ตอนที่ 457 ฉันนึกว่าเธอชอบเขา / ตอนที่ 458 ฉันเป็นแบบนี้ เธอยังจะชอบไหม? (1)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 457 ฉันนึกว่าเธอชอบเขา

“….” ซูเสี่ยวโม่พูดไม่ออกเป็นเวลาสองวิ จากนั้นก็ตบเขาอีกครั้ง ฉีเหยียนซีส่งเสียงกรีดร้องและวิ่งหนีไป

ซูเสี่ยวโม่ถอนหายใจอย่างสิ้นหวังพลางมองมือเล็กๆ ของตัวเอง

ทำไมฉันแรงเยอะขนาดนี้นะ…เฮ้อ…

ร่างที่อ่อนโยนและดูดีของใครบางคนเดินผ่านมา ซูเสี่ยวโม่มองตาเป็นประกายและหลุดปากออกมาอย่างลืมตัว “เหอจยาอวี๋?”

“หือ?” เด็กหนุ่มที่กำลังสะพายกระเป๋าไว้ที่ไหล่หันกลับมามองเธอ

“แหะแหะ…นายกลับบ้านเหรอ?”

“อื้อ” น้ำเสียงใสแจ๋วมาพร้อมด้วยรอยยิ้มจางๆ ทว่าซูเสี่ยวโม่รับรู้ได้ถึงความเย็นชา

เธอยิ้มอย่างขมขื่น “อ้อ เดินดีดีล่ะ บ้ายบาย”

นิ้วยาวของเหอจยาอวี๋กระชับสายสะพายกระเป๋านักเรียน

กับฉีเหยียนซี เธอหัวเราะแบบนั้นได้อย่างมีความสุข แต่พอมาถึงเขาตรงนี้ เหลือเพียงแค่คำว่า “ลาก่อน” งั้นเหรอ?

ไม่รู้ว่าทำไม ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “เธอชอบฉีเหยียนซีเหรอ?”

ทันทีที่คำถามนี้ถามออกไป ทั้งสองก็นิ่งไปชั่วขณะ

ซูเสี่ยวโม่เป็นคนแรกที่ตอบสนอง “จะเป็นไปได้ยังไง! ฉันจะไปชอบคนปัญญาอ่อนนั่นได้ยังไง”

“จริงเหรอ?” เขาตอบกลับเบาๆ “ฉันนึกว่าเธอชอบเขา”

“เปล่า…” ไม่ง่ายเลยที่ซูเสี่ยวโม่จะเขินอาย เธอลอบมองเหอจยาอวี๋ด้วยความสงสัยว่าเขากำลังหมายถึงอะไร

หึง? ไม่ใช่หรอกมั้ง เขาก็ไม่ได้ชอบตัวเองสักหน่อย

หรือว่า…เขาชอบฉีเหยียนซี?!

ซูเสี่ยวโม่ที่เพิ่งได้รับพิษสงจากกองการ์ตูนวายเมื่อไม่นานมานี้นิ่งไปสักพัก เธอมองไปทางเหอจยาอวี๋ด้วยสายตาที่แปลกออกไป “นายไม่พอใจเหรอ?”

เหอะ เธอยังมองออกอยู่สินะว่าเขาไม่พอใจ? แม้เหอจยาอวี๋หัวเราะเยาะในใจ แต่ใบหน้ายังคงยิ้ม “เปล่านี่”

“เอ่อ…” ซูเสี่ยวโม่แตะศีรษะอย่างอายๆ “ถ้านายไม่พอใจก็ไม่ต้องยิ้มตลอดเวลาก็ได้ เอาแต่ยิ้มแบบนี้คงเหนื่อยน่าดู”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ดวงตาของเหอจยาอวี๋ก็สว่างวาบ จากนั้นก็หม่นหมองอีกครั้ง

“อืม” เขาพยักหน้าและคิดว่าไม่มีอะไรจะพูดกับเธอแล้ว

ขายาวสาวเท้าออกไปและซูเสี่ยวโม่ก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลังในพริบตาเดียว

ซูเสี่ยวโม่เพิ่งจะตระหนักได้ว่าตัวเองพูดผิดไปแล้ว

คนที่ชอบสวมหน้ากากแบบนี้ก็คงไม่ชอบถูกเปิดโปงหรอก

เธอคิดว่าตัวเองฉลาด แต่จริงๆ แล้วเธอทำร้ายคนอื่น

ซูเสี่ยวโม่เร่งฝีเท้าวิ่งตามไป “เหอจยาอวี๋!”

