ตอนที่ 291

Taming Master

สิ่งแรกที่เอียนทำในขณะที่เขากลับไปยังทวีปกลางคือการวิวัฒนาการบุ๊กค์

‘ในที่สุดฉันก็มีสัตว์เลี้ยงระดับ Myth…! เดี๋ยวก่อน ฉันเป็นคนแรกใช่ไหม?’

เอียนยิ้มและหัวเราะเขาอัญเชิญบุ๊กค์มาใกล้กับที่ว่างด้านหน้าปราสาทของลอร์ด

“อัญเชิญบุ๊กค์!”

บุ๊กค์-!

นี่คือบุ๊กค์ที่ได้รับการวิวัฒนาการมาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านี้และได้รับการอัญเชิญอีกครั้ง

“บุ๊ดค์”

“ในที่สุดพี่ของนายก็เอาซินตะมานิมาได้แล้ว”

เอียนกำลังพูดด้วยการแสดงออกที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

และดวงตาของบุ๊กค์ก็สั่นไหว

“บุ๊กค์! จริงๆหรอบุ๊กค์!”

เอียนพยักหน้า

“ฉันบอกแล้ว! นายเคยเห็นพี่ของนายโกหกด้วยหรอ?”

บุ๊กค์ตอบโดยไม่ลังเล

“เห็นบุ๊กค์ เห็นเยอะมากบุ๊กค์”

เอียนรู้สึกสับสนกับคำตอบ

“เมื่อไหร่!?””

“เมื่อคุณให้ลูกชิ้นฉัน เมื่อใดก็ตามที่การล่าสิ้นสุดลง ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวหรือสองครั้งบุ๊กค์”

“ไอ้นี่นิ… แกจำเรื่องพวกนั้นได้หมดเลยหรอ?”

“นั่นก็คือเจ้านายของฉันบุ๊กค์”

เอียนผู้อัญเชิญสุดเศร้าที่เพิ่งสูญเสียศักดิ์ศรีในฐานะเจ้านายไป!

เอียนส่ายหัวและเริ่มค้นหาไอเทมในคลังของเขา

‘บุ๊กค์เติบโตขึ้นมาก หลังจากวิวัฒนาการไปสู่ระดับ Myth ฉันไม่รู้ว่าเจ้านี่จะมีอารมณ์ที่จะพิจารณาฉันเป็นเจ้านายของเขาอยู่อีกไหม?’

เอียนที่อยู่ในความคิดของเขาหยิบซินตะมานิออกจากคลังของเขา

เอียนหยิบซินตะมานิขึ้นมา มันมีสีสดใสมาก

และสายตาของบุ๊กค์ที่เห็นมันเป็นครั้งแรกก็เปลี่ยนไป

“นั่นมันซินทามานิบุ๊กค์!”

มีความตื่นเต้นมากมายจากบุ๊กค์ เอียนยิ้มและพูดกับฝูงชน

“งั้นฉันควรจะให้ซินตะมานิอันจริงหรือซินทามานิอันปลอมดีล่ะ? นี่คือสิ่งที่ฉันอยากจะมอบให้นายในตอนแรก… แต่ความคิดของฉันเปลี่ยนไปแล้ว ฉันกลัวแล้ว”

เอียนเก็บซินทามานิคืนในคลังด้วยสีหน้าประชดประชัน

และบุ๊กค์ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงมองไปที่เอียนและพูด

“เจ้านาย ฉันคิดผิดไปแล้ว ฉันไม่เคยเห็นคุณโกหกแม้แต่ครั้งเดียวเลยบุ๊กค์!”

เอียนหัวเราะเยาะใส่บุ๊กค์ที่หมดความอดทนในช่วงสั้นๆ

“ฮ่า เจ้าบุ๊กค์ หลังจากที่นายวิวัฒนาการแล้ว ความกล้าของนายก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน”

ไไม่ ไม่เลยบุ๊กค์ นั่นไม่เคยเกิดขึ้นเลยบุ๊กค์”

“เงียบๆ ฉันเป็นผู้พิพากษาและฉันให้การตัดสิน”

เอียนยังคงพูดต่อและเห็นหน้าเศร้าของบุ๊กค์

“ดูสิบุ๊กค์ ฉันวิวัฒนาการนายมาแล้วครั้งหนึ่งและดูว่านายหยิ่งแค่ไหนกัน? ดังนั้นถ้าฉันใช้ซินตะมานินี้และทำให้นายกลายเป็นระดับ Myth นายจะหยิ่งขนาดไหน?”

