ตอนที่ 1130 ลูกสาวศัตรู

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ดังนั้นในอีกสองวันต่อมา ไม่เพียงแต่เสี่ยวต้านเขอจะรู้ว่าฝาแฝดเรียนอยู่ห้องอะไรแต่ยังรู้ชื่อภาษาอังกฤษของพวกเขาอีกด้วย

ไม่นานบ่ายวันศุกร์ก็มาถึงและถึงเวลาเลิกเรียน

เสี่ยวต้านเขอจงใจตามเด็กชายตัวน้อยทั้งสองคนไป เดิมทีเธอแค่ต้องการดึงให้พวกเขาหันมามองเธอเท่านั้น แต่หลังจากที่พวกเขาก้าวขึ้นรถไปเธอก็เห็นว่ารถของชิวจิ่นได้ขับตามไป

เสี่ยวต้านเขอไปหาคนขับรถของเธอทันทีก่อนตะโกนบอก “ลุงค่ะ ลุง ตามรถของคุณปู่ชิวไปเลยค่ะ!”

“คุณหนู…”

“ตามไปสิคะ ถ้าพ่อถามก็บอกว่าหนูสั่ง”

เพราะเธอขาดแม่ไปตั้งแต่เล็ก เสี่ยวต้านเขอจึงช่างสังเกตและแสดงตัวตนออกมาอย่างชัดเจน

ท้ายที่สุดคนขับรถจึงไม่มีทางเลือกนอกจากตามไปด้านหลังและจับตามองรถของชิวจิ่น

แผนของชิวจิ่นคือการหยุดรถของซูโยวหรานทันทีที่เลี้ยวเข้ามาในบริเวณเปลี่ยวและเขาก็เพิ่งทำเช่นนั้นลงไป อย่างในครั้งที่แล้วตอนที่เขาขวางรถของซย่าอวี้หลิง เสียงล้อครูดกับถนนดังขึ้นขณะที่รถเสียหลัก

ซูโยวหรานถูกรถสีดำคันหนึ่งขวางเอาไว้…

ชายห้าคนก้าวออกมาพร้อมแท่งเหล็กในมือในเวลาต่อมา

“เราไม่ได้ตามแก เราแค่ต้องการตัวเด็กสองคนในรถ!”

ซูโยวหรานหันไปมองเด็กๆ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “น้าจะออกไปจัดการเรื่องหยุมหยิมพวกนี้เอง พวกหนูอยู่ในรถอย่าขยับไปไหนนะคะ โอเคไหม”

โม่จื่อซีกับโม่จื่อเฉินชะเง้อคอมองไปนอกรถก่อนที่จะพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

ซูโยวหรานก้าวออกมาจากรถอย่างมั่นใจโดยไร้วี่แววของความตื่นตระหนกและสวมถุงมือสีดำที่ใช้ในการต่อสู้ “แค่พวกแกห้าคนเหรอ”

เมื่อกลุ่มชายหนุ่มเห็นท่าทีของซูโยวหราน พวกเขาคิดว่าเธอคงมีลูกไม้มากกว่านี้จึงเริ่มระวังตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตามในตอนนั้นเองที่ชิวจิ่นตะโกนสั่ง “มัวยืนทำอะไรอยู่ ไปเอาตัวเด็กมาสิวะ!”

ชายสี่คนรีบพุ่งเข้าไป แต่คนที่นำหน้ามากลับถูกซูโยวหรานเตะก้านคออย่างแรงจนหงายหลังไป อีกสามคนที่เหลือชะงักฝีเท้าทันที ด้วยทักษะของเธอ…เธอไม่ใช่แค่มืออาชีพแน่

“ไปสิ!”

ไม่นานชายทั้งสามคนกับซูโยวหรานก็เข้าปะทะกัน จังหวะนี้เองที่ชิวจิ่นถือโอกาสเข้าไปด้านหลังรถเพื่อเปิดประตูและคว้าตัวเด็กออกมา ทว่ารถของเสี่ยวต้านเขอมาถึงในตอนนั้น ก่อนที่รถจะจอดสนิทเสี่ยวต้านเขอเริ่มขอให้คนขับรถปลดล็อกประตู “ลุงคะ ช่วยพวกเขาไว้ ช่วยพวกเขาไว้สิคะ!”

“คุณหนู!”

“ไม่งั้นหนูจะบอกพ่อว่าลุงรังแกหนูนะ!”

แล้วคนขับรถจะทำอะไรได้ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากลงจากรถและปล่อยให้เสี่ยวต้านเขอไป อย่างไรเสียเขาก็รู้ว่าชิวจิ่นไม่มีทางทำร้ายเธอ

“ปู่ชิว ออกไปนะ ออกไปไกลๆ เลยนะคะ!” เสี่ยวต้านเขอรีบวิ่งเข้ามากัดแขนของชิวจิ่น จากนั้นจึงปิดประตูรถและปกป้องพวกเขาเอาไว้

“ไฉ่เอ๋อร์ มาทำอะไรที่นี่” นี่เป็นชื่อจริงของเสี่ยวต้านเขอ หนานกงไฉ่!

ชิวจิ่นกุมแขนตัวเองด้วยความเจ็บและมองหน้าเสี่ยวต้านเขออย่างตกใจ

“คุณปู่ชิว ได้โปรดอย่าทำร้ายพวกเขาเลยนะคะ…”

ในตอนนี้เองที่ซูโยวหรานจัดการกับชายทั้งสี่คนเสร็จและคว้าตัวชิวจิ่นเอาไว้

“พี่สาวคะ ไม่ทำร้ายคุณปู่ชิวได้ไหมคะ”

ซูโยวหรานหันไปมองเสี่ยวต้านเขอและเห็นว่าเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนนี้กำลังปกป้องคนอื่นอย่างไม่นึกถึงตัวเอง เธอจึงผลักชิวจิ่นไปด้านข้างก่อนเอ่ย “ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กคนนี้ วันนี้ฉันคงได้หักกระดูกแกเป็นชิ้นๆ แน่!”

