ตอนที่ 902 ยาชุดแรก

Elixir Supplier

902 ยาชุดแรก

 

“เร็วเข้า” เธอพูด “ไปล้างมือแล้วมากินข้าว ระวังอย่าไปโดนแผลเข้าล่ะ”

 

“รู้แล้ว ไม่เป็นไรหรอก” ชายวัยกลางคนกลับมาหลังจากที่ล้างมือเสร็จภรรยาของเขาได้

 

เตรียมอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว

 

ในบ้านของหวังเย้า

 

หลังมื้อเย็น หวังเย้าออกจากบ้านเร็วกว่าเดิมเล็กน้อย แต่แทนที่จะกลับขึ้นไปบนเนินเขาหนาน

 

ชานเขากลับเดินไปทางทิศเหนือและออกจากหมู่บ้านเขาเดินต่อไปทางทิศตะวันตกไม่นานก็มาถึงทางแยกหมู่บ้านที่ชายวัยกลางคนเกิดอุบัติเหตุ

 

เมื่อยืนอยู่ตรงทางแยกแล้วมองไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเขาก็สามารถมองเห็นภูเขาได้บนเขามีต้นสนและต้นไซปรัสที่มีความสูงแตกต่างกันไปเขายังสามารถมองเห็นหลุมศพที่มีรูปทรงคล้ายหมั่นโถวที่ตีนเขาติดกับถนนมีเจดีย์หินสูง 4 ฟุตมีการแกะสลักรูปต่างๆเอาไว้บนเจดีย์หินเจ็ดแบบด้วยกัน

 

เป็นที่นี่!

 

หวังเย้ายังสามารถมองเห็นเศษชิ้นส่วนของจักรยานไฟฟ้าที่ตกอยู่บนพื้นได้บ้าง

 

เขาเดินไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นอะไร

 

ฉันควรขึ้นไปดูข้างบนดีไหม?

 

เขามองขึ้นไปและเห็นภูเขาตั้งตรงอย่างเงียบเชียบ หลุมศพที่อยู่ภายใต้ความมืดดูมืดมน

 

ฉันจะขึ้นไป!

 

หวังเย้าก้าวออกไปและหายไปจากจุดที่เคยยืนอยู่ แล้วไปปรากฏตัวอยู่บนเขาในครู่ต่อมาด้านบนมีหลุมศพตั้งอยู่อย่างน้อย 12 หลุม มีทั้งหลุมเก่าและใหม่ปะปนกันไป

 

วูบ! สายลมพัดผ่านตัวเขาไป

 

มันให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกและขนลุก

 

พลังงานด้านบนนี้แตกต่างจากถนนด้านล่างโดยสิ้นเชิง

 

มันทั้งยุ่งเหยิงและเย็น

 

เขายืนอยู่ตรงนั้นแล้วมองลงไปด้านล่าง แสงไฟตรงทางแยกดูริบหรี่ บรื้น!มอเตอร์ไซด์คันหนึ่งขี่ผ่านมาดูไม่มีสิ่งผิดปกติเลยมันน่าจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงหวังเย้าคิด

 

ฉันคงต้องกลับก่อน เงาร่างของหวังเย้าวาบหายไปและมาโผล่ที่ตีนเขา

 

ในเวลานั้น ชายที่ขี่มอเตอร์ไซด์ก็เบรกมอเตอร์ไซด์ดังเอี๊ยด

 

“เวรเอ้ย!” เขาตกใจกับการปรากฏตัวของหวังเย้า

 

“นี่คนหรือผีกัน?” เขาถาม

 

“ก็ต้องคนสิ” หวังเย้าตอบด้วยรอยยิ้ม

 

คนเหรอ?

 

ก่อนหน้านั้นเห็นได้ชัดว่าไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้น แต่แล้วอยู่ๆหวังเย้าก็ปรากฏตัวออกมาเขาจ้องมองหวังเย้าอย่างระแวดระวังตาคู่นั้น และจมูกนั้นหน้าตาแบบนั้น….หึมมมทําไมถึงได้ดูคุ้นๆนะ?“เอ่อ ใช่หมอหวังรีเปล่า?”เขาเอ่ยถาม

 

“ผมเองครับ”

 

ชายคนนี้รู้จักหวังเย้า เพราะเขาเคยพาคนในครอบครัวไปรักษากับหวังเย้ามาก่อน “หมอหวังมาทําอะไรตรงนี้เหรอ?”

