บทที 1422+1423 Ink Stone_Romance
บทที่ 1422 พอหรือยัง? พวกเรากลับกันเถอะ
หลงซือเย่พูดไม่ออกแล้ว
เขาสังเกตแววตาของหลีเมิ่งซย่าอย่างละเอียด ยืนยันนางยังคงถูกตนควบคุมอยู่จริงๆ ด้วยเหตุนี้จึงค่อยๆ ถามอีก “เช่นนั้นพวกเจ้างแผนอะไรไว้?”
หลีเมิ่งซย่าจ้องมองเขา ดูงงงวยยิ่งกว่าเขาเสียอีก “จะเอาแผนอะไรล่ะ? เชิญท่านลงเขาก่อนแล้วค่อยว่ากันไง อ้อ ใช่แล้ว สี่ผู้คุ้มกันคนสนิทของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายคล้ายจะถูกยาบางอย่างควบคุมไว้ ซีจิ่วกับท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายล้วนจนปัญญา คงจะมาเชิญท่านไปตรวจดูอย่างละเอียดกระมัง”
นัยน์ตาหลงซือเย่วูบไหวเล็กน้อย “หลายปีมานี้พวกตี้ฝูอีไปอยู่ที่ไหนมา? เหตุใดจึงปรากฏตัวขึ้นในยามนี้?”
หลีเมิ่งซย่าส่ายหน้า “ไม่รู้ พวกเขาไม่ได้บอก”
หลงซือเย่พูดไม่ออกอีกครั้งแล้ว…
เขาถามต่อเนื่องกันอีกหลายคำถาม ยิ่งถามก็ยิ่งเข้าใกล้ประเด็นสำคัญ แต่หลีเมิ่งซย่ากลับเสมือนเสียความทรงจำเรื่องพวกนี้ไปจนหมดสิ้น ส่วนใหญ่ล้วนไม่ทราบเลย หลงซือเย่ถามอยู่นานสองนาน ไม่ได้ถามคำถามสำคัญออกมาสักคำถาม
หลงซือเย่มองดูหลีเมิ่งซย่า เกือบสงสัยแล้วนางไม่ได้ถูกตนควบคุมไว้ เจตนามาปั่นหัวเขา!
แต่เมื่อมองดูดวงตาของหลีเมิ่งซย่าก็เห็นได้ชัดว่าเลื่อนลอยอีกทั้งในม่านตานางก็มีจุดสีม่วงหมุนวนอยู่ เป็นหลักฐานว่านางถูกควบคุมไว้แล้วจริงๆ…
ดูท่าพวกตี้ฝูอีทั้งสองจะรักษาความลับในการทำงานได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก หลีเมิ่งซย่าจึงไม่รู้อะไรเลยจริงๆ ยามที่เขาจะจากไปได้เอ่ยถามคำถามสำคัญอีกข้อหนึ่ง “ซีจิ่วสงสัยอะไรข้าหรือไม่? นางพูดอะไรกับเจ้าหรือเปล่า?”
ดุเหมือนคำถามนี้จะค่อนข้างยากเย็นสำหรับหลีเมิ่งซย่า นางชะงักไปครู่หนึ่งถึงเอ่ยตอบ “จะสงสัยอะไรท่านได้ล่ะ? นางค่อนข้างเชื่อใจครูฝึกหลงเสมอมา ระหว่างทางก็พูดถึงท่านในแง่ดีตลอด บอกว่าท่านเป็นเพื่อนตายของนาง…”
หลงซือเย่นิ่งไป
เขาถอนหายใจเบาๆ “แต่นางก็รู้ว่าเขาไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนของนาง…”
หลีเมิ่งซย่าเบิกตามองเขา เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจความหมายของประโยคนี้
หลงซือเย่ส่ายหัวนิดๆ โบกแขนเสื้อไปทางหลีเมิ่งซย่าคราหนึ่ง หลีเมิ่งซย่าเอนกายนอนบนเตียงอีกครั้ง หลงซือเย่หลุบตามองนางอยู่ครู่หนึ่ง สะบัดแขนเสื้ออีกครา ผ้านวมข้างกายหลีเมิ่งซย่าเหินขึ้นมาอย่างสงบ ห่มร่างนางไว้ สุ้มเสียงเขาอ่อนโยนยิ่งกว่าสายน้ำ “นอนเถอะ เมื่อตื่นขึ้นมาเจ้าจะจำเรื่องพวกนี้ไม่ได้แล้ว”
หลีเมิ่งซย่าหลับตาลงแล้วหลับใหลไปจริงๆ หลงซือเย่จึงหมุนกายจากไป
กู้ซีจิ่วซ่อนอยู่ในจุดอับ ฝ่ามือเปียกชื้น ตอนที่เธอเพิ่งมาถึงเกือบจะพุ่งออกไปยับยั้งหลีเมิ่งซย่าไม่ให้พูดความจริงแล้ว และแน่นอนว่าเตรียมป้องกันอยู่ทุกเมื่อหากว่าหลงซือเย่จะลงมือสังหารหลีเมิ่งซย่า คาดไม่ถึงเลยว่าต่อให้หลีเมิ่งซย่าถูกควบคุมไว้แล้วก็สามารถปกปิดได้อย่างไร้ช่องโหว่…
กู้ซีจิ่วถอนหายใจเบาๆ อย่างโล่งอก ดูเหมือนจะนึกอะไรได้ ขณะที่คิดจะเคลื่อนย้ายกลับไป จู่ๆ เอวก็ถูกแขนข้างหนึ่งคล้องไว้ คนผู้หนึ่งโอบเธอไว้ในวงแขน “ดูพอหรือยัง? พวกเรากลับกันเถอะ”
จากนั้นกู้ซีจิ่วก็กลับมาอยู่ที่ห้องพักของตนอีกครั้ง เธอมองตี้ฝูอีที่อยู่ด้านหลัง “ท่านวางลูกไม้ไว้บนร่างเมิ่งซย่าก่อนแล้วใช่ไหม?!”
