บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 205 ไม่เลว
สุดท้าย เหม่ยหลินก็ได้แต่ฝึกตามที่ไป๋จูเหวินขอร้องดูโดย ไม่ได้มีเรื่องอะไรตื่นเต้นเกิดขึ้นแต่อย่างไร แต่ถึงอย่างนั้นวิ ชาเทพจุตินั้นค่อนข้างฝึกง่ายมากเลยทีเดียว สําหรับคนที่ฝึก วิชาระดับสูงอย่างร่างสถิตมังกรมาแล้วอย่างเหม่ยหลินแทบ จะสามารถทําความเข้าใจและใช้งานวิชาเทพจุติได้ในทันที เพียงแต่ปัญหาของการฝึกครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องการฝึกวิชาเทพจุติ แต่เป็นวิชาเทพประสานต่างหาก
“ท่านแน่ใจแล้วงั้นเหรอ” เหม่ยหลินถามพลางเลือนฝ่ามือ ไปแตะฝามือของไปจูเหวินเบาๆ นางไม่เคยประลองกับไปัจู เหวินเลยไม่ทราบมาก่อนเลยว่าฝ่ามือของไปจูเหวินนั้นแข็งก ว่าที่คิด ทั้งๆที่ภายนอกออกจะเป็นมือที่สวยดีแท้ๆแม้จะซีด ไปหน่อยก็ตาม แถมสีขาวซีดบนมือของไปัจเหวินยังลาม ไปครึ่งแขนแล้ว ไม่ใช่ว่ายิ่งฝึกเท่าไหร่ร่างของเขาก็จะกลาย เป็นสีนี้งั้นเหรอ แบบนั้นมันจะเหมือนผิวผู้หญิงเกินไปหรือ เปล่านะ..
“มีอะไรงั้นเหรอ”ไปจูเหวินถามพลางมองเหม่ยหลินที่ยัง ไม่ยอมใช้วิชาเทพจุติเสียที
“ปะ เปล่าเจ้าค่ะ”เหม่ยหลินส่ายหน้าไปมาเพื่อไล่ควา มคิดนอกเรื่องออกไป แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่นา นางไม่ได้ใกล้ชิดไป จูเหวินแบบนี้ตั้งแต่ออกมาจากเขตอสูรผาไร้ก้นแล้วนี่นา แถมภารกิจของนางยังไม่ตรงกับไปจูเหวินอีกต่างหาก เอา จริงๆคือพักหลังๆเหมือนพวกนางห่างๆกันเสียด้วยซ้ํา
“ถ้างั้นก็มาลองกันเถอะ”ไปจูเหวินยิ้มพลางทาบฝ่ามือทั้ง สองของตนไปบนฝ่ามือของเหม่ยหลิน คราวก่อนมันใช้พลัง อสูรและพลังวิญญาณเพื่อฝึกวิชาเทพประสาน แต่เพราะพ ลังทั้งสองไม่สามารถร่วมฝึกด้วยกันได้ คราวนี้ไปจูเหวินจี งขอให้เหม่ยหลินช่วยเพราะคนที่มีพลังอสูรและพลัง วิญญาณสูงพอจะฝึกกับไปัจูเหวินได้คงไม่มีใครอีกแล้ว
“.”เหม่ยหลินที่พึ่งเคยลองฝึกหลับตาลงพลางส่งพลัง เข้าไปในร่างของไปจูเหวินอย่างช้าๆ เช่นเดียวกับไปจูเหวิน ที่เริ่มส่งพลังเข้ามาในร่างของตน
เปรี้ยง! ทันทีที่เริ่มฝึก มือของเหม่ยหลินก็ถูกดันออกใน ทันที เพราะพลังที่เข้าผสานกันก่อตัวแรงมาก
“เป็นอะไรหรือเปล่า”ไปจูเหวินถามพลางใช้ดวงตาสี เขียวตรวจสภาพร่างกายของเหม่ยหลิน
“มะ ไม่เป็นไร”เหม่ยหลินตอบพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ เพราะพลังอสูรและพลังวิญญาณของไปจูเหวินห่างกันเกิน ไปทําให้เหม่ยหลินรับมือผิดพลาดไปในรอบแรก แต่หลังจาก นี้นางจะตั้งใจปรับพลังให้เข้ากันให้ได้
เปรี้ยง! เหม่ยหลินที่พยายามควบคุมสมดุลของพลังทั้ง สองแล้วโดนผลักออกมาอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าพลังของทั้งสองเข้า กันไม่ได้ แต่เพราะพลังของทั้งสองเพิ่มพูนขึ้นในพริบตาต่าง หากทําให้การควบคุมเป็นเรื่องยาก ยิ่งเหม่ยหลินที่ต้องปรับ ระดับพลังให้เข้ากับทั้งกลังวิญญาณและพลังอสูรของไปัจูเห วินแล้วมันยิ่งยากเข้าไปใหญ่
