ตอนที่ 1123 ผลที่ต้องเผชิญ!

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

“เรายังต้องสืบต่อไปครับ” คำตอบของโม่ถิงฟังดูเรียบง่ายหากแต่สายตาของเขากลับฉายแววอ่านยาก

การลู่เช่อที่ใช้เวลานานในการตามสืบ เห็นชัดว่าคนพวกนี้นั้นจัดการได้ยากเพียงไหน

“ช่วงนี้คุณต้องระวังตัวหน่อยนะคะ”

ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงบ้านตระกูลถังและได้เจอโม่จื่อเฉินที่ปิดตาไว้ข้างหนึ่งนั่งหน้ามุ่ยอยู่ท่ามกลางพี่น้องของเขา ท่าทีของเขาดูเหมือนกับชายสูงวัยไม่มีผิด ไม่เหมือนสิ่งที่เด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเขาเป็นกันเลยสักนิด

ในขณะที่โม่จื่อเฉินทำหน้างอหลบอยู่ที่มุมหนึ่งอย่างไม่นึกสนุกที่ผู้ใหญ่เข้ามาเล่นด้วย โม่จื่อซีกลับกำลังส่งเสียงเอิ๊กอ๊ากกับลูกสาวของถังเซวียน

“พวกเธอมาถึงกันแล้ว”

ผู้อาวุโสถังมองทั้งคู่อย่างยินดี ตอนนี้เขาเกษียณอายุแล้ว ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นกับหลานๆ

“เจ้าสองแสบนี่ไม่ได้ก่อเรื่องอะไรให้ใช่ไหมคะ”

“ปู่กังวลว่าหลานจะมาเอาตัวพวกเขาไปมากกว่าซะอีก” ผู้อาวุโสถังรักเด็กสองคนนี้จะตาย โดยเฉพาะโม่จื่อเฉินซึ่งไม่เคยร้องไห้งอแงสักครั้ง เขาเป็นคนที่น่าสนใจอย่างกับว่าเขามีจิตใจเป็นผู้ใหญ่อย่างไรอย่างนั้น

“ดีแล้วล่ะค่ะ” ถังหนิงมองลูกๆ ของเธอ แม้ว่าเธอจะเป็นแม่ของพวกเขาก็ยังหาโอกาสกอดพวกเขาได้ยาก

มีคนมากมายในบ้าน ทุกคนมีเวลาอยู่กับเด็กๆ ไม่มาก ผ่านไปครึ่งชั่วโมงเธอถึงจะได้เข้าไปหาลูก ถัง

หนิงเริ่มรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยก่อนที่เธอจะรู้เรื่องนี้

“ช่วงนี้ปู่เห็นข่าวเกี่ยวกับหลานอยู่ ทุกอย่างไม่เป็นไรใช่ไหม” ผู้อาวุโสถังถามขึ้นระหว่างมื้อเย็น เมื่อถัง

หนิงกับโม่ถิงไม่ตอบ เขาก็หัวเราะออกมา “บางทีอาจเป็นเพราะฉันแก่แล้ว จนชินกับการเห็นคนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามา เลยเฉยชากับการหักหลังอย่างนี้ของพวกคนหนุ่มสาวซะแล้วล่ะ

“การจากลาเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุกความสัมพันธ์ โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้เงิน แม้กระทั่งหลานกับโม่ถิงที่รักกันมาก สุดท้ายก็ต้องจากกันตอนที่อีกคนจากโลกใบนี้ไปก่อนอีกคนหนึ่งอยู่ดี ดังนั้นสิ่งที่หลานต้องทำก็คืออย่าไปเก็บคนและเรื่องที่ไม่สำคัญพวกนี้มาทำให้หงุดหงิดใจเลย…

“เข้าใจไหม”

“ค่ะ หนูเข้าใจค่ะคุณปู่” ถังหนิงตอบ “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หนูจัดการได้ค่ะ”

“ดีแล้วล่ะ ปู่รู้ว่าหลานสาวกับหลานเขยตัวเองเก่งแค่ไหน!” ผู้อาวุโสถังเอ่ยชม “หลานต้องจำเอาไว้ว่าตระกูลถังจะคอยสนับสนุนหลานอยู่ตรงนี้เสมอนะ แต่ปู่เองก็หวังว่าหลานจะไม่ต้องมาขอให้เราช่วยจริงๆ หรอก”

อย่างไรเสียก็ไม่มีสิ่งใดที่ถังหนิงกับโม่ถิงจัดการด้วยตัวเองไม่ได้

“หนูขอบคุณคุณปู่มากเลยนะคะ”

“อ้อ เจ้าจิ้งเซวียนไปได้สวยเลยล่ะ เขาออกน้ำหอมที่แม้แต่คนตะวันตกยังชอบกันเลย กิจการของครอบครัวโตวันโตคืน ต้องขอบคุณการทุ่มเทของพวกหลานๆ!”

