[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]

บทที่ 534 : เข้าใจผิด!

หลิงหยุนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และเมื่อพบว่าเป็นสายจากหลิวลี่ เขาจึงรีบกดรับทันที

“…! เอ่อ.. หลิงหยุน กำลังทำอะไรอยู่?”

หลิวลี่คิดไม่ถึงว่าโทรศัพท์มือถือของหลิงหยุนจะเปิด และด้วยความตกใจ.. เธอจึงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงรีบพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทั้งมีความสุข และตื่นเต้น!

“ผมยังเป็นนักเรียนมัทธยมอยู่นะ.. คิดว่าผมควรทำอะไรอยู่ล่ะ? พี่หลิว.. พี่สบายดีนะ? แล้วนี่มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า?”

หลิงหยุนไม่ได้คิดอะไร เขาจึงถามออกไปตรงๆ เพราะคิดว่าหลิวลี่โทรหาเขาคงต้องมีเรื่องอะไรอย่างแน่นอน

“เอ่อ..”

ใจของหลิวลี่เต้นแรง และอยากจะบอกไปว่าไม่มีอะไร แต่ปากกลับพูดออกไปว่า “สองสามวันนี้ฉันรู้สึกปวดท้องนิดหน่อย ก็เลยอยากให้น้องชายมาช่วยตรวจดูให้หน่อย..”

หลิงหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับคิดในใจว่า ‘ปวดท้องอย่างนั้นรึ?’

หลิงหยุนคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะก่อนหน้านี้เขาเองก็ได้ใช้เก้าเข็มปลุกชีพรักษาลูกในท้องของหลิวลี่ไว้ได้แล้ว เธอควรจะต้องคลอดลูกอย่างปลอดภัยถึงจะถูก..

“พี่หลิว.. ไม่ต้องร้อนใจ เดี๋ยวผมจะเข้าไปตรวจดูอาการให้!”

หลิงหยุนรู้สึกเป็นห่วงหลิวลี่ จึงตัดสินใจว่าจะไปดูอาการของเธอเสียหน่อย และไม่น่าจะเสียเวลามากนัก

หลิงหยุนกดวางสายไป.. แต่กลับเห็นถังเมิ่งและตี้เสี่ยวอู๋จ้องหน้าเขาเขม็ง!

หลิงหยุนกระพริบตาพร้อมกับร้องถามขึ้นว่า “นี่พวกนายจ้องหน้าฉันทำไม? ถังเมิ่ง.. นายเลิกมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นได้แล้ว รีบย้ายก้นลุกขึ้นไปทำหน้าที่ขับรถเดี๋ยวนี้!”

“นี่พี่หยุน.. ฉันยังไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย?! ฉันไปเดี๋ยวนี้แล้ว..”

หลังจากปิดประตูบ้านเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามคนก็ขับรถออกไปจากบ้านทันที

หลิงหยุนได้สั่งให้ถังเมิ่งจัดการซื้อบ้านให้กับครอบครัวของหลิวลี่ และบ้านของเธอก็อยู่ทางด้านตะวันออกของเมืองจิงฉู หมู่บ้านที่เธอยู่นั้นส่วนใหญ่จะมีคนระดับชนชั้นกลางค่อนไปทางมีฐานะอาศัยอยู่ แม้จะอยู่ห่างจากบ้านของหลิงหยุน แต่ก็ไม่ถึงกับไกลมากนัก

ถังเมิ่งขับรถแลนด์โรเวอร์ไปช้าๆ พร้อมกับจุดบุหรี่ขึ้นสูบ จากนั้นจึงหันหน้าไปทางหลิงหยุนซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างคนขับ และในที่สุดเขาก็อดรนทนไม่ได้จนต้องถามออกไปว่า

“พี่หยุน.. ทำไมพี่ถึงได้ดีกับครอบครัวหลิวลี่มากขนาดนี้? นี่มันไม่ใช่นิสัยของพี่เลย..”

