เซี่ยนเอ๋อขบริมฝีปาก นางตัดผลไม้และเก็บใส่กล่องหยกอย่างระมัดระวัง
เซี่ยนเอ๋อกำหมัดน้อยๆของนางอย่างจริงจัง
“พี่หิมะทมิฬ ข้าคือฉินเซี่ยนเอ๋อ! ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องใช้ผลก้นบึ้งมังกรนี่ ข้าขอโทษที่ข้าต้องรับเอาไว้ ข้าจะต้องตอบแทนอย่างแน่นอน!”
ซือหยูมองนางด้วยความรัก
“ข้าจะรอ”
เซี่ยนเอ๋อยิ้มกว้างอย่างน่ารัก นางเก็บกล่องหยกใส่กระเป๋าขวาซึ่งต่างกับในครั้งแรกที่เก็บใส่กระเป๋าซ้าย
“ทำไมเจ้าไม่เก็บทั้งสองผลไว้ด้วยกันเล่า?”
เซี่ยนเอ๋อเงยหน้ามอง นางพูดอย่างลึกลับ
“ความลับน่ะ”
หลงเฟยหยูมองด้วยความไม่เป็นมิตร เขาคือคนที่กำลังช่วยให้เซี่ยนเอ๋อได้เป็นผู้คุมสวรรค์ แต่เขาก็ถูกซือหยูเข้ามาขัดขวาง!
“ราชาปีศาจหิมะทมิฬ..”
“ไม่ง่ายที่จะเจอผลก้นบึ้งมังกร เจ้าไม่โชคดีตลอดไปหรอก! เซี่ยนเอ๋อ ไปกันเถอะ!”
เซี่ยนเอ๋อแลบลิ้นอย่างซุกซน
“พี่หิมะทมิฬ ไว้เจอกันใหม่”
ซือหยูโบกมือมองทั้งสองจากไปก่อนที่จะหายลับไปในหมอก
ซือหยูใช้เนตรวิญญาณมองดูตลอดระยะหลายร้อยลี้ เขาไม่เจออะไรเลยหลังจากที่ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ดูเหมือนว่าเขาจะโชคดีมากจริงๆที่ได้พบมันตั้งแต่ลงมา
แต่ในตอนนั้นเอง ซือหยูพบผลก้นบึ้งมังกรในร่องกำแพงไม่ไกลนัก เขาจะก้าวออกไปแต่ก็พบหญิงสาวในชุดแดงบินเข้ามา นางมีรูปร่างผอมบางและแผ่รังสีอันอ่อนโยน แม้ว่าจะมีไอวารีที่มิอาจทำให้เห็นใบหน้าแม้จะมองด้วยเนตรวิญญาณ แต่นางจะต้องมีรูปลักษณ์ที่งดงามมากเป็นแน่
หญิงสาวคว้าผลก้นบึ้งมังกรด้วยความยินดี แต่ในตอนนั้นซือหยูก็ชักสีหน้า
“หยุดนะ!”
ซือหยูพูด
ซือหยูพุ่งไปยังอีกฝั่ง หญิงสาวมิได้ทันระวังตัวข้างหลัง นางตกใจอย่างมากที่อีกฝ่ายเข้ามาจากด้านหลัง กระบี่วารีก่อตัวขึ้นในมือซ้ายโดยที่นางไม่ทันคิด นางซัดกระบี่เข้าใส่คนที่พุ่งเข้ามา
มันคือการโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวแต่พลังนั้นก็เทียบเท่ากับผู้คุมสวรรค์! ซือหยูแอบตกใจที่อำมฤตระดับสี่ขั้นสูงปล่อยพลังอันทรงพลังเช่นนั้นออกมาได้อย่างง่ายดาย!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอำมฤตระดับสี่มีพลังเทียบเท่าผู้คุมสวรรค์ แต่ซือหยูก็ไม่สนใจนาง เขาเอื้อมมือไปหาแขนของนาง หญิงสาวซัดกระบี่ด้วยความโกรธ นางชี้กระบี่เข้าใส่อกของซือหยู
ตู้ม—
แม้จะต้องกระบี่วารีแต่ก็ไม่มีสิ่งตอบสนองในมือของนาง กระบี่วารีสั่นสลาย! กายเนื้อของเขาทรงพลังอย่างมาก!
นางขมวดคิ้วใจหาย แย่แล้ว!
ซือหยูใช้จังหวะนี้จับแขนของนางและดึงนางเข้ามาที่อก พลังและความเร็วนั้นแยกมือนางออกจากผลก้นบึ้งมังกรได้ ร่างของนางปะทะกับตัวซือหยู
นางทั้งอับอายและโกรธเกรี้ยว
“เจ้า…”
ปึก—
เสียงระเบิดเบาๆดังก้องหู ไอหมอกพิษแพร่กระจายมาทางพวกเขา!
