ตอนที่ 1411

Monster Paradise

หลินฮวงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเมื่อได้ยินอีกฝ่ายท้าเขาสู้ตัวต่อตัว

เพราะพันหน้า ระดับพลังที่เขาแสดงออกไปจึงเป็นแค่เทพเสมือนขั้น3 แต่ระดับพลังจริงเขาเป็นเทพเสมือนขั้น6แล้ว

สำหรับร่างจำแลงเทพอีกา ระดับพลังมันแค่เทพเสมือนขั้น2

ระดับพลังมันอย่างเดียวก็ต่ำกว่าหลินฮวงถึงสี่ขั้นแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น หลินฮวงยังสามารถโค่นเทพแท้จริงขั้นกลางได้ตอนเขาเป็นแค่เทพเสมือนขั้น3 ตอนนี้ที่เขาเลื่อนเป็นเทพเสมือนขั้น6 พลังต่อสู้จริงเขาจึงไม่ด้อยไปกว่าเทพแท้จริงขั้น9ทั่วไป ถึงกระนั้น นี่ก็ยังไม่ถือเป็นหนึ่งในไพ่ตายเขา

ต่อให้เทพอีกาจุติลงมาเอง ก็มีโอกาสสูงที่เขาจะตายเมื่อต้องเจอกับหลินฮวง นอกจากนี้ คู่ต่อสู้ปัจจุบันเขายังเป็นแค่ร่างจำแลงเทพอีกา และระดับพลังก็แค่เทพเสมือนขั้น2เท่านั้น

ร่างจำแลงเทพอีกามีความสุขมากเมื่อได้ยินว่าหลินฮวงตกลงรับคำท้ามัน

แม้หลินอวงจะเป็นเทพเสมือนขั้น3ซึ่งมีระดับพลังเหนือกว่ามัน มันก็ไม่กลัวเลย

 

“ในเมื่อมันคือการต่อสู้ตัวต่อตัว งั้นก็มาตั้งกฏกันล่วงหน้า ในระหว่างการต่อสู้ อนุญาตให้ใช้วิธีการใดก็ได้ หากเจ้าแพ้ เจ้าต้องปล่อยข้าไปอย่างไร้บาดแผล”

“ไม่มีปัญหา แต่หากเจ้าแพ้ละ?”หลินฮวงถามด้วยรอยยิ้ม

“ข้าจะเลิกตั้งพิกัดเส้นทางมิติ และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับแผนการบุกรุกโลกกรวดของร่างหลักข้าอีก”ร่างจำแลงเทพอีกาพยายามเสนอทางรอดให้ตัวเอง

“เจ้าไม่ต้องลำบากขนาดนั้น ทั้งหมดที่เจ้าต้องทำคือยอมเสียสละชีวิตเจ้า”หลินฮวงกล่าวพร้อมบอกความต้องการเขาเป็นนัยๆ

 

สีหน้ามันสลดลง แต่ก็รู้ดีว่ามันไม่ทางเลือก หากมันอยากรอด มันต้องชนะ!

ในไม่ช้ามันก็สงบสติลง และความมั่นใจก็กลับคืนมาเมื่อนึกถึงไพ่ตายมัน

“งั้นก็มาสู้กันเลย ข้าหวังว่าเจ้าจะรักษาคำพูด!หากข้าชนะ เจ้าต้องปล่อยข้าไปอย่างปลอดภัย”
“ไม่ต้องห่วง ขอแค่เจ้าชนะ ข้าจะปล่อยเจ้าไปแน่!”หลินฮวงพยักหน้า

 

ทั้งสองได้ข้อตกลงกันอย่างรวดเร็วและเสี่ยวโม่ก็ก้าวหลบออกไป

เขามั่นใจมากในความสามารถของหลินฮวง หากคู่ต่อสู้ของหลินฮวงเป็นเทพแท้จริง งั้นเสี่ยวโม่อาจกังวลบ้าง แต่ทว่า อีกฝ่ายแค่เทพเสมือนขั้น2 และระดับพลังเพียงอย่างเดียวก็นับว่าต่ำกว่าหลินฮวงแล้ว

เมื่อเสี่ยวโม่ได้ยินร่างจำแลงเทพอีกาเสนอการต่อสู้ตัวต่อตัว ในหัวใจเขากลับเยาะเย้ยต่อมัน