“…” หลังจากโดนผลักออกไปหลายรอบ ในที่สุดเหม่ยห ลินก็เริ่มจับทางได้เสียที ตอนนี้นางแบ่งพลังของตนออกเป็น 2 ฝั่งอย่างสมบูรณ์ ด้านซ้ายคอยใช้พลังวิญญาณฝึกพลังวิ ญญาณร่วมกับไปจูเหวินด้านขวาส่งพลังอสูรฝึกฝนร่ว มกับพลังอสูรของไปจูเหวินอย่างต่อเนื่อง
“อีก…”เหม่ยหลินกัดฟันแน่นด้วยท่าที่ทรมาน ทางด้านพ ลังวิญญาณนั้นไปจูเหวินอ่อนด้อยกว่าเหม่ยหลินทําให้นาง ต้องคอยลดพลังลง ตรงกันข้ามทางฝั่งพลังอสูรนางต้องเร่งพลังขึ้นเพื่อให้ตามไปจูเหวินกัน นอกจากนี้พลังอสูรของไปัจู เหวินยังให้ความรู้สึกเย็นยะเยือบและน่าหวาดกลัว แต่พลัง วิญญาณกลับให้ความรู้สึกอบอุ่น ทําเอาเหม่ยหลินแทบจะ ต้องแยกประสาทออกเป็น 2 ส่วนเพื่อรับมือกับการฝึกวิชา เทพประสาน
แต่ถึงจะยากลําบากไปสักหน่อย การฝึกวิชาเทพประสาน ครั้งนี้ก็ทําให้พลังของเหม่ยหลินและไปจูเหวินพัฒนาไปไม่ น้อย แถมคราวนี้พลังวิญญาณของไปจูเหวินกลับเป็นฝ่าย พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วอีกต่างหาก เรียกได้ว่าลดระยะห่า งของพลังวิญญาณและพลังอสูรไปได้มาก ทําให้เหม่ยหดินฝึกได้ง่ายขึ้นอีกหน่อย
ตุบ. ร่างของเหม่ยหลินอยู่ๆก็ผลอยล้มลงไปข้างหน้า ทําให้ไปจูเหวินรีบรับร่างของนางเอาไว้อย่างรวดเร็ว ไม่แป ลกเลยที่เหม่ยหลินจะหมดสติไป เพราะแม้แต่ไปจูเหวินเอ งยังเสียพลังงานไปมากกับการควบคุมพลัง ทั้งๆที่ฝ่ายไปัจู เหวินสามารถควบคุมได้ง่ายกว่ามากเพราะพลงของเหม่ยหดินนั้นแทบจะเท่ากันทั้งสองฝั่งเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นพ ลังที่เพิ่มขึ้นมานั้นก็คุ้มค่ากับความเหนื่อยล้าอย่างมาก ทําเอาไปจูเหวินเข้าใจแล้วว่าทําไมพวกพี่ต้าชิงต้าเฉินถึงเพื่อ นขึ้นมาเป็นระดับเทียนเซียนเร็วนัก
ไปจูเหวินอุ้มร่างของเหม่ยหลินขึ้นพลางเดินไปที่ห้องๆ หนึ่งที่แยกออกจากห้องฝึก เรียกได้ว่าสมแล้วที่เป็นถ้ําฝึกฝ นของหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูร เพราะในห้องทั้ง 8 ห้องรวม ห้องหลักด้วยนั้นมีข้าวของเครื่องใช้อย่างพอเพียง ต่อให้ต้อ งอยู่ในนี้ไปอีกหลายเดือนก็คงไม่มีปัญหาแต่อย่าไร
ไปจูเหวินนําร่างของเหม่ยหลินมาไว้ที่เตียงอยู่างพลางปล่อยให้นางนอนอยู่แบบนั้นเพราะคิดว่า นางคงเหนื่อยมากที่ต้องคอยช่วยคุมพลังของมัน
“…” พูดกันตามตรงแล้ว ภาพเหม่ยหลินที่กําลังหลับอยู่ นั้นช่างงดงามราวกับภาพเขียนไม่มีผิด ยิ่งอยู่ภายใต้แสง เทียนเช่นนี้ก็ทําเอาไปจูเหวินใจเต้นไม่ได้ เพียงแต่ไปจูเหวิน ไม่รู้ว่าความรู้สึกเช่นนี้คืออะไร แม้น้าจิ้งจอกจะสอนเรื่องค วามรู้สึกมามากมาย แต่ก็มีหลายอย่างที่ไม่อาจสอนได้ด้วย ปากเปล่า ยามนี้ไปจูเหวินไม่สามารถอธิบายความรู้สึกที่มี ต่อเหม่ยหลินได้ แต่มันคล้ายกับความรู้สึกที่มันมีให้มารดา แต่ก็ต่างออกไป แม้มันจะบอกว่ามันเป็นสหายกับเหม่ยหลิน แต่ความรู้สึกเมื่ออยู่ใกล้กลับต่างจากอูหมิงอย่างสิ้นเชิง
