เมื่อเขาก้าวออกประตูมิติ หลินฮวงก็ได้มาอยู่ตรงทางเข้าขอบเหวนรกแล้ว
หลังเก็บประตูมิติ เขาก็ทิ้งดิ่งไปในขอบเหวนรก ไปปรากฏตรงทางเข้าชั้นสอง
“กฏมิติที่ระดับควบคุมสะดวกจริงๆ”หลินฮวงพึมพำเสียงต่ำก่อนก้าวผ่านทางเข้าชั้นสอง
เมื่อก้าวเข้าชั้นสอง เขาก็ก้าวเท้าอีกก้าวและไปปรากฏตรงทางเข้าชั้นสาม
เมื่อชั้นสามของขอบเหวนรก หลินฮวงก็ปล่อยจิตเทวะและพบตำแหน่งพวกเขาคุณฟู่ในเวลาไม่นาน
วินาทีถัดมา ร่างเขาก็ปรากฏตรงจุดที่พวกคุณฟู่อยู่
คุณฟู่และเหล่าทาสดาบตอบสนองทันทีที่สัมผัสได้ถึงการมาของอีกคน พวกเขารีบหันไปมอง
“ศิษย์รัก?!”เมื่อคุณฟู่เห็นว่ามันเป็นหลินฮวง เขาก็กล่าว”เจ้าออกจากการปิดประตูบ่มเพาะแล้ว?”
“ครับ”หลินฮวงพยักหน้า เดินไปหาคุณฟู่”ข้าเพิ่งออกจากการปิดประตูบ่มเพาะวันนี้ และเห็นข้อความที่ท่านทิ้งไว้ สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”
เหตุผลที่หลินฮวงถามก็เพื่อถามความคืบหน้าจากเมื่อวาน เพราะวันนี้คุณฟู่ยังไม่ได้ส่งข้อความมาหาเขา
“ไม่ค่อยดีนัก”คุณฟู่ได้ยินคำถามและสีหน้ามีความสุขของเขาก็หายไป”ปัจจุบันมีรอยแยกกว่า30จุดบนขอบเหวนรกชั้นสามนี้ ซึ่งมากกว่าสองปีก่อนมาก”
“นี่เป็นเรื่องปกติ ในอดีต มีบางรอยแยกหลบซ่อน พวกมันปกปิดอยู่ภายในหน้าผาหินหรือลึกลงไปใต้ดิน มันยากที่จะตรวจพบหากพวกมันไม่ปล่อยความผันผวนใดๆ”หลินฮวงแสดงความคิดเห็น
“ปัญหาคือตั้งแต่เมื่อวาน มหาพิภพได้พยายามส่งคนมาสำรวจ ยิ่งไปกว่านั้น ระดับพลังของผู้สำรวจที่ส่งมายังสูงขึ้นเรื่อยๆ และมันก็ยิ่งยากจะจัดการ”คุณฟู่แสดงความกังวล”หากรอยแยกทั้ง30นี้ส่งคนมาพร้อมกัน เราคงไม่มีกำลังคนพอจะรับมือ”
เนื่องจากเทพเสมือนส่วนใหญ่จากองค์กรใหญ่เป็นแค่เทพเสมือนขั้นต้น พวกเขาจึงต้องร่วมมือกันและสร้างค่ายกลต่อสู้
ตอนนี้ นอกจากคุณฟู่ ทุกคนยังเตรียมพร้อมต้อนรับศัตรู มีทาสดาบ7คนจากกลุ่มขัตติยะและทาสดาบ5คนจากกลุ่มผู้ปลดปล่อยที่ปลอมเป็นเทพเสมือนขั้นต้น แต่ละคนได้สร้างค่ายกลต่อสู้
ยกเว้นคุณฟู่ ปัจจุบันมีเพียง28กลุ่มในขอบเหวนรกชั้นสาม
“ไม่ต้องห่วง กำลังเสริมจะมาถึงในสองวัน”หลินฮวงกล่าวอย่างสบายใจ
เขาไม่กังวลเลยเพราะมีทาสดาบกว่าสองร้อยกำลังเดินทางมา
ทาสดาบเหล่านี้คือเทพแท้จริงขั้น6 ทันทีที่เจตจำนงของโลกกรวดถูกยับยั้ง ระดับพลังพวกเขาก็จะคลายผนึกเช่นกัน
ตอนนี้ที่นักสำรวจยังไม่ถูกส่งมา การปรากฏตัวของหลินฮวงจึงดึงดูดความสนใจของทุกคน
เหนือสิ่งอื่นใด ก่อนหน้านี้เขาไปมหาพิภพมา เขาถือเป็นคนดังของโลกบ่มเพาะ เป็นคนที่มียอดค้นหามากสุดของโลก คนทั้งหมดที่นี่ล้วนเป็นผู่บ่มเพาะชั้นยอด ต่อให้พวกเขาไม่เคยพบหลินฮวงมาก่อน ใบหน้าเขาก็ไม่ใช่แปลกหน้าอะไร แถมยังมีคนที่เคยพูดคุยกับเขาด้วย
ทาสดาบทั้งเจ็ดของขัตติยะมาทักทายหลินฮวงพร้อมสมาชิกคนอื่น
“ฝ่าบาท!”