ถังเมิ่งเคยเห็นหลิงหยุนทำร้ายร่างกายคน ฆ่าคน เขารู้ดีว่าหลิงหยุนนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรูนั้นโหดเหี้ยม และเย็นชามากเพียงใด? อีกทั้งเขายังไม่เคยเห็นหลิงหยุนทำอะไรให้ใครโดยไม่หวังผลประโยชน์เป็นการตอบแทน เรื่องแบบนี้เรียกว่าแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นกับหลิงหยุนด้วยซ้ำไป

แต่กับครอบครัวของหลิวลี่นั้น.. หลิงหยุนกลับทำดีกับพวกเขาอย่างที่สุดโดยไม่หวังอะไรตอบแทน ในสายตาของคนในครอบครัวหลิวลี่ หลิงหยุนจึงไม่ต่างจากพระมาโปรด ต่อให้พวกเขาตายแล้วเกิดใหม่ ก็ยังยากที่จะตอบแทนหลิงหยุนได้หมด!

เมื่อครั้งที่หลิวลี่กับหลิงหยุนพบกันครั้งแรกนั้น ไม่เพียงหลิงหยุนจะช่วยชีวิตของเธอจากพวกเทศกิจไว้ แต่ยังมอบเงินให้เธอสี่หมื่นหยวนอีกด้วย จากนั้นก็มอบให้อีกสองแสน และล่าสุดอีกหนึ่งล้าน!

ไม่เพียงเท่านั้น.. หลิงหยุนยังได้ช่วยฟื้นฟูร่างกายให้กับหลิวลี่ ช่วยรักษาสามีของเธอที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนหมดสติอยู่หลายเดือนจนหายขาด อีกทั้งยังซื้อบ้าน ซื้อเฟอร์นิเจอร์ และซื้อรถให้อีกด้วย..

ประเมินมูลค่าสิ่งของ และเงินทองที่หลิงหยุนมอบให้กับครอบครัวของหลิวลี่นั้น ถึงตอนนี้น่าจะมากกว่าแปดล้านหยวนแล้ว!

ถังเมิ่งเองก็หูตาไว และเฉลียวฉลาดไม่เบา เขามองออกว่าหลิงหยุนไม่ได้รู้สึกอะไรกับหลิวลี่เกินเลย แต่เมื่อเขาได้พบกันหลิวลี่ และได้พูดคุยกับเธอเป็นครั้งคราว ถังเมิ่งก็สามารถสัมผัสได้ว่าหลิวลี่นั้นดูเหมือนจะเป็นห่วงเป็นใยหลิงหยุนเกินกว่าเพื่อนธรรมดา

การที่หลิวลี่รู้สึกเช่นนั้น ถังเมิ่งพอจะเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะเพียงแค่รูปร่างหน้าตาของหลิงหยุนเพียงอย่างเดียว ก็สามารถสะกดจิตใจสาวๆได้จนแทบโงหัวไม่ขึ้นแล้ว แต่นี่หลิงหยุนยังมีความแข็งแกร่งห้าวหาญเหนือมนุษย์อีก

แม้แต่สาวงามแห่งจิงฉูอย่างเฉิงเม่ยเฟิงยังถึงกับหลงใหล และยอมสิโรราบให้กับหลิงหยุน จึงแทบไม่ต้องพูดถึงหลิวลี่..

หลิงหยุนไม่ได้รู้สึกเกินเลยกับหลิวลี่เลยแม้แต่น้อย เขาปฏิบัติต่อหลิวลี่ไม่ต่างจากพี่สาวคนหนึ่งเท่านั้น เรื่องนี้ถังเมิ่งเข้าใจดี! แต่ที่เขาไม่เข้าใจ และยากที่จะทำความเข้าใจได้นั่นก็คือ เพราะเหตุใดหลิงหยุนจึงต้องดีกับหลวลี่ถึงเพียงนี้!

หลิงหยุนยิ้มให้กับถังเมิ่งพร้อมกับตอบไปว่า “สิ่งที่ฉันทำเรียกว่าความเมตตาและความจริงใจ! ฉันกำลังทำความดีอยู่ นายไม่เข้าใจหรือยังไง? ต่อไปนายคงต้องเรียนรู้เรื่องพวกนี้จากฉัน..”

“เฮอะ..!”