 

“เอ่อ ผมออกมาเดินเล่นย่อยอาหารน่ะครับ”หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“อ๋อ เมื่อกี้ท่าผมตกใจมากเลยนะ” เขาพูด“ผมไม่ได้ชนหมอใช่ไหม?”

 

“ไม่ครับ”

 

“ดีแล้ว ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมไปก่อนนะ”

 

“ขี่รถดีดีนะครับ”

 

เขาขี่รถมอเตอร์ไซด์จากไปหวังเย้าก็หันกลับไปมองภูเขาตั้งอยู่ท่ามกลางความมืดเจดีย์หินตั้งอยู่ในบริเวณนั้นเงียบๆ

กลับเลยแล้วกัน

 

หวังเย้าเดินมุ่งหน้ากลับไปที่หมู่บ้านและขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน

 

สองวันต่อมา ท้องฟ้าในยามเช้ามืดครึ้ม พระอาทิตย์ถูกหมู่เมฆบดบังและไม่ยอมแสดงตัวออกมาให้เห็น

 

หลังลงจากเขา หวังเย้าก็เดินทางไปที่บริษัทหนานชานเภสัชนี่เป็นวันแรกที่ยาชุดแรกพร้อม

แล้วเขาจึงอยากเห็นประสิทธิภาพของตัวยา

 

เวลาประมาณ 11 โมง ซุปเผยหยวนชุดแรกถูกผลิตและบรรจุเอาไว้ในขวด

 

“เชียนเชิงคิดว่ายังไงครับ?”เจิ้งเหว่ยจวินถาม พร้อมกับส่งยาชุดแรกไปให้หวังเย้า

 

เขารับยามา เปิดฝาขวดและยกขึ้นจิบ

 

“อืม มันใชได้ครับ”

 

สุดท้ายแล้วมันก็ยังเป็นการผลิตในปริมาณมากและการควบคุมอุณหภูมิก็ยังไม่ดีพอเครื่องจักรถูกติดตั้งตามหน่วยความจําพารามิเตอร์แต่ถึงจะผลิตออกมาได้เท่านี้ก็ถือได้ว่าประสิทธิภาพเทียบได้กับยาที่หวังเย้าท่าออกมาได้ประมาณ 80% ซึ่งถือว่ารับได้

“ผลิตออกมาจํานวนมากได้เลยครับ”

 

“ดี! ดี!” เจิ้งเหว่ยจวินดีใจที่ได้ยินแบบนั้น

 

ความสําเร็จนับเป็นข่าวดีและถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี

 

การเตรียมการผลิตยาชนิดนี้ไม่นับว่ายุ่งยากมากนักแต่เขาก็ยังได้เชิญผู้มีประสบการณ์หลายคนที่เคยทํางานกับเขาในบริษัทของตระกูลให้มาทํางานร่วมกับเขาในบริษัทใหม่พวกเขาล้วนมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการผลิตยาดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าควรใส่ใจในเรื่องอะไรบ้าง“เที่ยงนี้อย่าเพิ่งกลับนะครับเชียนเชิง”เจิ้งเหว่ยจวินพูด “อยู่ฉลองด้วยกันก่อน”

 

“ได้ครับ” หวังเย้าพูด

 

มันเป็นเรื่องที่สมควรฉลองอยู่แล้ว

 

เจิ้งเหว่ยจวินจองห้องในโรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองเพื่อฉลองการเริ่มผลิตยาชุดแรกออกมาได้

 

สําเร็จพนักงานจากบริษัทมาร่วมงานเลี้ยงกันหลายคนพวกเขาต่างมีความสุขและดื่มเหล้ากันไปหลายแก้วหวังเย้าก็ดื่มไปเล็กน้อยเช่นกัน

 

ตอนกลางวัน เมื่อกลับมาถึงหมู่บ้านเขาได้นํากล่องใส่ยากลับมาด้วย

 

ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเขาวางแผนที่จะเป็นคลินิกแรกที่ขายยาที่ผลิตจากโรงงานของตัวเอง

 