หลินฮวงยืนตัวตรง ไม่คิดขยับก่อน

ความแตกต่างในพลังระหว่างตัวเขาและร่างจำแลงเทพอีกาสูงเกินไป หากเขาโจมตีก่อน อีกฝ่ายคงไม่มีโอกาสเลย นอกจากนี้ หลินฮวงยังอยากดูว่าอีกฝ่ายมีเล่ห์เหลี่ยมอะไรที่ทำให้มันมั่นใจนักหนา

ร่างจำแลงเทพอีกาเต็มไปด้วยความมั่นใจ มันยังใช้ไพ่ตายออกมาทันที

มันยืนบนหัวราชาทะเลและรูม่านตาก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท

วินาทีต่อมา ดวงตาของราชาทะเลใต้เท้ามันก็กลายเป็นสีดำสนิทเช่นกัน และมันก็เปิดปากกว้าง

เพียงเมื่อหลินฮวงคิดว่าราชาทะเลกำลังจะโจมตี เงาร่างจำนวนมากก็พุ่งออกจากปากมัน

หลินฮวงหรี่ตามองและเห็นว่าพวกมันคือมอนสเตอร์ทะเล ทั้งหมดมีพลังระดับเทพเสมือน ตัวที่มีพลังต่ำสุดคือเทพเสมือนขั้น1 ส่วนระดับสูงสุดคือเทพเสมือนขั้น4 และพวกมันยังมีกันมากกว่าสามสิบตัว

เมื่อเห็นแบบนี้ ในที่สุดหลินฮวงก็รู้ว่าความมั่นใจของมันมาจากไหน

 

“นี่คือสิ่งที่ทำให้เจ้ากล้าท้าทายข้า?”
“มอนสเตอร์ทั้งหมด34ตัวคือเทพเสมือน สามตัวมีพลังของเทพเสมือนขั้น4 เจ้าสามารถยอมแพ้ได้เสียตอนนี้ก่อนที่ข้าจะโจมตี”ร่างจำแลงเทพอีกาคิดว่าตัวมันนั้นไร้เทียมทานแล้ว

“มันดูเหมือนว่าเจ้าจะยังไม่รู้จักข้าดีพอ”หลินฮวงส่ายหัวและยิ้ม”เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าคือผู้ควบคุม?”

จากนั้นหลินฮวงก็ดีดนิ้ว

วินาทีต่อมา เงาร่างหนึ่งก็ปรากฏตรงหน้าหลินฮวง

มันคือชายผมขาวสวมชุดดำ และมีเส้นเลือดวิ่งไหลบนเสื้อผ้า

ผู้ที่ถูกอัญเชิญในครั้งนี้ก็คือไป่

กลิ่นอายเทพแท้จริงของมันเผยออกมาชั่วขณะก่อนที่ไป่จะยับยั้งกลิ่นอายมัน รีบผนึกพลังมันเป็นเทพเสมือนขั้น9

ถึงกระนั้น ทันทีที่กลิ่นอายเทพเสมือนขั้น9ของไป่เล็ดรอดออกมา ร่างจำแลงเทพอีกาก็อ้าปากค้าง

แน่นอน มันรู้ว่าหลินฮวงคือผู้ควบคุม แต่มันมักคิดว่าไม่ว่ามอนสเตอร์ของหลินฮวงจะแข็งแกร่งแค่ไหน ระดับพลังก็ยังต้องถูกจำกัด เหนือสิ่งอื่นใด ระดับพลังของมอนสเตอร์อัญเชิญจะถูกจำกัดโดยระดับพลังของผู้ควบคุม แต่ทว่า มอนสเตอร์ตรงหน้ามันกลับมีกลิ่นอายที่เหนือยิ่งกว่านายของมันเสียอีก

 

“ไว้ชีวิตแค่เขา ที่เหลือจัดการให้หมด”

เมื่อสิ้นสุดเสียง ร่างของไป่ก็พุ่งตรงไปในฝูงมอนสเตอร์ เปิดฉากสังหารอยู่ฝ่ายเดียว

ในเวลาไม่ถึงสามวินาที มอนสเตอร์ระดับเทพเสมือนทั้ง34ตัวก็ถูกฆ่าตาย รวมถึงราชาทะเลใต้เท้าร่างจำแลงเทพอีกาด้วย

เช่นเดียวกับที่หลินฮวงกล่าว ไม่มีวิญญาณสักดวงที่ถูกละเว้น!