หนอนตัวเล็กสีดำสนิทคลานออกมา ไอพิษที่ปล่อยออกมาตามรูขุมขนทำให้หินโดยรอบถูกกัดกร่อนหายไปในทันที! ผลก้นบึ้งมังกรก็ต้องไอพิษนั้น มันหลอมรวมเป็นก้อนพิษอย่างช่วยไม่ได้
หญิงสาวตกใจ อกที่ติดอยู่กับตัวนางผละออกและพูดอย่างใจเย็น
“ที่นี่อันตราย เจ้าจะประมาทไม่ได้”
นางหน้าแดง คนที่พุ่งเจ้ามาจู่โจมไม่ได้หวังผลก้นบึ้งมังกรแม้แต่น้อย เขาไม่ได้พยายามจะทำร้ายนาง เขากลับสัมผัสได้ถึงอันตรายและเข้ามาช่วยชีวิตนาง!
หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มเมื่อได้สติ
“เจ้าเป็นอะไรไหม?”
นางถาม น้ำเสียงนางดูรีบร้อนและรู้สึกผิด
ซือหยูสัมผัสอกที่ต้องกระบี่วารีและส่ายหน้า
“ข้าไม่เป็นไร”
นอกจากความเจ็บปวดเล็กน้อยเขาก็ไม่เป็นอะไร ระดับกายเนื้อของราชามนุษย์นั้นน่ากลัวโดยแท้จริง! ซือหยูเข้าใจแล้วว่าเหตุใดผู้คุมสวรรค์ถึงทำอะไรราชามนุษย์ไม่ได้ เขายังรู้ถึงความโชคดีที่เขาหนีรอดจากเฉินยิ่งมาได้
หญิงสาวมองเขา ชุดของเขาถูกเฉือนเปิดออก นอกจากนั้นก็ไม่มีบาดแผล
เมื่อนางได้พักหายไปก็มีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามา เขาสวมชุดคลุมดำอย่างสง่างาม
“ยี่หยู เกิดอะไรขึ้น?”
ฉิงจูกำลังมองหาผลก้นบึ้งมังกรจากอีกด้านและพุ่งเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงความวุ่นวาย
เซี่ยจิงหยูพูดตอบ
“ข้าเจอแมลงที่พิษร้ายแรงอย่างมาก เขาช่วยข้าเอาไว้”
เขารึ? ฉิงจูมองซือหยูและก้าวไปขวางหน้าเซี่ยจิงหยู เขาประสานหมัด
“ข้าคือจ้าวฉิงจูแห่งอาณาจักรทมิฬ นี่คือจ้าวยี่หยู ข้าขอถามนามของเจ้าจะได้หรือไม่?”
การได้พบกับคนแปลกหน้าในสถานที่อันตรายอย่างก้นบึ้งมังกรนั้นน่าสงสัยอย่างมาก
ยี่หยูรึ? ซือหยูใจสั่น! เซี่ยจิงหยูได้ถูกแนะนำให้กับตำหนักหลักเพื่อรับเลือกเป็นจ้าวแห่งความมืด นางได้ชื่อยี่หยูมาครอง คนตรงหน้าเขาคือยี่หยูตัวจริงงั้นรึ?
เขาจ้องมองจ้าวยี่หยู ร่างของนางต่างกับเซี่ยจิงหยูเมื่อสามปีก่อนอย่างสิ้นเชิง ในตอนนั้นเซี่ยจิงหยูอายุเพียงสิบสี่ปี ส่วนคนตรงหน้าเขาเป็นหญิงสาวอายุสิบเจ็ด ความต่างนั้นแทบจะคนละคน แต่ถ้ามีคนจากอาณาจักรทมิฬอยู่ข้างนางซือหยูก็มิอาจเริ่มถามนางได้! การเผยตัวตนจะนำพาภัยพิบัติมาสู่เขา
“ราชาปีศาจหิมะทมิฬ…”
ซือหยูตอบชัดถ้อยชัดคำ
“มีอะไรอีกหรือไม่? ถ้าไม่มีอะไร…ลาก่อน!”
ซือหยูหยุดความคิดที่จะถามว่านางคือเซี่ยจิงหยูหรือไม่ เขาตัดสินใจเลือกที่จะจากไป
“เดี๋ยวก่อน! เจ้าคือราชาปีศาจหิมะทมิฬตัวจริงรึ?”
ทั้งสองตกตะลึง ราชาปีศาจหิมะทมิฬผู้นี้ได้ละเลงโลหิตไปล้านลี้
เซี่ยจิงหยูศึกษาเรื่องของราชาปีศาจหิมะทมิฬมาก่อน เขาตาบอดแต่ก็รับรู้สัมผัสได้ดีกว่าคนทั่วไป เขาไล่ล่านายน้อยตระกูลยี่เป็นล้านลี้โดยไม่คลาดสายตา แต่มีพลังอำมฤตระดับสี่ขั้นสูง เป็นธรรมดาที่เขาจะมาที่นี่
เซี่ยจิงหยูกล่าวเชิญชวนอย่างเป็นมิตร
“ตามพวกเรามาเถอะ อย่างที่เจ้าพูด ที่นี่อันตรายจริงๆ ถ้าได้ดูแลกันและกันก็คงจะดีไม่น้อย”
ซือหยูตัวแข็งทื่อ เขาคิดร้ายต่อเจ็ดจ้าวแห่งความมืดเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลิงเสี่ยวเทียน แต่จ้าวยี่หยูผู้นี้รู้จักการตอบแทนบุญคุณ
เขายังไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธแต่จ้าวฉิงจูก็เลิกคิ้วและหยิบผลก้นบึ้งมังกรที่ไม่สมบูรณ์ออกมา
“เจ้าช่วยยี่หยูไว้สินะ ข้าไม่มีอะไรจะตอบแทนนอกจากสิ่งนี้ รับไปซะ!”
