ตอนที่ 441 ตระกูลสายเลือดมังกร

Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน

ชั่วขณะนี้เอง คนจากตำหนักจารึกเทวะกลายเป็นเกิดความสงสัย เพราะพวกเขามั่นใจแน่ชัดแล้วว่าจะไม่มีผู้ใดทราบผลการแข่งขันล่วงหน้า

แต่แล้วเด็กน้อยหน้าโง่ผู้นี้ ยังกล้าเล่นเป็นเงินก้อนใหญ่!

ที่ไม่น่าเชื่อก็คือ สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อ ต่างร่วมวางเงินด้วยกันมากถึงหนึ่งร้อยล้าน!

ฉินหยุนพอได้เห็นพวกนางทั้งสามซื้อหาร่วมกันด้วย เขากลายเป็นรู้สึกกดดันขึ้นมา หากทำพลาด เท่ากับทำพวกเขาสูญเสียกันหมดหน้าตัก

สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อ เมื่อวานได้รับมาเกือบสองร้อยล้าน หากสูญเสียกันที่ตรงนี้ ก็ยังนับว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด

ผู้ฝึกตนสายเลือดขณะนี้ กลายเป็นเกิดความรู้สึกไม่ยินดีขึ้นอยู่ภายใน!

เพราะพวกเขา ลูกหลานของตระกูลสายเลือดชนชั้นสูง แท้จริงแล้วกลับไม่อาจเล่นได้มากเท่าหญิงสาวเหล่านี้ กระทั่งเด็กน้อยหน้าโง่ผู้นั้นก็ไม่!

นี่ถือเป็นการหยามเหยียดต่อพวกเขาประการหนึ่ง

แน่นอนว่าพวกเขาคิดอยากเล่นต่อ ทว่าไม่มีเหรียญม่วงในมือมากมายเพียงนั้น ขณะนี้เหลือเพียงเล็กน้อย ดังนั้นต้องเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น

เดิมพวกเขาคิด ว่าการชนะสักหลายรอบติดกันไม่น่าใช่เรื่องยาก

แต่นี่คือการพนัน ยามเมื่อคิดว่าตนจะต้องได้กลับคืน ย่อมเล่นจนเลยเถิดเกินตัว

ฉินหยุนและคณะพอซื้อกันเรียบร้อย จึงรอคอยอย่างอดทน ต้องใช้เวลารอกว่าหนึ่งชั่วยามจึงค่อยประกาศผลลัพธ์กันออกมา

หลายคนขณะนี้ก็รอคอย แม้ฉินหยุนซื้อด้วยเงินมหาศาล กลับไม่มีผู้ใดกล้าซื้อตาม

ผ่านพ้นหนึ่งชั่วยาม หญิงสาวงดงามในชุดขาวปรากฏตัว ใบหน้าของนางขณะนี้มาพร้อมความเย็นเยือกเผยให้เห็น

พวกเขาพอได้เห็นหญิงสาว ฉินหยุนและหงเมิ่งจูเผยความประหลาดใจพร้อมกัน หญิงสาวผู้นี้คือเชี่ยวเย่ว์เหม่ย! แต่ครั้งนี้ไม่มีผมหางม้าคู่ดังเคย แต่กลับเป็นโฉมงามที่สง่างามและเย็นเยือก

“ข้าก็คิดซื้อหมายเลขแปดสิบและแปดสิบแปด หมายเลขละห้าสิบล้านเหรียญม่วง!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ย เผยน้ำเสียงเย็นเยือกจับใจผู้คนจากแต่ไก

นางพอมาถึง ได้ยินหลายเรื่องราว จึงนำเอากระจกออกมาส่อง ได้เห็นบุคคลครอบครองสามวิญญาณยุทธ์ จึงมั่นใจแน่ชัดว่าเป็นฉินหยุน

ด้วยเหตุนี้ นางจึงมั่นใจว่าลูกพี่ลูกน้องของสื่อชิงเฉิงก็คือฉินหยุน!

ในเมื่อเป็นฉินหยุน นางค่อยกล้าเล่นตาม

หญิงสาวที่ไม่รู้พื้นเพ ขณะนี้กล้าลงเล่นมากถึงหนึ่งร้อยล้านเหรียญม่วง ทำเอาผู้ฝึกตนตระกูลสายเลือดรู้สึกแทบกระอักเลือดกันอีกครั้ง!

