ลาเต้และคนอื่นๆ กลับมาจากการแข่งขัน เหงื่อที่ท่วมตัวของแต่ละคนบ่งบอกถึงความแหน็ดเหนื่อย ทว่าใบหน้าและดวงตายังเต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพึงพอใจมากกับการแข่งขันในครั้งนี้
”ประธานลาเต้ น้ำค่ะ” ชาหวานเอ่ยขณะหยิบขวดน้ำขึ้นมาสองขวด และส่งขวดหนึ่งในมือให้กับลาเต้
ลาเต้รับขวดน้ำดื่ม พร้อมพูดว่า “ขอบใจนะ”
“แล้วของผมล่ะ?” ทามทอยเมื่อเห็นเธอยื่นน้ำดื่มให้ลาเต้ โดยที่ไม่มีของตัวเอง จึงพูดขึ้นด้วยความน้อยใจ “ผมเป็นคนพาคุณมานะ ทำไมถึงมีให้แต่เขาล่ะ?”
ชาหวานมองบน “อ่ะ เอาไป!”
เธอพูดพลางหยิบน้ำอีกขวดแล้วยื่นให้
และนั่นทำให้ทามทอยหัวเราะชอบใจ จึงเปิดฝาขวดและยกดื่มไปหลายอึก หลังจากนั้นก็เทน้ำที่เหลือลงบนศีรษะและใบหน้า “สุดยอด!”
“เยี่ยมมากจริงๆ” ลาเต้ปัดน้ำบนเส้นผม ก่อนพูดตาม
ขณะเดียวกัน ส้มเปรี้ยวก็ส่งน้ำดื่มให้กับเปปเปอร์ “เปปเปอร์ ดื่มน้ำสิ”
“อื้ม” เปปเปอร์รับน้ำดื่มไปแล้วเปิดฝาขวด โดยไม่ได้ดื่ม จากนั้นก็ยื่นกลับไปให้เธอ “คุณดื่มก่อนเลย”
ส้มเปรี้ยวความเป็นสุภาพบุรุษของเขา ก็ยิ้มหน้าบาน พลางกล่าว “ขอบคุณนะคะเปปเปอร์”
เปปเปอร์ตอบกลับว่าไม่เป็นไร ก่อนที่จะก้มตัวลงหยิบขวดน้ำขึ้นมาอีกขวด และยกขึ้นดื่ม
เพิ่งดื่มไปสองสามอึก ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น
ทำให้ผู้คนบริเวณนั้นเงียบลงทันที
ลาเต้หันตามเสียงนั้นไป เห็นม้าของมายมิ้นท์พยศอยู่ไกลๆ
และมายมิ้นท์ที่อยู่บนหลังม้าตกใจจนใบหน้าซีดเซียว ตัวของเธอหงายไปข้างหลัง แม้ว่ามือของเธอจะจับบังเหียนไว้แน่น แต่ถ้าหากยังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ อีกไม่นานเธอจะต้องตกจากหลังม้าแน่นอน
“ที่รัก!” ลาเต้โยนน้ำในมือทิ้งไปในทันที พร้อมวิ่งไปคว้าม้าของตัวเอง เพื่อช่วยเธอ
แต่ทว่าทันทีที่เขาขึ้นหลังม้าได้สำเร็จ ก็เห็นร่างหนึ่งขี่ม้านำเขาไปก่อน
เปปเปอร์นั่นเอง!
ลาเต้ขมวดคิ้ว ใช้แรงกระแทกเท้าไปยังท้องม้า แล้วไล่ตามไป
บริเวณนั้นจึงเหลือแค่ส้มเปรี้ยวและทามทอย
ชาหวานเพิ่งเดินไปเข้าห้องน้ำ ส่วนปีโป้ก็ยังอยู่ที่สนามแข่งม้าอีกแห่ง
ทามทอยมองสีหน้าเหยเกของส้มเปรี้ยว แล้วหัวเราะก่อนพูดว่า “อุ๊ย เปปเปอร์ไปช่วยมายมิ้นท์ ทำให้คุณไม่พอใจใช่ไหม?”
