องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 343 ล่องูออกจากถ้ำ
ระหว่างทางฉีเฟยอวิ๋นพึมพำไม่เป็นศัพท์ หนานกงเย่อยากได้ยินนางเล่าเรื่อง ‘ถามโลกหล้ารักนั้นเป็นฉันใด’ แต่พอเห็นฉีเฟยอวิ๋นอ่อนแรงจนลืมตาไม่ขึ้นเช่นนี้ก็อดทุกข์ใจไม่ได้
เขาอุ้มฉีเฟยอวิ๋นกลับไปที่ห้องของเฉินอวิ๋นเจี๋ย ภายในห้องมีตั่งเตียงจัดเตรียมไว้ชั่วคราว พอหนานกงเย่วางฉีเฟยอวิ๋นลงบนนั้นก็เป็นเวลารุ่งสางแล้ว
หลังจากสั่งไม่ให้ใครส่งเสียงเอะอะโวยวายแล้ว หนานกงเย่จึงเหลือบมองมู่เหมียนและหมอโจว “พวกเจ้าก็ไปพักผ่อนก่อนเถิด ข้าจะดูแลตรงนี้เอง ตอนบ่ายค่อยกลับมาใหม่”
มู่เหมียนและหมอประจำจวนโจวพักอยู่ที่โถงด้านข้างลานบ้านของเฉินอวิ๋นเจี๋ยเป็นการชั่วคราว ส่วนที่พักด้านนี้ก็เปลี่ยนไปเป็นที่พักของหนานกงเย่
ฉีเฟยอวิ๋นฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหลหลังจากพักผ่อนมาระยะหนึ่ง นางลุกขึ้นไปดูเฉินอวิ๋นเจี๋ยซึ่งเวลานี้อาการไข้ลดลงแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นถอนหายใจอย่างโล่งอก ขณะที่เธอกำลังฉีดยาให้เฉินอวิ๋นเจี๋ย เฉินอวิ๋นเจี๋ยก็ตื่นขึ้นมา
เฉินอวิ๋นเจี๋ยลืมตาขึ้นมาด้วยความรู้สึกราวกับผ่านความยากลำบากมานับพันนับหมื่นครั้ง เขามองฉีเฟยอวิ๋นอย่างใจลอย พยายามยกมือที่ดูเหมือนจะหนักเป็นพันๆ ชั่งขึ้นมา แต่เมื่อยกไม่ขึ้นจึงวางลงอย่างเดิม
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า “ท่านจะไม่เป็นอะไร ขอเพียงแค่ร่วมมือกับข้าในการรักษาก็พอ”
เฉินอวิ๋นเจี๋ยฝืนยิ้มนิดหนึ่ง ตับของเขาเสียหายจนส่งผลต่อการสร้างเม็ดเลือดและทำให้ใบหน้าของเขาซีดเผือดจนน่ากลัว
ฉีเฟยอวิ๋นตรวจอาการของเขาเรียบร้อยแล้วจึงค่อยออกไป
หนานกงเย่เหลือบมองนิดหนึ่งและเดินไปที่ประตู ฉีเฟยอวิ๋นเองก็เดินตามไปด้วย
“ท่านอ๋อง เมิ่งกวงผู้นั้นไม่ใช่คนที่ซื่อสัตย์ เมื่อคืนเขาฉวยโอกาสตอนที่ท่านอ๋องไม่ทันระวังมองหม่อมฉันอยู่หลายครั้ง” ฉีเฟยอวิ๋นไม่อยากจะคิดมาก แต่สายตาแบบนั้น หลังจากไตร่ตรองดูดีๆ แล้วจึงเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
สีหน้าของหนานกงเย่อึมครึมลง “ดูเหมือนเขาเบื่อแล้วที่จะมีชีวิตอยู่”
หนานกงเย่ก้าวเท้าเตรียมจะออกไปข้างนอก แต่ฉีเฟยอวิ๋นรั้งตัวเอาไว้ “ท่านอ๋อง เอาแบบนี้…”
หนานกงเย่ก้มศีรษะลงและฉีเฟยอวิ๋นก็กระซิบที่ข้างหูของเขา จากนั้นหนานกงเย่จึงกล่าวว่า “ข้าไม่วางใจ ต่อให้ไม่มีอวิ๋นอวิ๋นข้าก็ทำให้เขายอมรับผิดและเปิดเผยพิรุธออกมาได้”
