ตอนที่ 1906 เจี่ยนอัน (9) / ตอนที่ 1907 เจี่ยนอัน (10)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1906 เจี่ยนอัน (9)

“แม่นางอวิ๋น!” ทันทีที่ฉีซูเห็นสตรีชุดขาวยืนอยู่ที่ประตู ริมฝีปากของเขาก็ขยับ ดวงตาปรากฏความสิ้นหวัง ขณะที่สีหน้าของเขาราวกับจะบอกว่าไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

อวิ๋นลั่วเฟิงกอดอกขณะที่เอนพิงกรอบประตูอย่างเกียจคร้าน นางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วยกยิ้ม เท่าที่นางรู้จักฉีซู เขาไม่มีทางทำเรื่องผิดพลาดแบบนี้แน่ ดังนั้นก็มีเพียงเหตุผลเดียว…

อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตาแล้วรอยยิ้มของนางก็ยิ่งกดลึกขึ้นทว่าเต็มไปด้วยความเย็นเยียบไร้สิ้นสุด ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่ได้คิดจะช่วยแก้ปัญหานี้ให้ฉีซู ถ้าเขาไม่สามารถแก้ปัญหาเล็กๆ แบบนี้เองได้แล้วนางจะเชื่อในความสามารถของเขาได้อย่างไร

“นี่ก็ดึกมากแล้ว จัดการปัญหานี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” นางบิดขี้เกียจแล้วพูดอย่างเฉยชา คำพูดของนางหมายถึง ‘รีบจัดการปัญหานี่เร็วเข้า อย่าให้มารบกวนเวลาพักผ่อนของข้า’

“อันเอ๋อร์!” เจี่ยนปั๋วเหวินส่งเสียงขึ้นจมูกด้วยสีหน้ามืดครึ้ม “อันเอ๋อร์ บอกมาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

เจี่ยนอันเหลือบมองฉีซูแล้วกัดริมฝีปากก่อนจะแสดงสีหน้าอับอาย “ท่านพ่อ ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ ก่อนหน้านี้จู่ๆ ข้าก็หมดสติแล้วหลับไป หลังจากที่ตื่นขึ้นมาข้าก็เห็นว่าข้าอยู่กับนายน้อยฉีในห้อง แล้วนอกเหนือจากนั้น ข้าก็ไม่แน่ใจ…”

ความหมายของนางชัดเจนมาก ตอนแรกนางกำลังหลับแต่นางก็โดนควันยาสลบแล้วถูกฉีซูจับตัวมา! เมื่อเห็นเสื้อผ้าหลุดลุ่ยของนาง ทุกคนก็เดาได้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไร

“ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก เหตุใดถึงมีคนย่ำยีเจ้าแทนที่เขาจะไปหาคนอื่น” เจี่ยนอี้ยิ้มเยาะด้วยสีหน้าเหยียดหยาม “ข้าคิดว่าเจ้าทำตัวไม่เหมาะสมจนทำให้คนอื่นฉวยโอกาสได้มากกว่า!”

สีหน้าของเจี่ยนอันเปลี่ยนไปทันทีขณะที่ทั่วทั้งร่างแข็งค้าง ถึงแม้ว่านางจะเดาได้อยู่แล้วว่าการกระทำของนางจะทำให้โดนเจี่ยนอี้ดูถูก แต่นางก็ไม่อาจถอยได้เพราะมารดาของนาง! ถึงแม้ว่าหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเจี่ยนอี้ นางก็ยังรู้สึกว่ากลืนน้ำลายได้ยากลำบาก

“เจี่ยนอัน คนอย่างเจ้ากล้าหลงผิดชอบนายน้อยจีงั้นหรือ” เจี่ยนอี้เชิดหน้าแล้วพูดด้วยท่าทางหยิ่งยโส “เจ้าควรจะกลับไปส่องกระจกดูตัวเองดีกว่า ใบหน้าของเจ้าก็ไม่ต่างจากคางคกอยากกินเนื้อหงส์หรอก ตอนนี้เจ้าไม่บริสุทธิ์แล้ว ก็ยิ่งไม่มีทางที่จะได้แต่งงานกับนายน้อยจี!”

