ตอนที่ 476 แผนสำเร็จ

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 476 แผนสำเร็จ
ฮ่อหยุนเฉิงที่ได้ยินก็พยักหน้า และทันใดนั้นก็ยิ้มอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มนั้นทำให้ใจซูฉิงขนลุก จากนั้นก็รีบเอาเสื้อคลุมที่โยนไปบนเตียงมาสวมก่อนจะเปิดประตูไปเคาะห้องข้างๆ และเรียกโจเซฟออกมาด้วยความขุ่นเคืองใจ

“…แผนสำเร็จแล้วเหรอ?” ใบหน้าของโจเซฟดูบูดบึ้ง ไม่มีวี่แววรอยยิ้ม แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้พูดเพราะโมโห

ซูฉิงพยักหน้า กลับไปที่ห้องเดิมกับโจเซฟ หันกลับมาขอบคุณเขาอย่างเป็นทางการ “โจเซฟ ขอบคุณนะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ วันนี้ฉันคงจ้องได้เป็นข่าวอีก”

พูดไป เธอก็เหลือบมองฮ่อหยุนเฉิงโดยไม่รู้ตัว และเห็นว่าใจโจเซฟมีความรู้สึกผสมปนเปกันอยู่

เขายังไม่เชื่อ ว่าเขาจะไม่สามารถแข่งกับฮ่อหยุนเฉิงอย่างยุติธรรมได้!

ฮ่อหยุนเฉิงยิ้มและก้าวไปข้างหน้า ต่างจากความสุภาพก่อนหน้านี้ เขายื่นมืออย่างจริงใจและขอบคุณโจเซฟ “ขอบคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ซูฉิงคงโดนคนอื่นจัดการไปแล้ว ไม่ต้องการสูญเสียเธอไป”

โจเซฟหลุบตาลงมองมือที่อีกคนเหยียดออกมา แต่เขากลับไม่ได้จับมือตอบรับ เพียงพ่นลมก่อนจะจับปลายแขนและพูดกันอีกคนว่า “อย่าคิดว่าถ้าคุณพูดขอบคุณแล้วฉันจะถือว่าไม่ได้เกิดเรื่องขึ้น แม้วันนี้จะให้ความร่วมมือกับพวกคุณ ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะยอมแพ้เรื่องซูฉิง”

รอยยิ้มที่มุมปากของซูฉิงแข็งค้าง ก่อนจะมองฮ่อหยุนเฉิงอย่างสับสน

นี่มันอะไรน่ะ?

เธอไม่ได้บอกโจเซฟไว้อย่างชัดเจนแล้วเหรอ?

ฮ่อหยุนเฉิงงอปลายนิ้วและค่อย ๆ วางมือลง

เขาจ้องไปที่โจเซฟ แต่ไม่ได้โกรธเลย เขาเพียงจะดูว่าโจเซฟนั้นจะพูดอะไร

ตามคาด ในวินาทีถัดมา คุณชายจอมเถียงได้พูดกับเขาว่า “แม้ว่าครั้งนี้ฉันก็เกือบถูกจัดการไปด้วยก็ตาม แต่ฉันไม่มีทางยอมแพ้เรื่องซูฉิงแน่ ฉันจะสู้กับคุณอย่างยุติธรรมที่สุด!”

ฮ่อหยุนเฉิง: …

เป็นครั้งแรกที่ฮ่อหยุนเฉิงเกิดความรู้สึกไม่หึงหวง “คู่แข่ง” ของเขา ไม่เพียงแค่ไม่หึงหวงเท่านั้น ทั้งยังรู้สึกพูดไม่ออกด้วย

นี่มันแค่เด็กชัดๆ ช่างเถอะ แล้วแต่เขาก็แล้วกัน

เพราะยังไงซูฉิงก็ไม่มีทางไปคบกับโจเซฟอยู่ดี

ฮ่อหยุนเฉิงนั้นมั่นใจในตัวเองมาก

ในช่วงสองวันที่ผ่านมา อาการแพ้ท้องของยวี๋น่านั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้แพ้ท้องเพียงแค่บางครั้ง แต่ตอนนี้แทบทุกครั้งที่เธอกินอาหาร เพียงไม่กี่วัน ยวี๋น่าก็ผอมลงไปมาก

และซูฉิงก็โทรถามถึงสภาพร่างกายของยวี๋น่าพอดี “น่าน่า สองวันนี้เป็นยังไงบ้าง? ยังแพ้ท้องหนักอยู่ไหม?”

