ตอนที่ 41 พาเขากลับบ้านด้วย!

The rise of the white lotus

ตอนที่41 พาเขากลับบ้านด้วย!

 

อีธานมองไปที่ดวงตาที่หวาดกลัวแต่มุ่งมั่นของเล็กซี่ ก่อนที่เขาจะถอนหายใจด้วยความพ่ายแพ้ “ เอาล่ะ…ผมจะพาคุณกลับบ้านเอง ”

 

” เราไม่ได้แจ้งตำรวจเหรอ ” เล็กซี่ได้ยินว่าเขาจะขับรถกลับบ้านเอง ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ได้บ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะทั้งร่างกายของเธอยังคงสั่นสะท้านด้วยความกลัวและ เล็กซี่ก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าเธอจะขับรถได้อย่างปลอดภัยด้วยภาวะอารมณ์ในปัจจุบันของเธอหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นมันอาจจะเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ต้องยอมรับ แต่เล็กซี่กลัวว่าเธอจะหมดปัญญาเสียแล้ว

 

“ อย่ากังวลเรื่องนั้นเลย ” อีธานมั่นใจว่าต่อให้เขาไม่รู้รายละเอียด ท้ายที่สุดพวกเขาต้องออกจากที่นี่อย่างปลอดภัยก่อน หรืออย่างน้อยก็ขึ้นรถของเขา เมื่อนึกย้อนไปเขาจงใจทิ้งโทรศัพท์ไว้ข้างในเพื่อไม่มีใครโทรมารบกวนเขาได้ ซึ่งตอนนี้เขาเสียใจมากเลยที่ทำอะไรแบบนั้น เมื่อเห็นเล็กซี่พยักหน้าเห็นด้วยอย่างเชื่อฟัง เขาก็ค่อยๆเปิดรถตู้และมองออกไปข้างนอกอย่างระมัดระวัง

 

แต่น่าแปลกใจที่เมื่อพวกเขาออกมา ก็พบกับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อยู่ข้างนอกแต่ไม่ได้สนใจพวกเขา แม้ว่าจะเห็นการกระทำของพวกเขาก็ตาม ‘ อ่า รู้สึกตัวเองใจง่ายจัง ’ อีธานพึมพำในใจ

 

“ไม่ต้องห่วงนะชู ~! ทีโตะเป็นคนพูดเองว่าพวกเขาจะไม่ไล่ตามคุณชู ~!” ชูรูร้องบอกอย่างตื่นเต้น เธอให้ความมั่นใจกับเล็กซี่ โดยอาศัยสติปัญญาของเธอ ดังนั้นเมื่อเห็นความไม่เต็มใจของอีธาน เล็กซี่จึงมั่นใจในตัวของชูรู ตามความเชื่อของเธอ

 

“ ฉันเชื่อใจพวกเขา ”

—-

หลายนาทีผ่านไปก่อนที่เล็กซี่และอีธาน รวบรวมความกล้าเพื่อออกจากรถตู้ที่พวกเขาอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามเล็กซี่ไม่คิดว่าเธอจะกลับมาใหม่อีกครั้ง แต่ทุกอย่างก็แตกเป็นเสี่ยงๆ หลังจากได้เห็นว่าลานจอดรถแออัดขนาดไหน

 

เธออ้าปากค้างขณะจับชายเสื้อสูทของอีธานไว้แน่น ต้องขอบคุณหลายปีของการฝึกฝนเธอจึงไม่ได้ดูน่าสงสารขนาดนั้น หรือมากกว่านั้นเธอก็ยังดูไม่สะทกสะท้านต่อหน้ากลุ่มคนเหล่านี้

 

พื้นที่จอดรถที่ควรจะเต็มไปด้วยรถ อนิจจาตอนนี้ดูเหมือนฐานทัพสงครามที่มีคนจำนวนมากถูกล้อมรอบไว้ทั้งชั้น บางคนหันหน้ามาหาพวกเขา แต่ไม่ได้สนใจพวกเขามากนัก เหมือนกับที่ชูรูพูด

 

ถึงแม้จะไม่ได้รับคำแนะนำจากชูรู แต่เล็กซี่ก็ยอมตายเพื่อที่จะได้กลับบ้าน ถึงแม้เธอไม่ควรกลัวความตายเพราะเธอประสบมาแล้ว แต่แล้วยังไงล่ะ! เธอเคยเดินไปเคาะประตูนรกมาแล้ว และฟื้นคืนชีพด้วยความแห่งโชค  แถมได้รับระบบที่ค่อนข้างไร้ประโยชน์พร้อมคู่มือที่แสนน่ารัก

 

อย่างไรก็ตามเมื่อเล็กซี่ฟื้นขึ้นมาและได้เห็นว่าพ่อแม่ของเธอทำหน้าตาเหมือนเด็กน้อยยังไง เล็กซี่จึงสาบานว่าเธอจะไม่ทำให้พวกเขาเจ็บปวดอีกต่อไป เธอได้รับโอกาสครั้งที่สองในชีวิตและเธอต้องการใช้มันให้เต็มที่  ด้วยชีวิตที่แสนสงบและมีความสุข

 

