เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 388 อย่าปล่อยให้แสงสว่างของฉันเห็นความมืดและความปรารถนาอันลึกล้ำของฉัน
หลังจากที่มาร์คฟังสิ่งที่อีธานพูดเขาก็ค้นพบว่าคุณสโลนยอมทำได้ถึงเพียงไหนเพื่อปกปิดการมีส่วนร่วมในเหตุเครื่องบินตกของอีธาน คุณสโลนยอมทำแม้กระทั่งการแบกรับความผิดคนเดียว
ตอนนั้นอีธานเพียงอายุแค่สิบขวบ แต่ถึงกระนั้นเขาก็เก็บงำความอาฆาตพยาบาทและความเกลียดชังที่รุนแรงเช่นนี้ไว้ ไม่แปลกใจเลย ที่เด็กชายคนนี้จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งในวันนี้ได้โดยทิ้งร่องรอยของเลือดไว้ตามทางของเขา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าขันที่สุดก็คือ จอร์จคิดผิด เขารู้เรื่องการสนทนาของมาร์คกับพ่อของเขาในห้องทำงาน แต่เขาไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น เด็กหนุ่มคนนั้นไปที่ห้องของแม่เขาในเวลาต่อมาทันที คืนนั้นเป็นคืนที่โชคชะตากำหนดให้ มาร์ค เทรมอนต์ ต้องทิ้งความบริสุทธิ์ของตัวเอง เพราะในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าโลกในความเป็นจริงนั้นขมขื่นเพียงใด
เขาไปที่ห้องนอนของแม่เขาทันทีที่ออกมาจากห้องทำงานของพ่อเนื่องจากว่าแม่เขาป่วยมากจนแทบจะเดินไม่ไหว เขาไม่ได้คาดคิดว่าแม่ของเขาจะรู้เรื่องของลูกนอกสมรสแล้ว สำหรับเธอเป็นตัวอย่างที่ดีของคนที่ใช้เหตุผลและมีความชอบธรรมมาโดยตลอด แต่ถึงกระนั่นเธอก็ยังถูกเหยียดหยามอย่างขมขื่น น้ำตาแห่งความโกรธที่ไหลอาบหน้าของเธอขัดแย้งกับรอยยิ้มของเธอขณะที่เธอพูดว่า “แสดงว่าเขาบอกลูกทุกอย่างเลยใช่ไหมมาร์ค? เขาคิดว่าแม่ไม่รู้ แต่แม่รู้ทุกอย่าง…”
“แม่ไม่เคยทะเลาะกันให้ลูกเห็นเลย ถูกไหม? แต่หลังจากประตูที่ถูกปิดนั้นเราทะเลาะกันจนนับครั้งไม่ถ้วน เราไม่ได้เกิดมาคู่กัน แต่เราก็ยังต้องอยู่ด้วยกันตลอดทั้งชีวิตนี้ อย่างไรก็ตาม แม่ไม่ได้เป็นคนใจอ่อนอย่างที่ทุกคนคิด่าแม่เป็นหรอกนะ” เธอพูดต่อ “มาร์ครู้ไหมลูก? แม่เคยไร้เดียงสา แต่อย่างไรก็ตาม แม่ผิดพลาดที่เลือกพ่อของลูก ก่อนที่เราจะแต่งงานกัน ศัตรูของพ่อมาหาแม่และทำร้ายแม่ ตอนนั้นแม่อยากตายมาก แต่พ่อของลูกบอกว่าเขาไม่ได้มองแม่เปลี่ยนไป เขาบอกว่าแม่ยังคงบริสุทธิ์ในสายตาเขา เขาบอกว่าเขายังอยากแต่งงานกับแม่อยู่ เราก็เลยแต่งงานกัน ตอนที่ให้กำเนิดลูก แม่คิดอย่าเงไร้ดียงสาว่าพวกเราจะซื่อสัตย์ต่อกันจนวันตาย”