ในเขตเหอที่ไกลออกไปหลายพันไมล์

 

ช่วงนี้กั๋วเจิ้งเหอกําลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นข้อมูลที่เขาได้ฟังมาจากเสวี่ยซินหยวนความลับของหุบเขาพันโอสถที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนนั่นก็คือการที่พวกเขาสามารถทําให้คน

 

อายุยืนและมีสุขภาพแข็งแรงไร้โรคภัยมันถือเป็นเรื่องที่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้เป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับคนอย่างเขา

 

เงินสําคัญหรือไม่? เงินสําคัญสําหรับใครหลายๆคนแต่ก็ไม่จําเป็นว่าจะต้องเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุดหลายคนเสาะหาอํานาจเมื่อพวกเขามีอํานาจพวกเขาก็ต้องการควบคุมอํานาจในมือให้ได้นานที่สุดมันคือสิ่งที่พวกเขาลงแรงไปไม่น้อยแต่พวกเขาก็ต้องมีสุขภาพที่ดีด้วยเจ้าหน้าที่รัฐหลายคนที่สุขภาพร่างกายพังด้วยหลายๆสาเหตุและผลที่ออกมาก็เลวร้ายมากพวกเขามีอํานาจและสามารถได้รับการรักษาที่ดีที่สุดแต่ร่างกายของพวกเขาพังไปแล้วเมื่อสุขภาพแย่ลงอํานาจเหล่านั้นจะมีความหมายอะไร?

 

สิ่งสําคัญคือพวกเขาสามารถมีชีวิตได้นานขึ้น

 

การมีชีวิตได้ 70 ปีกับการมีชีวิตได้ 120 ปีนั้นต่างกัน

 

เพราะเขาให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากเขาจึงได้ขอให้เสวี่ยซินหยวนยืนยันความน่าเชื่อถือของข่าวทันทีที่เขารู้เรื่องถ้าหากเป็นเรื่องจริงเขาต้องหาทางให้ได้สูตรลับนั้นมา

 

เมื่อครู่ เขาเพิ่งได้รับสายจากเสวี่ยซินหยวน ที่ขอให้เขาออกไปพบอีกฝ่าย

 

มันคือสถานที่นัดพบเดิมที่พวกเขาเคยมา

 

“เป็นยังไงบ้างครับ?” กั๋วเจิ้งเหอถาม

 

“คุณชาย หลายวันที่ผ่านมา ผมได้พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายสําหรับผมเลย” เสวี่ยซินหยวนพูด

 

เพราะหมู่บ้านปิดกั้นจากโลกภายนอกและพวกเขาแทบไม่ติดต่อสื่อสานกับโลกภายนอกเลยผู้คนด้านนอกเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับคนในหุบเขาน้อยมากแต่เขาก็ยังหาข้อมูลมาได้

 

“ที่แปลกก็คือเก่าในสิบของเรื่องที่เมี่ยวซินเหอบอกกับผมมาเป็นความจริงครับ”เสวี่ยซินหยวนพูด“ผู้นําของพวกเขาอายุเกือบ 80 ปีแล้วแต่เขากลับดูเหมือนคนอายุ 40 ปีที่มากไปกว่านั้นก็คือเขาสุขภาพแข็งแรงมากทั้งยังแข็งแรงกว่าคนหนุ่มสาวทั่วไปด้วย”

 

เขาต้องลงแรงไปมากกว่าจะได้ข้อมูลมา

 

“ยังมีข่าวลือที่ว่าคนที่แก่ที่สุดในหมู่บ้านมีอายุเกือบ 200ปี”

 

“อายุเท่าไหร่นะ?”กั๋วเจิ้งเหอที่ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูดก็อดถามขึ้นมาไม่ได้

 

“เกือบ 200 ปีครับ”

 

“เป็นไปได้ยังไงกัน?”

 

มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อกับการที่มีคนอายุมากขนาดนี้อยู่บนโลก

 

“อย่าเพิ่งพูดเรื่องนั้นเลยครับ”เสวี่ยซินหยวนพูด“ที่แน่ๆก็คือมีคนอายุเกินร้อยปีอยู่ในหมู่บ้าน

 

หลายคน ผมยังคิดได้วิธีหนึ่งครับ”