มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 385

“ฮึ่ม! ทำไมเขาถึงให้เด็กฝึกงานคนอื่นเป็นแพทย์ประจำและไม่ใช่ฉันล่ะ? ก็เหมือนกับที่ฉันเคยพูดไปก่อนหน้านี้ เขาจะไม่เห็นแก่หน้าพ่อของนายเลย! เขาก็รู้ว่าพวกเราทั้งคู่กำลังคบกันอยู่ไม่ใช่หรือไง? เขาให้เด็กฝึกงานคนอื่นเป็นแพทย์ประจำและเมินฉันแทน!”

มอร์กาน่าโกรธกริ้วมากจนซ้อมของเธอแทบจะกระแทกลงบนโต๊ะอีกครั้งแล้ว

เกเบรียลพยายามจะปลอบใจเธอ

เจอรัลด์ฟังอยู่ขณะที่เขากินไป และเขาก็เกือบจะเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

ประเด็นสำคัญของเรื่องก็คือว่า การเข้ามาในโรงพยาบาลของมอร์กาน่า โลเปซในฐานะแพทย์ฝึกหัดนั้นถูกจัดการโดยพ่อของเกเบรียล ที่เป็นรองประธานของโรงพยาบาล

แน่นอน มอร์กาน่าทำได้ดีมากจริง ๆ กับงานของเธอ ซึ่งเธอเป็นมืออาชีพและมีความเชี่ยวชาญมากพร้อมกับทักษะต่าง ๆ ของเธอ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและผู้ป่วยหลายคนต่างก็ยกย่องเธออย่างยินยอมพร้อมใจ

แต่อย่างไรก็ตาม พ่อของเกเบรียลดูเหมือนจะมีเรื่องบาดหมางกับผู้อำนวยการ

สุดท้าย มอร์กาน่าก็กลายเป็นเหยื่อของความขัดแย้งระหว่างคนทั้งสอง

เธอสงสัยว่ามันอาจจะเป็นมากกว่าการท้าทายเล็กน้อยกับการที่เธอจะกลายมาเป็นแพทย์ประจำ และถ้าการทดสอบของเธอไม่ได้จบลงด้วยดี ตัวเลือกเดียวที่เห็นได้ชัดก็คือ การออกจากโรงพยาบาลไป

ตำแหน่งของเธอถูกยกให้กับเด็กฝึกงานคนอื่นจากฝั่งของผู้อำนวยการไปแล้ว แต่คน ๆ นั้นดูเหมือนจะทำงานได้แย่กว่ามอร์กาน่ามาก

เห็นได้ชัดว่าผู้อำนวยการต้องการจะทำให้พ่อของเกเบรียลอับอายขายหน้าอย่างจงใจ

ตอนนี้ สิ่งต่าง ๆ กลายเป็นค่อนข้างยุ่งยากใจสำหรับพวกเขา

มันมีความเป็นไปได้อย่างสูงที่สิ่งต่าง ๆ จะไม่ส่งผลดีกับพวกเขา

เช่นนั้น มันคือเหตุผลที่ทำไมมอร์กาน่าถึงต้องการจะออกไปเที่ยวคืนหนึ่งกับคาเมรอนและคนอื่น ๆ

เจอรัลด์รู้ว่าคาเมรอนและแก๊งของเขาคือใครเพราะพวกเขาก็มาจากชั้นเรียนเดียวกันในมัธยมปลาย

พ่อของคาเมรอนทำงานอยู่ในโรงพยาบาล และแม่จองเขาก็อยู่ในสำนักงานอนามัย

พูดง่าย ๆ พวกเขาจะมีเรื่องให้พูดคุยกันในภายหลัง

เจอรัลด์รู้สึกไม่สบายใจและอึดอัดขณะที่เขาฟังบทสนทนาของพวกเขาอยู่

เขารีบทานอาหารของเขาให้เสร็จ

“นายทานเสร็จแล้ว? นายทานพอหรือเปล่า? เห็นไหม ฉันมีเรื่องเรื่องหลายอย่างเกิดขึ้นที่นี่ ดังนั้นอย่าถือสาเลยนะ โอเคมั้ย?”