พวกเขาไม่คาดคิด ว่าหญิงสาวของแดนยุทธ์อ้างว้างจะร่ำรวยกันมากมายเพียงนี้

“ข้าเซียงสื่อเฉวียนจากตระกูลสายเลือดหมีคะนอง! ขอสอบถามนามของแม่นางได้หรือไม่? แม่นางผู้นี้ยอดเยี่ยมนัก ย่อมมาจากตระกูลชนชั้นสูงเหมือนกันใช่หรือไม่?” ผู้ฝึกตนสายเลือดชุดสีน้ำเงิน ขณะนี้ก้าวเดินออกมา ยิ้มและสอบถามต่อเชี่ยวเย่ว์เหม่ย

“ข้าหลงเย่ว์เหม่ยจากตระกูลสายเลือดมังกรของแดนยุทธ์อ้างว้างภูมิภาคเหนือ!” น้ำเสียงของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเย็นเยือก สีหน้ายังคงหยิ่งผยอง

เรื่องนี้ทำเอาผู้ฝึกตนสายเลือดหลายคนสะท้าน หากไม่ใช่ความจริงที่ว่าราชันยุทธ์หงหยิงเคยพบเจอเชี่ยวเย่ว์เหม่ยมาก่อ่น เขาคงโดนหลอกลวงร่วมไปด้วยแล้ว

ฉินหยุนได้ทราบ ว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกำลังคิดหลอกลวงผู้คนอีกครั้งหนึ่งแล้ว!

“นี่… เป็นเรื่องจริงหรือ? เหตุใดข้าไม่เคยได้ยินตระกูลสายเลือดมังกรมาก่อน!” เซี่ยงสื่อเฉวียนเผยอาการแตกตื่นต่อคำกล่าวของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย

“เชื่อหรือไม่ล้วนเป็นเรื่องของเจ้า!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยแค่นเสียงเย็นชา ดวงตาขณะนี้มองที่เซี่ยงสื่อเฉวียนด้วยความดูแคลน

เซี่ยงสื่อเฉวียนเป็นผู้ฝึกตนสายเลือดขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ นอกจากนี้ยังนับว่าเป็นผู้เยาว์ที่ยอดเยี่ยมในตระกูล กระนั้นตอนนี้ เขากลับโดนมองเหยียดต่อหน้าผู้คน เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน

สุ่ยเทียนสื่อเผยเสียงเบา “สายเลือดมังกร ไม่เคยมีการสืบทอดมาก่อน…”

ผู้ฝึกตนสายเลือดอื่นในขณะนี้ ล้วนพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ไม่หยุด

ชั่วขณะนี้เอง ออร่าแกร่งกล้าพลันปรากฏ

ผู้นี้คือราชันยุทธ์ เป็นราชันยุทธ์ตระกูลสายเลือด!

ผู้คนขณะนี้ได้เห็นชายร่างสูงกำยำ ข้อมือเพียงดั่งพยัคฆ์ผสานกับหมี เขาสวมใส่ชุดศึกแกร่งกล้า ขณะนี้กำลังเคลื่อนคล้อยลงมาด้านข้างเซี่ยงสื่อเฉวียน

“ท่านพ่อ!” เซี่ยงสื่อเฉวียนตะโกนดัง “ท่านเคยได้ยินตระกูลสายเลือดมังกรมาก่อนหรือไม่?”

ราชันยุทธ์สายเลือดผู้นี้ แท้จริงคือบิดาของเซี่ยงสื่อเฉวียน จากที่เห็น ชัดเจนว่าเซี่ยงสื่อเฉวียนมีตัวตนสูงส่งในตระกูลสายเลือดหมีคะนอง

“สายเลือดมังกรหรือ?” ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว

เซี่ยงสื่อเฉวียนมองทางเชี่ยวเย่ว์เหม่ย น้ำเสียงเบากล่าวออก “หญิงสาวผู้นี้ นางกล่าวว่ามาจากตระกูลสายเลือดมังกร!”

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะเย็นชา “กบในกะลาโดยแท้! ไม่ทราบหรือว่าแดนวิญญาณอ้างว้าง มีตระกูลสายเลือดมังกรอยู่จำนวนหนึ่ง? สาเหตุที่สามแดนอ้างว้างไม่มีสายเลือดสัตว์แกร่งกล้าสืบทอด ก็เพราะพลังวิญญาณของสามแดนอ้างว้างอ่อนด้อย ดังนั้นแล้วสัตว์โบราณจึงพบพานได้ยากยิ่ง!”

“มังกรถือเป็นสิ่งมีชีวิตธรรมดาในแดนวิญญาณอ้างว้าง! มังกรที่เทือกเขาเมฆมังกรตัวนั้นก็มาจากแดนวิญญาณอ้างว้าง ตระกูลหลงของพวกเราได้รับคำสั่งให้มากำราบเจ้ามังกรนั่น!”