ถังเมิ่งได้ฟังคำพูดของหลิงหยุนก็ถึงกับเหยียบเบรกหยุดรถทันที เขาหันไปมองหลิงหยุนพร้อมกับตอบไปว่า

“พี่หยุน.. นี่พี่รู้จักคำว่า ‘ทำความดี’ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

“นี่นายเบรกทำไม? ขับต่อไปเดี๋ยวนี้เลย!”

หลิงหยุนได้ยินถังเมิ่งพูดจาดูถูกเขา จึงยกมือขึ้นตบศรีษะพร้อมกับสั่งให้รีบขับรถต่อไป

เพียงแค่พู่กันจักรพรรดิด้ามเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้หลิงหยุนมอบทุกอย่างให้กับครอบครัวหลิวลี่แล้ว แต่นี่แม่สามีของหลิวลี่ยังได้มอบหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นให้กับเขาด้วย

หนังสือที่แสนจะประหลาดเล่มนั้นล้วนเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุสาน และรวบรวมรายละเอียดการขุดสุสานสำคัญๆบางแห่งอีกด้วย

หากให้หนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นกับคนธรรมทั่วไป มันก็คงจะไม่มีค่า และมีประโยชน์อะไร แต่เมื่อตกไปอยู่ในมือของหลิงหยุน หนังสือเล่มนั้นจึงกลายเป็นสมบัติล้ำค่าที่จะพาเขาไปสู่ขุมทรัพย์เลยทีเดียว!

หลิงหยุนเป็นคนประเภทที่มีแค้นต้องชำระ แต่หากมีคุณก็ต้องทดแทน!

หลิงหยุนได้รับประโยชน์อย่างมากมายมหาศาลจากสิ่งของที่ได้รับมาจากหลิวลี่ และครอบครัว แม้ว่าเขาจะไม่สามารถบอกเรื่องนี้กับใครต่อใครได้ แต่เขาก็มีหน้าที่ต้องทำให้ครอบครัวของหลิวลี่อยู่อย่างสุขสบายในโลกใบนี้เท่าที่เขาจะสามารถทำได้

รถสองคันขับมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งในฝั่งตะวันออกของเมืองจิงฉู..และแล่นไปจอดอยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน

ถังเมิ่งหันไปพูดกับหลิงหยุนว่า “พี่หยุน.. พี่เดินตรงเข้าไปตามถนนเส้นนี้ เลี้ยวขวาแถวที่สี่ บ้านเลขที่ 16 จะอยู่ด้านในสุด”

หลิงหยุนมองถังเมิ่งพร้อมกับถามขึ้นว่า “แล้วนายไม่เข้าไปด้วยกันเหรอ?”

ถังเมิ่งยิ้มมีเลศนัยก่อนจะตอบไปว่า “พี่เข้าไปในฐานะหมอไม่ใช่เหรอ? คงไม่สะดวกถ้าฉันจะเข้าไปด้วย..” ถังเมิ่งหาข้ออ้างจนได้

หลิงหยุนคร้านที่จะใส่ใจกับถังเมิ่ง “ถ้างั้นนายก็รอฉันอยู่ที่นี่ ถ้ามีอะไรก็เข้าไปตามฉันได้!”

พูดจบ.. หลิงหยุนก็เดินลงรถไปตามทางที่ถังเมิ่งบอก

ภายในหมู่บ้านนั้น.. แต่ละแถวจะมีบ้านอยู่ทั้งหมดสี่หลัง ด้านซ้ายสองหลัง และด้านอีกขวาสองหลัง ส่วนเลขที่บ้านก็จะเรียงกันไปตามลำดับ

เพียงไม่นาน.. หลิงหยุนก็เดินไปถึงแถวที่สี่ และสายตาของเขาก็กวาดไปทางด้านขวามือตามที่ถังเมิ่งบอก

หลังจากที่หลิงหยุนลงจากรถ ตี้เสี่ยวอู๋ก็เดินตรงไปที่รถแลนด์โรเวอร์ ถังเมิ่งหยิบบุหรี่ออกมาพร้อมกับถามตี้เสี่ยวอู๋ว่า

“นายจะสูบบ้างมั๊ย?”

