ในช่วงเวลานี้ ข่าวที่แก๊งหมียักษ์ได้ถูกทำลายไปนั้นก็ได้แพร่กระจายไปสู่แก๊งสิงโตกระหายเลือดอย่างรวดเร็ว

เพราะว่าแก๊งสิงโตกระหายเลือดและแก๊งหมียักษ์นั้นอยู่ใกล้กันเกินไป ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับแก๊งหมียักษ์นั้น มันก็เป็นเรื่องยากที่จะปิดบังความจริงไปจากเพื่อนบ้านอย่างแก๊งสิงโตกระหายเลือด

“เร็ว รีบหลบหนีเร็ว เก็บข้าวเก็บของทั้งหมด เจ้าอู๋ตี่กำลังจะมาที่นี่”

“อะไรนะ? เมื่อวานเขาได้บุกไปถล่มแก๊งจำนวนมากแค่ไหนกัน? นี่เขาไม่จำเป็นต้องหยุดพักหรือ?”

“หยุดพักตูดข้าสิ เขามีความโหดร้ายอย่างมาก ในตอนนี้สมาชิกของแก๊งหมียักษ์กำลังร่ำไห้ในทุกทิศทาง ถูกเจ้าปีศาจนั่นถล่มจนราบเป็นหน้ากลอง แม้แต่หัวหน้าแก๊งหมียักษ์ก็ถูกทำลายไปต่อหน้าต่อตาทุกคน ไร้ความปราณี”

“ไม่มีทาง พวกเราและแก๊งหมียักษ์อยู่ใกล้กันเกินไป ฝ่ายตรงข้ามจะเข้ามาโจมตีแก๊งสิงโตกระหายเลือดของพวกเราหรือไม่? หากโจมตีจริงๆล่ะก็ พวกเราคงจะเผชิญกับหายนะ”

“จะต้องถามอีกหรือ? การที่ฝ่ายตรงข้ามได้ถล่มแก๊งหมียักษ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น เขาจะมาถึงที่นี่อย่างรวดเร็ว.

“เก็บข้าวเก็บของทั้งหมดซะ รีบเดินทางออกไปทันที อย่าให้มีแม้แต่เส้นขนที่หลงเหลือให้เจ้าบัดซบนั่นได้เอาไป”

สมาชิกแก๊งสิงโตกระหายเลือดจำนวนมากต่างก็หวาดกลัวจนขวัญกระเจิง พวกเขานั้นหวาดกลัวต่อความโหดร้ายของเซี่ยปิง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้ชื่อว่าเป็นแก๊งสิงโตกระหายเลือด ทว่าในตอนนี้พวกเขาก็ไม่มีความกล้าหาญหลงเหลือแม้แต่น้อย เป็นเหมือนกับหนูที่ถูกแมวจับจ้องก็ว่าได้

ในตอนนี้พวกเขาต่างก็วางแผนที่จะหลบหนีออกไป การที่ต้องการจะต่อต้านฝ่ายตรงข้ามซึ่งๆหน้านั้น ไม่มีทางที่จะเอาชนะได้อย่างแน่นอน

ตึบ!

ในตอนนี้ ประตูหน้าของคฤหาสน์ก็มีเสียงที่ดังสนั่นขึ้นมา ทำให้ทั่วทั้งคฤหาสน์สั่นไหว

“จบสิ้นกัน ไม่สามารถหลบหนีไปได้อีกแล้ว”

ถังเจิ้นหัวหน้าแก๊งสิงโตกระหายเลือดและยอดฝีมือจำนวนมากต่างก็มีสีหน้าที่สิ้นหวัง พวกเขาสัมผัสได้ถึงออร่าที่ทรงอำนาจของคนๆหนึ่ง อย่างไม่ต้องสงสัย ออร่าที่ทรงอำนาจนี้จะต้องเป็นเจ้าอู๋ตี่อย่างแน่นอน

ทว่าการที่เจ้าอู๋ตี่มาถึงที่แก๊งสิงโตกระหายเลือดของพวกเขาแล้วนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะหลบหนีออกไปได้อีก?!

