ตอนที่ 322 อวี่เหวินปรากฏตัวอีกครั้ง

หยางโปโกรธมาก แต่เมื่อคิดว่าชุยอี้ผิงทำเพื่อเขาแบบนี้ ในใจก็เกิดความรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจอีกครั้ง แต่เขายังรู้สึกพะว้าพะวงเรื่องที่หูชิงชิงพาเขามาขายวันนี้อยู่ ที่อีกฝ่ายทำแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกแย่มากเลยทีเดียว

วันที่สอง ในตอนที่ หยางโปรีบมายังร้านของหลิ่วมีดเดียวนั้น เขาก็ได้พบกับหูชิงชิงนั่งอยู่ด้วย เขาก็ไม่ได้สนใจเธอ ดวงตาของเขาชำเลืองมองไปทางคอมพิวเตอร์ก็เห็นว่าหลิ่วมีดเดียวยังคงดูหนังเรื่ององค์หญิงกำมะลออยู่ หยางโปจึงได้นั่งลง และหยิบหยกขึ้นมาสำรวจอย่างละเอียด

คุณสมบัติของหยกนั้นมีทั้งสูงและต่ำ วัสดุที่หยางโปเลือกมาชิ้นนี้เป็นผลงานของหยกหนานหยาง ราคาไม่สูงมากนัก เขารู้ว่าการแกะสลักครั้งแรกของเขาต้องใช้ความคุ้นเคย และมือที่ผ่านการฝึกฝนอย่างมาก

หยกนั้นเป็นวัสดุทีบางมาก หยางโปส่งเสียงเคร่งขรึมออกมา รูปร่างของหยกปรากฏขึ้นมาในหัวสมอง เขาตั้งใจจะฝึกฝีมือด้วยการแกะสลักเป็นรูปใบไม้ เมื่อตัดสินในใจแล้ว เขาก็เริ่มขยับมือทันที

 

ถึงหยางโปจะบอกว่าเป็นคนทิศใต้ก็ตาม แต่ในตอนที่แกะสลักนั้น มันยิ่งทำให้เขาสามารถตามหาความเรียบง่ายได้มากขึ้น จำนวนมีดที่เขาลงไป จะยิ่งทำให้สามารถมองเห็นความสวยงามของใบไม้ได้อย่างชัดเจน

ในขณะที่หยางโปกำลังตกอยู่ในความสุขแห่งการแกะสลักนั้น เขาสามารถมองเห็นลายเส้นที่หยาบไม่ละเอียดของหยกตรงหน้าได้อย่างชัดเจน หลังจากที่ลงมีดกรีดลงไป ก็เหมือนเขาจับวัวแต่ไม่เอาเนื้อยังไงอย่างนั้น

จนต้องนำความคิดในใจแสดงออกมา ! นี่คือเหตุผลที่หยางโปเรียนแกะสลัก!

ไม่รู้ว่า หลิ่วมีดเดียวที่ยืนอยู่ด้านหลังของหยางโปจ้องมองไปทางการเคลื่อนไหวของเขาตั้งแต่ตอนไหน เมื่อเห็นว่าทุกการเคลื่อนไหวของหยางโปนั้นกระชับคล่องแคล่ว ทุกการเคลื่อนไหวล้วนแล้วแต่เป็นผลดีที่ประจวบเหมาะเจาะ เขาจึงอดที่จะตื่นตกใจขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้

 

หลังจากที่หยางโปแกะสลักเสร็จสิ้น ก็หยิบใบไม้ที่วางอยู่เบื้องหน้าขึ้นมาดูอย่างละเอียด จึงได้ค้นพบว่าหลิ่วมีดเดียวนั่นยืนอยู่ด้านข้างแล้ว เขาได้หยิบหยกแกะสลักรูปใบไม้ขึ้นมา ” เป็นยังไงบ้าง ? “

หลิ่วมีดเดียวรับใบไม้แกะสลักนั้นมา เมื่อตรวจสอบอยู่สักพักจึงได้พูดต่อไปว่า ” เมื่อวานฉันก็พูดกับนายรอบหนึ่งแล้ว นึกไม่ถึงว่านายจะได้รับการสืบทอดการเป็นหัวกะทิอันดับหนึ่งของการแกะสลักหยกจากโตเกียว เลือกวัสดุ รังสรรค์ความคิดได้เพราะวัสดุ ช่างงดงามดั่งอยู่ในพระราชวังจริงๆ ! “

” อาจารย์ ก็ชมเกินไป ! ” หยางโปพูด

หลิ่วมีดเดียวถอนหายใจออกมาเบาๆ ” นายฝึกต่อไปก็แล้วกัน ! “

 

พูดจบ หลิ่วมีดเดียวก็หมุนตัวไปกลับไปดูละครฉงเหยาของเขาต่อ !