“ฉันบอกนายกี่ครั้งแล้วว่าพี่หยุนไม่ชอบให้พวกเราสูบบุหรี่! เลิกสูบได้แล้ว!” ตี้เสี่ยวอู๋ร้องบอกถังเมิ่งอย่างโมโหเมื่อเห็นถังเมิ่งเอ่ยชวน

“เฮ้อ.. ความรักไม่เข้าใครออกใครจริงๆ..”

ถังเมิ่งพึมพำพร้อมกับถอนหายใจ หลังจากจุดบุหรี่สูบแล้วเขาก็พูดต่อว่า “นายเดาดูสิว่า หลิวลี่ให้พี่หยุนมาหาเพราะต้องการอะไรกันแน่?”

ตี้เสี่ยวอู๋ขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องหน้าถังเมิ่ง “ฉันว่านายคงจะครั่นเนื้อครั่นตัวมากสิท่า ต้องการใช้ฉันช่วยมั๊ยล่ะ?”

ถังเมิ่งถอนหายใจอีกครั้งแล้วรีบตอบไปว่า “ก็ได้ๆ ฉันไม่พูดแล้วก็ได้!”

…………

หลิงหยุนไปถึงหน้าประตูบ้านของหลิวลี่ เมื่อเห็นว่าเป็นบ้านเลขที่ 16 แน่นอนแล้ว เขาจึงใช้จิตหยั่งรู้สำรวจเข้าไปด้านใน และพบว่าภายในบ้านมีหลิวลี่อยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น

“พี่หลิว.. ผมมาแล้ว!”

หลิงหยุนไม่ต้องการรบกวนเพื่อนบ้านที่อยู่รอบๆ เขาจึงใช้การส่งกระแสจิตเข้าไปบอกหลิวลี่ให้เธอได้ยินเพียงคนเดียว

หลิวลี่อุ้มท้องมานานกว่าเจ็ดเดือนแล้ว เธอกำลังเดินออกมาจากห้องรับแขกพร้อมกับร้องตะโกนบอกหลิงหยุน

“ประตูรั้วไม่ได้ล็อก.. เปิดเข้ามาได้เลย!”

หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับร้องถามจากหน้าประตู “พี่หลิว.. แล้วท่านป้ากับพี่หลี่ไปใหน?”

หลิวลี่ถึงกับตกใจเล็กน้อย แต่ก็ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงปกติ “เมื่อวานเป็นวันครบรอบวันตายของพ่อพี่หลี่ แม่กับพี่หลี่ก็เลยกลับไปที่เหอหนานเพื่อไหว้สุสานตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พรุ่งนี้ถึงจะกลับ..”

เหลืออีกเพียงแค่สองเดือนหลิวลี่ก็จะคลอดแล้ว ท้องของเธอจึงเคลื่อนลงต่ำมาก และก้มได้ไม่ค่อยสะดวกนัก หลิวลี่สวมชุดคลุมท้องสีขาวเนื้อบางรัดรอบท้องโตของตนเอง

หลิงหยุนได้แต่แอบถอนหายใจขณะที่เดินเข้าไปหาหลิวลี่ สายตาของเขาสำรวจไปทั่วร่างของเธอพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“พี่หลิวตามสบาย.. ไม่ต้องห่วงผม! แล้วนี่คุณอยู่ที่บ้านคนเดียวงั้นเหรอ?”

ใบหน้างดงามของหลิวลี่จ้องมองหลิงหยุนพร้อมกับยกมือชี้ไปที่ท้องของตนเองพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“ตอนนี้ที่บ้านเหลืออยู่แค่สองคน..! พี่เลี้ยงเด็กที่พี่หลี่จ้างมาช่วยดูแลก็ออกไปซื้อกับข้าว.. ต้องขอบคุณน้องหลิงหยุนอีกครั้งที่ดูแลพวกเราอย่างดี แล้วยังให้ทั้งบ้านทั้งรถ!”

หลิงหยุนค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง เขาจึงตอบกลับไปยิ้มๆ “อ่อ.. มีคนอยู่ด้วยค่อยโล่งอกหน่อย!”

