กู่ฉิงซานปล่อยมารตนนั้นไป อีกฝ่ายหนีไปจากเขา
เขาไปตามทางที่พวกมารมุ่งหน้าไปก่อนพุ่งไปยังปราสาทของราชาวิญญาณมาร
ที่นี่มีการรวมตัวอย่างแน่นหนามาพักใหญ่แล้ว
ราชามารกระดูกชั่วร้ายที่ดูคล้ายกันสองตนต่อสู้อยู่บนท้องนภาขณะเผยพละกำลังที่มารระดับลอร์ดควรมี
กู่ฉิงซานยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มมารขณะเงยหน้าขึ้นเหมือนมารตนอื่น เขาดูราชามารกระดูกชั่วร้ายสองตนกำลังต่อสู้กัน
ราชามารกระดูกชั่วร้ายสองตน
มีสองตนจริงๆ
ขณะกู่ฉิงซานครุ่นคิด เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นในจิตของเขา
“เจอตัวเจ้าสักที”
นี่คือเสียงของลั่วปิงหลี
กู่ฉิงซานพลันหันมองกลับไป
อีกฝั่งที่อยู่ไกลจากเขามาก ชายในชุดคลุมกำลังมองเขา
“ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่” กู่ฉิงซานถาม
“ข้ากังวลว่าจะเกิดอะไรกับเจ้าน่ะ” ลั่วปิงหลีกล่าว
หลังจากกล่าวจบ นางเดินมาอยู่ข้างกู่ฉิงซาน
ชุดคลุมนั่นวิเศษมาก มันปกปิดลมหายใจมนุษย์ของนางได้อย่างสมบูรณ์ พวกมารล้วนให้ความสนใจกับการต่อสู้ระหว่างราชามารกระดูกชั่วร้ายสองตน ดังนั้นจึงไม่มีมารตนไหนค้นพบตัวตนของนาง
“อย่าห่วงไปเลย พวกมารที่นี่ไม่พบตัวตนที่แท้จริงของข้าหรอก” กู่ฉิงซานกล่าว
ลั่วปิงหลีถอนหายใจ “ทำไมจะไม่ห่วงล่ะ เจ้าคือคนแรกที่กลับมาจากอนาคตเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนเลยนะ หากเป็นอะไรขึ้นมา การเตรียมการทั้งหมดของพวกเราจะสูญเปล่า”
ลูกตาของกู่ฉิงซานขยับเล็กน้อย
เขาชำเลืองมองนางอย่างไม่สั่นคลอน จากนั้นหันสายตาไปดูราชามารกระดูกชั่วร้ายสองตนที่อยู่กลางอากาศต่อ
“ข้าเคยอยู่ที่นี่มาหลายครั้ง ย่อมให้ความสนใจกับปัญหาที่ควรจะสนใจ อย่าห่วงไปเลย”
ลั่วปิงหลีมองกลางอากาศเพื่อชมการต่อสู้ระหว่างราชามารกระดูกชั่วร้ายสองตนเช่นกัน
“ราชามารกระดูกชั่วร้ายสองตนกำลังสู้กันเพื่อเศษเสี้ยวโลกมารหรือ” นางถาม
“ข้าไม่รู้ ข้ามัวแต่ฝึกฝน ที่ออกมาดูสถานการณ์ก็เพราะสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวน่ะ” กู่ฉิงซานตอบ
“พวกเขาเป็นฝาแฝดกันหรือ” นางถามอีก
“ตั้งสติหน่อย…เจ้าต้องเข้าใจอย่างหนึ่งก่อน มารเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และคำโกหก หากสนใจในสิ่งที่พวกมันทำ เช่นนั้นเจ้าจะสงบสติไม่ได้จนไปทำอย่างอื่นแทน” กู่ฉิงซานตอบ
“แสดงว่าเจ้าไม่สนสิ่งรบกวนภายนอกเหล่านี้เลยหรือ” ลั่วปิงหลีกล่าวอย่างมีนัย
“ใช่ ข้าต้องวิวัฒนาการบัญญัติให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นก็ให้เผ่าพันธุ์เทพช่วยข้าไปเอาดาบศักดิ์สิทธิ์มา” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างจริงจัง
พวกเขาไม่พูดอะไรอีกพักใหญ่
บนท้องนภา การต่อสู้ระหว่างราชามารกระดูกชั่วร้ายสองตนรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ผ่านไปสักพัก