ตี้ฝูอีวางเธอลงบนเตียง “อืม”
“ท่านยังไม่ได้เจอข้าก็ทราบแล้วหรือว่าหลงซือเย่มีปัญหา?”
ตี้ฝูอีถอนหายใจเบาๆ “ยันต์ถ่ายทอดเสียงขอเจ้าติดต่อไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าโดนลูกไม้แล้ว อีกทั้งเจ้าไม่สะดวกจะคุยผ่านยันต์ถ่ายทอดเสียง ยืนยันได้ว่าเจ้าจะเกรงคนอื่นจะได้ยิน อีกทั้งในยันต์ถ่ายทอดเสียงน้ำเสียงของเจ้าผิดปกติ…ข้าย่อมจับสังเกตได้ว่าหลงซือเย่มีปัญหาแล้ว พอข้ามาถึงห้องพักตามที่เจ้าบอกไว้ก็ได้พบหลีเมิ่งซย่าก่อน จึงถือโอกาสปรับเปลี่ยนความทรงจำบางส่วนของนาง แล้วถึงออกไปหาเจ้า…“
เจ้าคนผู้นี้ประหนึ่งจูเก๋อเลี่ยงกลับชาติมาเกิดโดยแท้ กลยุทธ์ล้นเหลือ!
“ที่แท้ท่านก็คิดอะไรเผื่อไว้หมดแล้ว…”
—————————————————————
บทที 1423 เจ้าอย่าได้ขัดความอยากข้าเลย…
“ที่แท้ท่านก็คิดอะไรเผื่อไว้หมดแล้ว…” กู้ซีจิ่วขึ้นไปนอนบนเตียง ถอนหายใจอย่างโล่งอก “มิน่าล่ะเมื่อกี้ท่านถึงสงบนิ่งปานนั้น”
“ไม่ หนนี้ข้าก็คิดไม่เหมือนกันว่าหลงฟั่นจะไปหลอกถามหลีเมิ่งซย่าในยามนี้ ซีจิ่ว เจ้าเดาถูก เข้าใจกล้าไม่น้อยเลยจริงๆ โชคดีที่ข้าเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว มิเช่นนั้นแผนการทั้งหมดคงต้องปรับเปลี่ยน…”
ตี้ฝูอีก็ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้ว รั้งนางเข้าสู่อ้อมแขนตน “ซีจิ่ว เจ้ามีความชอบแล้ว”
“หือ?”