เสี่ยวโม่ ผู้เฝ้าดูการต่อสู้อยู่ไม่ไกลก็ตกตะลึงเหมือนกัน เขาสัมผัสได้ชัดว่ามอนสเตอร์ที่ถูกควบคุมโดยร่างจำแลงเทพอีกามีพลังที่เหนือกว่าเขา แต่ทว่า มอนสเตอร์อัญเชิญแค่ตัวเดียวของหลินฮวงกลับฆ่าล้างพวกมันได้ง่ายๆราวกับพวกมันเป็นเพียงฝูงไก่กา

ร่างจำแลงเทพอีกาที่ก่อนหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจตอนนี้เป็นเหมือนนายพลไร้กองทัพ มันยังเสียที่ยืนไปด้วย

สีพลันถูกระบายออกจากหน้าของมัน มันได้ใช้ไพ่ตายไปแล้ว เดิม มันคิดว่าหากมันใช้ไพ่ตายตั้งแต่เริ่มต้น มันจะชนะได้โดยไม่ต้องวุ่นวายนัก แต่เรื่องราวกลับกลายเป็นอย่างนี้ไปได้

หลังฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมด ไป่ก็เหลือบมองไปทางเทพอีกา ไป่ไม่ได้โจมตีต่อและกลับไปยืนข้างหลินฮวง

แม้ไป่จะไม่พูดอะไรสักคำ มันก็ยังทำให้ร่างจำแลงเทพอีกาประสาทแทบแตก

โดยเฉพาะเมื่อดวงตาสีแดงเลือดจ้องมองมัน เทพอีกาสามารถรู้สึกได้ถึงความกระหายเลือดของอีกฝ่าย หากมันไม่ใช่ว่าคำสั่งของหลินฮวง เกรงว่ามันคงถูกเฉือนเป็นชิ้นๆไปแล้ว

 

“เจ้าแพ้แล้ว”หลินฮวงยิ้ม

เพียงเมื่อมันกำลังจะเปิดปากปฏิเสธ มันก็พลันเห็นว่าหลินฮวงได้หายไปโดยที่มันไม่รู้ตัว

เกือบจะพร้อมกัน มันก็รู้สึกถึงความเย็นเล็กน้อยที่คอมัน

มันหันหัวไปมองทางขวา เห็นหลินฮวงยืนอยู่ตรงนั้น ดาบสีเงินเล่มบางในมือหลินฮวงตอนนี้อยู่ด้านหน้าคอของมัน และดาบก็ได้ตัดไปในเนื้อมันประมาณหนึ่งมิลลิเมตร แผลบนคอมันเริ่มหลั่งเลือด

 

“บอกแผนการของเทพอีกามา”เสียงอันแน่วแน่ของหลินฮวงดังขึ้น

“ต่อให้ข้าบอกหรือไม่บอก ข้าก็ตายอยู่ดี ทำไมข้าถึงควรบอกเจ้า?”มันยังเลือกต่อต้าน

“ตราบเท่าที่เจ้าบอกข้า เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องตาย”หลินฮวงหันไปมองร่างจำแลงเทพอีกา”ต่อให้เจ้ามีชีวิต เจ้าก็จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ”

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น ใบหน้ามันก็ซีดเซียว มันไม่รู้ว่ามันควรดีใจที่ได้ยินหรือรู้สึกอับอายจากถ้อยคำดูถูก

แต่ทว่า มันก็ลังเลอยู่แค่ชั่วขณะก่อนตัดสินใจได้

“ข้าจะไม่พูดอะไร”

 

ในฐานะร่างจำแลงเทพอีกา แม้มันจะมีเจตจำนงเป็นของตัวเอง แต่จิตสำนึกมันก็ยังภักดีต่อร่างหลัก ผลประโยชน์ของร่างหลักสำคัญกว่าชีวิตมัน

นี่คือสิ่งที่หลินฮวงคาดไว้แต่แรก

“ดี หากเป็นแบบนั้น ข้าคงต้องใช้วิธีอื่น”

