บทที่ 1436+1437

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 1436+1437 Ink Stone_Romance

บทที่ 1436 ข้าไม่กลัวความยุ่งยาก…

เรื่องของหลงซือเย่ซับซ้อนกว่าที่เขาคิดมากนัก วิญญาณของหลงฟั่นมีวี่แววว่าจะผสานเข้ากับดวงวิญญาณของเขาแล้ว ถ้าไม่ใช่วิธีพิเศษจะแยกออกจากกันไม่ได้ และวิธีพิเศษนั้นตี้ฝูอีก็ยังใช้ไม่ได้ชั่วคราว

เขารังเกียจหลงฟั่นยิ่งนัก หากเป็นไปได้ เขาอยากจะทำให้ดวงวิญญาณของอีกฝ่ายแตกสลายอย่างไม่ไยดีเลย

ยามนี้ถ้าเขาต้องการสังหารหลงฟั่นก็ไม่นับว่ายาก ถ้าไม่แยกดวงวิญญาณของพวกเขาออกจากกันอย่างแท้จริงก่อน เมื่อสังหารหลงฟั่นก็จะต้องสังหารหลงซือเย่ไปด้วยอย่างไม่อาจเลี่ยงได้

อีกอย่างหลงซือเย่ก็เป็นสานุศิษย์สวรรค์ต้องพยายามรักษาชีวิตเขาไว้ ต่อให้เขาไม่ใช่สานุศิษย์สวรรค์ ก็ยังเป็นสหายที่กู้ซีจิ่วใส่ใจที่สุด หากว่าเขาสังหารหลงซือเย่ กู้ซีจิ่วจะต้องเสียใจมากเป็นแน่…

เขาไม่อยากให้กู้ซีจิ่วเสียใจ ยิ่งไปกว่านั้นคือหากว่าหลงซือเย่มีชีวิตอยู่ก็จะเป็นแขนเป็นขาให้กู้ซีจิ่วได้ในอนาคต…

เรื่องที่หลงฟั่นอาศัยอยู่ในร่างของหลงซือเย่ก็ไม่อาจปล่อยให้หลงซือเย่รู้ตัวได้ เนื่องจากดวงวิญญาณของหลงฟั่นแข็งแกร่งกว่าหลงซือเย่มาก หากว่าหลงซือเย่ทราบว่า ‘กู่’ ในร่างคือหลงฟั่น จะต้องตื่นตระหนกเป็นแน่ จะคิดกำจัดเขาออกไปตลอดเวลา และทุกครั้งที่นึกถึงอีกฝ่ายล้วนจะเพิ่มแรงกระตุ้นชนิดหนึ่งขึ้น ทำให้หลงฟั่นหลุดจากพันธนาการได้เร็วขึ้น…

ดังนั้นตี้ฝูอีจึงทำได้เพียงแสร้งว่าไม่มีเรื่องอันใดใช้คำว่า ‘กู่’ มาโป้ปดให้ผ่านพ้นไป

เขากลับไปที่ห้องพักของตน กู้ซีจิ่วยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง เกศาแผ่อยู่บนหมอน หลับฝันหวานยิ่งนัก ผ่อนคลายอย่างยิ่ง

หลังจากเขาใช้คาถาชำระล้างกับตัวเองแล้วก็ขึ้นไปบนเตียงอีกครั้ง นอนอยู่ข้างกายนาง

กู้ซีจิ่วอยู่ในห้วงนิทราเกิดความเคยชินในการพึ่งพิงเขาแล้ว เขานอนลงได้ไม่นาน นางที่หลับตาอยู่ก็ซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดเขา

ตี้ฝูอีหลุบตามองนางอยู่พักหนึ่ง ไม่ทราบเช่นกันว่าคิดอะไรอยู่ ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็จุมพิตริมฝีปากนางเบาๆ “เด็กน้อย ข้าจะมอบโลกที่สงบสุขให้เจ้า ยุติความปัญหายุ่งยากทั้งมวล…”

เสียงกระซิบของเขาดังคำปฏิญาณ กู้ซีจิ่วที่อยู่ในห้วงนิทราพึมพำออกมาประโยคหนึ่ง “ข้าไม่กลัวความยุ่งยาก…”

ตี้ฝูอีชะงักไปครู่หนึ่ง ยิ้มออกมา จุมพิตขมับนาง “อืม ความยุ่งยากสิต้องกลัวเจ้า…”

กู้ซีจิ่วไม่พูดอะไรอีก ในที่สุดก็หลับสนิท

ตี้ฝูอีโอบกอดนางไว้แน่น แล้วหลับไปเช่นกัน

….