มอร์กาน่าถามคำถามอย่างสุภาพ มันไม่ได้ฟังดูอบอุ่นเหมือนกับก่อนหน้านี้

ทุกวันนี้ ผู้คนส่วนใหญ่จะสุภาพแค่ไม่กี่นาทีแรกกันเท่านั้น เมื่อเวลานั้นหมดลง นิสัยที่แท้จริงของพวกเขาก็จะโผล่ออกมาจากภายในเอง

“ไม่เป็นไร เอ่อจริงสิ มอร์กาน่า เธอเพิ่งพูดว่าเธอกำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากกับงานไม่ใช่เหรอ? อย่ากังวลมากเกินไปเลย และก็ผ่อนคลายบ้าง ฉันเชื่อว่าทุกอย่างจะออกมาดีเอง!”

เจอรัลด์ไม่สามารถทานมื้อเที่ยงของเขาให้เสร็จ และจากไปแบบนั้นได้

แต่อย่างไรก็ตาม เขาสามารถให้คำพูดที่ทำให้เธอกังวลน้อยลงคำสองคำกับเธอได้

เจอรัลด์ยังคิดว่าถ้าเขาสามารถช่วยเหลือเธอได้ เขาก็จะยิ่งกว่าเต็มใจที่จะช่วยเสียอีก

แม้เขาจะบอกได้เลยว่ามอร์กาน่าไม่ได้เห็นอะไรมากนักในตัวเขา แต่ความจริงที่ว่าเธอได้ชวนเขาทานอาหาร โดยไม่ได้คำนึงถึงว่ามันแพงหรือไม่ ทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่มิตรภาพหมายถึง

ผลก็คือ เจอรัลด์จะเสาะหาความช่วยเหลือและตอบแทนคืน

“ขอบคุณนะ เจอรัลด์ ถูกต้อง บอกหมายเลขห้องคนไข้ของลุงนายให้ฉันสิ และฉันจะเกเบรียลไปที่นั่นและกล่าวทักทาย”

“ได้!”

เจอรัลด์บอกหมายเลขห้องคนไข้กับพวกเขา

โดยไม่อยากขัดจังหวะมอร์กาน่าและเกเบรียล เขาจึงเดินออกจากโรงอาหารไปเพื่อไปดูแลคุณลุงวินเทอร์

ในขณะเดียวกัน เขาก็โทรหาแซค เพื่อจะดูว่าเขาสามารถใช้เส้นสายเพื่อช่วยเหลือมอร์กาน่าให้เป็นแพทย์ประจำในโรงพยาบาลนี้ได้หรือไม่

มันไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่อย่างใด

ไม่เพียงแต่แผนการการลงทุนระยะยาวของเจอรัลด์จะรวมถึงอุตสาหกรรมตลาดเสรี แต่มันยังรวมถึงสถานประกอบการธุรกิจต่าง ๆ หลายแห่งในเมืองเงียบสงบนี้ด้วย

โรงพยาบาลและภาคการศึกษาก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนนั่นอีกด้วยเช่นกัน

“เออจริงสิครับ เจอรัลด์ ผมสงสัยว่าคุณจะว่างไหมในคืนนี้?”

แซคถามขึ้นมาในขณะที่พวกเขากำลังจะวางสาย

“ทำไมเหรอ เกิดอะไรขึ้นครับ?”

“เอ่อ…ผู้นำของมณฑลเงียบสงบรู้ว่าคุณได้กลับมาสองสามวันแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมเอง ผมหลุดปากพูดไปตอนที่ผมดื่มน่ะครับ และพวกเขายังไปที่สถานนีรถโดยสารเพื่อจะกล่าวต้อนรับคุณโดยเฉพาะอีกด้วยตอนนี้พวกเขาได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับให้คุณ และพวกเขาอยากจะรู้ว่าคุณจะเข้าร่วมงานเลี้ยงได้หรือไม่?”

“ถ้ามันเป็นช่วงเย็น…ก็ได้ ผมจะไป!”

ความรู้สึกนั้นในลางสังหรณ์ของเขาถูกต้อง ตลอดมา พวกเขาอยู่ที่นั่นที่สถานีรถโดยสารเพื่อจะมารับเขาจริงด้วย

เอาตามตรงไม่อ้อมค้อม เจอรัลด์รู้สึกแย่ที่ทิ้งให้พวกเขาผิดหวังกัน

สำหรับงานเลี้ยงต้อนรับนั้น แม้ว่าเขาไม่อยากจะไป แต่พวกเขาก็จะคอยตามรบกวนเขาอยู่ดี