“ท่านอ๋อง ถ้าทำเช่นนั้นจะจับผิดตระกูลจงชินไม่ได้นะเพคะ ไม่เป็นการดีกว่าหรือที่จะล่องูให้ออกจากถ้ำ ถ้าจับสมาชิกตระกูลจงชินได้สักคนสองคนก็ถือว่าเป็นผลดีเหมือนกัน”
หนานกงเย่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “อย่าว้าวุ่นไปเลย ข้าจะคอยเฝ้าดูเอง”
“อื้ม”
ฉีเฟยอวิ๋นเงยหน้ามองเจ้าอีกาน้อย “เจ้าอีกาน้อยจะคอยอยู่ข้างกายหม่อมฉัน และถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับหม่อมฉันเจ้าจิ้งจอกน้อยจะรู้ทันที ท่านอ๋องอย่าได้กังวล”
ฉีเฟยอวิ๋นเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ก่อนจะออกไปก่อน
หนานกงเย่มองฉีเฟยอวิ๋นที่เดินจากไปและหันหน้าเดินไปอีกทาง
ฉีเฟยอวิ๋นออกไปเรียกอาอวี่ “อาอวี่ ตามกลับไปกับข้าหน่อยซี ข้าจะไปเอายามาเพิ่มสักหน่อย”
“ขอรับ”
อาอวี่กำลังจะรีบไปเตรียมรถม้า แต่ฉีเฟยอวิ๋นบอกว่าอยากจะเดินไป เขาจึงพาฉีเฟยอวิ๋นเดินไปที่จวนอ๋องเย่
ขณะที่เดินผ่านตรอกแห่งหนึ่งก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังมาจากด้านใน ฉีเฟยอวิ๋นตามเสียงร้องเข้าไปและพบว่ามีใครคนหนึ่งอยู่ในนั้นจริงๆ แต่นางมองไม่ชัดว่าเป็นใคร
อาอวี่ขวางฉีเฟยอวิ๋นเอาไว้ “พระชายา”
“ไม่เป็นไร”
ฉีเฟยอวิ๋นเดินต่อไป ทันใดนั้นก็มีคนพวกหนึ่งกรูเข้ามาจากทางด้านหลัง อาอวี่หันไปและถูกคนเหล่านั้นจับมัดเอาไว้
“พระชายาหนีเร็ว” อาอวี่ตะโกนบอกนาง ฉีเฟยอวิ๋นใจคอเหี่ยวแห้ง อาอวี่ยังคงเหมือนเดิม การป้องกันของเขาแย่เกินไป
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉีเฟยอวิ๋นเองก็ไม่ได้คิดจะวิ่งหนีเพราะนางกำลังตั้งครรภ์และวิ่งไม่ได้
ฉีเฟยอวิ๋นเดินเข้าไปเพราะอยากจะรู้ว่าคนที่อยู่ข้างในคือใครกันแน่
เมื่อเดินมาถึง เสียงร้องก็หายไปแล้ว
มีเสียงหัวเราะอย่างลำพองใจดังมาจากในตรอกและมีใครคนหนึ่งเดินออกมาจากประตู ฉีเฟยอวิ๋นมองอย่างระมัดระวัง ที่นี่เชื่อมต่อกับจวนอื่น และคนที่เดินออกมาจากประตูเล็กก็คือเมิ่งกวง
ฉีเฟยอวิ๋นแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวและเอ่ยอย่างแปลกใจ “ท่านรองแม่ทัพเมิ่งกวงหรือ”
“ใช่ ข้าเอง พระชายามีความจำดีหรือเป็นเพราะข้าหน้าตาดีกันแน่ พระชายาจึงจำข้าได้” เมิ่งกวงหรี่ตามองฉีเฟยอวิ๋น คำพูดเต็มไปด้วยความสกปรกโสมม