หูชิงชิงได้ทำการระบายอารมณ์กับการแกะสลักไม้ เธอออกแรงกรีดด้วยความเกลียดชัง พร้อมกับมองไปทาง

หยางโปด้วยความเย็นชา

หยางโปถลึงตาไปทางหูชิงชิงแวบหนึ่ง ส่งผลให้ความหยิ่งยโสเมื่อสักครู่ของเธอมลายหายไปบางส่วน

หยางโปตั้งใจจะสอนหูชิงชิงสักครั้ง แต่ทันใดนั้นตาอ้วนหลิวก็โทรมา

” หยางโป นายอยู่ไหน ? นายกลับมาที่สวนผานเจียเดี๋ยวนี้เลย ! ” เมื่อรับโทรศัพท์ ตาอ้วนหลิวก็ตะโกนออกมาทันที

หยางโปตื่นตกใจ ” ตอนนี้ฉันก็อยู่ที่สวนผานเจียนะ แล้วนายอยู่ที่ไหน ? “

 

เมื่อหยางโปได้ยินที่อยู่อย่างละเอียดแล้ว เขาก็พูดกับหลิ่วมีดเดียว ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปทันที แต่ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงของหูชิงชิงตะโกนด้วยความโกรธดังขยายออกมาจากด้านหลังว่า ” อาจารย์ ทำไมเขาถึงได้อิสระ แล้วทำไมฉัน…… “

” ถ้าเธอได้ครึ่งหนึ่งของเขา เธอก็ไปได้ทุกเมื่อ ! ” หลิ่วมีดเดียวพูดเสียงเย็นชาออกมา

หลังจากที่หยางโปเดินออกจากร้านไป ไม่นานก็มาถึงสถานที่ที่ตาอ้วนหลิวบอก เขาเห็นตาอ้วนหลิวกำลังยืนอยู่ข้างผู้ชายคนหนึ่ง

เมื่อหยางโปเดินเข้าไปใกล้อีกนิด ก็ต้องตื่นตกใจขึ้นมาในทันที เมื่อเห็นผมที่ยาวปะบ่า รูปร่างผอม ซึ่งเขาในตอนนี้สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด ท่าทางสบายๆ ผมไม่กระเซอะกระเซิงเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว !

 

คนๆนี้คือ อวี่เหวิน !

หยางโปเดินเข้าไป ตาอ้วนหลิวจึงรีบลากเขามาก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า ” เป็นยังไง ? มาถึงก็ตกใจเลยใช่ไหม ?

หยางโปอึ้งงันไป เมื่อเห็นว่าอวี่เหวินมองมาด้วยรอยยิ้มบางๆ เขาอ้าปากพูดว่า ” นึกไม่ถึงว่าจะพบกับ

คุณอวี่เหวินที่นี่ คุณไม่บอกลาเราในวันนั้นเลย ทำให้เราหากันให้วุ่นทีเดียวนะครับ ! “

อวี่เหวินยิ้ม ” แต่ก็พบกันอีกครั้งได้เร็วขนาดนี้ นี่ก็ถือว่าเป็นโชคชะตาระหว่างเรานะครับ ! “

หยางโปไม่พูดอะไรให้มากความ นอกจากจะหันไปมองตาอ้วนหลิว ” นี่คือสิ่งที่นายให้ฉันรีบมางั้นเหรอ ? “

ตาอ้วนหลิวชี้ไปทางอวี่เหวิน ” ตอนนี้คุณอวี่เหวินกำลังตามร่องรอยของชาวญี่ปุ่นอยู่ เขาได้รับข่าวมากมาย และก็รู้ตำแหน่งของสุสานจักรพรรดิหนานหนิงจงแล้วด้วย ! “

 

หยางโปตื่นตกใจมากทีเดียว เขามองไปทางอวี่เหวิน

อวี่เหวินกลับส่ายหน้า ” ฉันไม่ได้บอกว่ารู้ตำแหน่งของสุสานจักรพรรดิหนานหนิงจง ฉันบอกแค่เพียงว่าอยู่ที่ไหน อีกอย่างฉันก็ไม่ได้รู้อะไรเยอะไปกว่าพวกนายเลยด้วย “

หยางโปมองไปทางอวี่เหวิน ” คุณอวี่เหวินเริ่มหาร่องรอยของชาวญี่ปุ่นสองคนนั้นก่อนแล้วใช่ไหมครับ ? “

อวี่เหวินมองไปทางหยางโปแบบลึกซึ้ง ” เราไปหาที่คุยกันดีกว่า “

” ฉันจะพาไปเอง ” ตาอ้วนหลิวพูดขึ้น

ตาอ้วนหลิวเคยจัดกิจกรรมที่นี่มานานหลายปี ดังนั้นจึงย่อมคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี ไม่นานเขาก็พาทั้งสามคนมาถึงร้านชาในละแวกนี้แห่งหนึ่ง เขาต้องการห้องพิเศษ แล้วสั่งชามากาหนึ่ง จากนั้นทั้งสามคนก็นั่งลง

