ตอนที่ 406

The Divine Nine Dragon Cauldron

เซี่ยนเอ๋อขบริมฝีปาก นางตัดผลไม้และเก็บใส่กล่องหยกอย่างระมัดระวัง

 

เซี่ยนเอ๋อกำหมัดน้อยๆของนางอย่างจริงจัง

 

“พี่หิมะทมิฬ ข้าคือฉินเซี่ยนเอ๋อ! ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องใช้ผลก้นบึ้งมังกรนี่ ข้าขอโทษที่ข้าต้องรับเอาไว้ ข้าจะต้องตอบแทนอย่างแน่นอน!”

 

ซือหยูมองนางด้วยความรัก

 

“ข้าจะรอ”

 

เซี่ยนเอ๋อยิ้มกว้างอย่างน่ารัก นางเก็บกล่องหยกใส่กระเป๋าขวาซึ่งต่างกับในครั้งแรกที่เก็บใส่กระเป๋าซ้าย

 

“ทำไมเจ้าไม่เก็บทั้งสองผลไว้ด้วยกันเล่า?”

 

เซี่ยนเอ๋อเงยหน้ามอง นางพูดอย่างลึกลับ

 

“ความลับน่ะ”

 

หลงเฟยหยูมองด้วยความไม่เป็นมิตร เขาคือคนที่กำลังช่วยให้เซี่ยนเอ๋อได้เป็นผู้คุมสวรรค์ แต่เขาก็ถูกซือหยูเข้ามาขัดขวาง!

 

“ราชาปีศาจหิมะทมิฬ..”

 

“ไม่ง่ายที่จะเจอผลก้นบึ้งมังกร เจ้าไม่โชคดีตลอดไปหรอก! เซี่ยนเอ๋อ ไปกันเถอะ!”

 

เซี่ยนเอ๋อแลบลิ้นอย่างซุกซน

 

“พี่หิมะทมิฬ ไว้เจอกันใหม่”

 

ซือหยูโบกมือมองทั้งสองจากไปก่อนที่จะหายลับไปในหมอก

 

ซือหยูใช้เนตรวิญญาณมองดูตลอดระยะหลายร้อยลี้ เขาไม่เจออะไรเลยหลังจากที่ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ดูเหมือนว่าเขาจะโชคดีมากจริงๆที่ได้พบมันตั้งแต่ลงมา

 

แต่ในตอนนั้นเอง ซือหยูพบผลก้นบึ้งมังกรในร่องกำแพงไม่ไกลนัก เขาจะก้าวออกไปแต่ก็พบหญิงสาวในชุดแดงบินเข้ามา นางมีรูปร่างผอมบางและแผ่รังสีอันอ่อนโยน แม้ว่าจะมีไอวารีที่มิอาจทำให้เห็นใบหน้าแม้จะมองด้วยเนตรวิญญาณ แต่นางจะต้องมีรูปลักษณ์ที่งดงามมากเป็นแน่

 

หญิงสาวคว้าผลก้นบึ้งมังกรด้วยความยินดี แต่ในตอนนั้นซือหยูก็ชักสีหน้า

 

“หยุดนะ!”

 

ซือหยูพูด

 

ซือหยูพุ่งไปยังอีกฝั่ง หญิงสาวมิได้ทันระวังตัวข้างหลัง นางตกใจอย่างมากที่อีกฝ่ายเข้ามาจากด้านหลัง กระบี่วารีก่อตัวขึ้นในมือซ้ายโดยที่นางไม่ทันคิด นางซัดกระบี่เข้าใส่คนที่พุ่งเข้ามา

 

มันคือการโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวแต่พลังนั้นก็เทียบเท่ากับผู้คุมสวรรค์! ซือหยูแอบตกใจที่อำมฤตระดับสี่ขั้นสูงปล่อยพลังอันทรงพลังเช่นนั้นออกมาได้อย่างง่ายดาย!