เมื่อกู้ซีจิ่วตื่นขึ้นมาอีกวันดวงตะวันก็ลอยสูงมากแล้ว เธอลุกขึ้นนั่ง พบว่าตี้ฝูอียังนอนอยู่ข้างกายเธอ ดวงตาปิดพริ้มหลับสนิทยิ่งนัก

เขาเหนื่อยสินะ?

ยากนักที่จะได้เห็นตี้ฝูอีหลับใหลอยู่บนเตียงหลังจากกรำศึกรัก กู้ซีจิ่วรู้สึกไม่ชินอยู่บ้าง จึงนอนคว่ำอยู่ข้างกายเขามองดูสีหน้าเขา

สีหน้าเขาซีดขาวเล็กน้อย ใต้แพขนตามีรอยคล้ำเล็กๆ นี่แสดงให้เห็นว่าเขาค่อนข้างเหนื่อยล้าจริงๆ

กู้ซีจิ่วรู้สึกปวดใจนิดๆ นึกถึงเรื่องราวมากมายที่เขาทำเมื่อวาน ติดต่อผู้คนมากมายถึงเพียงนั้น เมื่อคืนก็เป็นห่วงจึงเร่งติดตามมาตลอดทั้งคืน จากนั้นก็ครอบครองเธอถึงสองครั้ง น่าจะเหนื่อยล้าจริงๆ

เธอคิดเล็กน้อย หมายจะลงจากเตียงไปทำโจ๊กและเครื่องเคียงบางอย่างมาบำรุงเขา

เพิ่งจะลุกขึ้นนั่ง แขนข้างหนึ่งก็คล้องเข้าที่เอว น้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยของตี้ฝูอีดังขึ้น “จะไปไหน?”

กู้ซีจิ่วหันกลับไปถามเขา “ท่านหิวไหม? อยากกินอะไรสักหน่อยหรือเปล่า?”

แววตาตี้ฝูอีดั่งระลอกแสง ตอบอย่างจริงใจยิ่งนัก “หิว!”

“ข้าจะไปทำของอร่อยให้” กู้ซีจิ่วตบแก้มเขาเบาๆ “ถ้าง่วงก็งีบต่ออีกพักหนึ่งเถอะ ทำเสร็จข้าจะเรียกท่าน…”

ขณะที่กำลังลงจากเตียง ตี้ฝูอีก็ดึงแขนข้างหนึ่งของเธอไว้ “เด็กน้อย เรื่องที่หลงฟั่นยึดครองร่างของหลงซือเย่ในยามราตรีให้ปิดไว้ก่อนชั่วคราว อย่าได้บอกหลงซือเย่”

กู้ซีจิ่งฉงน “ทำไมล่ะ? เตือนเขาให้เขาตื่นตัวไม่ดีหรือ? ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีวิธีขับหลงฟั่นออกจากร่างตนก็ได้”

—————————————————————-

บทที่ 1437 เธอมีความสุขไหม?

ตี้ฝูอีส่ายหน้า “ไม่ได้” เล่าถึงสถานการณ์ของหลงซือเย่ กู้ซีจิ่วตะลึงไปครู่หนึ่ง เรื่องวิญญาณยึดร่างนี้เธอไม่ใคร่สันทัด เมื่อได้ยินตี้ฝูอีบอกเนนี้ก็เชื่อถือ พยักหน้าแล้วเอ่ยตอบ “ได้ ฟังคำท่าน ข้าไม่บอกเขา ข้าจะไปเตือนหลีเมิ่งซย่าไว้ด้วย กันไม่ให้นางพลั้งปากพุดออกไป”

“ประมุขหลีถูกข้าส่งออกไปแล้ว ได้กำชับนางไปแล้วเช่นกัน”

กู้ซีจิ่วอดไม่ได้ที่จะมองดูเขา “ที่เมื่อคืนนี้หลังจากข้าหลับท่านก็ออกปทำเรื่องตั้งมากมายอีก…”

ตี้ฝูอีหลับตาลง มีท่าทีว่าจะนอนต่อ “อืม เมื่อคืนสุขสมเกินไปจนนอนไม่หลับ จึงถือโอกาสจัดการเรื่องราวให้เรียบร้อยเสีย”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกแล้ว

ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ท่านช่างมีกำลังวังชายิ่งนัก!

….

กู้ซีจิ่วขอยืมห้องครัวของโรงเตี๊ยม ปรุงอาหารชุดหนึ่งด้วยตัวเอง ถือไปที่ห้องของตน

เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็เข้าไปดูตี้ฝูอีที่นอนอยู่ในห้องอีกครั้ง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาหลับสนิทถึงเพียงนี้ เธอหักใจปลุกเขาไม่ลงอยู่บ้าง…

คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็คิดจะเอาอาหารเหล่านั้นใส่ถุงเก็บของตนรักษาอุณหภูมิไว้ก่อน รอเขาตื่นแล้วจะได้อุ่นร้อนสดใหม่อยู่

ขณะที่กำลังลงมือ บานประตูก็มีเสียงเคาะเบาๆ แว่วขึ้น ยาวสามสั้นสี่ เป็นวิธีเคาะของหลงซือเย่

กู้ซีจิ่วเปิดประตูออก หลงซือเย่ยืนสง่าอู่นอกประตู “ซีจิ่ว ฉันได้กลิ่นหอมของกับข้าว ดูเหมือนเธอจะทำอาหารเองสินะ? พอจะมีส่วนของฉันไหม?”