“อันที่จริงข้าคิดมาตลอดว่าว่าหลงฟั่นไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกันแน่ ติดตรงที่ไม่มีเบาะแสเลย นึกไม่ถึงว่าการที่เจ้ามาหาหลงซือเย่จะบังเอิญค้นพบเขาเข้าพอดี”
กู้ซีจิ่วเพียงฟังเขาพูด “ทีแรกข้านึกว่าไอ้ตัวปลอมนั่นคือหลงฟั่นที่ปลอมตัวมา อย่างไรเสียก็มีเพียงไอ้สวะคนนี้ที่สามารถสร้างร่างโคลนนิ่งของข้าได้ แต่หลังจากได้พบไอ้ตัวปลอมผู้นั้น ข้าถึงพบว่าไม่ใช่เขา หลงฟั่นวิชาแพทย์น่าตะลึง แต่ไอ้ตัวปลอมผู้นั้นแม้แต่อาการบาดเจ็บของเมิ่งซย่าก็ตรวจไม่ได้ ซ้ำยังให้มู่เฟิงมาตรวจดูอีก บุคลิกก็ไม่เหมือน เขามีแต่ร่างกลวงๆ ทว่าไม่มีรัศมีเช่นนั้น ถ้าหลงฟั่นสอดมือเข้าแทรกแซงร่องรอยจะชัดเจนมาก ในเมื่อตัวปลอมผู้นั้นไม่ใช่เขา เช่นนั้นเขาจะแอบซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งแล้วแอบบงการทุกสิ่งกระมัง? ข้าคาดเดาไว้หลายคนนัก และแอบตรวจสอบไปหลายคนแล้ว ล้วนมิใช่เขา ตกหล่นไปเพียงหลงซือเย่…”
กู้ซีจิ่วมองเขา “ว่าต่อสิ”
ตี้ฝูอีหัวเราะเบาๆ “หลงฟั่นมีใจทะเยอทะยานยิ่งนัก เมื่อก่อนเขาอยู่ภายใต้โม่เจ้าก็ไม่พอใจแล้ว ในใจมีแผนการของตนอยู่มากมายนัก ศึกนั้นเมื่อแปดปีก่อน โม่เจ้าปางตาย จะฟื้นฟูต้องการเวลาอีกหลายสิบปี ส่วนหลงฟั่นก็ฟื้นตัวเร็วกว่าที่ข้าคาดกรณ์ไว้สามสี่ปี ที่เขาฟื้นฟูได้ก่อนเวลาน่าเกี่ยวข้องกับเซียนหญิงลี่หวางผู้นั้น ในมือของลี่หวางน่าจะถือครองวิชาลับบางอย่างที่ไม่มีบนโลกนี้ไว้ ระหว่างพวกเขาทั้งสองจะต้องบรรลุสนธิสัญญาอันใดแล้วแน่นอน ลี่หวางช่วยเขาให้สิงสู่ร่างของหลงซือเย่ และเขาก็รับปากเงื่อนไขลับบางประการกับลี่หวางไว้ หลังจากหลงฟั่นฟื้นฟูได้ และสืบทราบแน่ชัดว่าข้าหายตัวไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงดำเนินแผนโยนไอ้ตัวปลอมออกมา ให้ไอ้ตัวปลอมนั่นสวมรอยเป็นข้าทำเรื่องชั่วช้าไร้คุณธรรม ประการแรกคือเพื่อดูว่าข้าหายตัวไปจริงหรือเปล่า ประการที่สองคือทำลายชื่อเสียงของข้าด้วย ทำให้ชื่อเสียงของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายฉาวโฉ่อย่างสิ้นเชิง จากนั้นเขาก็จะใช้ฐานะของผู้กอบกู้โลกมาปราบปรามตัวปลอมผู้นี้ เอาชนะใจคนทั้งแผ่นดิน สุดท้ายจะกลายเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของทวีปนี้…”
แผนการนี้ค่อนข้างน่าตะลึง กู้ซีจิ่วรู้แจ้งในทันใด ทอดถอนใจเบาๆ แล้วกล่าวว่า “แผนนี้ช่างแนบเนียนไร้ที่ติดยิ่งนัก!”
ตี้ฝูอีพยักหน้า “ใช่ สมบูรณ์แบบมาก หากว่าข้าไม่โผล่ออกมาเลย ผ่านไปอีกปีสองปีแผนนี้ของเขาน่าจะประสบความสำเร็จโดยสมบูรณ์ไปแล้ว โชคดีที่พวกเราไม่นับว่าออกมาสายเกินไป ซ้ำยังมาทันทำลายแผนการของเขาด้วย”
“เช่นนั้นขั้นต่อไปจะเอาอย่างไร? ท่านมีแผนการไหม?” กู้ซีจิ่วมองเขาด้วยดวงตาเปล่งประกาย
“มี!” นิ้วของตี้ฝูอีเกี่ยวสายรัดเอวเธอ จุมพิตริมฝีปากเธอทีหนึ่ง ”ตอนนี้พวกเรามาทำเรื่องสำคัญกันก่อน เรื่องวุ่นวายพวกนั้นไว้คุยกันทีหลัง…”
“นี่ มายั่วให้อยากรู้ มันบาปนะ ดีร้ายอย่างไรท่านก็พูดให้จบก่อนสิ…” กู้ซีจิ่วจับอุ้งเท้าจิ้งจอกของเขาไว้
นัยน์ตาตี้ฝูอีใสกระจ่างดั่งสายธารฤดูใบไม้ผลิ มองเธออย่างน่าสงสาร “เด็กน้อย ข้าอดยากมานานแล้ว หิวมาก เจ้าอย่าได้ขัดความอยากข้าเลย…”
เขาพูดอย่างอ่อนโยนน่าสงสาร ทว่าการเคลื่อนไหวกลับรุนแรงยิ่ง ทาบทับเธอทันที แสงสีขาวผุดออกมาจากปลายนิ้ว ด้วยเหตุนี้อาภรณ์บนร่างกู้ซีจิ่วจึงหายไป…
….
หนึ่งชั่วยามให้หลัง ทั้งสองคนนอนกอดกันอยู่ในผ้านวมเสมือนยวนยางเคล้าคลอ ตี้ฝูอีกอดเธออย่างอิ่มเอม “เด็กน้อย เจ้ามีอะไรอยากถามไหม?”
—————————————————————————-