ฉินหยุนคล้ายไม่รู้จักเชี่ยวเย่ว์เหม่ยอย่างกะทันหัน เขาถึงกับเกือบเชื่อต่อคำกล่าวอ้างของนาง แม้จะทราบดีว่านางกำลังลวงหลอกอยู่ก็ตาม

“เป็นข้าสงสัยว่าผู้อาวุโสของท่านหญิงน้อยอยู่ในเมืองวิญญาณขั้วเหนือหรือไม่?” คนของตระกูลเซี่ยงขณะนี้เร่งร้อนเอ่ยถาม ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง

“ผู้อาวุโสของข้าย่อมออกไปเทือกเขาเมฆมังกรแล้ว!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยตอบคำ “ได้ยินมาจากผู้อาวุโส ว่าหลุมฝังเซียนในแดนอ้างว้างดึงดูดมังกรมา เพราะมันมีสมบัติวิเศษเก็บเอาไว้!”

นางหยุดไปครู่ค่อยกล่าวต่อ “ในเทือกเขาเมฆมังกร มีราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพจำนวนไม่น้อย นั่นถือเป็นตัวขวางกั้นไม่ให้มังกรนั่นเข้าไปฉกชิงของในสุสานออกมาได้!”

ฉินหยุนตระหนก เขาเพิ่งเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาอัญเชิญราชสีห์สวรรค์ เป็นเขาขณะนี้สามารถอัญเชิญราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพออกมาได้!

เดิมเขายังสุขกายสบายใจ ขณะนี้ได้ยินคำกล่าวของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย เขาจึงทราบว่าราชสีห์สีดำตัวนั้นแท้จริงคืออะไร

ราชสีห์สีดำที่ทะยานตัวออกจากหลุมฝังศพที่เจี้ยนเสวียนสื่อและคณะเปิดออกก่อนหน้านี้ มันก็คือราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพ

“เหมือนว่าพวกเราต้องรีบเข้าเทือกเขาเมฆมังกรโดยเร็วที่สุดแล้ว!” ใบหน้าของราชันยุทธ์ตระกูลเซี่ยง ขณะนี้เผยความเคร่งเครียด นำเอาตั๋วหยกเสียงสื่อสารออกมา พูดคุยกับราชันยุทธ์ผู้อื่น

เซี่ยงสื่อเฉวียนเอ่ยถามเสียงเบา “ท่านพ่อ หมายความว่าตระกูลสายเลือดมังกรมีตัวตน? เหตุใดข้าไม่เคยได้ยิน”

ราชันยุทธ์ตระกูลเซี่ยงตอบกลับ “เป็นจริงที่มีตระกูลนั้นในแดนวิญญาณอ้างว้าง! พวกเราไม่คาดคิด ว่าแท้จริงตระกูลสายเลือดมังกรยังคงอยู่ในแดนยุทธ์อ้างว้าง เป็นข้าไม่ทราบว่าพวกเขาจะมาที่นี่ด้วย!”

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะเสียงเย็น “ตำหนักจารึกเทวะเองก็อยู่ที่แดนวิญญาณอ้างว้างอย่างยิ่งใหญ่ เพราะพวกเขามาตั้งรกรากที่แดนยุทธ์อ้างว้างเพื่อก่อร่างพัฒนามันขึ้น พวกเขาจึงยิ่งมายิ่งเรืองอำนาจ!”

“ตระกูลหลงของพวกเราเพียงสนใจเทือกเขาเมฆมังกร ดังนั้นจึงส่งคนจำนวนหนึ่งมายังแดนยุทธ์อ้างว้างเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน!”

ฉินหยุนขณะนี้ คิดอยากเข้าไปถามเชี่ยวเย่ว์เหม่ย ว่าเหตุใดนางทราบเรื่องราวมากมายที่เล่าออกมา

ราชันยุทธ์ย่อมไม่ใช่หลอกลวงได้ง่าย เมื่อครู่ ราชันยุทธ์ตระกูลเซี่ยงตรวจสอบออร่าของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยอย่างจริงจัง พบว่ามีออร่าวิญญาณยุทธ์มังกร ดังนั้นเขาจึงเชื่อนาง

วิญญาณยุทธ์กระจกของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย สามารถคัดลอกวิญญาณยุทธ์ได้มากมายมหาศาล ด้วยพี่สาวนางอย่างเชี่ยวเย่ว์หลานครอบครองวิญญาณยุทธ์มังกรระดับทองม่วง ดังนั้นนางย่อมสามารถวิญญาณยุทธ์มังกร เป็นการหลอกลวงหลายผู้คนได้อย่างสนิทใจ

“ท่านหญิงน้อย ข้าขอทราบระดับวิญญาณยุทธ์มังกรได้หรือไม่? เหมือนว่าจะแข็งแกร่งไม่ใช่น้อย!” ราชันยุทธ์ตระกูลเซี่ยงขณะนี้ตัดสินใจเอ่ยถาม

คำถามของเขา ทำเอาหลายพันคนที่นี้ตื่นตะลึง!

