เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 383 ความอ่อนโยนของเขา
มาร์คดูเหมือนจะรู้สึกถึงความสงสัยของเธอ เขาอธิบายว่า “ถ้าฉันไม่ไปกับเธอ เธอจะสงบสติอารมณ์ตัวเองได้เหรอ? ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว เธอก็หยุดและมาพักผ่อนได้แล้ว นอนเถอะ”
แอเรียนปีนขึ้นไปอีกด้านของเตียงและล้มตัวลงนอน เธอดูเขาถอดเสื้อผ้า เขาค่อย ๆ ปลดกระดุมชุดนอนผ้าไหมสีเทาอ่อน ร่างกายส่วนบนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาถูกเปิดเผยต่อหน้าเธออย่างช้า ๆ เธอตกตะลึงกับภาพที่เห็นจนเธอไม่ละสายตาของเธอจนกว่าเขาจะถอดเสื้อของเขาออกจนหมด
“เธอแน่ใจเหรอว่าจะดูจนจบ?” เห็นได้ชัดว่าเขาแซวเธอ
“คุณใส่ชุดนอนนอนไม่ได้หรอ?” เธอมุดผ้าห่มเพื่อบังหน้าที่แดงจากความเขินของเธอ
“ไม่ได้” เขากล่าวอย่างหนักแน่น หลังจากที่เขาถอดชุดนอนเสร็จเขาก็ปิดไฟก่อนที่จะเข้านอน
ตอนนี้แอเรียนช่างมีช่วงเวลาที่ยากลำบากจริง ๆ เธอรู้ว่าเขามีนิสัยชอบนอนเปลือย แต่เธอไม่ชินกับมัน อันที่จริงเธอไม่คิดว่าชาตินี้เธอจะสามารถชินกับมันได้
ก่อนที่เธอจะทันได้รวบรวมความคิดและอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงของเธอ จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมาว่า “ทำไมเราไม่รับเลี้ยงลูกบุญธรรมในอนาคตกัน?
เธอตัวแข็งทันที ก่อนที่เธอจะตอบกลับได้ เขาพูดขึ้นมาก่อนว่า “ลืมไปซะ ฉันไม่อยากพูดถึงการหย่า ฉันขอเตือนเธออีกครั้ง ; มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะหย่ากัน อย่าแม้แต่จะคิดถึงมันเลย”
เธอยังคงเงียบ ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้คิดเรื่องการหย่า แต่เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ในความเป็นจริงเธออยากจะถามว่าทำไมจู่ ๆ เขาถึงมีความคิดเช่นนี้ เธอไม่สามารถอ่านใจเขาได้ ครอบครัวเทรมอนต์เป็นครอบครัวที่มีอิทธิพลและมีฐานะสูง เขาจะปล่อยให้บุตรบุญธรรมสืบทอดสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไร? เขากล้าหาญและใจถึงเพียงใด? แม้ว่าเด็กคนนั้นจะใช้นามสกุลของเขา แต่ท้ายที่สุดแล้วเด็กคนนั้นก็ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา แม้ว่าเขาจะต้องการรับเลี้ยง แต่เธอก็ไม่เห็นด้วยเพราะเธอรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับเขา
เช้าวันรุ่งขึ้นเธอต้องตกใจกับเสียงเรียกเข้าของการแจ้งเตือนข้อความ ความคิดแรกของเธอคือทิฟฟานี่อาจตอบกลับข้อความของเมื่อคืน
เธอหยิบโทรศัพธ์ของเธอมาจากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดู แต่เธอกลับผิดหวังเมื่อเห็นว่าข้อความนั้นเป็นของเฮเลนไม่ใช่ของทิฟฟานี่
“แอริ ลูกรู้สึกดีขึ้นหรือยัง? แม่รู้ว่าลูกไม่อยากเจอแม่ แม่ก็เลยไม่ได้ไปหา แต่แม่เป็นห่วงนะ” แอเรียนไม่ได้อยากตอบกลับข้อความนั้นเลยแต่แอเรียนเป็นคนที่ใจอ่อนมาตลอด เธอเลยตอบไปว่า “ฉันสบายดี”
หลังจากที่เธอวางโทรศัพธ์ลงเธอก็เพิ่งรู้สึกว่าเธอนอนพิงมาร์คโดยที่แขนของเขาโอบเอวเธอไว้
เขาเปลือยอยู่ สิ่งเดียวที่อยู่ระหว่างพวกเขาคิดชุดนอนบาง ๆ ของเธอ เธอรับรู้ได้ถึงความอุ่นของร่างกายเขา พวกเขานอนอยู่ในท่านั้นสักพักก่อนที่เขาจะขยับตัวในที่สุด เธอพยายามที่จะหลบหนีจากอ้อมกอดเขาด้วยการพลิกตัวเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม จู่ ๆ เขาก็พูดว่า “อย่าขยับ!”