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอำมฤตระดับสี่มีพลังเทียบเท่าผู้คุมสวรรค์ แต่ซือหยูก็ไม่สนใจนาง เขาเอื้อมมือไปหาแขนของนาง หญิงสาวซัดกระบี่ด้วยความโกรธ นางชี้กระบี่เข้าใส่อกของซือหยู

 

ตู้ม—

 

แม้จะต้องกระบี่วารีแต่ก็ไม่มีสิ่งตอบสนองในมือของนาง กระบี่วารีสั่นสลาย! กายเนื้อของเขาทรงพลังอย่างมาก!

 

นางขมวดคิ้วใจหาย แย่แล้ว!

 

ซือหยูใช้จังหวะนี้จับแขนของนางและดึงนางเข้ามาที่อก พลังและความเร็วนั้นแยกมือนางออกจากผลก้นบึ้งมังกรได้ ร่างของนางปะทะกับตัวซือหยู

 

นางทั้งอับอายและโกรธเกรี้ยว

 

“เจ้า…”

 

ปึก—

 

เสียงระเบิดเบาๆดังก้องหู ไอหมอกพิษแพร่กระจายมาทางพวกเขา!

 

หนอนตัวเล็กสีดำสนิทคลานออกมา ไอพิษที่ปล่อยออกมาตามรูขุมขนทำให้หินโดยรอบถูกกัดกร่อนหายไปในทันที! ผลก้นบึ้งมังกรก็ต้องไอพิษนั้น มันหลอมรวมเป็นก้อนพิษอย่างช่วยไม่ได้

 

หญิงสาวตกใจ อกที่ติดอยู่กับตัวนางผละออกและพูดอย่างใจเย็น

 

“ที่นี่อันตราย เจ้าจะประมาทไม่ได้”

 

นางหน้าแดง คนที่พุ่งเจ้ามาจู่โจมไม่ได้หวังผลก้นบึ้งมังกรแม้แต่น้อย เขาไม่ได้พยายามจะทำร้ายนาง เขากลับสัมผัสได้ถึงอันตรายและเข้ามาช่วยชีวิตนาง!

 

หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มเมื่อได้สติ

 

“เจ้าเป็นอะไรไหม?”

 

นางถาม น้ำเสียงนางดูรีบร้อนและรู้สึกผิด

 

ซือหยูสัมผัสอกที่ต้องกระบี่วารีและส่ายหน้า

 

“ข้าไม่เป็นไร”

 

นอกจากความเจ็บปวดเล็กน้อยเขาก็ไม่เป็นอะไร ระดับกายเนื้อของราชามนุษย์นั้นน่ากลัวโดยแท้จริง! ซือหยูเข้าใจแล้วว่าเหตุใดผู้คุมสวรรค์ถึงทำอะไรราชามนุษย์ไม่ได้ เขายังรู้ถึงความโชคดีที่เขาหนีรอดจากเฉินยิ่งมาได้

 

หญิงสาวมองเขา ชุดของเขาถูกเฉือนเปิดออก นอกจากนั้นก็ไม่มีบาดแผล

 

เมื่อนางได้พักหายไปก็มีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามา เขาสวมชุดคลุมดำอย่างสง่างาม

 

“ยี่หยู เกิดอะไรขึ้น?”

 

ฉิงจูกำลังมองหาผลก้นบึ้งมังกรจากอีกด้านและพุ่งเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงความวุ่นวาย

 

เซี่ยจิงหยูพูดตอบ

 

“ข้าเจอแมลงที่พิษร้ายแรงอย่างมาก เขาช่วยข้าเอาไว้”

 

เขารึ? ฉิงจูมองซือหยูและก้าวไปขวางหน้าเซี่ยจิงหยู เขาประสานหมัด

 

“ข้าคือจ้าวฉิงจูแห่งอาณาจักรทมิฬ นี่คือจ้าวยี่หยู ข้าขอถามนามของเจ้าจะได้หรือไม่?”