ทั้งเจ็ดไม่ได้เรียกหลินฮวงว่าจอมดาบเพราะเขาสั่งไว้ ตอนนี้พวกเขากำลังปลอมเป็นสมาชิกขัตติยะ มันจึงเหมาะสมกว่าที่จะเรียกเขาเช่นนี้
หลินฮวงพยักหน้าเล็กน้อย สายตาเขาสลับไปมาระหว่างสมาชิกขัตติยะ จากนั้นก็เหลือบไปมองทางผู้ปลดปล่อยซึ่งมีทาสดาบทั้งห้า
เมื่อหลินฮวงละสายตาออกจากผู้ปลดปล่อย ตงฟางไป่ รองประธานของรัฐบาลกลาง ผู้นำกลุ่มรัฐบาลกลางก็เดินมาพร้อมกับกวนจง
“จักรพรรดิหลิน หากไม่ได้พบท่านวันนี้ ข้าคงคิดว่าข่าวการกลับมาของท่านครึ่งปีก่อนเป็นข่าวปลอม”ตงฟางไป่ทักทายหลินฮวงอย่างสุภาพ
“หัวหน้าตงฟาง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”หลินฮวงทักทายเขาด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ”ข้าปิดประตูบ่มเพาะตั้งแต่กลับมา ข้าเคยพูดไว้ว่าหากข้ามีเวลา ข้าจะไปเยือนรัฐบาลกลางและจิบชากับท่าน แต่ข้าก็ไม่มีเวลาเลย”
“ข้าเพิ่งออกจากการปิดประตูบ่มเพาะก็วันนี้ เดิมข้าวางแผนจะหยุดพัก แต่ก็ได้รับข้อความเสียก่อนจึงรีบรุดหน้ามา”
“ท่านเป็นคนที่งานรัดตัวเสียจริง”ตงฟางไป่จับมือกับหลินฮวง
“มันก็ยังจัดการได้ มันไม่ยุ่งเท่ากับงานของพวกท่านหรอก”
“ปกติเราก็สบายดี แต่ช่วงนี้งานนั้นยุ่งมาก”ทั้งสองพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนตงฟางไป่จะเข้าเรื่อง”แม้เราจะเตรียมการไว้แล้ว การเตรียมการของเราทั้งหมดก็ยังไม่พอ”
“จักรพรรดิหลิน ท่านมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการรุกรานนี้ไหม?”
“ข้อเสนอแนะข้าเรียบง่าย มาร่วมมือกัน หยุดเถียงกัน พยายามสุดความสามารถเพื่อจัดการกับศัตรูภายนอก หากมีความขัดแย้ง ก็ปล่อยให้เป็นไปตามนั้น ตอนนี้เราไม่อาจเสียเวลาไปกับปัญหาภายในได้ ศัตรูเราทรงพลังมากกว่าเดิม โลกกรวดอาจตกเป็นดินแดนบริวารของคนอื่นหากเราไม่ระวัง”
เนื่องจากการสนทนาของทั้งสองไม่ได้กระทำผ่านคลื่นเสียง ทุกคนจึงได้ยินคำพูดของหลินฮวง
หลายคนเห็นด้วย แต่ก็มีคนที่ดูถูกเหยียดหยาม
“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น ทุกคนควรละทิ้งความแค้นใจไว้ชั่วคราวและร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้”ตงฟางไป่ยิ้ม
“เอาเป็นว่าเราอย่ามาคุยเรื่องเครียดๆกันเลย จักรพรรดิหลิน ข้าไม่เจอท่านมากว่าปีแล้ว ท่านจะไม่เชิญข้าไปจิบชาด้วยกันหน่อยหรือ?”
