คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 503
เซอซีกระโจนเข้าไปร่วมในการต่อสู้อย่างไม่ลังเล

“ให้ตายสิ ล้มพวกมันให้ได้!”

ในที่สุดบรรดานักเรียนชายก็ตอบสนองและพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับเสียงโห่ร้องฮึกเหริม เหล่าเด็กนักเรียนต่างเกรงกลัวที่จะต้องต่อสู้ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น ถึงอย่างไรพวกเขาก็จะดูเหมือนกับคนขี้ขลาดหากพวกเขาเลือกที่จะหลบซ่อนอยู่ข้างหลังสาวสวยสองคนที่พุ่งไปข้างหน้าแล้ว บรรดาเด็กนักเรียนต้องมารวมพลังกัน เมื่อต้องมาผัวพันในการต่อกรกับลูกสมุนของแมนนี่!

มีเด็กนักเรียนประมาณ 80 คนจากทั้งสองห้องเรียน ฉะนั้นจำนวนคนของพวกเขาทั้งสองฝั่งถือว่าสูสี

บรรดาเด็กนักเรียนพอจะมีทักษะอยู่บ้างหลังจากได้เล่าเรียนวิชาในสถาบันหกวิถี นักเรียนชายต่อสู้อย่างห้าวหาญด้วยแรงใจที่จะปกป้องเหล่านักเรียนหญิงเพื่อนร่วมห้อง

“อ๊าก!”

ชายหาดตกอยู่ในความโกลาหล กับเสียงร้องที่ไม่มีวันสิ้นสุด!

ตุ้บ! ตับ! ตุ้บ!

ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับความเสียหาย ลูกสมุนของแมนนี่กว่า 20 คนร่วงกราวลงไปกองกับพื้น

นักเรียนชายสองสามคนก็ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามบาดแผลของพวกเขานั้นไม่ถึงขั้นรุนแรงและชีวิตของพวกเขายังไม่ตกอยู่ในขีดอันตราย

โดยภาพรวมทั้งหมด ฝ่ายเด็กนักเรียนกำลังได้รับชัยชนะ

อีเว็ตต์ใช้โอกาสของเธอเข้าประชิดตัวแมนนี่เพื่อตบเขาสองครั้งและโจมตีซ้ำเข้าไปอีกสองครั้งทำให้เขาแทบหมดสติ ตัวเขาลอยถอยหลังไปสองสามเมตรกับปากที่กระอักเลือด

“ซวยโว้ย ถอยก่อน! ถอย!” แมนนี่ตะโกนขณะเขาขุ่นเคืองอย่างยิ่งกับความพ่ายแพ้ของพวกเขา

พวกเขาวิ่งหนีแตกกระเจิงไปไกลก่อนจะหันหลังกลับหาเหล่าเด็กนักเรียน “ไอ้เด็กเวร! แกอย่าเพิ่งหนีไปไหนล่ะ! พวกแกฉิบหายแน่! คอยดู!”

เดคแลนและบรรดาเด็กนักเรียนต่างพากันหัวเราะ

“โม้ต่อไปเถอะ!”

“กลับมานี่สิ ถ้าพวกนายแน่จริง!”

พวกเขาต่างดีใจลิงโลดกับชัยชนะของพวกเขา

ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าไม่ควรจะไปต่อกรกับแมนนี่และลูกสมุนของเขา พวกเขาต่างประหลาดใจที่เห็นว่าพวกนั้นอ่อนแอปวกเปียกมากแค่ไหน!

อีเว็ตต์ยิ้มกรุ้มกริ่ม และสีหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น “พอได้แล้ว อย่าไปเสียเวลากับนักเลงพวกนี้อีกเลย ฉันหิวแล้ว ถึงเวลาสำหรับปิ้งย่าง!”

พวกเขาจัดเตรียมอาหารมากมายเพื่อจะมาปิกนิก

เด็กนักเรียนเริ่มก่อกองไฟและรวมตัวกันล้อมกันเป็นวงกลม ปรุงอาหารกันอย่างคึกครื้น

พวกเขาสนทนากันระหว่างรออาหารเสร็จ มันเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายสำหรับพวกเขา

เคนท์บิดขี้เกียจและยิ้มด้วยความพึงพอใจ “มันเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่”

เดคแลนพนักหน้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปหาอีเว็ตต์ “เธอทำให้พวกเราประหลาดใจมากอีเว็ตต์ ความกล้าหาญของเธอไม่น้อยหน้าผู้ชายเลย! แต่ฉันเองก็เก่งพอตัวอยู่เหมือนกัน ฉันกำราบพวกมันไปได้ถึงห้าคน!”

“อีเว็ตต์ ฉันก็เก่งเหมือนกัน ฉันล้มพวกมันไปได้ตั้งสองสามคน!”

“ฉันก็ด้วย ฉันทุบพวกมันด้วยก้อนหิน!”

บรรดานักเรียนชายก็รุมล้อมรอบอีเว็ตต์และพูดพล่ามโอ้อวดถึงวีรกรรมของตัวเอง

อีเวตต์ยิ้มอย่างสุภาพและพยักหน้า “ฉันเห็นแล้ว ทุกคนกล้าหาญมาก พวกนายสุดยอดมาก”

เดคแลนและพรรคพวกต่างดีใจกันยกใหญ่เมื่ออีเว็ตต์ชมเชยพวกเขา การบาดเจ็บของพวกเขามันช่างคุ้มค่าเสียเหลือเกิน!

“เดี๋ยวก่อน ไอ้ดาร์บี้มันแค่ยืนมองจากด้านข้างระหว่างการต่อสู้ ไม่เห็นขยับตัวเลย” ใครบางคนกล่าวขึ้นมา

พรึ่บ

ทุกสายตาหันไปชำเลืองมองแดร์ริลในทันที สายตาของพวกเขาเปี่ยมไปด้วยการเย้ยหยันและถากถาง

“เขาเป็นถึงลูกผู้ชาย แต่กลับยืนมองเฉย ๆ อยู่ข้างสนาม ช่างน่าอายอะไรเยี่ยงนี้!”

“ถ้าฉันเป็นเขา ฉันคงอับอายจนไม่กล้าจะมายืนอยู่ตรงนี้”

“ไอ้ไก่อ่อน”

แดร์ริลรู้สึกหงุดหงิดกับคำถากถางของบรรดาเพื่อนร่วมห้อง ‘บ้าจริง! ฉันจะไปมีปัญญาทำอะไรได้? ฉันจะไปต่อกรกับพวกมันได้ยังไง ในเมื่อตอนนี้กำลังภายในของฉันเป็นศูนย์?’

แดร์ริลทำได้แค่เพียงหัวเราะขบขันเบา ๆ โดยไม่มีเจตตนาจจะอธิบาย

ลิลี่กระวนกระวาย

ทั้งหมดที่เธอต้องการคือทำให้แดร์ริลผ่อนคลายในการออกมาเที่ยวครั้งนี้ ฉะนั้นเธอจึงไม่ได้เตรียมความพร้อมมาสำหรับสถานการณ์เช่นนี้

อีเว็ตต์สังเกตุเห็นสีหน้าท่าทางของลิลี่ที่เปลี่ยนไป ดังนั้นเธอจึงลุกขึ้นยืนและกล่าว “พอได้แล้ว พวกนายเลิกจ้องแต่จะไปหาเรื่องแดร์ริลสักทีได้ไหม? ตอนนี้เขาไม่มีกำลังภายใน เขาถึงกลายเป็นเหมือนกับคนธรรมดา เขาคงจะช่วยอะไรไม่ได้มากต่อให้เขาเข้าต่อสู้ก็ตาม”