ฉีเฟยอวิ๋นไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย และสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ากำลังยืนยันว่านางคิดถูก
ฉีเฟยอวิ๋นไม่เกรงใจอีกต่อไปและถามว่า “เป็นท่านใช่หรือไม่ที่ทำร้ายเฉินอวิ๋นเจี๋ย”
“พระชายาอย่าถามข้าเลย ข้าบอกไม่ได้ ที่วันนี้มาพบกันในคราวนี้เป็นเพราะความชื่นชมในความงามของพระชายา ข้าจึงตั้งใจมารออยู่ที่นี่”
เมิ่งกวงพูดพลางเดินเข้ามาใกล้ฉีเฟยอวิ๋น เขายื่นมือออกมาหาโดยที่ฉีเฟยอวิ๋นไม่ได้หลบ ยังผลให้เขารู้สึกเจ็บแปลบที่นิ้วทันทีที่สัมผัสไหล่ของฉีเฟยอวิ๋น เขากรีดร้องอย่าน่าเวทนาและหดมือกลับ
เมิ่งกวงจับมือของตนไว้แน่นและก้มมองด้วยแววตาที่ตกตะลึงจนแทบจะถลนออกมา มือของเขากลายเป็นสีดำสนิท
“ท่าน… นี่มันอะไรกัน” เมิ่งกวงคำรามอย่างโกรธจัด
ฉีเฟยอวิ๋นเอ่ยเรียบๆ ว่า “ข้าเป็นใครกันท่านจึงมาแตะเนื้อต้องตัวได้ พิษนี้เป็นพิษที่ร้ายแรงมาก มีแค่ยาแก้พิษของข้าคนเดียวเท่านั้นที่แก้พิษได้”
“เอายาแก้พิษมาให้ข้า”
ทันทีที่ได้ยินว่าถูกวางยาพิษ เมิ่งกวงก็อยากจะได้ยาแก้ ฉีเฟยอวิ๋นยิ้มจางๆ “คิดไม่ถึงว่ารองแม่ทัพอย่างท่านจะไร้เดียงสาถึงเพียงนี้ ท่านคิดว่าข้าเป็นคนที่ท่านจะมาออกคำสั่งได้งั้นรึ
ข้าต้องการให้เจ้าตาย!”
ฉีเฟยอวิ๋นหรี่ตาลงเล็กน้อยจนรู้สึกถึงความเยียบเย็น
เมิ่งกวงชะงักไปนิดหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าตนเองจะรู้สึกกลัวฉีเฟยอวิ๋น
“ทะ… ท่านตั้งใจงั้นรึ” เมิ่งกวงชี้หน้าฉีเฟยอวิ๋นและจ้องเขม็งอย่างโกรธเกรี้ยว
ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองคนที่อยู่รอบๆ ตัวเมิ่งกวงนิดหนึ่ง “ถ้าพวกเจ้าไม่อยากถูกพิษก็หลีกไปซะ พิษของข้าเป็นอันตายถึงชีวิตเชียวนะ”
ทันทีที่ฉีเฟยอวิ๋นพูดจบ ผู้คนที่อยู่รอบๆ ตัวเมิ่งกวงต่างก็หลีกไปจนหมด เมิ่งกวงรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนและเริ่มยืนไม่มั่นคง หลังจากยืนอยู่พักหนึ่งเขาก็เซถอยหลังไป
“มอบยาแก้พิษมาให้เข้า” เส้นเลือดปรากฏให้เห็นในดวงตาของเมิ่งกวง เขาเจ็บปวดจนแม้แต่จะพูดก็ยังลำบาก
ฉีเฟยอวิ๋นก้าวไปข้างหน้า “เรื่องยาแก้ที่ท่านอยากได้นั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าข้าถามอะไรท่าน ท่านจะต้องตอบข้า ไม่อย่างนั้นท่านจะตายอยู่ที่นี่ภายในหนึ่งชั่วยาม”
“หญิงโฉด ท่านกล้าวางแผนคิดร้ายรองแม่ทัพอย่างข้า ข้าจะไม่ยอมอยู่ร่วมฟ้าเดียวกันกับท่าน” เมิ่งกวงออกแรงตะโกนใส่ เป็นผลให้มีเลือดทะลักออกมาจากปากของเขา