เหอจยาอวี๋ชะงักเท้า

เขาเคยได้ยินใครหลายคนเรียกชื่อเขา มีทั้งเย็นชา ดีใจ อ่อนหวานและขยะแขยง…

แต่ไม่เคยรู้สึกว่าชื่อของตัวเองเพราะขนาดนี้ และไม่ได้รู้สึกว่าชื่อตัวเองมีความพิเศษอะไร

คำสามคำ “เหอจยาอวี๋” ที่ออกมาจากปากที่ร่าเริงของซูเสี่ยวโม่เพียงคนเดียวที่ทำให้เขาหวั่นไหวได้

เพราะชื่อที่เธอเรียกออกมานั้นไม่เหมือนใคร ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนเป็นมีความหมายขึ้นมาทันใด

“ขอโทษ…” เธอขอโทษเสียงเบาๆ

เหอจยาอวี๋ใจอ่อนยวบและพูดเบาๆ “อืม” จากนั้นสาวน้อยก็พูดเสริมมาอีกประโยค “นายชอบใครก็จีบเถอะ! อย่าไปสนสายตาคนอื่นเลย!”

เมื่อเห็นเขาไม่พูด ซูเสี่ยวโม่ก็หัวเราะอย่างสนิทสนม “ก็นายเคยบอกฉันแล้วไง ว่านายมีคนที่ชอบแล้วนี่”

“แล้วยังไง?” เหอจยาอวี๋พูดเสียงเย็นชา

“เอ๊ะ?” ไม่ใช่สิ เหอจยาอวี๋เคยบอกว่าเขาชอบคนที่อ่อนโยนและใจกว้าง แล้วยังเป็นผู้หญิง…

อืม….งั้นเขากับฉีเหยียนซีก็ต้องหมดหวังแล้วแน่ๆ!

เธอตบไหล่เขาด้วยความเห็นใจ “ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจหมดแล้ว!”

“ไม่ เธอไม่เข้าใจ เธอไม่เข้าใจเลยสักอย่าง!” นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มผู้แสนอ่อนโยนโมโห เขาพูดอย่างเย็นชาแล้วเดินหายไปต่อหน้าเธอ

ตอนที่ 458 ฉันเป็นแบบนี้ เธอยังจะชอบไหม? (1)

ซูเสี่ยวโม่ยืนว้าวุ่นใจอยู่ท่ามกลางสายลม

แม่งเอ๊ย! แบบนี้จะเอาไงเนี่ย!

เธอกุมหัวใจชายหยาบกระด้างและส่งข้อความหาอันซย่าซย่า “เบบี๋ ฉันเจ็บจังเลย แงแงแงแงแง!”

ตอนนี้อันซย่าซย่านั่งเครื่องบินเที่ยวล่าสุดมาถึงสนามบินเมืองอวี้แล้วโดยมีเซิ่งอี่เจ๋อยืนหลังตรงอยู่ข้างหลัง

ทั้งสองเผลอสบตากันและผละออกอย่างเก้อเขิน

คนขับรถของตระกูลเซิ่งรออยู่นานแล้ว เมื่อทั้งสองขึ้นรถ เซิ่งอี่เจ๋อให้คนขับไปส่งอันซย่าซย่ากลับบ้านตระกูลอันก่อน

อันซย่าซย่าแกล้งทำเป็นเล่นโทรศัพท์มือถือและไม่พูดกับเขา

พอนึกถึงเรื่อง “การจู่โจมหน้าอก” ที่น่าอายคืนนั้น อันซย่าซย่าแทบทนไม่ไหวที่ระบิดตัวเองตายด้วยท่ายิมนาสติก!

บ้าจริงเชียว! น่าอับอายเกินไปแล้ว!

มือถือสั่นได้สักพัก อันซย่าซย่าก็กดดูที่ซูเสี่ยวโม่เป็นคนส่งมา เธอจึงตอบกลับด้วยอีโมจิ ทั้งสองคุยกันอย่างเมามันและนัดกันไปกินปิ้งย่างเสียบไม้

รถจอดหน้าบ้านตระกูลอัน

อันซย่าซย่าปิดหน้าและวิ่งหนี เซิ่งอี่เจ๋อกระแอมเสียงโดยไม่ไปส่งเธอเหมือนทุกครั้ง

คนขับรถถามด้วยความแปลกใจ “คุณชายครับ ไม่ไปส่งคุณหนูอันเหรอ?”