บุ๊กค์ส่ายหัว

“บุ๊กค์! ไม่มีทางบุ๊กค์! ฉันเป็นเต่ามังกรที่ดีที่คอยฟังเจ้านายของเขาบุ๊กค์!”

เอียนหันหน้าและพูด

“ว้าว บุ๊กค์ที่น่ารักของฉัน ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่นายหยิ่งผยอง…”

“บุ๊กค์… ฉันไม่ได้หยิ่งผยอง…! ฉันจะเป็นคนดีที่ตั้งใจฟังเจ้านายของฉันให้ดีกว่าตอนนี้!”

เอียนลูบคางของเขาและมอง

“อืม… ฉันจะเชื่อยังไงดี?”

“บุ๊กค์… เชื่อฉันเถอะบุ๊กค์…”

เอียนคิดว่าเขาควรเลิกล้อเล่นและจ้องไปที่บุ๊กค์ที่ดูเหมือนว่าเขากำลังจะน้ำตาไหลเอียนหัวเราะและเรียกกาก้าที่หลับอยู่ไกลๆ

“เฮ้ยยย กาก้า”

กาก้าขยี้ตาแล้วตอบ

“ทำไมท่านถึงเรียกฉันเจ้านาย? ฉันยังไม่ได้นอนเลย”

“นี่มันแปลกมาก ที่คนไม่ได้นอนมาสามพันปีก็พูดแบบนี้”

“ฉันไม่ได้นอนมา 3 พันปีแล้วเจ้านาย ฉันต้องนอนเยอะๆตอนนี้”

เอียนดีดนิ้วโดยไม่ตอบกลับ

กาก้าฮึดฮัดและบินไปต่อหน้าเอียน

เอียนพูด

“บุ๊กค์อยู่ที่นี่ รู้ไหมว่าเขาสัญญากับฉันว่าเขาจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีและจะฟังฉันอย่างดี”

กาก้าพยักหน้าของมัน

“ฉันได้ยินแล้ว”

“นายยังไม่นอนเหรอ?”

“เดี๋ยวค่อยนอนละกัน”

เอียนมองไปมาระหว่างกาก้าและบุ๊กค์

“ทุกอย่างที่บุ๊กค์พูดจนถึงตอนนี้ นายจะเป็นพยานในกรณีที่เขาเปลี่ยนคำพูดใช่ไหม?”

กาก้าพยักหน้าของมัน

“รับทราบครับเจ้านาย”

เอียนมองไปรอบๆและถาม

“บุ๊กค์ นายเห็นด้วยใช่ไหม?”

บุ๊กค์ตอบทันที

“แน่นอนบุ๊กค์! ฉันจะฟังเจ้านายของฉันอย่างดีขึ้นในอนาคต!”

มุมริมฝีปากของเอียนสูงขึ้น กาก้าที่เห็นสิ่งนี้จากด้านข้างส่ายหัว

“สัตว์เลี้ยงที่โง่เขลาและเจ้านายที่ชั่วร้าย”

เอียนที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นมองไปที่กาก้าแล้วพูด

“อยากโดนดีใช่ไหมกาก้า?”

กาก้าบินจากไปและกล่าวว่า

“เจ้าแห่งความรุนแรง! แย่มาก!”

“…”

อย่างไรก็ตาม เอียนหัวเราะกับความไร้เดียงสาของบุ๊กค์และหยิบซินตะมานิออกจากคลังของเขา

ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมากเขาจึงส่งซินตะมานิให้กับมัน

“นี่อ่ะ”

เอียนเอนตัวไปยื่นซินตะมานิด้วยความเป็นห่วงเป็นใยให้บุ๊กค์

“บุ๊กค์…!”

บุ๊กค์ที่เพิ่งได้รับซินตะมานิมีสีหน้าเคลิบเคลิ้มและครู่ต่อมาข้อความระบบก็ปรากฏต่อหน้าของเอียน

กริ๊ง-!