“แต่โลกแห่งความจริงมันโหดร้าย เนื่องจากศัตรูของเขาได้แก้แค้นเขาผ่านแม่ เขาจึงไม่เคยมองว่าแม่เป็นผู้หญิงบริสุทธิ์ที่คู่ควรกับความภักดีของเขา เมื่อแม่ได้ยินว่าเขามีเมียน้อยที่ได้ให้กำเนิดลูกชายแก่เขาแม่ก็เมินเฉย แม่ปล่อยให้มันเป็นไปเพราะแม่ไม่คิดว่าแม่มีสิทธิ์ที่จะหยุดเขา ช่างเป็นเรื่องที่ตลก! โอ้ มาร์ค สิ่งเดียวที่แม่กลัวที่สุดคือการที่ไอ้สารเลวสองใจนั้นจะแบ่งสมบัติของเขาไปให้อีตัวนั้นและลูกชายของเธอด้วย แต่ไม่ต้องกังวล แม่จะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อรักษาสมบัติและมรดกของเทรมอนต์ไว้ให้ลูก แม่เสียสละเพื่อพ่อของลูกและครอบครัวนี้มามากจนแม่จะไม่… แม่จะไม่ยอมให้ใครมาพรากมันไปจากมือแม่ได้!”
“แม่ไม่สนใจหรอกว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นเพียงสาวน้อยไร้เดียงสาที่ที่พ่อของลูกไปฉวยโอกาสรึเปล่า แต่เธอทำลายบ้านของแม่ ครอบครัวของแม่ แม่จะไม่ให้อภัยเธอ!” แม่ของเขาขู่ “ไม่เป็นไรนะมาร์คลูกรัก แม่จะกำจัดทุกอย่างที่ผิดพลาดในครอบครัวนี้ แม่จะกำจัดสองแม่ลูกนั้นด้วย แต่พ่อของลูกปกป้องเขา แม่หาพวกเขาไม่เจอ และดูเหมือนว่าแม่จะไม่มีวันหาพวกมันเจอด้วย โดยเฉพาะเมื่อแม่เหลือเวลาไม่เยอะแบบนี้”
“ฟังแม่ดี ๆ นะ อย่าแม้แต่จะใจอ่อนกับน้องชายคนละแม่ของลูกนะ ถ้าเขาไม่สนใจในสมบัติของเทรมอนต์ก็ปล่อยเขาไป แต่ถ้าเขาปรารถนาสิ่งที่เป็นของลูกโดยชอบธรรม ลูกก็จัดการมันซะ แม่ไม่ต้องการให้ลูกอยู่กับแม่ในช่วงเวลาสุดท้ายของแม่นะมาร์ค เพราะฉะนั้นอย่าขึ้นเครื่องบินเด็ดขาด จำไว้นะ!”
มันเป็นส่วนหนึ่งของแผนของแม่เขาที่จะกำจัดพ่อของเขาและพวกโจรเทรมอนต์คนอื่น ๆ โดยการทำลายล้างร่วมกัน นี่เป็นสาเหตุที่มาร์คไม่ได้ขึ้นเครื่องบินที่ถึงวาระนั้นด้วย อุบัติเหตุเครื่องบินตกทำให้เขาต้องสูญเสียแม่ที่ป่วยพ่อสารเลว ญาติผู้ล่าเงิน และ ซาคารี่ วินน์ ผู้บริสุทธิ์
ใช่แล้ว คุณวินน์เป็นคนเดียวที่ไม่มีความผิด คนอื่น ๆ ที่เสียชีวิตในวันนั้นต่างก็มีเลือดเปื้อนมือ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเทรมอนต์ แม้แต่ความตายก็ไม่สามารถชำระบาปของพวกเขาได้
เพียงแค่คืนเดียวที่ภาพลักษณ์ของพ่อของเขาสลายไปต่อหน้าต่อตา ในขณะที่แม่ของเขาเปลี่ยนจากคนที่ดูมีเหตุผลไปเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีเพื่อให้เหมาะกับสามีของเธอ มาร์คตอบสนองต่อความล้มเหลวของแม่ของเขาด้วยอาการนิ่งเงียบอย่างช่วยไม่ได้ แต่ลึก ๆ ในใจของเขามีความคิดหนึ่งที่สะท้อนออกมาว่า “ปล่อยให้พวกเขาทำลายกันเอง… หลังจากคืนนี้ก็จะเหลือผมคนเดียว… ”