อีกคนที่เพิ่งอาเจียนเสร็จและออกมาจากห้องน้ำ พูดด้วยใบหน้าซีดเผือดว่า “คงถึงช่วงเวลาแพ้ท้องแล้วล่ะ สองวันนี้ฉันกินอะไรเข้าไปก็อาเจียนออกมาหมดเลย แถมยังรู้สึกคลื่นไส้ตลอดเวลา”

ยวี๋น่ามองไปที่แก้มตัวเองในกระจก ใบหน้าของเธอไร้สี ใบหน้าที่ไม่ได้แต่งระหว่างตั้งครรภ์นั้นดูผันผวนเป็นพิเศษ

ซูฉิงที่ไม่เคยตั้งครรภ์จึงไม่เข้าใจว่าอาการแพ้ท้องนั้นรุนแรงแค่ไหน ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงปลอบใจอย่างเป็นห่วง “ให้ฉันทำของโปรดเอาไปให้ดีไหม ช่วงตั้งครรภ์ต้องเสริมโภชนาการด้วยนะ”

“งานที่บริษัทเธอเสร็จแล้วเหรอ เสร็จงานแล้วค่อยมาก็ได้ ฉันไม่มีอะไรหรอก หลินหนานเองก็คอยดูแลฉันอยู่” ยวี๋น่าพูดช้าๆ เธอรู้ว่าซูฉิงกับฮ่อหยุนเฉิงกำลังอยู่ในช่วงหวานกัน จึงไม่อยากรบกวนทั้งสอง

“หลินหนานดูแลเธอดีไหม?” ซูฉิงถามช้าๆ “ช่วงนี้ไม่ได้เจอหลินหนานเลย แล้วก็ไม่ได้ยินหยุนเฉิงพูดถึงด้วย”

เมื่อกล่าวถึงชื่อคู่หมั้นของเธอ ใบหน้าของยวี๋น่าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข ก่อนจะพยักหน้า “ดีเลย หลินหนานเป็นผู้ชายที่ดี ฉันอยากกินอะไรเขาก็คอยทำให้”

ต้องบอกว่าในระหว่างตั้งครรภ์ หลินหนานทำตัวเหมือนคู่หมั้นที่สมบูรณ์แบบสุดๆ

หลินหนานดูแลยวี๋น่าอย่างดี อีกนิดก็จะไปเก็บดาวเก็บดวงจันทร์ให้เธอแล้ว

“โห ได้ยินเธอพูดแบบนั้นฉันก็วางใจ หลินหนานดีกับเธอก็ดีแล้วล่ะ” ซูฉิงหัวเราะเบาๆ ตอนนี้เธอและเพื่อนสนิทอย่างยวี๋น่าได้ที่พึ่งที่ดี ซูฉิงก็พอใจมากแล้ว

ทันใดนั้น ซูฉิงก็นึกถึงเรื่องสำคัญได้ก่อนจะถามอีกคนเสียงเบา “แม่สามีในอนาคตของเธอล่ะ สองวันนี้เป็นยังไงบ้าง เขาทำอะไรเธอบ้างหรือเปล่า?”