กู้ซีจิ่วย่อมปฏิเสธไม่ได้ พาเขาเข้ามาในห้อง พูดคุยกับเขาสองสามประโยค ทราบจากการสนทนาว่าหลงซือเย่จำเรื่องเหล่านั้นที่หลงฟั่นกระทำลงไปไม่ได้จริงๆ เห็นทีจะเป็นแบบที่ตี้ฝูอีว่า ถึงแม้วิญญาณสองดวงจะใช้ร่างเดียวกันแต่ไม่มีความทรงจำร่วมกันจริง

เธอเบาใจแล้ว หลงซือเย่เดินไปที่หน้าโต๊ะ มองเห็นอาหารบนโต๊ะเหล่านั้น นัยน์ตามีแววปวดร้าวพาดผ่าน

อาหารเหล่านี้เป็นฝีมือของกู้ซีจิ่ว เขาเคยกินมานับครั้งไม่ถ้วน ยามนั้นไม่รู้สึกว่ามีอะไร ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าตนในยามนั้นมีความสุขมากจริงๆ เพียงแต่ความสุขนี้ไม่ใช่ของเขาอีกต่อไปแล้ว…

เขาส่ายศีรษะเล็กน้อย สะบัดความเศร้าหมองในใจทิ้ง มองไปที่ประตูห้องด้านใน “เขาไม่อยู่ในห้องเหรอ?”

“เขาค่อนข้างเหนื่อยล้า ยังพักผ่อนอยู่ในห้องน่ะ ครูฝึกหลง คุณกินก่อนเลย”

กู้ซีจิ่วเลือกสองจานจากบนโต๊ะไปไว้เบื้องหน้าหลงซือเย่

หลงซือเย่หลุบตามองอาหารอย่างนั้น คิ้วกระตุกแวบหนึ่ง “ซีจิ่ว ยากนักที่เธอยังจำได้ว่าฉันชอบกินอะไร” อาหารสองจานนี้เป็นของโปรดเขา

กู้ซีจิ่วเอ่ยยิ้มๆ “ของโปรดเพื่อนฉันจำได้หมดแหละน่า”

แววตาหลงซือเย่หมองลงไป ใช่แล้ว เพื่อน จากนี้ไปเธอกับเขาเป็นแค่เพื่อนกัน

“ซีจิ่ว เธอมีความสุขไหม?” หลงซือเย่โพล่งถามไปประโยคหนึ่ง เพียงแต่หลังจากถามประโยคนี้ออกไปเขาก็รู้สึกเสียใจภายหลัง

สีหน้าของกู้ซีจิ่วชื่นมื่น มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นท่าทีของความสุขของการตกอยู่ในห้วงรัก คำถามนี้ของเขาช่างไร้สาระเสียจริง

ดังนั้นหลังจากเขาถามประโยคนี้ออกไปจึงเอ่ยเสริมไปอีกประโยค “ช่างเถอะ เป็นฉันถามมากไปแล้ว ขอแค่เธอมีความสุขก็พอ”

กู้ซีจิ่วมองเขาอย่างจริงจัง “ครูฝึกหลง วันหน้าคุณก็จะหาความสุขของตัวเองเจอเหมือนกัน”

ในทรวงเธอคล้ายมีเลือดลมพลุ่งพล่านอยู่ อดไม่ไหวกล่าวออกไปอีกประโยคหนึ่ง “อันที่จริงหลีเมิ่งซย่า…” อันที่จริงหลีเมิงซย่ามีความรู้สึกดีต่อหลงซือเย่ยิ่งนัก โดยเฉพาะหลังจากร่ำสุราด้วยกันเมื่อคืน หลังจากหลีเมิ่งซย่าเมามายแล้วยามที่เอ่ยถึงหลงซือเย่ดวงตาจะส่องประกายเล็กน้อย…

หลงซือเย่ตัดบทเธอ “ซีจิ่ว เธอคิดจะจับคู่ให้ฉันเหรอ?”

กู้ซีจิ่วกระแอมทีหนึ่ง เธอรู้ว่าชาติก่อนหลงซือเย่รังเกียจการถูกจับคู่อย่างยิ่ง แน่นอนว่าชาตินี้ก็เป็นเช่นเดียวกัน

———————————————————————-