เซิ่งอี่เจ๋อส่งสายตาเฉียบคมจนคนขับรถตัวสั่นด้วยความเยือกเย็นและเงียบเสียงไป

คุณชายของเขาน่ากลัวจริงๆ

เซิ่งอี่เจ๋อเอนหลังพิงเบาะพลางมองวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย ความอบอุ่นวกวนอยู่ภายในใจอยู่หลายพันครั้ง

เมื่อนึกถึงสัมผัสบนมืออันน่าเหลือเชื่อในคืนนั้น เขาก็หูแดงขึ้นมา

ใครบางคน…โตแล้วสินะ

เขามองไปที่แผ่นหลังของอันซย่าซย่าอย่างครุ่นคิด

อันซย่าซย่าทักทายคนในครอบครัว จากนั้นก็ไม่สนว่าจะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางแล้วไปที่แผงปิ้งย่าง

ซูเสี่ยวโม่กำลังย่างเนื้อพร้อมกับถือผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดน้ำตาร้องไห้อิ๋งอิ๋ง อันซย่าซย่าตกใจแทบแย่และรีบวิ่งเข้าไปกอดเธอพลางเขย่าตัวเธอ “โม่โม่ เธออย่าคิดมากไปเลย! ไหนบอกว่าแหงนหน้าขึ้นฟ้าแล้วน้ำตาก็จะไม่ไหลไง! ไหนบอกว่าจะเป็นผู้หญิงร่าเริง รักอิสระไม่ผูกมัดไง!”

ซูเสี่ยวโม่กลอกตาโต “ฉันโดนรมควันต่างหากเล่า!”

อันซย่าซย่าหน้าเหวอ พอมองเธอก็แน่ใจแล้วว่าเธอเหมือนจะไม่ได้ร้องไห้จริงๆ อันซย่าซย่าจึงคลายมือออก

ทั้งสองกินเนื้อไปด้วยนั่งคุยกันไปด้วย อันซย่าซย่าเล่าเรื่องที่ต่างประเทศให้เธอฟัง ซูเสี่ยวโม่ก็เล่าเรื่องชะตากรรมของเหอจยาอวี๋

“ไหนเธอบอกมาซิ ทำไมฉันต้องชอบเขาด้วย? ซย่าซย่า การชอบใครสักคนมันช่างเจ็บปวดจริงๆ” ซูเสี่ยวโม่เศร้าใจ

อันซย่าซย่าเงียบและไม่โกรธที่ซูเสี่ยวโม่กระชากปีกไก่ที่มันเยิ้มของเธอไป

เธอไม่อยากให้เพื่อนของเธอเสียใจ แต่เรื่องสภาพจิตใจ เธอไม่สามารถช่วยอะไรได้

“เธอชอบเขาเพราะอะไรกันแน่?” อันซย่าซย่าทอดถอนใจ

ซูเสี่ยวโม่พูดอัดอั้นตันใจ “ฉันแค่คิดว่าเขาหล่อดี”

อันซย่าซย่าชูนิ้วกลาง “เธอมันบ้าคนที่หน้าตา”

“เธอก็เหมือนกันแหละน่า! พอๆ กัน!”

ทั้งสองจ้องตากันเป็นเวลานาน ต่างคนก็ต่างกินเนื้อคนละจาน ซูเสี่ยวโม่ดึงอันซย่าซย่าลุกขึ้นมาด้วยท่าทางห้าวหาญ “ไป นายน้อยจะพาไปเปิดโลก!”

อันซย่าซย่ามองไปยังขวดเบียร์ที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ ทั้งยังมีเหล่าชายหญิงที่กำลังเต้นแนบชิดกันอยู่บนฟลอร์อย่างร้อนแรง มีเสียงเพลงร๊อคดังอยู่ในหู เธอพูดเสียงอ่อน “ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย ดื่มเหล้าไม่ได้…”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า คืนนี้พวกเราครบสิบแปดแล้ว!” ซูเสี่ยวโม่รินเบียร์ให้เธอหนึ่งขวด “รีบดื่มเร็ว! มาดื่มให้เมาหัวราน้ำเป็นเพื่อนฉันหน่อย…ดื่มย้อมใจ”

อันซย่าซย่าจิบไปได้นิดเดียวก็เห็นซูเสี่ยวโม่ดื่มอึกอึกหมดไปแล้วหนึ่งขวด

ทันใดนั้นขวดเบียร์ในมือของซูเสี่ยวโม่ตกลงไปที่พื้น

พออันซย่าซย่ามองตามไปก็เห็นเหอจยาอวี๋กำลังกอดผู้หญิงเต้นอยู่บนฟลอร์…