อยู่ๆ ผู้อาวุโสถังก็มีเรื่องให้พูดในคืนนั้นมากกว่าปกติ

ถังหนิงไม่ได้ได้สัมผัสความรักใคร่เอ็นดูของปู่มาก่อน คืนนั้นเธอจึงรู้สึกราวกับว่าตัวเองมีคุณปู่ที่เยี่ยมยอด

“พี่ครับ ผมขอยืมตัวหลานๆ ไปสักสองสามวันได้ไหมครับ ผมอยากจะเล่นกับพวกเขาและฝึกให้ชิงเหยียนดูแลเด็กๆ น่ะครับ” ถังจิ้งเซวียนเองก็รักเด็กๆ มากเช่นกัน

“ลูกของพี่ไม่ใช่ของเล่นนะ!”

คืนนั้นบ้านตระกูลถังอบอวลไปด้วยเสียงพุดคุยและเสียงหัวเราะ แต่โม่จื่อเฉินตัวน้อยยังคงมีท่าทีจริงจังเหมือนอย่างเคย สิ่งที่ขาดไปก็แค่เสียงฮึดฮัดด้วยความไม่พอใจจากปากของเขาเท่านั้น

เป็นธรรมดาที่เด็กน่ารักนิสัยแปลกประหลาดอย่างนี้จะครองใจของทุกคนได้

หลังจากได้รับกำลังใจจากผู้อาวุโสถัง ต้องขอบคุณพลังจากครอบครัวที่ทำให้ถังหนิงรู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นมาอีกครั้ง

“หลังจากที่ฉันเตรียมการทุกอย่าง ฉันจะไปหาคุณเฉียวที่เกาะของเธอค่ะ ฉันเชื่อว่าเราจะทำได้ดีกว่าปรสิตแน่นอน”

นี่เป็นข้อดีของถังหนิงที่โม่ถิงรัก ไม่ว่าเธอจะต้องทำอะไรและเจออุปสรรคใด เธอไม่เคยยอมแพ้ ยืนหยัดที่จะก้าวข้ามผ่านทุกสิ่งกีดขวาง

สองวันหลังจากนั้นทีมงานของปรสิตนัดทานอาหารกับทีมงานตัดต่อชุดใหม่ของพวกเขาที่โรงแรมไดนัสตี

เมื่อพวกเขาเจอทีมงานที่แย่งตัวมาจากถังหนิงก็เป็นปกติที่จะต้องตื่นเต้น

“พวกคุณน่าทึ่งมาก มดราชินีใช้เทคนิคพิเศษที่เราไม่เคยเห็นในหนังภายในประเทศที่ไหนมาก่อนเลย พวกคุณมีความสามารถมากจริงๆ”

“ฉันรู้น่า ใช่ไหมล่ะ พวกเขาทิ้งถังหนิงมาหาเราทันที ผมล่ะชอบพวกคุณจัง!”

“ถังหนิงก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เธอจะไปทำอะไรได้ล่ะ มดราชินีก็แค่เรื่องบังเอิญ หนังที่สร้างความฮือฮาได้จริงๆ ก็ต้องสร้างขึ้นด้วยมือของผู้ชายอยู่แล้วสิ คุณไม่คิดงั้นเหรอ”

“ความจริงแล้ว…”

ทีมงานชัยชนะทั้งทีมต่างน่ารังเกียจกับคำพูดที่พล่ามออกมา ทว่าไป๋จวินเหยี่ยซึ่งนั่งอยู่ท่ามกลางพวกเขาไม่ปริปากออกมาสักคำ อันที่จริงเขายิ้มเยาะในสิ่งที่พวกเขาพูดออกมาอยู่เป็นครั้งคราวด้วยซ้ำ

คนทรยศก็คือคนทรยศอยู่วันยังค่ำ พวกเขานึกภาคภูมิใจขนาดนี้ได้ยังไงกัน

จังหวะนี้เองที่อยู่ๆ บริกรก็เดินเข้ามาในห้องก่อนเอ่ยกับทุกคน “คุณลูกค้าคะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับคืนนี้ได้รับการชำระเรียบร้อบแล้วค่ะ ถ้าต้องการสั่งอะไรเพิ่มเติม บอกได้เลยนะคะ”

“ใครจ่ายเงินให้เรากันล่ะเนี่ย ใจดีอะไรขนาดนั้น” ทีมงานคนหนึ่งถามกับบริกร “บอกให้คนนั้นมาพบพวกเราหน่อย เราอยากจะขอบคุณพวกเขาด้วยตัวเองน่ะ!”