นึกถึงความทรงจำที่สะเทือนใจทั้งหมดที่เธอได้รับ ตอนที่มอริสทำท่าทางรังเกียจเธอ เธอไม่สนแต่อย่างไรก็ยังคงเจ็บปวดกับความเกลียดชังที่เห็นได้ชัดจากเขา เขาเอาอำนาจของเขามากดข่มพ่อแม่ของเธอได้ ถึงขนาดที่พ่อของเธอต้องกล้ำกลืนคำพูดของเขาต่อหน้าต่อตาของเธอ ด้วยเหตุนี้ เล็กซี่จึงสามารถตั้งสติได้

 

แม้ว่าสถานการณ์ของเธอก่อนหน้านี้จะไม่อันตรายเท่านี้ แต่เล็กซี่ก็มีความชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งหนึ่งว่า ทั้งสองอย่างอาจทำให้เธอตายได้

 

‘ ความทรงจำเหล่านั้นทำให้ชีวิตฉันเสียไปเปล่าประโยชน์ …’

 

” แต่คราวนี้คุณไม่ได้อยู่คนเดียวนะชู ~! ฉันไงชู ~!” เมื่อได้ยินความเชื่อมั่นของเธอภายในใจ ชูรูก็หันหน้ามาหาเธอและยิ้มอย่างจริงใจราวกับจะบอกว่า เล็กซี่ไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไป

 

มองไปที่ชูรู ซึ่งเป็นผู้ช่วยที่ดี ไหล่ที่ตึงของเล็กซี่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ‘ใช่แล้วล่ะ ‘

 

จากมุมมองของกลุ่มชายฉกรรจ์ พวกเขาพบว่าทั้งคู่น่ายกย่อง ถึงแม้ว่าจะเห็นพวกเขาถืออาวุธอันตราย แต่ทั้งคู่ก็ยังคงรักษาใบหน้าให้นิ่งเฉยได้ ราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น

 

เนื่องจากกุญแจรถของอีธานลู่หายไป สันนิษฐานว่าเขาคงทำหล่นในขณะที่ต่อสู้กับกลุ่มคนก่อนหน้านี้ พวกเขาจึงตัดสินใจใช้รถของเล็กซี่ เนื่องจากเธอรักษามันไว้ได้อย่างแน่นหนาเมื่อพวกผู้ชายจับเธอได้

 

นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่ได้ถูกระบุว่ามีในรายชื่อ และได้เห็นว่าพนักงานของที่นี่กำลังคุยกับสมาชิกกลุ่มนั้น

เล็กซี่มาถึงรถราคาแพงของเธอ เธอพูดว่า “ฉันจะขับรถ”

 

“ไม่ -“

“ อีธานฉันจัดการได้” เนื่องจากชูรูบอกว่าจะนำทางเธอไปสู่เส้นทางที่ปลอดภัย เธอจึงตัดสินใจขับรถเอง เธอไม่สามารถอธิบายให้เขาฟังได้ว่าเธอรู้ได้อย่างไรว่าควรใช้เส้นทางไหนที่ปลอดภัย นอกจากนี้ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ เล็กซี่ได้รับความมั่นใจเล็กน้อยจากน้องสาวที่น่ารักของเธอและแน่นอนจากพ่อแม่ของเธอที่รออยู่ที่บ้าน

 

โดยไม่รอการประท้วงของอีธานลู่ เล็กซี่จึงเปิดไปนั่งที่ที่นั่งคนขับและรอให้อีธานลู่เข้าไปข้างใน ซึ่งได้เวลาอันสมควรก่อนที่เธอจะสตาร์ทเครื่องยนต์ เธอให้ความเชื่อมั่นทั้งหมดของเธอกับคำพูดของชูรูและทีโตะ ว่าพวกนั้นจะไม่ทำร้ายพวกเขาก่อนที่เธอจะเร่งความเร็วออกไป

 

เมื่อพวกเขาออกจากสถานที่นั้นโดยไม่ได้ยินเสียงปืนใด ๆ ที่เล็งมาที่พวกเขา เล็กซี่รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย เธอมองไปที่ด้านข้างของอีธานและเห็นว่าเขามีเหงื่อออกมากซึ่งทำให้คิ้วของเธอขมวด

 

“ คุณไม่เป็นไรจริงๆใช่ไหม?”

 

” หืมม ” อีธานฮัมเพลงเบา ๆ ขณะที่เขาเหล่ตาเพื่อให้มองเห็นถนนข้างหน้าได้ชัดขึ้น

 

” สนใจถนนหน่อยชู ~! ค่อยคิดถึงนายภารกิจแรกทีหลังเมื่อกลับถึงบ้าน เลี้ยวขวานะชู ~!” ชูรูยิ้มอย่างสดใส ซึ่งเล็กซี่ไม่ได้ขัดอะไรเพราะเธอเป็นแบบนั้นมาตลอด ดังนั้นเธอจึงมุ่งเน้นไปที่การขับรถของเธอตามการนำทางของชูรู

—-

ด้ายการนำทางของเกี๊ยวน้อย เล็กซี่ก็กลับถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าจากมุมมองของเธอ มันค่อนข้างแปลกที่ทางออกของถนนที่นำทางเธอไปกลับมุ่งตรงไปที่ที่ตระกูลหยางเลย ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้คิดมากไปกว่านี้ ในขณะที่เธอก็ตัดสินใจที่จะตรงกลับบ้านโดยพาผู้ชายกลับไปด้วย