เจี่ยนอันก้มหน้าจนเกือบจนติดพื้น จนใครก็ตามที่เห็นนางจะต้องรู้สึกเห็นใจ

“อี้เอ๋อร์” เจี่ยนปั๋วเหวินขมวดคิ้วแล้วเหลือบมองฉีซู ดวงตาของเขาไม่ได้เฉยชาเหมือนก่อนหน้านี้แต่กลับทำสายตาเหมือนบิดาที่กำลังมองลูกเขย “ในเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเจ้าก็ต้องรับผิดชอบบุตรสาวข้าแล้วแต่งงานกับนาง อ้อ จริงสิ ข้าได้ยินว่าเจ้ามาจากตระกูลฉีของอาณาจักรหลิวเฟิง ตระกูลเจ้าครอบครองเทือกเขาสมุนไพรพลังฌานมากมาย ข้าไม่ขออะไรมาก เจ้ายกให้เทือกเขาสมุนไพรให้ข้าสักสามลูกเป็นค่าสินสอดก็แล้วกัน”

เขตแคว้นนี้มีพลังฌานหนาแน่นมากทำให้สมุนไพรเติบโตขึ้นเป็นสมุนไพรพลังฌานได้ แต่การที่สมุนไพรพลังฌานจะเกิดขึ้นไม่ได้อาศัยแค่พลังฌานที่หนาแน่นเท่านั้น แต่ต้องอาศัยธรรมชาติของเทือกเขาด้วย

ถึงแม้ว่าเทือกเขาอื่นจะมีสมุนไพรพลังฌานแต่ปริมาณก็นับได้ด้วยมือข้างเดียว ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเทือกเขาที่มีคุณสมบัติทำให้สมุนไพรพลังฌานเติบโตได้โดยธรรมชาติ แต่ว่า…ตระกูลฉีมีเทือกเขาเพียงห้าลูกเท่านั้นที่มีสมุนไพรพลังฌานเติบโต ถึงอย่างนั้นทันทีที่ตระกูลเจี่ยนอ้าปากก็เอ่ยขอเทือกเขาถึงสามลูก

บนโลกนี้จะมีอะไรที่ดีขนาดนี้เชียวหรือ

ฉีซูหัวเราะอย่างชั่วร้ายขณะที่ดวงตาเป็นประกายเย็นเยียบ อย่างที่คิด คนพวกนี้ก็เป็นแค่พวกหมาในที่ทั้งโลภและไม่รู้จักพอ

ตอนที่ 1907 เจี่ยนอัน (10)

“เจ้าคิดว่าบุตรสาวอนุคนหนึ่งจะมีค่าเท่ากับเทือกเขาสามลูกงั้นหรือ” ใบหน้าของฉีซูเต็มไปด้วยการเหยียดหยามขณะที่ดวงตาของเขาเป็นประกายเยาะเย้ย เสียงของเขาเย็นชาและห่างเหินและในเวลาเดียวกันทำให้หัวใจของเจี่ยนอันสั่นสะท้าน

นางกำหมัดแน่นขณะเดียวกันหัวใจของนางก็รัดแน่น นางเจ็บปวดมากจนเกือบทนไม่ได้ ตอนแรกนางคิดว่านางจะสามารถทิ้งความรู้สึกของนางแล้วใช้เป็นข้อแลกเปลี่ยนได้ ตอนนี้นางก็ได้รู้ว่าเพียงประโยคเดียวของเขาก็ทำให้นางตกลงไปในนรกขุมที่ลึกที่สุดแล้ว!

อวิ๋นลั่วเฟิงที่ยืนอยู่ที่ประตูก็เงยหน้ามองฉีซู นางไม่คิดเลยว่าเขาจะพูดคำพูดโหดร้ายแบบนี้ แต่ว่า…นางก็ยังไม่คิดจะช่วยฉีซู นางเชื่อว่าเขาจะแก้ปัญหานี้เองได้

สีหน้าของเจี่ยนปั๋วเหวินซีดเผือด ตอนแรกเขาคิดว่าฉีซูจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตัวนางหลังจากที่ทำเรื่องป่าเถื่อนแบบนี้กับบุตรสาวเขา ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องอื้อฉาวแบบนี้ย่อมส่งผลต่อสถานะในอาณาจักรหลิวเฟิงของเขา การใช้เทือกเขาสามลูกมาชดเชยก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินไปเลย!