เขาโยนมันให้ซือหยูก่อนที่จะถอยกลับ
“ไปเถอะยี่หยู ราชาปีศาจหิมะทมิฬมีทางเอาตัวรอดอยู่แล้ว ความเป็นห่วงของพวกเราไม่จำเป็นเลย”
แม้เขาจะส่งเสียงพูดเช่นนั้น แต่เขากลับแอบพูดในจิตใจของยี่หยู
“ยี่หยู! เจ้ายังอ่อนวัยและไม่รู้จักความโหดร้ายของโลกใบนี้ ราชาหิมะทมิฬล้างสังหารคนเป็นล้านลี้ เขาเชื่อใจไม่ได้! การเชิญเขาเข้ากลุ่มไม่ต่างจากการเชิญภัยเข้ามาเลย!”
แต่ฉิงจูคิดอีกแบบ เขาคิดว่าแค่เขาคนเดียวก็ปกป้องยี่หยูได้ ไม่จำเป็นต้องมีบุรุษคนที่สอง!
ส่วนเรื่องที่ซือหยูจะก่อปัญหาเมื่อเข้ากลุ่ม…เขานั้นไม่ได้คิดถึงมันเลย คนที่ยังไม่เป็นผู้คุมสวรรค์จะทำอะไรกับราชามนุษย์อย่างเขาได้? เขาจบชีวิตอีกฝ่ายได้เพียงสะบัดมือ
“ฉิงจูพูดถูก เจ้าควรจะระวังตัว เจ้าไม่ต้องห่วงข้า ลาก่อน”
ซือหยูประสานหมัด ส่วนผลก้นบึ้งมังกร เขาสะบัดมือและส่งมันลอยกลับไป
“ข้าไม่สนใจของที่เสียหาย จ้าวฉิงจูเก็บไว้เองเถอะ”
ซือหยูไม่หันกลับมามอง ฉิงจูรู้สึกอัปยศอย่างมาก เขาคว้าผลก้นบึ้งมังกรเอาไว้
“ไม่มั่นใจเกินไปหน่อยเรอะ?”
“ผลมังกรก้นบึ้งนับว่าหายากมาก เขาแสร้งทำและดื้อด้านที่จะอวดดี ปฏิเสธความหวังดีจากข้า! เขาต้องเสียเวลาอีกเยอะกว่าจะได้ผลก้นบึ้งมังกรที่ปฏิเสธไป”
แต่เซี่ยจิงหยูมองฉิงจูอย่างเยือกเย็น
“ข้าไม่คิดว่าคนที่มีผลก้นบึ้งมังกรแบบสมบูรณ์ที่ปฏิเสธลูกที่เสียหายจะอวดดีหรอกนะ”
ฉิงจูใบหน้าบิดเบี้ยว
“แบบสมบูรณ์รึ? เขาน่ะรึ?”
เซี่ยจิงหยูโบกมือรวบรวมไอวารีจากโดยรอบ เศษส่วนของพลังก่อตัวเป็นรูปร่าง
ฉิงจูอับอายเมื่อได้เห็นภาพไอวารี
“นั่นสินะ…”
อีกฝ่ายมีผลก้นบึ้งมังกรแบบสมบูรณ์ แต่เขาก็โยนผลแบบเสียหายไปให้โดยหวังจะเล่นตลกกับขอทาน แต่เทียบกันแล้ว…ดูเหมือนเขาจะเป็นขอทานเสียมากกว่า! การกระทำนี้ส่อความอ่อนด้อยในตัวเขา
“แล้วก็…”
“ถ้าเขาอยากจะทำร้ายข้า เขาก็ทำได้สำเร็จก่อนที่เจ้าจะมาถึงเสียอีก เขาแข็งแกร่งมาก แม้แต่เจ้าก็อาจจะทำอะไรเขาไม่ได้”
หรือพูดอีกอย่างก็คือ…ฉิงดูนั้นดูราวกับเป็นวีรบุรุษที่มีดวงตาของผู้ร้าย ถ้าซือหยูอยากจะโจมตี มันก็สายเกินไปที่ฉิงจูจะเข้ามาช่วย
ฉิงจูเดาะลิ้น
“จะเป็นเช่นนั้นรึ?”
เซี่ยจิงหยูไม่คิดจะอธิบายแม้ว่านางจะรู้ว่าฉิงจูจะไม่พอใจ นางยังคงค้นหาต่อไปอย่างไร้อารมณ์
ซือหยูเลือกไปอีกทาง เขาเพ่งสมาธิอยู่กับการค้นหาผลก้นบึ้งมังกร