ลั่วปิงหลีพูดขึ้นอีกครั้งว่า “ที่จริง แผ่นหยกของข้าถูกขัดเกลาแล้ว พวกเราสามารถทิ้งมนุษย์แสงเพื่อไปโลกอื่นที่ถูกตระเตรียมโดยพวกเราเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้เลย เจ้าจะสามารถมุ่งตรงสู่ประวัติศาสตร์จริงจากที่นั่นได้ มันคือช่วงเวลาสุดท้ายที่ถูกทิ้งไว้โดยเผ่าพันธุ์มนุษย์”
“แต่มนุษย์แสงต้องมีทางตามข้ามาแน่…ก่อนหน้านี้ มันกับเทพจินเยี่ยนก็ตามข้ามาได้โดยตลอด ข้ารับความเสี่ยงนี้ไม่ได้” กู่ฉิงซานกล่าว
“เจ้ากลัวเขาหรือ” ลั่วปิงหลีถามขณะเอียงศีรษะ
“แน่นอนสิ มนุษย์แสงมีพละกำลังระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด สามารถอัญเชิญเผ่าพันธุ์เทพจำนวนนับไม่ถ้วนได้ มันสามารถฆ่าข้าเมื่อไหร่ก็ได้” กู่ฉิงซานกล่าว
“อย่ากลัวไปเลย ถ้ามีปัญหาอะไร ข้ายังสามารถป้องกันได้”
ลั่วปิงหลีจ้องกู่ฉิงซานขณะกล่าวอย่างแน่วแน่
กู่ฉิงซานส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “แบบนั้นแย่กว่าเดิมอีก พวกเราจัดการไม่ได้หรอก หากมันมาสร้างปัญหาตอนที่ได้ดาบศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ถึงตอนนั้นก็จะเกิดข้อผิดพลาดจนทำให้พวกเราไม่ได้ดาบมาครอง จากนั้นทุกสิ่งก็จะจบสิ้น”
เขาเน้นเสียงให้ชัดขึ้น “การเตรียมการทั้งหมดของพวกเราคือการเอาดาบศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้สำเร็จ เผ่าพันธุ์มนุษย์รอมานานแล้ว ทำไมครั้งนี้พวกเราต้องมาสนอย่างอื่นด้วย”
ลั่วปิงหลีเงียบไปสักพัก จากนั้นพยักหน้า
“ก็ได้ เจ้ามีค่าเพราะเป็นคนที่กลับมาจากอนาคต สามารถอดทนในเรื่องเตรียมการได้ ดังนั้นข้าจะยอมวางใจก็แล้วกัน” นางกล่าว
กู่ฉิงซานไม่พูด
ลั่วปิงหลีถามอีกครั้งว่า “เมื่อเวลามาถึง เจ้าต้องมอบพลังราชามารแห่งอารัมภบทให้มนุษย์แสงจริงหรือ”
“ไม่” กู่ฉิงซานปฏิเสธทันที “ถ้าพลังของราชามารแห่งอารัมภบทถูกมอบให้เผ่าพันธุ์เทพ เช่นนั้นพวกเขาจะหลบหนีออกจากยุคนี้แล้วไปอนาคตในอีกหนึ่งหมื่นปีต่อมา ถ้าเช่นนั้น โลกอนาคตจะถูกปกครองโดยพวกเขาอีกครั้ง”
“เจ้าจะไม่ยกให้มนุษย์แสงหรือ แต่สามเหรียญอยู่ในมือของมนุษย์แสงนะ เจ้าจะทำยังไงล่ะ” ลั่วปิงหลีถาม
กู่ฉิงซานตอบว่า “ตราบที่ข้าไม่ส่งพลังของราชามารแห่งอารัมภบทให้ สิ่งนั้นก็ไม่สามารถใช้อะไรได้”
ลั่วปิงหลีครุ่นคิดสักพักก่อนพยักหน้าอีกครั้ง
สิ่งที่กู่ฉิงซานพูดเป็นความจริง
ถึงแม้เผ่าพันธุ์เทพจะครอบครองสามเหรียญสองกลุ่มอำนาจ แต่ตราบที่กู่ฉิงซานไม่ยอมยกพลังของราชามารแห่งอารัมภบทให้ในตอนท้าย สิ่งนั้นก็ไม่สามารถใช้งานได้
“เอาเถอะ พอเห็นว่าทุกสิ่งในใจของเจ้าเด่นชัดขนาดนี้แล้ว ข้าก็วางใจ…เจ้าสามารถฝึกฝนอย่างหนักอยู่ที่นี่ได้เลย การพัฒนาพละกำลังของเจ้านับเป็นเรื่องดีเสมอ” ลั่วปิงหลีกล่าว
“ข้ารู้” กู่ฉิงซานตอบพร้อมยิ้มแห้ง
ต่อหน้ามังกรหลับใหล วิญญาณกรีดร้องและผู้ถักทอชีวิตหุบเหว หากเขาไม่ฝึกฝนให้หนักหลายร้อยปีก็ไม่มีทางได้พบเจอ
ลั่วปิงหลีพยักหน้าก่อนหันหลังแล้วจากไป