ส้มเปรี้ยวรู้อยู่แก่ใจว่าเขากำลังรอเยาะเย้ยตัวเองอยู่ ในมือกำขวดน้ำแน่น แต่ก็ได้โต้กลับด้วยใบหน้าที่ฝืนยิ้มว่า “ไม่หรอก หากเกิดเรื่องขึ้นกับคุณมายมิ้นท์ แล้วเปปเปอร์เข้าไปช่วยเธอก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ฉันไม่ได้รู้สึกไม่ชอบใจ”
“เหรอครับ? แต่ท่าทีของคุณกำลังบอกผมว่าคุณโกหก” ทามทอยมองไปทางขวดน้ำที่ถูกบีบจนเสียรูป ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มที่น่าสะพรึงขึ้น
สีหน้าของส้มเปรี้ยวนิ่งไปชั่วขณะ คลายขวดน้ำออกทันที และไม่ได้พูดอะไรอีก
ทามทอยหัวเราะ “คุณส้มเปรี้ยวนี่ยังปากกับใจไม่ตรงกันเหมือนเดิมเลยนะครับ คุณที่เป็นแบบนี้ ยังสามารถทำให้ใจของเปปเปอร์หวั่นไหวได้ ตอนแรกผมนึกว่าเปปเปอร์จะตาบอดไปแล้วจริงๆ แต่ดูจากท่าทางของเปปเปอร์ตอนนี้เนี่ย ดูเหมือนเขาจะตาสว่างขึ้นแล้วนะ”
เขายกมือขึ้นจับคางก่อนมองไปทางเปปเปอร์ที่ช่วยมายมิ้นท์ไว้ได้สำเร็จ แล้วพูดต่อว่า “เมื่อกี้ตอนเกิดเรื่องขึ้นกับมายมิ้นท์ สีหน้าของเปปเปอร์ดูกังวลขึ้นอย่างชัดเจน นั่นแสดงให้เห็นว่า ไม่ใช่ว่าในใจเขาจะไม่มีมายมิ้นท์เลย เพียงแต่เขายังไม่รู้ใจตัวเอง หากวันไหนที่เขารู้ใจตัวเองขึ้นมา คุณส้มเปรี้ยวคิดว่า…”
“พอแล้ว หยุดพูดได้แล้ว” ส้มเปรี้ยวกำมือก่อนแล้วลุกขึ้น พร้อมพูดตัดบทเขาอย่างเย็นชา
ทามทอยขมวดคิ้ว “ทำไมเหรอ? โกรธเหรอ?”
ส้มเปรี้ยวมองเขาด้วยสายตาหมองหม่น “คุณทามทอย ฉันรู้ว่าครั้งก่อนเพราะเรื่องของคุณพ่อ ทำให้ฉันทำผิดต่อตระกูลชุติเกษม แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องมาทำลายความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเปปเปอร์นี่ แล้วที่คุณทำแบบนี้ ไม่กลัวว่าเปปเปอร์จะไม่พอใจเหรอ?
“กลัวอะไร?” ทามทอยโต้กลับพร้อมยิ้มกริ่ม “เปปเปอร์เป็นเพื่อนของผม และผมคิดว่าคุณไม่เหมาะสมกับเขา จึงอยากให้เขาอยู่ห่างๆกับคุณ ผมหวังดีกับเขาขนาดนี้ เขาจะไม่พอใจได้อย่างไร”
“นี่คุณ…” สีหน้าส้มเปรี้ยวเจ้าของเสียงนั้นแดงจัด
ทามทอยแสดงสีหน้าพอใจ
เดิมทีเขาก็ไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเปปเปอร์ด้วยวิธีที่ไร้รสนิยมเช่นนี้ เพราะไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนี้เป็นอย่างไร ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา
แผนการที่ตระกูลชุติเกษมเตรียมไว้นานหลายปี เคยเกือบถูกตระกูลภักดีพิศุทธิ์ทำลาย และเพราะผลของการกระทำในครั้งนั้น เขาจะไม่มีวันให้เธอได้สุขสบายแน่ ช่วยไม่ได้ เขาก็เป็นคนจิตใจคับแคบแบบนี้แหละ
ขณะเดียวกันในสนามแข่งม้า
เปปเปอร์กอดมายมิ้นท์ไว้ในอ้อมแขน
เปปเปอร์ที่รับรู้ถึงความหวาดกลัวของเธอ จึงลูบแผ่นหลังของเธอเบาๆ พร้อมปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกลัว”
มายมิ้นท์ไม่ได้ตอบโต้ แต่อาการสั่นเทาของร่างกายเธอ ค่อยๆ เบาบางลงไปแล้ว
ตอนนี้เอง ลาเต้เข้ามาเห็นทั้งสองกอดกันกลม แววตาหม่นหมองลงไปชั่วขณะ ก่อนกล่าว “คุณเปปเปอร์ ขอบคุณที่ช่วยคนรักของผมนะครับ”
แม้ว่าเขาไม่อยากเอ่ยขอบคุณ
แต่เรื่องที่ว่าเปปเปอร์ช่วยคนรักของเขาเป็นความจริง และเขามาหลังเปปเปอร์ก็เป็นความจริงเช่นกัน
“ไม่เป็นไร” เปปเปอร์เหลือบมองลาเต้ แล้วโต้กลับอย่างเย็นชา
ลาเต้กระโดดลงจากหลังม้า “แต่อย่างไรก็ตาม คุณช่วยปล่อยคนรักของผมได้ไหม? คุณอย่าลืมนะ ว่าเธอเป็นคนรักของผม ถ้าคุณยังกอดเธอไว้แบบนี้ จะดูไม่เหมาะ อีกอย่างคู่หมั้นของคุณก็กำลังมองอยู่”
เปปเปอร์ที่กำลังลูบแผ่นหลังของมายมิ้นท์เพื่อปลอบใจอยู่นั้น เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็ชะงักลง และตระหนักขึ้นได้ว่า หญิงสาวในอ้อมกอดนี้ เป็นอดีตภรรยาของเขา ในขณะเดียวกันก็เป็นแฟนของคนอื่นไปแล้ว
หากเขายังกอดเธอไว้แบบนี้ ดูไม่เหมาะสมกันจริงๆ
คิดถึงตรงนี้ เปปเปอร์ก็เบือนหน้ามองไปทางลานพักผ่อน ก่อนสบตากับดวงตาแดงก่ำที่คลอด้วยน้ำตาของส้มเปรี้ยวได้พอดี
เปปเปอร์เม้มปากเล็กน้อย สุดท้ายก็ปล่อยมายมิ้นท์
ลาเต้ใช้จังหวะที่เขาปล่อย ดึงแขนของมายมิ้นท์ เพื่อให้ร่างของเธอมาซบแนบอก แล้วถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก “ที่รัก ไม่เป็นอะไรนะ?”