 

[ใช้ไอเทม ‘ซินตะมานิ’ ให้สัตว์เลี้ยง ‘บุ๊กค์’]

[ไอเทม ‘ซินตะมานิ’ จะหายไปและไม่มีทางที่จะกลับคืนมาได้อีก ท่านยังต้องการใช้ไอเทม ‘ซินตะมานิ’ หรือไม่? (ใช่ / ไม่ใช่)]

 

เอียนหยุดชั่วขณะ

เป็นเพราะคุณสมบัติที่ล่อลวงที่แนบมากับซินตะมานิ

แต่นั่นจะไม่ทำให้โอกาสในการได้รับสัตว์เลี้ยงระดับ Myth

“ใช้เลย”

ข้อความระบบดังขึ้นอีกครั้ง

 

[สัตว์เลี้ยง ‘บุ๊กค์’ มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขการวิวัฒนาการทั้งหมด]

 

Wooing-

ในเวลาเดียวกันแสงสีฟ้าเริ่มเปล่งประกายออกมาจากดวงตาของบุ๊กค์

ซินตะมานิที่อยู่ในมือของบุ๊กค์ลอยขึ้นไปบนอากาศและเริ่มเปล่งแสงห้าสีออกมาและท้องฟ้ารอบๆก็สว่าง มันเป็นภาพที่สวยงามเมื่อได้เห็น

เอียนกำลังดูฉากนี้ด้วยหัวใจที่เต้นรัว

‘ทำได้แล้ว…! บุ๊กค์กำลังจะวิวัฒนาการ…!’

เอียนดีใจและเขาไม่สามารถละสายตาจากบุ๊กค์ที่รูปร่างหน้าตาเริ่มเปลี่ยนไป

แสงทั้งห้าที่เปล่งออกมาจากซินตะมานิแตกออกจากมันและห่อหุ้มทั้งตัวของบุ๊กค์และร่างกายของบุ๊กค์ก็เปลี่ยนเป็นสีขาว

และความสูงของเขาก็เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ

‘อะไรน่ะ? นี่คืออะไร? เขาจะใหญ่แค่ไหนกัน?’

ปัจจุบันสัตว์เลี้ยงที่ตัวใหญ่ที่สุดของเอียนคือคาร์เซอุส เมื่อเขาอยู่ในร่างเดิม

บุ๊กค์เพียงพอที่จะสู้ได้ แต่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับคาร์เซอุส

แต่ตอนนี้แม้ร่างกายของบุ๊กค์ที่ขนาดเท่ากับคาร์เซอุสแล้ว เขาก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

‘นี่คือมังกรอเวจี…?’

เอียนเฝ้าดูกระบวนการวิวัฒนาการด้วยสีหน้าว่างเปล่า

จากเดิมที่มีลำตัวกลมและเกล็ดสีฟ้าที่คล้ายกับแมลงปอเริ่มงอก ตอนนี้คอสั้นๆขยายใหญ่ขึ้นอย่างสมบูรณ์และปีกเล็กๆกลายเป็นใหญ่ขึ้นสิบเท่า ตอนนี้ครอบคลุมพื้นที่มากมาย

‘ใช่มังกรระดับ Myth แน่นอน มันควรจะมีทักษะพิเศษ’

แต่แล้วข้อความก็โผล่ขึ้นมาโดยที่เอียนไม่ได้คิดอะไร

กริ๊ง-

 

[พลังของซินตะมานิถูกปิดผนึกบางส่วน]

[สัตว์เลี้ยงยังไม่สามารถวิวัฒนาการไดั]

[‘ซินตะมานิ’ ถูกแยกออกแล้ว]

 

“ห้ะ…?!”

เอียนที่ลุกลี้ลุกลนจนพูดไม่ออก ยืนยันข้อความอีกครั้งด้วยสีหน้าตึงเครียด

‘อะไรน่ะ? มันเกี่ยวข้องกับความพลังแฝงของซินตะมานิที่ถูกปิดผนึกไหม?’

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาต่อมาเอียนรู้สึกกระวนกระวายมากขึ้นจากข้อความบรรทัดถัดไปที่ปรากฏขึ้น

 

[เทพมังกรกำลังจะลงมา]

 

“…!!”

ข้อความนั้นน่าตกใจพอๆกับความล้มเหลวในการวิวัฒนาการ

เอียนพูดไม่ออก

นั่นเป็นเพราะเขาจะได้เจอคนที่เขาคิดว่าไม่มีวันได้พบอย่างน้อยก็ในตำแหน่งปัจจุบันของเขา

เอียนมีความกังวลสักครู่

‘พวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อฆ่าฉันใช่มั้ย?’