เหตุการณ์หลังจากนั้นก็เป็นไปตามคาด ภายในระยะเวลาครึ่งชั่วโมง แก๊งสิงโตกระหายเลือดก็เปลี่ยนกลายเป็นซากปรักหักพัง สมบัติข้างในทั้งหมดก็ถูกเซี่ยปิงและคนอื่นๆกวาดไปจนเรียบ

…………..

หลังจากนั้นหลายชั่วโมง

เซี่ยปิงก็ได้นำกองทัพของเจียงยารุและคนอื่นๆบุกเข้าไปที่รังของแก๊งช้างอสูร

ทว่าเมื่อมาถึงที่รังของแก๊งช้างอสูรนั้น เขาก็เห็นว่าจางเฮาหัวหน้าแก๊งช้างอสูรรวมถึงยอดฝีมือระดับสูงจำนวนมากของแก๊งช้างอสูรปรากฏตัวอยู่ข้างนอกประตูด้วยท่าทางที่นอบน้อมอย่างมาก แต่ละคนต่างก็ชูธงสีขาวขึ้นมา บ่งบอกถึงการยอมจำนน

เจียงยารุและคนอื่นๆก็จ้องมองอย่างวอกแวก การที่ได้ถล่มแก๊งมาเป็นจำนวนมากนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นว่ามีแก๊งหนึ่งที่ยอมจำนน

“ยอมจำนนหรือ?”

เซี่ยปิงขมวดคิ้วพร้อมกับมองไปที่สมาชิกจำนวนมากของแก๊งช้างอสูร

“ใช่ พวกเราทั้งหมดยอมจำนน สมบัติของแก๊งช้างอสูรพวกเราก็ยินยอมที่จะมอบให้ท่านอู๋ทั้งหมด” จางเฮาและคนอื่นๆมีท่าทางที่อ่อนน้อมถ่อมตน บ่งบอกว่าเต็มใจที่จะมอบสมบัติทั้งหมดให้ ไม่มีการต่อต้านขัดขืนแม้แต่น้อย

สมาชิกของแก๊งช้างอสูรคนอื่นๆก็พยักหน้าเช่น แสดงถึงความเห็นด้วย

“ยอมจำนน? ทำไมถึงต้องยอมจำนน? การที่ยังไม่ได้ต่อสู้จะรู้ได้อย่างไรว่าใครจะชนะ?”

เย่เจียเจียกำหมัดขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกไม่พึงพอใจอย่างมาก ความรุนแรงป่าเถื่อนในร่างกายของเธอถูกปลุกขึ้นมา เธอคิดว่าตนเองได้ตกหลุมรักกับความรู้สึกของการเตะต่อยผู้อื่นอย่างป่าเถื่อน

“ใช่ ผู้ใหญ่อย่างพวกเจ้าช่างขี้ขลาดจริงๆ ทำไมถึงยอมจำนนง่ายๆเช่นนี้ นี่ยังมีความเป็นลูกผู้ชายอีกหรือไม่? ช่างน่าผิดหวังจริงๆ”

เจ้าอ้วนตัวน้อยก็ได้พูดออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม

“แน่จริงก็เข้ามาต่อสู้กับพวกเราสัก300ยก ดูสิว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ทว่าการที่จะยอมจำนนทั้งๆที่ยังไม่ได้ต่อสู้นั้น เรื่องนี้ข้าไม่เห็นด้วย” เด็กชายตัวน้อยก็พูดออกมาอย่างโมโห จมูกแดงขึ้นมา มีสัญญาณของเปลวไฟสามรสที่เหมือนจะลุกโชนขึ้นมา

บัดซบ กลุ่มของเด็กปีศาจ ไม่อนุญาตให้ยอมจำนน เห็นได้ชัดว่าต้องการที่จะทารุณกรรมพวกเขา!