นางหาหนทางออกจากที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว
กู่ฉิงซานมองการต่อสู้ระหว่างราชามารกระดูกชั่วร้ายสองตนอีกครั้ง
ในใจของเขาปั่นป่วน ความคิดนับไม่ถ้วนกระจัดกระจาย ทำให้แผ่นหลังของเขาหลั่งเหงื่อเย็นออกมา
กู่ฉิงซานจากไปพร้อมมารตนอื่นหลังจากราชามารกระดูกชั่วร้ายสองตนนั้นหาผู้ชนะผู้แพ้ได้ ส่งผลให้การต่อสู้สิ้นสุดลง
ขณะเดินไปที่บาร์สบายๆ กู่ฉิงซานสั่งขวดสุราแล้วดื่มช้าๆ
มีมารธรรมดาตนอื่นอยู่ที่บาร์ด้วย ไม่มีตัวตนพิเศษแต่อย่างใด แต่เจ้าของบาร์เป็นมารทรงพลัง ดังนั้นทั่วทั้งบาร์จึงเงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวนแต่อย่างใด
กู่ฉิงซานเริ่มคิดขณะดื่มสุรา
การปรากฏตัวของราชามารกระดูกชั่วร้ายสองตนมันช่างบังเอิญเกินไป
มีเรื่องบังเอิญมากมายในโลก แต่มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่เรื่องนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญไปด้วย
ดังนั้นตอนลั่วปิงหลีถาม เขาจึงเลี่ยงคำถาม
ตอนนี้ กู่ฉิงซานไม่สามารถเชื่อใครได้อีกแล้ว
ลั่วปิงหลีใช้วิธีพิเศษในการเดินทางมาเพื่อกล่าวไม่กี่คำ
ในด้านดี ลั่วปิงหลีเป็นห่วงเขาและอนาคตของเผ่าพันธุ์มนุษย์
แต่อีกด้าน มันก็อาจจะกลับตาลปัตรไปเลยก็ได้
นางกำลังทดสอบว่าเขายังอยู่ในโลกวิญญาณมารหรือเปล่า
นางกำลังทดสอบว่าเขารู้เรื่องชีวิตของหุบเหวหรือไม่
นางกำลังทดสอบว่าเขาจะหนีไปพร้อมกับสามเหรียญหรือไม่
นางได้พิสูจน์อย่างหนึ่ง: หากนางรู้ถึงความสามารถของผู้ถักทอชีวิตหุบเหว เช่นนั้นนางก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ถักทอชีวิตหุบเหวที่มาปรากฏตัวด้วยรูปลักษณ์นี้…สาเหตุก็เพราะนางและราชามารกระดูกชั่วร้ายปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกัน
ถ้างั้นลั่วปิงหลีเป็นศัตรูหรือว่ามิตรกันล่ะ
กู่ฉิงซานจิบสุราคำหนึ่ง แต่ไม่มีคำตอบเกิดขึ้นในใจ
เขาคิดถึงอีกคำถาม
วิธีในการสังหารมังกรมาร…
ความจริง วิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้คือกลับไปสวรรค์ดึกดำบรรพ์แล้วไปดูคลังสมบัติมรดกของราชาเทพ
มีเพียงสิ่งประดิษฐ์วิญญาณจู่โจมสิบสองชิ้นเท่านั้นที่สามารถเปิดใช้งานคำสั่งศูนย์กักกันหุบเหวเพื่อสังหารวิญญาณของมังกรมารได้
กู่ฉิงซานจิบสุราขณะคิดไปเรื่อย
เรื่องนี้ ห้ามใช้เทพที่ยังมีชีวิตอยู่เด็ดขาด
ไม่ว่าจะสิบสองเทพที่ถูกส่งมาพร้อมกันหรือรวมกลุ่มกัน มันก็เป็นการเคลื่อนไหวที่โดดเด่นเกินไป
หากมีการเคลื่อนไหวที่ใหญ่ขนาดนั้น ไม่ว่าจะผู้ถักทอชีวิตหุบเหวหรือมังกรมารสังเกตเห็น มันจะทำให้เกิดสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้นเขาต้องกลับไปคลังสมบัติราชาเทพเพื่อหาทางเอง
แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถไปด้วยตัวเองได้
เขาเพิ่งบอกไปว่าจะมาโลกมาร จากนั้นก็เกิดเสียใจจนต้องกลับโลกสวรรค์อีกครั้งงั้นหรือ