เจี่ยนปั๋วเหวินสูดหายใจเขาลึกๆ แล้วถามว่า “ถ้าเจ้าไม่ยอมยกเทือกเขาสามลูกให้ เทือกเขาลูกเดียวก็คงพอแลกเปลี่ยนได้” เทือกเขาลูกเดียวเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดที่เขารับได้แล้ว

“เสียใจด้วย ในใจข้า นางไม่มีค่าแม้แต่ตำลึงเดียว!” ฉีซูเงยหน้า และสายตาเย็นชาไร้อารมณ์ของเขาก็เลื่อนไปอยู่ที่เจี่ยนปั๋วเหวิน

เจี่ยนอันเงยหน้าแล้วมองฉีซูด้วยดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ แม้แต่ริมฝีปากของนางยังสั่น ขณะที่ใบหน้าของนางไร้สีเลือด

บุรุษคนนี้ไร้หัวใจขนาดนี้เลยหรือ หรือว่าเขาไม่มีความเห็นใจให้ข้าแม้แต่นิดเดียว

“ฉีซู เจ้าตั้งใจจะทำอะไรกันแน่” สีหน้าของเจี่ยนปั๋วเหวินเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ “เจ้าย่ำยีบุตรสาวข้าแต่กลับบอกให้ข้าปล่อยเจ้าไปเฉยๆ งั้นหรือ ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปแล้วในอนาคตนางจะยังแต่งงานได้อย่างไร”

“อนาคตนางจะได้แต่งงานหรือไม่ไม่ใช่เรื่องของข้า นี่เป็นความผิดของนางเองและข้าก็ไม่เคยแตะต้องนางแม้แต่ปลายเล็บ!”

“เจ้าไม่ได้แตะต้องนางงั้นหรือ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเสื้อผ้านางล่ะ อย่าบอกนะว่านางฉีกเสื้อผ้าตัวเอง” เจี่ยนปั๋วเหวินยิ้มเย็นและพูดอย่างดูถูก เขาเข้าใจบุตรสาวของตัวเองดี ถึงแม้ว่าหัวใจของนางจะอยู่สูงกว่าสวรรค์ นางก็รังเกียจเรื่องแบบนี้มาก

“ในเมื่อนางบอกว่า ข้าลงมือกับนางก็ไปเชิญคนมาตรวจร่างกายนางเถอะ ตรวจดูว่านางยังบริสุทธิ์อยู่หรือไม่!” ฉีซูเอามือข้างหนึ่งไพล่ไว้ด้านหลังแล้วพูดอย่างเฉยชา

เจี่ยนอันตัวสั่นอย่างห้ามไม่ได้ จากนั้นนางก็ชี้หน้าฉีซู “ฉีซู เจ้ากล้าทำเรื่องแบบนี้กับข้า! เจ้าใช้กำลังบังคับข้าแต่เจ้าอยากให้คนมาตรวจร่างกายข้างั้นหรือ ถ้าข่าวเรื่องที่ข้าโดนทำให้อับอายขนาดนี้แพร่ออกไปทุกคนก็จะรู้ว่าข้าสูญเสียความบริสุทธิ์ แล้วข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร เจ้าตั้งใจจะทำให้ข้าโกรธจนตายงั้นหรือ”

น้ำตาไหลอาบแก้มของนางขณะที่นางกัดปากแน่น นางทำสีหน้าอับอายราวกับว่าโดนฉีซูทำให้อัปยศ

“ฉีซู ข้ารู้ว่าเจ้ามีคู่หมั้นอยู่แล้ว แต่เจ้าไม่สนใจว่าข้าเคยช่วยชีวิตเจ้าไว้และยังทำร้ายข้าแบบนี้ เจ้าไม่คิดจะรับผิดชอบเลยหรือ”

ฉีซูพูดอย่างเย็นชาว่า “ข้าขอให้ตรวจร่างกายของเจ้า ถ้าเจ้าเสียความบริสุทธิ์จริงๆ ข้าก็จะยอมแต่งงานกับเจ้า แต่ถ้าไม่ก็หมายความว่าเจ้าทำทุกอย่างด้วยตัวเอง!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เจี่ยนอันก็ตกใจ ตอนที่นางตั้งใจจะเถียงต่อก็มีสตรีคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องแล้วสะดุดล้ม

“บุตรสาวที่รักของข้า บุรุษเนรคุณอย่างเขากล้าทำเจ้าแบบนี้ได้อย่างไร ตรวจร่างกายของนาง ต้องจัดการตรวจร่างกายให้นาง! เร็วเข้าไปหาหญิงชรามากประสบการณ์มา ข้าอยากให้คนผู้นี้รับผิดชอบบุตรสาวของข้า!