มายมิ้นท์ที่ยังอยู่ในอาการตกใจส่ายหน้า พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ไม่เป็นไรค่ะ”
ในวินาทีที่เธอเกือบจะตกลงจากหลังม้า เปปเปอร์ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
จึงทำให้เธอไม่ได้รับบาดเจ็บ
แต่ลาเต้ยังคงไม่สบายใจ จึงได้สำรวจร่างกายเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อเห็นว่าไม่เป็นอะไรจริงๆ จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เมื่อกี้ผมตกใจแทบแย่ ทำไมจู่ๆ ม้าที่ดูปกติ จึงคลุ้มคลั่งได้ล่ะ?”
พูดจบ เปปเปอร์ก็หันไปมองม้าที่สงบลงมาอยู่ไกลๆ ด้วยสีหน้าที่ยากจะคาดเดา
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” มายมิ้นท์ตอบกลับ พลางส่ายหน้า
เธอตั้งใจขี่ม้าอยู่ดีๆ จู่ๆ ม้าก็วิ่งเร็วขึ้น
ในตอนนั้นเธอตกใจจนทุกอย่างดูว่างเปล่าไปหมด ใครจะมีอารมณ์ไปคิดถึงสาเหตุล่ะ
“ไม่เป็นไรครับ เรื่องนี้ผมจะจัดการเอง ที่รักคุณกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อนเถอะ ขาของคุณยังสั่นอยู่เลย” ลาเต้พูดขณะที่มองเห็นขาของมายมิ้นท์ที่ยังอยู่ในอาการสั่นเทา
มายมิ้นท์พยักหน้าตกลง
ลาเต้พยุงเธอกลับไปทางวิลล่า
เปปเปอร์มองแผ่นหลังของทั้งสอง ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นจนเป็นเส้นตรง
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ลาเต้เดินลงมาจากชั้นบน
ส่วนเปปเปอร์และคนอื่นๆ ก็กลับมาจากสนามแข่งม้า และนั่งรวมกันที่ห้องรับแขก
ปีโป้ที่เห็นลาเต้เดินลงมาเป็นคนแรก รีบลุกขึ้นและถามไปว่า “ผมได้ข่าวว่าพี่มายมิ้นท์เกิดอุบัติเหตุ เธอเป็นอย่างไรบ้าง”
ส้มเปรี้ยวเมื่อเห็นความห่วยใยและกังวลที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของปีโป้ ก็หรี่ตาลง เพื่อบดบังความหมองหม่นในดวงตา
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ปีโป้ยังเกลียดมายมิ้นท์
แต่ทำไมหลังจากที่มายมิ้นท์หย่ากับเปปเปอร์ ปีโป้ก็ไม่รู้สึกเกลียดเธออีกต่อไป กลับห่วยใยมายมิ้นท์ มายมิ้นท์ทำอะไรกับเขากันแน่?
“นั่นสิคะคุณลาเต้ คุณมายมิ้นท์ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?” ชาหวานพูดเสริม
ตอนที่เกิดเรื่องขึ้นกับมายมิ้นท์ เธอยังอยู่ในห้องน้ำ และตอนเธอเดินกลับมา ก็ได้ยินทามทอยพูดว่าม้าของมายมิ้นท์พยศ จนเกือบทำให้มายมิ้นท์ตกลงมาจากหลังม้า
ลาเต้ไม่แม้แต่จะสนใจปีโป้ กลับมองมาทางชาหวานแล้วตอบว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง คนรักของผมไม่เป็นอะไร เธอเพียงแค่ตกใจ แต่ตอนนี้หลับไปแล้วล่ะ”
“ดีแล้วค่ะ” ชาหวานถอนหายใจอย่างโล่งอก
แต่ปีโป้ไม่พอใจที่ถูกลาเต้เมินเฉยใส่ แต่เมื่อได้ยินว่ามายมิ้นท์ไม่เป็นอะไรมาก จึงหน่ายจะคิดเล็กคิดน้อย