เห็นได้ชัดว่ามันน่าสงสัย
กู่ฉิงซานถอนหายใจ ความลังเลและความอับอายในใจยิ่งมายิ่งมาก
ทำไมเขายังอยู่ที่นี่อีก
สายตาของเขาจับจ้องหน้างต่างระบบของหมื่นสวรรค์สิ้นโลกออนไลน์: การปฏิวัติ
ขณะบัญญัติของราชามารยังวิวัฒนาการ เขาจะเข้าใกล้ช่วงเวลาสุดท้ายมากขึ้นเรื่อยๆ
ดาบศักดิ์สิทธิ์
ดาบศักดิ์สิทธิ์รอเขาอยู่ที่จุดสิ้นสุดของเวลา
สิ่งที่ห้อมล้อมดาบศักดิ์สิทธิ์และภาพซ้อนทับเอาไว้คือตัวตนน่าสะพรึงนานาชนิดที่ฝังตัวหมากและถักทอเส้นด้ายยาวขึ้นมาเพื่อรอช่วงเวลาสุดท้ายที่ถูกซ่อนโดยเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้ถูกเผยออกมา
นี่นับว่าชัดเจนมาก
เผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณจากไปแล้ว ไม่มีใครสามารถสู้กับพวกน่าสะพรึงเหล่านั้นได้
สิ่งมีชีวิตจากสวรรค์และโลกมารไม่ต่างจากมดในสายตาพวกมัน
พวกมันสามารถทำลายเผ่าพันธุ์มนุษย์และโลกมารได้ทั้งหมด
แต่พวกมันไม่ทำแบบนั้น
ทำไมงั้นหรือ
กู่ฉิงซานดื่มสุราอึกแล้วอึกเล่า ปล่อยให้รสขมอันซาบซ่าแผ่ซ่านอยู่ในปาก
คำตอบเดียวคือพวกมันกำลังรอบางสิ่ง
ดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพถูกใช้โดยเผ่าพันธุ์มนุษย์
เผ่าพันธุ์มนุษย์ซ่อนดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพเอาไว้ พวกมันจึงหาไม่พบ
ส่วนตัวเขาเองที่เป็นผู้ฝึกยุทธจากอนาคตคือกุญแจสู่ช่วงเวลาสุดท้ายนั่น
กู่ฉิงซานส่ายหน้าก่อนดื่มสุราอีกหนึ่งแก้ว
เขารู้สึกว่าตัวเองอยู่บนเส้นทางแห่งความตาย
ตอนนี้ เขาต้องไม่รีบร้อน ต้องตัดสินใจก่อนลงมือ
แต่เพื่อช่วยดาบ เขาจะรออีกไม่ได้แล้ว
หากวิชาชะลอเวลาบนดาบพิภพหายไป…
กู่ฉิงซานผละจากแก้วสุรา ยกขวดขึ้นดื่มตรงๆ
สุราที่ทำมาเพื่อมารมีฤทธิ์แรงกว่า ไม่ต่างจากมีดเชือดเฉือนลำคอกับท้องของกู่ฉิงซานอย่างต่อเนื่อง
แต่เทียบกับสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกตอนนี้ สุรานี้ก็ไม่เท่าไหร่
กู่ฉิงซานดื่มสุราหมดขวดในคราวเดียว สุดท้ายจึงตัดสินใจได้
“เจ้าต้องวิวัฒนาการอีกครั้ง”
เขามองหน้าต่างระบบสีชาดตรงหน้าแล้วกล่าวเช่นนั้น
การกล่าวประโยคนี้มีความหมายว่าเขาจะเข้าใกล้ดาบศักดิ์สิทธิ์อีกขั้น
มันยังเป็นอีกก้าวที่เข้าสู่อันตรายอีกด้วย
แถวตัวอักษรขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบสีชาดทันที
“ร่างวิวัฒนาการต่อไปคือ: คลื่นมาร”
“ตามกฎการวิวัฒนาการ ท่านต้องเลือกโหมดวิวัฒนาการเร็วที่สุดก่อน ดังนั้นการทำงานจำนวนมากของบัญญัตินี้จะไม่ทำงาน”
“ก่อนบัญญัติจะเข้าสู่การวิวัฒนาการครั้งต่อไป ท่านต้องทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาให้สำเร็จก่อน นี่คือขั้นตอนที่จำเป็น”
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “บอกภารกิจมา”
“ได้ ภารกิจถูกเตรียมแล้ว”
ตัวอักษรโลหิตขนาดเล็กปรากฏขึ้นมา
บนหน้าต่างระบบ ภารกิจใหม่ปรากฏขึ้นมา
“รายละเอียดภารกิจ: พวกเราต้องการร่างของมังกรมาร”