ทันทีที่ตงฟางไป่กล่าวเช่นนี้ หลินฮวงก็เข้าใจว่าเขาอยากคุยเป็นการส่วนตัว
คุณฟู่เหลือบมองและหลินฮวงก็เหลือบไปเห็นเต็นท์ที่อยู่ไม่ไกล เขายิ้มและพยักหน้า”หากท่านไม่รังเกียจก็เชิญ”
หลินฮวงนำตงฟางไป่และพวกเขาเข้าไปในเต็นท์ เหล่าทาสดาบกำลังจะตามมาแต่คุณฟู่ก็ส่งสายตาให้หยุด มีเพียงตัวเขาถึงตามเข้าไป
เต็นท์นี้ดูธรรมดาจากด้านนอก แต่จริงๆแล้วมันคือสมบัติเทพประเภทวังของคุณฟู่ และมันก็มีระดับเกือบเท่ากับวังจักรพรรดิ
การตกแต่งภายในสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่ามันคือบ้านของคุณฟู่ หลินฮวงเคยมาที่นี่หลายครั้งในอดีต
“คุณฟู่ วังนี้ต้องแพงมากแน่ๆ!”ตงฟางไป่เห็นของระดับสูงมากมาย แม้กระทั่งเขาก็ยังอดอุทานไม่ได้
“เมื่อข้าซื้อมันมา ข้าใช้เงินเก็บข้าไปเกือบหมด”คุณฟู่ยิ้ม
สีหน้าของหลินฮวงไม่แยแส เขาไม่พูดอะไร เขามีสมบัติเทพสวรรค์ที่เหล่าเทพสวรรค์ใช้ นอกจากนี้ เขายังสะสมสมบัติกฏเทพไว้มาก เขายังมีอาวุธเซียนเจ็ดชิ้น เมื่อนำมันออกมา แค่ชิ้นเดียวก็มีค่ามากกว่าวังนี้แล้ว
ผู้คนพากันเดินเข้าโถง หลังจับจองที่นั่ง คุณฟู่ก็นำชุดชาล้ำค่าของเขาออกมา
ในที่สุดตงฟางไป่ก็น่งตัวตรงและเริ่มการสอบถามหลินฮวง
“หลินฮวง ท่านอยู่ในมหาพิภพมาปีหนึ่งเต็มๆ ท่านย่อมรู้อะไรมากกว่าเรา ช่วยบอกเราตรงๆ ระดับความสามารถของผู้บุกรุกครั้งนี้เป็นอย่างไร?ทักษะของพวกเขาเหนือกว่าเทพแท้จริงขั้นต่ำหรือไม่?”
หลินฮวงเหลือบมองคุณฟู่ คิดว่าเขาคงพูดอะไรบางอย่างกับรัฐบาลกลางมาบ้าง แต่ทว่า คุณฟู่กลับส่ายหัว บ่งชี้ว่าเขาไม่ได้พูดอะไร
ตงฟางไป่และคนอื่นๆสังเกตเห็นท่าทางเหล่านี้”จากที่ดูแล้ว พวกท่านคงปกปิดบางอย่างไว้จริงๆ”
หลินฮวงจำต้องพยักหน้า”ในเมื่อการรุกรานเริ่มขึ้นแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องปิดบังอีก”
“การรุกรานโลกชั้นต่ำโดยมหาพิภพมักเกิดขึ้นโดยเทพแท้จริงขั้นสูง ในหลายกรณี ผู้ริเริ่มคือเทพแท้จริงขั้น9ที่มีองค์กรอิสระของตนเอง มันอาจเป็นการร่วมมือของขุมกำลังระดับเทพแท้จริงขั้น9หลายองค์กรด้วยซ้ำ…”
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของหลายคนก็สลดลง