ได้ยินคำเหล่านี้ สมาชิกจำนวนมากของแก๊งช้างอสูรก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่ากลุ่มของเด็กปีศาจเหล่านี้รู้สึกไม่พึงพอใจกับการที่ไม่ได้ถล่มแก๊งของพวกเขาจนราบเป็นหน้ากลอง ไม่มีความสุขเมื่อไม่ได้อัดผู้อื่น

หากตกอยู่ในเงื้อมมืออันชั่วร้ายของกลุ่มเด็กปีศาจเหล่านี้ล่ะก็ มีที่ไหนที่พวกเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีก เป็นไปได้ว่าอาจจะใช้ชีวิตอยู่อย่างตายทั้งเป็น

หากเป็นเพียงแค่ความตายธรรมดาทั่วไป บางทีระยะเวลา2-3เดือนก็สามารถที่จะล็อกอินเข้ามาใหม่ได้ ทว่าหากถูกทารุณกรรมและทรมานอย่างโหดเหี้ยมในโลกเสมือนจริงล่ะก็ ความเสียหายที่มีต่อจิตวิญญาณนั้นจะร้ายแรงยิ่งกว่า มีความเป็นไปได้ว่าต่อให้ใช้ระยะเวลาหนึ่งปีก็ไม่สามารถที่จะล็อกอินเข้ามาได้

ยิ่งไปกว่านั้นนี่สำหรับนักบ่มเพาะที่ใกล้จะเลื่อนขั้นเต็มทีนั้น มันคือการทำลายอนาคตของพวกเขาก็ว่าได้ บางทีการที่จิตวิญญาณมีบาดแผลที่ฝังลึกอยู่นั้น พวกเขาอาจจะไม่มีโอกาสได้เลื่อนขั้นอีกต่อไป จะติดอยู่ในระดับเดิมไปตลอดชั่วชีวิต

“ทุกๆท่าน โปรดให้อภัยชีวิตสุนัขของพวกเราเถอะ”

“ใช่ พวกเราเต็มใจที่จะมอบทรัพย์สินทุกอย่าง”

“หากท่านต้องการที่จะสังหารพวกเรา พวกเราก็จะหลับตารอคอยความตาย ยื่นคอให้ประหารโดยตรง จะไม่หลบหนีอย่างแน่นอน”

สมาชิกของแก๊งช้างอสูรต่างก็หลับตาลง มีท่าทางที่เตรียมตัวเตรียมใจพร้อมสำหรับความตาย

ในความเป็นจริงพวกเขารู้สึกผิดอย่างถึงที่สุด หากพวกเขามีโอกาส พวกเขาก็ต้องการที่จะละทิ้งสถานที่แห่งนี้และหลบหนีออกไป ทว่าเซี่ยปิงและคนอื่นๆนั้นมาถึงที่นี่เร็วเกินไป พวกเขายังคงประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหานี้

ท้ายที่สุดเจ้าปีศาจอู๋ตี่ก็ได้มาถึงที่รังของพวกเขาโดยที่พวกเขายังตัดสินใจกันไม่ได้ ซึ่งพวกเขาก็ไม่มีความกล้าหาญหลงเหลือแม้แต่นิดเดียว แต่ละคนต่างก็หวาดกลัวจนกระดูกอ่อน ทันใดนั้นก็ได้ตัดสินใจอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าจะยอมจำนน

อะไรนะ?!

เย่เจียเจียและเด็กคนอื่นๆต่างก็กัดฟันอย่างแน่นอน เมื่อไหร่กันที่พวกเขาจะได้เห็นภาพเช่นนี้ ปิดตารอคอยความตาย ต่อให้พวกเขาจะสังหารก็จะไม่ต่อต้านขัดขืนหรือ? การที่เผชิญหน้ากับศัตรูเช่นนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะทำอะไรได้อีก?!

“ลืมมันไปเถอะ ในเมื่อพวกเจ้ายอมจำนน ข้าก็ยอมรับการยอมจำนนของพวกเจ้า เป็นการประหยัดเวลาของข้าเหมือนกัน” เซี่ยปิงพูดอย่างไม่สนใจ เขากำลังพูดกับผู้คนของแก๊งช้างอสูร “เอาล่ะ ตอนนี้พวกเจ้าก็ออกไปขนย้ายสมบัติทั้งหมดมา ข้าจะรอพวกเจ้าอยู่ที่ห้องโถงแห่งนี้”

เขามีท่าทางที่สงบนิ่งอย่างมาก

ขนย้ายสมบัติ?!