“ฉันจะไปบอกให้เดี๋ยวนี้ รอสักครู่นะคะ”

“ใครจะใจกว้างขนาดนี้กันนะ”

“หรือว่าเป็นเจ้านายของเราล่ะ”

ทุกคนต่างคาดเดากันเองไปต่างๆ นานา

ไม่นานบริกรสาวก็กลับมาและเปิดประตูให้ ด้านหลังเธอคือถังหนิงในชุดสูทสีขาว

ทันทีที่คนในห้องเห็นถังหนิง พวกเขาถึงกับตกตะลึง โดยเฉพาะทีมงานจากชัยชนะที่ก้มหน้าด้วยความอับอาย

“ผมก็สงสัยอยู่ว่าเป็นใครกัน ที่แท้เป็นดาราดังถังหนิงนี่เอง!”

“ทีมงานของฉันจากไปโดยไม่บอกไม่กล่าวสักคำ ฉันเลยมาบอกลาพวกเขาสักหน่อยน่ะค่ะ” ถังหนิงระบายยิ้ม “ในฐานะเจ้านายเก่า อย่างน้อยนี่ก็เป็นสิ่งที่ฉันทำได้”

“คุณถังจะมารยาทดีเกินไปแล้วนะครับ” บรรณาธิการหัวเราะออกมา เขาออกอาการเมาเล็กน้อย

“ในเมื่อเราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาด้วยกัน ให้ฉันเลี้ยงอาหารทีมงานจากชัยชนะสักมื้อแล้วกันค่ะ ขอให้อนาคตของพวกคุณสดใสและสวยงามนะคะ” ถังหนิงเอ่ยก่อนหยิบแก้วแชมเปญทั้งสามแก้วจากบริกรสาวและดื่มในรวดเดียว “แน่นอนว่าฉันหวังว่าตอนนี้พวกคุณทำงานให้ชุนชิว แล้วจะไม่หนีไปหาบริษัทอื่นอีกนะคะ ยังไงพอคุณตระเวนไปทั่วทุกบริษัทดังในประเทศนี้แล้วพวกคุณจะไปที่ไหนได้อีกล่ะ

“อีกอย่างพวกคุณก็จากไปโดยที่ไม่ได้เก็บข้าวของไปด้วย ฉันเลยเก็บของทั้งหมดเอามาให้แล้วค่ะ ที่ชัยชนะไม่มีที่สำหรับขยะหรอกนะคะ”

“คุณถังครับ คุณจงใจมาที่นี่เพื่อหาเรื่องกันเหรอครับ” นักเขียนบทถามอย่างไม่พอใจ

“ฉันคิดว่าเราก็ปรานีมากแล้วนะคะ ยังไงฉันก็ไม่คิดจะเอาฟ้องร้องเรื่องนี้ ถ้าฉันเอาเรื่องขึ้นมา ฉันกลัวว่าปรสิตคงจะต้องรอไปสามปีกว่าจะได้เห็นเดือนเห็นตะวันนะคะ ฉันก็แค่คืนเงินชดเชยและยื่นเรื่องไกล่เกลี่ยกับทางศาลและทีมงานทั้งทีมก็จะต้องอยู่ในสังกัดชัยชนะตลอดไป

“มันอาจจะง่ายที่จากไปเฉยๆ แต่นั่นเป็นผลที่ต้องเผชิญ!

“แต่ฉันไม่คิดจะเก็บขยะไว้ข้างอยู่แล้วล่ะค่ะ ในเมื่อเรายังมีความทรงจำดีๆ ต่อกันอยู่ ฉันก็จะไม่ฟ้องร้องพวกเขาไม่ว่าพวกเขาจะทำผิดกฎหรือเปล่า ขอให้พวกคุณโชคดีนะคะ อย่าลืมว่าคนที่ไม่ซื่อสัตย์ย่อมต้องพังพินาศอยู่ดีแล้วกันค่ะ” ถังหนิงหัวเราะออกมา