เขาฟังดูเคร่งขรึมจนเธอไม่กล้าขยับ เธออยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างเงียบ ๆ ด้วยความรู้สึกเหมือนเป็นหมอนมนุษย์
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถามว่า “ฉันจูบเธอได้ไหม?”
เธอนึกว่าเธอฟังผิด แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ตอบอะไรเขาก็จูบเธอที่ใบหู เธอรู้สึกคัน ๆ แต่ก็ไม่กล้าขยับตัวอยู่ดี
ทำไมเขาถึงถามเธอแบบนั้น? ในเมื่อเขาจะทำมันอยู่แล้วเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องแคร์ความรู้สึกเธอเลย ที่จริงแล้ว เขาไม่เคยทำตัวเช่นนี้ ทำไม่อยู่ ๆ เขาถึงขออนุญาตเธอ? นี้ไม่เหมือนตัวตนที่ปกติของเขา!
บรรยากาศค่อย ๆ เร่าร้อนขึ้น ความหนาวเย็นในตอนเช้าตรู่ถูกลบออกไปด้วยความอบอุ่นนั้น เธอรู้สึกได้ถึงร่างกายที่อบอุ่นของเขาอย่างชัดเจน นอกจากนี้เธอยังสามารถได้ยินเสียงหายใจที่ผิดปกติของเขา เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ผลักไสเขาออกไป ดูเหมือนร่างกายของเธอไม่สามารถปฏิเสธเขาได้
เขาเริ่มจูบจากหูของเธอไปที่แก้มและริมฝีปาก หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พลิกตัวและพยุงตัวขึ้นเหนือเธอ เธอหลับตาด้วยความรู้สึกประหม่า ในขณะนี้ขนตาของเธอกระพือเล็กน้อย
ในทางกลับกัน มาร์คกำลังมองเธออย่างตั้งใจ ดูเหมือนเขาจะสนุกกับการได้เห็นเธอเป็นแบบนั้น เขาสอดมือเข้าไปใต้ชุดนอนของเธอก่อนจะเลื่อนมือลง อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มือของเขาจะไปถึงจุดหมายของมัน โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขาสาปแช่งในใจ
เขาลุกขึ้นและรับโทรศัพธ์ระหว่างที่ใส่เสื้อผ้าไปด้วย “ฮัลโหล?”
“นายท่าน ลิเลียนกลับมานานแล้วแต่มีใครบางคนตามเธออยู่ พวกเราสกัดพวกมันทิ้งแล้ว”
มาร์คเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่เขาจะพูดว่า “พาเธอไปส่งที่ทำงานด้วยความปลอดภัย ดูแลเธอให้ดี เดี๋ยวผมจะไปเดี๋ยวนี้”
หลังจากที่เขาวางสาย เขาพูดกับแอเรียนที่ยังนอนอยู่บนเตียงว่า “ลิเลียนถึงบ้านแล้ว ฉันจะไปที่ทำงานแล้ว เธอจะไปกับฉันไหม?”
แอเรียนหน้าแดงและพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าเธอยังไม่หายจากความเร่าร้อนก่อนหน้านี้ ในขณะเดียวกันเธอก็สงสัยว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วได้ขนาดนั้น ตอนนี้เขาดูมีพลัง ไม่มีวี่แววของความง่วงงุนหลังจากการตื่นนอนในตัวเขาเลย ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ได้ดูไม่พอใจแม้แต่น้อยจากการถูกขัดจังหวะ