“เข้ามาในบ้านก่อนเร็วเข้า.. ข้างนอกแดดร้อนมาก!” หลิวลี่ยื่นมือไปจับแขนของหลิงหยุน และพาเดินเข้าไปในบ้านทันที

หลิงหยุนตกตะลึงกับปฏิกิริยาของหลิวลี่ และจู่ๆก็เริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมา แม้ว่าหลิงหยุนจะรู้สึกกับหลิวลี่เหมือนพี่สาวแท้ๆ แต่หญิงชายอยู่ด้วยกันสองต่อสองก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรนัก.. และอาจถูกครหาได้!

ใบหน้าสวยงามของหลิวลี่เองก็เริ่มแดง..

“เข้ามาดื่มชาก่อน.. ฉันจะชงชาชั้นยอดให้ดื่ม..” หลิวลี่ผลักหลิงหยุนให้นั่งลงบนโซฟา และเริ่มรินชาให้กับหลิงหยุน

“พอแล้วครับ..” หลิงหยุนรีบคว้าแก้วชาขึ้นจิบ

ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญ หรือว่าตั้งใจ.. ชุดคลุมท้องของหลิวลี่วันนี้ดูเหมือนจะสั้น และดูบางเบาสบายมากจนเกินไป เนื้อผ้าบางเบานั้นแนบชิดกับหน้าอกทั้งสองข้างจนเผยให้เห็นเนินอกขาวที่ใหญ่โต และสะดุดตาอย่างยิ่ง

หากเปลี่ยนเป็นหลินเมิ่งหาน เฉิงเม่ยเฟิง เกาเฉินเฉิน กงเสี่ยวลู่ หลงหวู่ เหยาลู่ หรือว่าหญิงสาวคนอื่นๆของเขาแล้วล่ะก็ หลิงหยุนคงไม่ลังเลที่จะสัมผัสหน้าอกทั้งสองข้างนั้นอย่างแน่นอน

แต่นี่เป็นหลิวลี่.. เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้!

ดังนั้น.. หลิงหยุนจึงทำได้เพียงแค่บังคับสายตาของตนเองให้มองที่ปลายจมูกของตนเองแทน และปิดการทำงานของจิตหยั่งรู้ทันที แล้วไม่ยอมมองไปทางหลิวลี่อีกเลย

“น้องหลิงหยุน.. อีกไม่นานก็จะสอบเอนทรานซ์แล้วใช่มั๊ย? แล้วหายไปใหนมาเกือบเดือน ทำให้พี่สาวคนนี้เป็นห่วงแทบแย่..”

หลิวลี่และหลิงหยุนนั่งข้างกัน และเธอก็นั่งใกล้จนร่างเกือบแนบชิดติดกับหลิงหยุน พร้อมกับถามไถ่ด้วยความห่วงใย..

จู่ๆ หลิงหยุนก็รู้สึกราวกับถูกเข็มทิ่มแทงไปทั่วทั้งตัว..

หลังจากตอบคำถามของหลิวลี่ไปสองสามคำถาม หลิงหยุนจึงรีบตรงเข้าประเด็นทันที

“พี่หลิว.. เท่าที่ผมเห็น คุณก็ดูสบายดี ลูกในท้องก็ปกติดี ไม่เห็นมีอะไรผิดปกตินี่?”

หลิงหยุนเป็นใคร..? เพียงแค่มองด้วยสายตาเขาก็รู้แล้วว่าทั้งแม่และลูกนั้นปลอดภัยดี ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

ใบหน้าของหลิวลี่แดงก่ำมากขึ้น พร้อมกับตอบเสียงเบา “มันปวดเป็นครั้งคราว ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ถ้าไม่ลำบาก.. ช่วยตรวจดูอาการให้ฉันหน่อยจะได้มั๊ย..?”

หลิงหยุนรู้ดีว่าหลิวลลี่ไม่ได้เป็นอะไร เขาจึงได้แต่ตอบไปว่า “พี่หลิว.. คุณไม่ได้เป็นอะไร?”

หลิวลี่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเว้าวอน “วันนี้คุณมองฉันด้วยแววตาแปลกไปไม่เหมือนเมื่อก่อน.. ทำไมเหรอ? หรือกลัวว่าฉันจะทำอะไรคุณ?”