แม้ว่าจอร์จจะกลับใจจากแผนการวางยาซาคารี่ก่อนออกเดินทาง แต่ความผิดพลาดก็ยังคงเกิดขึ้นและมาร์คก็รู้ว่าใครคือผู้กระทำผิด
เมื่อพวกสื่อมาถึงจอร์จกลายเป็นพยานคนสำคัญ เขาได้โยนความผิดทั้งหมดไปที่นักบินเช่นเดียวกับที่เขาและอีธานวางแผนไว้ เป็นเรื่องน่าขันที่มีสองฝ่ายตัดสินใจที่จะดำเนินการในเวลาเดียวกันด้วยวิธีการเดียวกัน
มาร์คเปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นมา เขาเพิกเฉยต่อความสนใจภายนอกที่ตามมาและทุ่มเทให้กับธุรกิจของ เทรมอนต์ สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือโศกนาฏกรรมได้ทิ้งเหยื่อไว้ ; แอเรียน วินน์ ผู้กลายเป็นเด็กกำพร้าจากเหตุการณ์นี้
ภาพเด็กสาวกำพร้าปรากฏในหนังสือพิมพ์ดึงดูดสายตาของมาร์คมาก เขารู้สึกผิด เขาต้องการรับเลี้ยงเธอ สำหรับใครบางคนที่ตอนนี้เหมือนอาศัยอยู่ในนรก ร่องรอยแห่งความบริสุทธิ์บนใบหน้าของเธอแทงเขาด้วยความอิจฉา เขาโหยหาความไร้เดียงสาในดวงตาของเธอ เขาเชื่อว่าหญิงสาวคนนี้จะสามารถชำระวิญญาณที่แปดเปื้อนของเขาได้ เขาเชื่อว่าเธอจะสามารถเป็นผู้รักษาแสงสุดท้ายในจิตวิญญาณที่ดำมืดของเขาได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นแอเรียนด้วยตัวเอง น้ำหนักของความรู้สึกผิดที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ก็ตกมาที่เขา เขาถูกครอบงำด้วยความโกรธ ความเสียใจ ความเกลียดชัง ไม่ใช่ต่อเธอ แต่ต่อตัวเขาเอง เขาเริ่มเรียกเธอว่าลูกสาวของฆาตกร พูดตามตรงเขาไม่ได้ตำหนิซาคารี่ แต่เขาปล่อยให้มวลชนทำงานสกปรกนั้นแทน เขาเงียบเมื่อมีการกล่าวหาและดูหมิ่นเธอ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่เขาเธอว่าเขาเกลียดเธอมากแค่ไหนเป็นเพียงความพยายามที่น่าสมเพชที่จะผูกมัดเธอไว้ข้าง ๆ เขา ความจริงก็คือเธอไม่ใช่ลูกสาวของฆาตกร เขาต่างหากที่เป็นลูกชายของฆาตกร แม่ของเขาทำให้เธอเป็นเด็กกำพร้า
เธอบริสุทธิ์ มาร์คไม่เคยเกียดเธอเลย ถึงเขาจะต่อสู้กับตนเองและความติดของเขา เขาก็ล้มเหลวที่จะปกป้องเธอ ตอนที่เขาเห็นคุณสโลนส่งจดหมายถึงเธอ เขาก็กระวนกระวาย เขากลัวมากว่าเธอจะทิ้งเขาถ้าหากเธอได้รู้ความจริง เธอเป็นสิ่งเดียวที่เขาเหลืออยู่ เขาจะปล่อยเธอไปได้อย่างไร?