“อืมม” เหม่ยหลินพลิกตัวครู่หนึ่งพลางกอดแขนของไปจู เหวินที่นั่งอยู่บนเตียงข้างๆนางเอาไว้ แต่นางก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมา แต่อย่างไร นางเพียงกอดแขนของไปจูเหวินเอาไว้เท่านั้น แถมยังทําสีหน้าผ่อนคลายอย่างประหลาดอีกด้วย ไม่ใช่ว่า นางคิดว่าไปจูเหวินเป็นหยวนหยวนงั้นหรือ แต่ไปจูเหวินไม่ ทราบว่าเวลาเช่นนี้ควรทําอะไร มันเลยได้แต่ลูบเส้นผมของ เหม่ยหลินเบาๆเช่นเดียวกับที่ทํากับพวกหลินหลินเสียอย่าง นั้น แต่ดูเหมือนมันจะได้ผลไม่น้อยเพราะเหม่ยหลินมีท่าที ผ่อนคลายขึ้นทันทีที่ไปจูเหวินทําเช่นนั้น
“พี่ไป ท่านฝึกวิชาพวกนี้ไปได้ยังไงกัน”ในเช้าวันต่อมา เหม่ยหลินที่กําลังจะเริ่มฝึกวิชาของไปจูเหวินก็เอ่ยถามออ กมาด้วยความงุนงงเพราะนางนั่งอ่านตําราของไปัจูเหวินมา นานสองนานก็ไม่อาจทําความเข้าใจวิชาของไปจูเหวินได้เลย
“วิชาของพวกท่านน้าใช้สันชาตยานมากกว่าความเข้า ใจด้วยสิ” อย่าว่าแต่เหม่ยหลินเลย แม้แต่ไปจูเหวินเองยังต้อ เงใช้เวลาตั้งนานกว่าจะใช้ออกมาได้เลย
“พี่ไป ท่านช่วยทําให้ข้าดูได้ไหม” เหม่ยหลินถามพลางปิด ตําราลง แม้จะจําได้หมดแล้วแต่ก็ยังไม่อาจแสดงวิชาออกมา ได้เลย
“ได้”ไปจูเหวินว่าพลางเดินมายืนข้างหน้าเหม่ยหลิน มันยื่นฝ่ามือมาข้างหน้าพลางบอกให้เหม่ยหลินทดลองโจมตี เข้ามาดู
วูบ… ฝามือของเหม่ยหลินราวกับหมดแรงไปเฉยๆเมื่อปะ ทะกับฝ่ามือหิมะละลายกลางนภา ทําเอาเหม่ยหลินอดป ระหลาดใจไม่ได้
ปีง! ฝ่ามือต่อมาของเหม่ยหลินกลับสามารถโจมตีได้ปกติ ทําให้เหม่ยหลินประหลาดใจนิดหน่อย หรือว่าท่าเมื่อครู่ จะใช้ยากกัน
วูบ! อยู่ๆฝ่ามือที่ 3 ของเหม่ยหลินก็หมดแรงเอากลางอา กาศ เพราะเมื่อครู่นางถูกแฝงพลังของฝ่ามือผงาดกลางหิมะ ทําให้การโจมตีครั้งถัดมาปั่นปวนไปหมด
คลื่นน….อยู่ๆเหม่ยหลินก็รู้สึเหมือนโดนคลื่นพลังบางอย่า งกดทับเอาไว้จนเคลื่อนไหวไม่ได้ นั่นคือผลจากวิชาเมฆหนํา ไร้หิมะนั่นเอง
วูบ.อยู่ๆร่างของเหม่ยหลินก็ถูกพลังบางอย่างดึงเข้าไป ในอ้อมกอดของไปจูเหวิน ทําเอาใบหน้าของนางแดงไปหมด ทําเอาลืมมองวิชาของไปจูเหวินไปเลยว่าท่าเมฆหมอกกบ ดานนั้นใช้งานอย่างไร
“ต่อไปเป็นท่าของท่านน้าไก่ฟ้านะ” ไปจูเหวินว่าพลางจับ มือของเหม่ยหลินจากด้านหลังราวกับจะโอบร่างของนางเอา ไว้ พลางขยับมือของเหม่ยหลินตามมือของตนเอง แต่ยาม นี้เหม่ยหลินคงไม่มีสมาธิจดจําวิชาเสียเท่าไหร่
“เจ้าจําได้หรือไม่”ไปัจูเหวินถามพลางปล่อยมือของเหม่ ยหลินออกหลังจากสอนการเคลื่อนไหวของท่าปักษาโรมรัน ปักษาข้ามสมุทร บังคับหกปักษา และ ปักษาสะบัดปีก ไปหมดแล้ว แต่เหม่ยหลินกลับแทบไม่ได้จําเลยเพราะเกือบ ทุกท่านางเล่นอยู่ในอ้อมแขนของไปจูเหวินตลอดเลยนี่นา
“ไม่…”เหม่ยหลินว่าพลางก้มหน้าลงด้วยท่าที่เขินอาย
“ขะ ข้ายังจําไม่ค่อยได้เลย”เหม่ยหลินว่าพลางพิงหลัง ลงบนอกของไปจูเหวินเบาๆ
“พี่ไป ท่านช่วยสอนข้าอีกรอบได้หรือไม่” เหม่ยหลินส่ง สายตาอ้อนด้วยใบหน้าแดงจัด ความจริงฝึกด้วยกันเช่นนี้ก็ อาจจะไม่เลวก็ได้