และเบื้องหน้าของเอียนมีแสงสีขาวส่องลงมา

และฝุ่นก็ลุกขึ้นพร้อมกับเสียงคำราม

ร่างกายถูกล้อมรอบไปด้วยแสงและแสงเริ่มลดน้อยลงอย่างช้าๆ แสงเริ่มก่อตัว

รูปร่างเป็นของเด็กผู้ชายผมยาว สิ่งผิดปกติคือร่างกายลอยอยู่บนอากาศและร่างกายโปร่งแสง

เอียนดูเหมือนจะคิดไม่ทันเล็กน้อย แต่เขาก็รู้ได้ว่าเขาคือ ‘เทพมังกร’

 

[ของที่มีค่าที่สุดของข้าอยู่ที่นี่แล้ว]

 

คำพูดที่ไร้อารมณ์ออกมา

เอียนกลืนน้ำลายและถาม

“ท่านคือ… เทพมังกร…?”

เมื่อเอียนถามคำถามนี้ เด็กชายตอบด้วยสีหน้าตลก

 

[ใช่ ข้าคือเทพมังกรเซไค]

 

หลังจากตอบเขาก็ค่อยๆเข้าหาเอียน

เอียนรู้สึกกลัวและถือการพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา

“อย่าเข้ามาใกล้ผม…!”

เอียนปิดปากแน่น แต่เอียนมีความคิดมากมายในใจ

‘ฉันควรออกจากระบบไหม? นี่ไม่ใช่พื้นที่ล่า มันจะไม่กลายเป็นการต่อสู้ ดังนั้นฉันสามารถออกจากระบบได้… ไม่ นี่ไม่ใช่ปัญหาที่ทำให้ฉันต้องออกจากระบบเหมือนคนขี้ขลาด’

เทพมังกรเซไคสังเกตเห็นความสับสนของเอียนและอ้าปากจะพูด

“ไม่ต้องห่วงมนุษย์ ข้าทำร้ายเจ้าไม่ได้”

การแสดงออกของเอียนเปลี่ยนไป

“อะไรนะ? ท่านดูเหมือนเทพมังกรที่ฆ่าผมด้วยการยิงเพียงนัดเดียวในแท่นบูชามังกรไม่ใช่หรอ…?”

เซไคพูดต่อ

“นั่นคือสถานที่ที่พลังของข้าสถิตอยู่ ข้าสามารถใช้พลังของข้าในแท่นบูชาได้ แต่นี่ไม่ใช่มิติของข้า ดังนั้นนี่เป็นกรณีที่แตกต่างออกไป ถ้าข้าทำร้ายเจ้า เทพของที่นี่จะไม่อยู่เฉยๆ”

เอียนที่เข้าใจความหมายของคำพูดและถาม

“แล้วทำไมท่านถึงมาที่นี่?”

แม้ในขณะที่ถาม ความกังวลใจของเอียนก็ยังคงเพิ่มขึ้น

เป็นเพราะเขาสมมติว่าเขามาที่นี่เพื่อนำซินตะมานิกลับไปอีกครั้ง

และปากของเซไคก็เปิดออก

“ข้าแค่สงสัยว่าใครคือคนที่กล้าหาญที่มาที่บ้านของข้าและเอาซินตะมานีไป”

ในขณะที่พูด เซไคก็ยื่นมือขึ้นไปบนอากาศ

และซินตะมานิที่ค่อยๆลอยกลับไปที่เอียนก็รีบลอยไปที่มือของเขา

“ …!”

คำพูดของเซไคตามมา

“และข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อเอาของคืน”

เอียนยื่นมือออกไปเพื่อดึงมันกลับมา

แต่เขาตัวแข็งจนอ้านิ้วไม่ได้

‘นี่…! นี่มันของเขาเหรอ?’

เอียนกัดริมฝีปากของเขา

หากซินตะมานิถูกนำกลับไปในตอนนี้ ความทุกข์ทรมานทั้งหมดที่เอียนได้รับและแรงระเบิดที่เขาได้รับจากเทพมังกรทั้งหมดจะกลายเป็นสิ่งไร้ค่า

เซไคมองไปที่เอียนและบุ๊กค์แล้วยิ้มเล็กน้อย

“แต่ก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนใจ”

เซไคแบมือของเขาและซินตะมานิก็เริ่มขยับ

เอียนซึ่งเห็นซินตะมานิ รีบคว้ามันกลับไปที่คลังของเขา ขณะที่เซไคเห็นก็หัวเราะ

“มนุษย์ ข้ายินดีให้โอกาสเจ้าพิสูจน์คุณสมบัติของเจ้า”