 

การได้พบกับคนแปลกหน้าในสถานที่อันตรายอย่างก้นบึ้งมังกรนั้นน่าสงสัยอย่างมาก

 

ยี่หยูรึ? ซือหยูใจสั่น! เซี่ยจิงหยูได้ถูกแนะนำให้กับตำหนักหลักเพื่อรับเลือกเป็นจ้าวแห่งความมืด นางได้ชื่อยี่หยูมาครอง คนตรงหน้าเขาคือยี่หยูตัวจริงงั้นรึ?

 

เขาจ้องมองจ้าวยี่หยู ร่างของนางต่างกับเซี่ยจิงหยูเมื่อสามปีก่อนอย่างสิ้นเชิง ในตอนนั้นเซี่ยจิงหยูอายุเพียงสิบสี่ปี ส่วนคนตรงหน้าเขาเป็นหญิงสาวอายุสิบเจ็ด ความต่างนั้นแทบจะคนละคน แต่ถ้ามีคนจากอาณาจักรทมิฬอยู่ข้างนางซือหยูก็มิอาจเริ่มถามนางได้! การเผยตัวตนจะนำพาภัยพิบัติมาสู่เขา

 

“ราชาปีศาจหิมะทมิฬ…”

 

ซือหยูตอบชัดถ้อยชัดคำ

 

“มีอะไรอีกหรือไม่? ถ้าไม่มีอะไร…ลาก่อน!”

 

ซือหยูหยุดความคิดที่จะถามว่านางคือเซี่ยจิงหยูหรือไม่ เขาตัดสินใจเลือกที่จะจากไป

 

“เดี๋ยวก่อน! เจ้าคือราชาปีศาจหิมะทมิฬตัวจริงรึ?”

 

ทั้งสองตกตะลึง ราชาปีศาจหิมะทมิฬผู้นี้ได้ละเลงโลหิตไปล้านลี้

 

เซี่ยจิงหยูศึกษาเรื่องของราชาปีศาจหิมะทมิฬมาก่อน เขาตาบอดแต่ก็รับรู้สัมผัสได้ดีกว่าคนทั่วไป เขาไล่ล่านายน้อยตระกูลยี่เป็นล้านลี้โดยไม่คลาดสายตา แต่มีพลังอำมฤตระดับสี่ขั้นสูง เป็นธรรมดาที่เขาจะมาที่นี่

 

เซี่ยจิงหยูกล่าวเชิญชวนอย่างเป็นมิตร

 

“ตามพวกเรามาเถอะ อย่างที่เจ้าพูด ที่นี่อันตรายจริงๆ ถ้าได้ดูแลกันและกันก็คงจะดีไม่น้อย”

 

ซือหยูตัวแข็งทื่อ เขาคิดร้ายต่อเจ็ดจ้าวแห่งความมืดเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลิงเสี่ยวเทียน แต่จ้าวยี่หยูผู้นี้รู้จักการตอบแทนบุญคุณ

 

เขายังไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธแต่จ้าวฉิงจูก็เลิกคิ้วและหยิบผลก้นบึ้งมังกรที่ไม่สมบูรณ์ออกมา

 

“เจ้าช่วยยี่หยูไว้สินะ ข้าไม่มีอะไรจะตอบแทนนอกจากสิ่งนี้ รับไปซะ!”

 

เขาโยนมันให้ซือหยูก่อนที่จะถอยกลับ

 

“ไปเถอะยี่หยู ราชาปีศาจหิมะทมิฬมีทางเอาตัวรอดอยู่แล้ว ความเป็นห่วงของพวกเราไม่จำเป็นเลย”

 

แม้เขาจะส่งเสียงพูดเช่นนั้น แต่เขากลับแอบพูดในจิตใจของยี่หยู

 

“ยี่หยู! เจ้ายังอ่อนวัยและไม่รู้จักความโหดร้ายของโลกใบนี้ ราชาหิมะทมิฬล้างสังหารคนเป็นล้านลี้ เขาเชื่อใจไม่ได้! การเชิญเขาเข้ากลุ่มไม่ต่างจากการเชิญภัยเข้ามาเลย!”