ซูฉิงรู้จักแม่สามีในอนาคตของยวี๋น่า นั่นคือแม่ของหลินหนานไม่ชอบยวี๋น่า ก่อนหน้านี้แม่หลินมักจะชักสีหน้าใส่ยวี๋น่า ทั้งยังแสดงถึงความไม่พอใจอย่างโจ่งแจ้งกับยวี๋น่าที่เป็นลูกสะใภ้คนนี้

ด้วยเหตุนี้ หลินหนานจึงคุยกับแม่เขาหลายครั้ง ให้เขาทำดีกับยวี๋น่า แต่เขาก็ไม่ฟัง

หลินหนานทำได้เพียงปลอบเธออย่างเงียบ ๆ หลังจากที่เกิดเรื่อง แล้วก็อธิบายให้อีกว่าแม่เขานั้นไม่ได้ตั้งใจ

“ก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้ดีขนาดนั้น” ยวี๋น่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า ตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์ แม่หลินก็ยังสุภาพเพราะหลานอยู่มาก มีแค่บางครั้งที่จะทำให้เธอลำบากใจ

ขณะที่เพื่อสนิทที่งสองคนกำลังคุยกันอยู่ ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น “น่าน่า เธอตื่นแล้วเหรอ?”

เสียงแม่หลินดังมาจากนอกประตู

ยวี๋น่าก็ทำท่าเงียบก่อนจะพูดว่า “ซูฉิง ฉันวางก่อนนะ แม่หลินหนานมาแล้วล่ะ”

พูดถึงผี ผีก็มา

ยวี๋น่าวางสายโทรศัพท์ ก่อนจะสวมรองเท้าแตะแล้วเดินไปเปิดประตู

“คุณน้ามีอะไรหรือเปล่าคะ?” ยวี๋น่าพูดช้าๆ

แม่หลินมองไปที่ร่างกายที่ซีดเซียวและผอมบางของยวี๋น่า ก็อดกังวลถึงเด็กในท้องไม่ได้

เธอหันกลับไปรับซุปไก่จากพี่เลี้ยง ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “นี่คือซุปไก่ที่ฉันให้ที่ครัวเตรียมให้ สองวันนี้ฉันได้ยินเรื่องอาการแพ้ท้องเธอแล้วล่ะ ดื่มซุปไก่เสียหน่อยจะได้มีแรง ไม่อย่างนั้นเด็กในท้องจะไม่มีสารอาหาร”

รสชาติกลมกล่อมของซุปไก่โชยเข้าจมูกของยวี๋น่า แต่กลับรู้สึกถึงความมันเยิ้ม

ยวี๋น่าขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะปิดปากแล้วหันหลังกลับ พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะระงับความรู้สึกอาเจียน

“ฉันให้คนเคี่ยวซุปไก่นี้เป็นเวลาหลายชั่วโมง ทุกคนเขาก็รู้สึกว่ามันหอม แต่ทำไมเธอที่ได้กลิ่นแล้วอยากอาเจียนล่ะ” เมื่อเห็น ยวี๋น่ารู้สึกคลื่นไส้มาก แม่หลินอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ร่างกายมันล้ำค่าขนาดนั้นเลยเหรอ คนท้องตั้งมากมายไม่เห็นเคยเจอแบบเธอเลย”

แม่หลินกังวลว่ายวี๋น่าจะไม่กินแล้วหลานชายอันมีค่าของเธอจะไม่เติบโตเพราะไม่มีสารอาหาร

เมื่อฟังข้อกล่าวหาของแม่หลิน ยวี๋น่าก็หันกลับมาเงียบๆ และพยายามยับยั้งไม่ให้อาเจียน เธอขมวดคิ้วและพูดช้าๆ ว่า “คุณน้าคะ…ช่วงนี้ฉัน…รับกลิ่นพวกนี้ไม่ไหว…แต่ว่าขอบคุณสำหรับซุปไก่นะคะ”

“งั้นเธอรอตอนที่ไม่อยากอาเจียนแล้วค่อยดื่มสักหน่อยนะ ลูกในท้องก็สำคัญนะ” แม่หลินพูดพร้อมขมวดคิ้ว “ซุปไก่เป็นแม่ไก่ที่ดีเลยนะ อย่าให้เสียเปล่าล่ะ”

แม่หลินไม่ชอบยวี๋น่า จนไม่ชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ ไม่ว่ายวี๋น่าจะทำอะไร แม่หลินก็จะรู้สึกว่ายวี๋น่านั้นเพ่งเล็งเธอ