถอะ ผู้ฝึกยุทธเอ๋ย ข้าถือว่าเจ้าผ่านภัยพิบัติดินแล้วเพราะไม่มีใครฆ่าเจ้าได้”

“ขอบคุณท่านมาก”

“เจ้าทำบางสิ่งเพื่อข้า จากนั้นตามที่ตกลงระหว่างเจ้ากับข้า ข้าจะมอบรางวัลให้เจ้า แต่เพราะพละกำลังของเจ้าอ่อนแอเกินไป ข้าทำได้เพียงมอบสิ่งหนึ่งที่สามารถติดตัวไปได้”

“ขอบคุณอีกครั้ง”

“กลับไปได้แล้ว เมื่อเจ้ากลับไปยังที่ที่ตัวเองมา เจ้าจะได้ของขวัญเล็กน้อยจากข้า”

“รอเดี๋ยวก่อน ข้ามีเรื่องอยากจะถาม…”

ตูม!!!

พายุสีเทาพัดเข้าใส่กู่ฉิงซานอย่างไม่ปรานี

กู่ฉิงซานค่อยๆ หมดสติ

เมื่อพลันได้สติ เขาพบว่าตัวเองยังยืนอยู่ในถิ่นทุรกันดาร

ลั่วปิงหลี มนุษย์แสงและเทพแห่งความเย็นยะเยือกกำลังคุ้มกันเขา

“น่าเสียดาย ข้าอยากถามเกี่ยวกับวิญญาณกรีดร้องเสียหน่อย” กู่ฉิงซานพึมพำอย่างหงุดหงิด

ตรงหน้าของเขา แถวตัวอักษรโลหิตขนาดเล็กเริ่มขึ้นบนจอ

“ท่านรอดจากสี่ภัยพิบัติ ดิน น้ำ ไฟและลม แล้ว”

“ท่านกลายเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสามพันโลก”

“ชื่อภารกิจ: พัฒนาสิ เจ้าหนู! เสร็จสิ้น”

“ท่านได้รับรางวัล: การวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องของบัญญัติ”

“บัญญัติของราชามารจะเริ่มวิวัฒนาการ ขั้นต่อไปจะเป็น: ระดับปฏิวัติ”

“ก่อนหน้านี้ โปรดจั่วการ์ดจากกองการ์ดความเชื่อมั่นให้เรียบร้อยด้วย”

“เพราะท่านตัดใจจากการจั่วการ์ดตอนอยู่ระดับวงแหวนนภา ท่านจึงสามารถเลือกการ์ดในครั้งนี้ได้”

“คำเตือนพิเศษ”

“ร่างชีวิตประเภทโลก: ผู้สร้างโลกดินมอบของขวัญให้ท่าน”

“การ์ดที่เขาให้ท่านจะเข้าร่วมในการจั่วครั้งนี้ด้วย”

บนหน้าต่างระบบจุดกำเนิด การ์ดใบแล้วใบเล่าค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา

กู่ฉิงซานกวาดตามองการ์ดทุกใบ ท้ายที่สุดก็มาจดจ่ออยู่ตรงการ์ดที่แผ่แสงสีทองออกมา

เขาเห็นงูสองตัวพันกันอยู่ จากนั้นเลื้อยขึ้นมาอยู่บนการ์ด

แถวข้อความสองสามบรรทัดปรากฏขึ้นด้านล่างการ์ด

“การ์ดสีทอง: แฝดปฐพี”

“เมื่อท่านใช้การ์ดใบนี้ จะควบคุมร่างตัวตนอื่นได้ภายในสิบนาที ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นตัวตนสิ่งมีชีวิต ตัวตนสรรค์สร้างหรือตัวตนนิรันดร์ก็ตาม”

“คำอธิบาย: นี่คือของขวัญจากผู้สร้างโลกดิน มันคือผู้พิทักษ์ทรงพลังของกฎแห่งดิน”

“ตัดสินจากพลังนี้ที่แก่กล้าเกินไป การใช้บ่อยครั้งจะดึงดูดสายตาสอดรู้สอดเห็นของศัตรูของผู้สร้างโลกดินมา ดังนั้นผู้สร้างโลกดินจึงยอมให้ท่านใช้พลังนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น”

“พลังของเสาศักดิ์สิทธิ์แห่งดินจะปกป้องท่าน”

กู่ฉิงซานชำเลืองมองใบนั้น ไม่มองใบอื่น จากนั้นกล่าวอย่างไม่ลังเลว่า “ข้าเลือกการ์ดใบนี้!”