 

แต่ฉิงจูคิดอีกแบบ เขาคิดว่าแค่เขาคนเดียวก็ปกป้องยี่หยูได้ ไม่จำเป็นต้องมีบุรุษคนที่สอง!

 

ส่วนเรื่องที่ซือหยูจะก่อปัญหาเมื่อเข้ากลุ่ม…เขานั้นไม่ได้คิดถึงมันเลย คนที่ยังไม่เป็นผู้คุมสวรรค์จะทำอะไรกับราชามนุษย์อย่างเขาได้? เขาจบชีวิตอีกฝ่ายได้เพียงสะบัดมือ

 

“ฉิงจูพูดถูก เจ้าควรจะระวังตัว เจ้าไม่ต้องห่วงข้า ลาก่อน”

 

ซือหยูประสานหมัด ส่วนผลก้นบึ้งมังกร เขาสะบัดมือและส่งมันลอยกลับไป

 

“ข้าไม่สนใจของที่เสียหาย จ้าวฉิงจูเก็บไว้เองเถอะ”

 

ซือหยูไม่หันกลับมามอง ฉิงจูรู้สึกอัปยศอย่างมาก เขาคว้าผลก้นบึ้งมังกรเอาไว้

 

“ไม่มั่นใจเกินไปหน่อยเรอะ?”

 

“ผลมังกรก้นบึ้งนับว่าหายากมาก เขาแสร้งทำและดื้อด้านที่จะอวดดี ปฏิเสธความหวังดีจากข้า! เขาต้องเสียเวลาอีกเยอะกว่าจะได้ผลก้นบึ้งมังกรที่ปฏิเสธไป”

 

แต่เซี่ยจิงหยูมองฉิงจูอย่างเยือกเย็น

 

“ข้าไม่คิดว่าคนที่มีผลก้นบึ้งมังกรแบบสมบูรณ์ที่ปฏิเสธลูกที่เสียหายจะอวดดีหรอกนะ”

 

ฉิงจูใบหน้าบิดเบี้ยว

 

“แบบสมบูรณ์รึ? เขาน่ะรึ?”

 

เซี่ยจิงหยูโบกมือรวบรวมไอวารีจากโดยรอบ เศษส่วนของพลังก่อตัวเป็นรูปร่าง

 

ฉิงจูอับอายเมื่อได้เห็นภาพไอวารี

 

“นั่นสินะ…”

 

อีกฝ่ายมีผลก้นบึ้งมังกรแบบสมบูรณ์ แต่เขาก็โยนผลแบบเสียหายไปให้โดยหวังจะเล่นตลกกับขอทาน แต่เทียบกันแล้ว…ดูเหมือนเขาจะเป็นขอทานเสียมากกว่า! การกระทำนี้ส่อความอ่อนด้อยในตัวเขา

 

“แล้วก็…”

 

“ถ้าเขาอยากจะทำร้ายข้า เขาก็ทำได้สำเร็จก่อนที่เจ้าจะมาถึงเสียอีก เขาแข็งแกร่งมาก แม้แต่เจ้าก็อาจจะทำอะไรเขาไม่ได้”

 

หรือพูดอีกอย่างก็คือ…ฉิงดูนั้นดูราวกับเป็นวีรบุรุษที่มีดวงตาของผู้ร้าย ถ้าซือหยูอยากจะโจมตี มันก็สายเกินไปที่ฉิงจูจะเข้ามาช่วย

 

ฉิงจูเดาะลิ้น

 

“จะเป็นเช่นนั้นรึ?”

 

เซี่ยจิงหยูไม่คิดจะอธิบายแม้ว่านางจะรู้ว่าฉิงจูจะไม่พอใจ นางยังคงค้นหาต่อไปอย่างไร้อารมณ์

 

ซือหยูเลือกไปอีกทาง เขาเพ่งสมาธิอยู่กับการค้นหาผลก้นบึ้งมังกร