บรรดาลูกหลานตระกูลสายเลือดชนชั้นสูงล้วนหันควับมองทางเชี่ยวเย่ว์เหม่ย! วิญญาณยุทธ์มังกร ถือเป็นวิญญาณยุทธ์สัตว์แห่งสวรรค์ มันถือเป็นหนึ่งในวิญญาณยุทธ์ที่แกร่งกล้าที่สุด!

“ไม่ขอตอบ!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยความเย็นชา

วิญญาณยุทธ์มังกรบริสุทธิ์หาได้ยากยิ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นมังกรสองคุณลักษณะ อย่างเช่นของลู่อู๋ตี้เป็นวิญญาณยุทธ์มังกรพสุธา มันคล้ายจะเป็นมังกรดินระดับต่ำมากกว่า

ชายไว้หนวดเคราขณะนี้กล่าวขึ้น “ผลการเดิมพันกำลังจะประกาศแล้ว! แม่นางหลง เมื่อครู่ท่านต้องการวางเดิมพันหนึ่งร้อยล้าน หากพ่ายแพ้ อย่าได้เกลียดชังตำหนักจารึกเทวะของเราแล้ว!”

“หนึ่งร้อยล้านนับเป็นอะไร? หากแพ้ก็แพ้ไป แค่นี้ข้าย่อมไม่นับเป็นอะไร!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยสายตาเย็นเยียบจับจ้องและกล่าวตอบ “เป็นข้าต้องเกรงว่าตำหนักจารึกเทวะจะจ่ายไม่ไหวเสียมากกว่า!”

“เรื่องนี้จะเป็นไปได้อย่างไร? ในเมื่อท่านมาจากตระกูลสายเลือดมังกร ย่อมต้องทราบพื้นเพของตำหนักจารึกเทวะเราดีแล้ว!” ชายวัยกลางคนหัวเราะรับคำ พร้อมเปิดการทำงานของค่ายอาคมใหญ่

ฉินหยุนขณะนี้ตั้งใจ ทุ่มเทสมาธิทั้งหมดกับค่ายอาคมใหญ่

ชั่วขณะนี้ หลายคนต่างเป็นเช่นเดียวกับเขา บางคนกระทั่งจ้องมองไหเหล่านั้นจนมันแตกได้หากสามารถกระทำ

เหมือนดังก่อนหน้า ฉินหยุนใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวง ทำให้พลังจิตทะลวงผ่านไหใหญ่ ควบคุมหุ่นเชิดนกให้บินไปตามทิศทางการเคลื่อนย้าย หยุดลงที่ไหหมายเลขแปดสิบแปด

ค่ายอาคมใหญ่หยุดการทำงาน ฉินหยุนถอนหายใจยาว ภายในขณะนี้ตื่นเต้นยินดี เป็นเขาทำได้สำเร็จ!

ชายไว้หนวดเคราขณะนี้ ลูบหนวดไปมาพร้อมตะโกนขึ้น “ได้เวลาประกาศผลแล้ว!”

ฝาไหเปิดออก หุ่นเชิดนกบินออกมาจากไหหมายเลขแปดสิบแปด!

“โอ!”

เสียงฮือฮาของผู้รับชมดังขึ้น แทบระเบิดทั้งลานกว้างให้เต็มไปด้วยเสียงอึกทึก

“ฮ่าฮ่าฮ่า ต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนั้นสิ!” หงเมิ่งจูอดไม่ได้ที่จะควบคุมความยินดี ระเบิดเสียงหัวเราะออกอย่างไม่ปิดบัง

“เด็กหน้าโง่ผู้นั้น คาดเดาถูกได้อย่างไร!

“ใช่ มันรู้ได้อย่างไร?”

“หรือจะมีพลังมองเห็นอนาคตอะไรพวกนั้น?”

“บางทีอาจพึ่งพาแต่โชค ก่อนหน้านี้ก็เสียไปหลายรอบนี่!”

ดวงตาของผู้ฝึกตนตระกูลสายเลือดชนชั้นสูง ขณะนี้แดงก่ำเป็นสายเลือด เพราะสื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อ แต่ละคนล้วนได้รับกันไปถึงห้าร้อยล้านเหรียญม่วง!