ฉีเฟยอวิ๋นกลัวเลือดจะกระเซ็นมาเปื้อนจึงหลีกกายหลบ
ฉีเฟยอวิ๋นยืนอยู่ข้างๆ “ถ้าท่านอยากตาย เช่นนั้นข้าก็จะทำให้ท่านสมหวัง”
ฉีเฟยอวิ๋นถอยหลังไปสองก้าวและหยิบเข็มเงินสองสามเล่มออกมาถือไว้ในมือ นางพูดถึงคนอื่นๆ ในที่นี้
เมิ่งกวงเริ่มมีเลือดออกตามทวารทั้งเจ็ด สายตาที่จ้องมองฉีเฟยอวิ๋นอย่างโกรธเกรี้ยวแปรเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนก ทันใดนั้นเขาก็ร้องขอความเมตตา “ยกโทษให้ข้าด้วย พระชายา พระชายา… ช่วยข้า ช่วยข้า…”
ฉีเฟยอวิ๋นถาม “ข้าถามอะไรแล้วเจ้าจะบอก?”
“บอก… ข้าบอก…”
เมิ่งกวงคลานไปหาฉีเฟยอวิ๋น “ช่วยข้าด้วย!”
ฉีเฟยอวิ๋นหยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งโยนให้เมิ่งกวง เมิ่งกวงรีบคว้าเอาไว้และยัดใส่ปากของตน
เวลานี้อาอวี่จัดการพวกที่มาสกัดกั้นเขาจนไม่เหลือชิ้นดีแล้วและมาคอยช่วยเหลือฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นมองเมิ่งกวงที่เลือดหยุดไหลอยู่บนพื้น
“ยานั้นจะช่วยประคองอาการของท่านไว้หนึ่งชั่วยาม หากหนึ่งชั่วยามให้หลังยังไม่ได้ยาแก้พิษจากข้าอีกครั้ง ท่านจะตาย”
ฉีเฟยอวิ๋นกำลังเตือนเมิ่งกวงว่าอยากคิดจะไม่ให้ความร่วมมือ
เมิ่งกวงรู้สึกว่าเขาลุกได้แล้ว นอกจากนี้เลือดก็หยุดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดแล้วด้วย
“ยาของพระชายานั้นยอดเยี่ยมจริงๆ”
แม้ว่าคำพูดของเมิ่งกวงจะนอบน้อม แต่แววตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความโลภ เขาอยากจะครอบครองฉีเฟยอวิ๋น
ฉีเฟยอวิ๋นแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นและถามเขาว่า “เหตุใดท่านจึงคิดทำร้ายเฉินอวิ๋นเจี๋ย”
“ไม่มีเหตุผล”
“ท่านไม่บอกก็ไม่เป็นไรเมิ่งกวง ช่างมันเถอะ”
ฉีเฟยอวิ๋นหันหลังเตรียมจะเดินออกไปจากตรอก เมิ่งกวงยังมีภารกิจ เมื่อเห็นว่าฉีเฟยอวิ๋นกำลังจะไปจึงรีบรั้งเอาไว้ “พระชายาได้โปรดใจเย็น หากอยากรู้ว่าเป็นใคร พระชายาก็แค่ตามข้ามา”
พูดจบเมิ่งกวงก็เข้าไปในประตูเล็ก ฉีเฟยอวิ๋นหันกลับไปมอง
ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือก็ไม่ได้ลูกเสือ ดังนั้นนางจึงตามไป
หากชอบ ‘องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ’ ขอให้ทุกท่านโปรดติดตาม ‘องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ’ จะอัปเดตโดยเร็วที่สุด