ทันทีหลังหลินฮวงพูดเช่นนี้ สิ่งมีชีวิตหนึ่งก็ปรากฏตรงหน้าเขา

มันคือสิ่งมีชีวิตคล้ายแมวลักษณะแปลกๆ คล้ายกับเสือเขี้ยวดาบจมูกยาว

หลังถูกอัญเชิญ รูม่านตาของสิ่งมีชีวิตนั้นก็จับจ้องร่างจำแลงเทพอีกาและเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ราวกับมันแช่ในน้ำหมึก

ร่างจำแลงเทพอีกาพลันหยุดขยับ และรูม่านตามันก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท

หลังจากนั้นไม่นาน สมเสร็จฝันร้ายก็ส่งเสียงฮึดฮัด

รูม่านตาของร่างจำแลงเทพอีกาหม่นหมอง และเปลี่ยนเป็นสีแดง

ดวงตาคู่แดงนั้นพลันจับจ้องหลินฮวง

จากนั้น ลำแสงสีแดงเลือดก็พุ่งจากรูม่านตาของมัน แหวกผ่านอากาศเหมือนสายฟ้าฟาด

ความเร็วของการโจมตีนี้ไม่ด้อยไปกว่าเทพแท้จริงขั้น9

มันเห็นได้ชัดว่าคนที่โจมตีไม่ใช่ร่างจำแลงเทพอีกาอีก แต่เป็นร่างหลักเทพอีกา

หากมีใครจากโลกกรวดเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ ทั้งหมดที่พวกเขาสามารถทำได้คือหลับตาและรอความตาย

แต่ทว่า นี่คือหลินฮวง

มุมปากหลินฮวงยกโค้งขึ้นเล็กน้อยและสะบัดดาบในมือโดยไม่ลังเล

คลื่นดาบพลันเปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีแดงและระเบิดด้วยความเร็วที่เหนือยิ่งกว่าการโจมตีของเทพอีกา

แสงสีแดงสองสายปะทะกัน และพลังเทวะไร้สิ้นสุดก็พวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง ส่องสว่างไปทั่วทั้งท้องฟ้า

แสงสีแดงแพรวพราวเปล่งประกายอยู่กว่าสิบนาทีก่อนจะค่อยๆสลายหายไป

มันเหลือแค่หลินฮวงที่ยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม ส่วนร่างจำแลงเทพอีกากลับสลายเป็นฝุ่นผงไปแล้ว

เห็นได้ชัดว่าร่างจำแลงเทพอีกาไม่สามารถรองรับพลังของเทพอีกาได้ หลังปลดปล่อยการโจมตี ร่างมันก็ไม่สามารถทนต่อพลังงานได้และระเบิดตัวตายไป

เมื่อเห็นว่าร่างจำแลงเทพอีกาสลายหายไปแล้ว หลินฮวงจึงหันหัวไปมองทางประตูมิติ

เขาปล่อยแก่นแท้เต๋าดาบ พลังกฏเทพและพลังตรัสรู้ธาตุเต็มแรง บีบอัดการโจมตีทั้งหมดไปที่ประตูมิติ

ไม่เหมือนกฏมิติของขอบเหวนรกที่มีรอยแยกมิติสะสมตลอดหลายร้อยล้านปี กฏมิติของประตูมิติที่สร้างขึ้นใหม่นี้ยังไม่เสถียรดี

ภายใต้อิทธิพลของพลังกฏเทพต่างๆ กฏมิติของประตูมิติจึงยิ่งไม่เสถียร

เมื่อเห็นว่าภายในประตูมิติกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง หลินฮวงจึงไม่ล้มเลิกความพยายาม เขากลับปลดปล่อยการโจมตีไม่หยุด สาดทุกการโจมตีใส่มัน

เขาทำอยู่อย่างนั้นกว่าครึ่งชั่วโมง สุดท้ายประตูมิติก็สั่นคลอนและพังทลายลง

รอยแยกมิติในโลกกรวดยังถูกปิดตัวด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในเวลาไม่ถึงสามนาที รอยแยกก็หายไปอย่างสมบูรณ์

จากนั้นหลินฮวงถึงเก็บดาบเขาไปพร้อมกับถอนหายใจยาว