กระทั่งราชันยุทธ์หงหยิง และราชันยุทธ์ตระกูลเซี่ยง ขณะนี้อึ้งอย่างพูดไม่ออก พวกเขาเป็นผู้โชกโชน มีประสบการณ์อะไรต่ออะไรมาก็มาก กระนั้นกลับไม่พบว่าลูกพี่ลูกน้องของสื่อชิงเฉิงทราบผลลัพธ์ได้อย่างไร!

ใบหน้าของชายไว้หนวดเคราขณะนี้กระตุกรุนแรงจนน่าเกลียด

ก่อนหน้านี้ กล่าวได้ว่าอีกฝ่ายมองเห็นภายใน จึงทราบว่าควรวางเดิมพันที่หมายเลขใดเพื่อให้ชนะ

กระนั้นตอนนี้อีกฝ่ายวางเงินเดิมพันก่อน จากนั้นค่อยสั่งการค่ายอาคมใหญ่ให้ทำงาน เป็นไปไม่ได้ที่จะทราบล่วงหน้า!

“ในที่สุดก็เดาถูก!” ฉินหยุนยิ้มกว้าง “อย่างไรแล้วนี่ก็เป็นการพนัน หลังเสียไปมาก ย่อมต้องได้รับกลับคืน!”

ผู้คนขณะนี้ค่อยนึกย้อน ว่าก่อนหน้านี้ฉินหยุนบอกต่อหงเมิ่งจูก่อนการวางเงินเดิมพัน ว่าเขาไม่มีความมั่นใจมากนัก ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าอีกฝ่ายไม่มีทางชนะได้

ตำหนักจารึกเทวะย่อมรับการสูญเสียนี้ไหว แม้ไม่ยินดี ก็ยังต้องจ่ายออกเป็นเงินมากถึงสองพันห้าร้อยล้านเหรียญม่วง แก่ฉินหยุน สื่อชิงเฉิง และอีกหญิงสาวอีกสามคน

“รอบสุดท้ายของวันแล้ว!” สุ่ยเทียนสื่อยิ้มกว้าง ขณะนี้รอยยิ้มแทบดันแก้มของนางจนปิดดวงตามิด

ทั้งสื่อชิงเฉิงและนางล้วนยินดี ในช่วงหลายวันมานี้ พวกนางได้รับมาหลายร้อยล้านเหรียญม่วง หากชนะอีกสักครั้ง เท่ากับจะได้รับอีกห้าร้อยล้านเหรียญม่วง เท่ากับว่ารวมแล้วมากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญม่วง!

“ตำหนักจารึกเทวะยังกล้าเล่นต่อหรือ?” แม้เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยสีหน้าเย็นชา กระนั้นภายในยินดีลั่นแล้ว นางทราบแต่แรกว่าหากซื้อตามฉินหยุน ย่อมเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง

นางขณะนี้กำลังสงสัย ว่าฉินหยุนคาดเดาได้อย่างถูกต้องอย่างไรกัน!

ชายไว้หนวดเครา ขณะนี้ปาดเช็ดเหงื่อที่ท่วมใบหน้า “จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร? รอบที่หกเริ่มนับตั้งแต่นี้!”

ตำหนักจารึกเทวะสามารถสูญเสียเหรียญม่วง แต่ไม่อาจสูญเสียหน้าตา ไม่อย่างนั้นแล้ว คงได้กลายเป็นที่ขบขันสืบต่อกันไปนานเท่านาน

ด้วยราชันยุทธ์ตระกูลเซี่ยงทำการติดต่อไป ราชันยุทธ์หลายคนขณะนี้มาถึงกันคนแล้วคนเล่า กระทั่งมู่เฟิงก็มา

มู่เฟิงเมื่อมาถึง เพราะได้ทราบว่ามีเด็กสาวจากตระกูลสายเลือดมังกรมาเยือน

พอเห็นว่าเป็นเชี่ยวเย่ว์เหม่ย เขาค่อยเข้าใจว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร กระนั้นก็ไม่ได้คิดเปิดโปงนาง

แม้เชี่ยวเย่ว์เหม่ยไม่แปรเปลี่ยนรูปโฉม ด้วยท่วงท่าสตรีภูเขาน้ำแข็ง และทรงผมที่เปลี่ยนไป ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้อื่นจะจดจำ

มู่เฟิงขณะนี้เกิดความสงสัยภายใน ว่าลูกพี่ลูกน้องของสื่อชิงเฉิงผู้นั้น มีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะเป็นฉินหยุน