 

กลิ่นชาหอมตลบอบอวนมาก และภายในห้องก็อบอุ่นมากทีเดียว แต่ทั้งสามคนกลับยังไม่เอ่ยปากออกมา

ไม่นานอวี่เหวินก็เอ่ยปากพูดขึ้นว่า ” ฉันสังเกตคนพวกนี้มาตั้งแต่ครึ่งปีแล้ว พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ทางทิศเหนือมาโดยตลอด และมักจะพบพวกเขาในเมืองฉางอาน ตงตู ซางตูอยู่บ่อยครั้ง สถานที่เหล่านี้เป็นเมืองโบราณ อีกทั้งฉันยังพบพวกเขาในตลาดมืดบางแห่งในทุกครั้งอีกด้วย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาซื้อวัตถุโบราณไปเป็นจำนวนมาก “

หยางโปดื่มชาอึกหนึ่ง โดยไม่ได้พูดอะไร

” แต่สามเดือนมานี้ ฉันก็พบกฎเกณฑ์บางอย่าง เมื่อพวกเขาปรากฏตัวในตลาดมืด พวกนั้นจะมีลักษณะพิเศษอย่างหนึ่ง นั้นก็คือทุกคนจะมีความสัมพันธ์กับราชวงศ์หยวน ! อีกทั้งขอบข่ายกิจกรรมของพวกเขาก็พัฒนาการมาจากทิศเหนือด้วย มีอยู่ครั้งหนึ่งในเร็วๆนี้ เราเคยพบหน้ากัน ครั้งนั้นพวกเขาถือบันทึกมาเล่มหนึ่ง ว่ากันว่าในนั้นเป็นบันทึกของจักรพรรดิหยวนหนิงจง “

 

เมื่อพูดจบ อวี่เหวินก็มองไปทางหยางโป ” ฉันคิดว่าพวกนายน่าจะถือบันทึกเล่มนั้นด้วยเหมือนกัน “

หยางโปส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความลำบากใจ ” เรื่องนี้ต้องโทษผม เพราะผมมองเห็นบันทึกเล่มนั้นจากที่ไกลๆ เลยคิดว่าน่าจะเป็นของราชวงศ์หมิง ผมรู้สึกว่าไม่น่าจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับจักรพรรดิหยวน

หนิงจง ดังนั้นจึงได้ขวางทุกคนเอาไว้ “

อวี่เหวินพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับมองมาทางเขาด้วยความประหลาดใจ ” นายมองแค่เพียงไกลๆ ก็สามารถเห็นว่าเป็นบันทึกของราชวงศ์ไหนเลยเหรอ ? “

หยางโปลังเล็กน้อย พร้อมกับพยักหน้า ” ก็เหมือนกับที่คุณใช้เข็มทิศวัดสภาพการณ์ของภูเขาและแม่น้ำนั้นแหละครับ ส่วนผมใช้ดวงตา ก็สามารถวิเคราะห์รัชสมัยของวัตถุโบราณได้แล้ว “

 

อวี่เหวินประหลาดใจมาก ไม่นานก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว ” นึกไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้ ถ้านายสามารถวิเคราะห์ได้แบบนี้จริงๆ ก็ไม่ต้องซื้อบันทึกมาก็สามารถจัดการได้แล้ว “

” ชาวญี่ปุ่นเหล่านั้นก็ใช้ประโยชน์จากบันทึกไม่ใช่เหรอ พวกนั้นถึงได้หาสุสานของจักพรรดิหยวนหนิงจงเจอ ? ” ตาอ้วนหลิวก็อดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้

อวี่เหวินส่ายหน้า ” ตอนนี้ฉันไม่มั่นใจเลยว่าพวกเขาหาสุสานของจัรพรรดิหยวนหนิงจงเจอรึเปล่า แม้กระทั่งไม่สามารถหาตำแหน่งที่ชัดเจนของพวกเขาได้ ฉันรู้แค่เพียงว่าพวกเขาถือวัตถุโบราณของราชวงศ์หยวนเอาไว้บางส่วน นั้นก็คือของที่พวกนายเจอในตอนนี้นั้นแหละ ! “

หยางโปขมวดคิ้ว เขานึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้เช่นกัน แต่เขาก็นึกถึงความหมายที่แฝงอยู่ของอีกฝ่าย

” ไม่สามารถหาที่อยู่ได้ชัดเจนอย่างนั้นเหรอ ? งั้นก็หมายความว่า นายรู้ตำแหน่งคร่าวๆของพวกเขาแล้ว ? “

อวี่เหวินพยักหน้า ” ใช่ฉันรู้ “