สมาชิกของแก๊งช้างอสูรต่างก็รู้สึกโมโหขึ้นมา การที่พวกเขายอมจำนนและยอมมอบสมบัติทั้งหมดให้นั้นก็ถือว่าเป็นความอัปยศอดสูที่ยิ่งใหญ่แล้ว ทว่าเจ้าบัดซบนี่กลับไม่พึงพอใจ ต้องการที่จะให้พวกเขาขนย้ายสมบัติทั้งหมดมาให้กับเจ้าบัดซบนี่อีก ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก

นี่มันเป็นเหมือนกับการที่ยอมมอบภรรยาของตนเองให้กับผู้ชายอื่นก็ว่าได้ ไม่แตกต่างอะไรไปจากการที่สนับสนุนให้ภรรยาของตนเองมีชู้ อันที่จริงเจ้าปีศาจนี่ต้องการที่จะรังแกพวกเขาไปถึงขั้นไหนกัน?!

“มีอะไรรึ? พวกเจ้าไม่พอใจอย่างนั้นหรือ อยากตายหรือ?”

เซี่ยปิงชำเลืองมองพวกเขาด้วยหางตา

“ม่ายยยย พวกเราพอใจอย่างมาก จะรีบขนย้ายสมบัติทั้งหมดมาให้พวกท่านโดยเร็ว” เมื่อเห็นสายตาที่มองมาเช่นนี้ จางเฮาหัวหน้าแก๊งช้างอสูรก็รู้สึกหวาดกลัวทันที พูดออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง สมาชิกแก๊งช้างอสูรจำนวนมากก็เหงื่อโชกทั้งตัว พวกเขาขนย้ายทรัพย์สมบัติทั้งหมดของแก๊งมา กองรวมกันอยู่ที่พื้น ดูเป็นประกายเจิดจ้าอย่างมาก แสงสว่างส่องออกไปทุกทิศทาง

เมื่อคิดว่าสมบัติเหล่านี้จะหายไปจากตนเองนั้น จางเฮาและคนอื่นๆก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีมีดแทงเข้ามาในหัวใจ เหมือนกับว่าเลือดเนื้อของพวกเขาถูกเจ้าบัดซบอู๋ตี่นี่ตัดออกไปก็ว่าได้

“ขอบคุณสำหรับการดูแลเป็นอย่างดี อืม ข้าจะนำสมบัติเหล่านี้ออกไป”

เซี่ยปิงโบกมือของเขาออกไป ทันใดนั้นก็ได้เก็บสมบัติเหล่านี้ไว้ในพื้นที่เก็บของของโลกเสมือนจริงทันที จากนั้นก็ได้เดินออกไปจากแก๊งช้างอสูรโดยที่มีท่าทางเป็นธรรมชาติอย่างมาก

ดูแล?!

จางเฮาและคนอื่นๆต่างก็โมโหจนจมูกแดงขึ้นมา พวกเขารู้สึกว่าสมบัติที่ตนเองได้พยายามอย่างหนักเพื่อสั่งสมมา ทว่ากลับเก็บดูแลไว้เพียงเพื่อให้เจ้าบัดซบนี่มารับไป? นี่มันตลกสิ้นดี เมื่อไหร่กันที่พวกเขากลายเป็นผู้จัดการคลังสินค้า?

ทว่าเมื่อเห็นเซี่ยปิงและคนอื่นๆจากไปโดยที่พวกเขาไร้รอยขีดข่วนนั้น เทียบกับแก๊งเขี้ยวหมาป่า แก๊งเสือดำและแก๊งอื่นๆนั้น ความสูญเสียของพวกเขาก็ถือว่าน้อยที่สุด อย่างน้อยก็ไม่ได้ตายไปโดยเงื้อมมืออันชั่วร้ายของเจ้าปีศาจที่โหดเหี้ยมนี่

ทว่าข่าวที่แก๊งช้างอสูรได้ยอมจำนนนั้นก็ได้แพร่งพรายออกไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็ได้ทำให้เมืองนับร้อยที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงช็อกไปตามๆกัน

เซี่ยปิงได้นำกลุ่มของเด็กจำนวนมากเพื่อบุกโจมตีแก๊งต่างๆ ใช้ระยะเวลาทั้งหมดกว่าสิบวันในการถล่มแก๊งขนาดใหญ่จำนวนกว่าร้อยแก๊ง ซึ่งแก๊งที่ไม่ยอมจำนนได้ถูกทำลายไป