ชิวจิ่นลุกขึ้นขาขวิดก่อนรีบหนีไปพร้อมกับคนของเขา ตอนนี้เองที่คนขับรถของเสี่ยวต้านเขอมารับเธอ “คุณหนูครับ ไปกันเถอะ ถ้าเราไม่กลับบ้านในเร็วๆ นี้ ผมได้ถูกไล่ออกแน่!”

เสี่ยวต้านเขอมองพี่น้องทั้งสองคนในรถและถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก จากนั้นเธอจึงจากไปพร้อมกับคนขับรถ หากแต่เด็กหญิงคนนี้ได้ทิ้งความประทับใจไว้ให้กับซูโยวหราน แน่นอนว่าเป็นเช่นเดียวกันกับสองพี่น้อง

ไม่นานทั้งสองตระกูลก็รู้ถึงสิ่งที่ชิวจิ่นทำ โชคดีที่สุดท้ายเขาไม่ได้อะไรติดมือไป

อย่างไรเสียเขาก็นึกไม่ถึงว่าซูโยวหรานจะมีความสามารถขนาดนี้ ไม่แปลกใจที่ถังหนิงยอมให้ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งมารับส่งลูกของเธอที่โรงเรียน

ตอนนี้เองที่หนานกงเฉวียนเรียกชิวจิ่นเข้ามาที่ห้องทำงานและมีท่าทีแข็งกร้าวกับเขา “สมน้ำหน้า”

“ฮึ่ย!”

“ผมรู้เรื่องที่เกิดขึ้นจากเสี่ยวต้านเขอหมดแล้ว ลุงชิว ลุงจะล้มเลิกไม่ได้เลยเหรอครับ”

“ผมรอมากว่ายี่สิบปี คุณมาบอกให้ผมยอมแพ้ได้ยังไง หนานกงเฉวียน คุณอาจจะลืมว่าตัวเองสูญเสียครอบครัวของตัวเองไปยังไงได้ แต่ผมทำไม่ได้! ผมลืมว่าภรรยาและลูกที่ยังไม่ทันจะเกิดมาของตัวเองตายไปยังไงไม่ได้!”

“ลุงชิวครับ ปู่เคยใช้ชีวิตไปกับรอยเลือด ลุงได้คิดถึงหลายครอบครัวที่ต้องพังลงไปและคนที่ต้องตายเพราะเขาบ้างหรือเปล่าครับ โดยเฉพาะนักแสดงหญิงคนนั้น เพื่อนที่ดีของผู้อาวุโสโม่ มีใครแก้แค้นให้เธอบ้างครับ”

“ผมไม่สนใจหรอก!”

“ผมรู้ว่าลุงผิดหวังตั้งแต่ที่ผมกลับมา เอาอย่างนี้ไหมละ ผมจะยกชุนชิวคืนให้ลุง ต่อไปนี้ลุงตามแก้แค้นได้ตามสบาย แล้วผมจะก็ใช้ชีวิตของผมต่อไป!” หนานกงเฉวียนเอ่ย “ลุงชิวครับ ผมขอบคุณลุงมากที่รอผมมานาน แต่ว่าผมอยากจะแก้แค้นในหนทางที่ตรงไปตรงมาครับ!”

พูดจบ หนานกงเฉวียนก็ลุกขึ้นและยกที่นั่งให้กับชิวจิ่น…

“คุณไม่ต้องไปหรอกครับ เงินที่เอามาตั้งกิจการก็เป็นเงินจากนายใหญ่ ผมจะเป็นคนไปเอง!” ชิวจิ่นเอ่ยก่อนจะเดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามองสักครั้ง

อย่างไรก็ตามเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเลิกตามแก้แค้น!

ในคืนนั้นที่ไฮแอทรีเจนซี

หลังจากกล่อมลูกๆ เข้านอน ถังหนิงเดินเข้ามาในห้องทำงานของโม่ถิงและนั่งลงข้างๆ เขา “โชคดีที่วันนี้มีโยวหรานอยู่ด้วย เราเองก็ควรขอบคุณลูกสาวของหนานกงเฉวียนเหมือนกันนะคะ ถึงฉันจะยังคิดว่าคุณปู่ไม่ได้ทำอะไรผิดก็ตามเถอะ

“ฉันนึกไม่ถึงว่าลูกสาวของหนานกงเฉวียนจะรู้เรื่องตั้งแต่ยังเด็กขนาดนี้ เธอเป็นเด็กที่ดีคนหนึ่งเลยนะคะ!”

“ผมจะตามเรื่องนี้ต่อเอง ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” โม่ถิงตอบ

“ถิงคะ เราจะนั่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ฉันว่าเราตามหาตัวชิวจิ่นและเจรจากับเขาต่อหน้าเถอะค่ะ มันดีกว่าการถูกลอบกัดอยู่ตลอดเวลานะคะ” ถังหนิงแนะนำ “ฉันไม่ชอบการไม่ทำอะไรอย่างนี้เลยค่ะ ยังไงชีวิตของลูกเราก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น”

“ผมจะจัดการบางอย่างเองครับ” โม่ถิงพยักหน้ารับ

เช้าวันจันทร์ถัดมา ถังหนิงตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นแต่เช้าก่อนจะอบเค้ก จากนั้นจึงยื่นให้สองพี่น้องพลางคุกเข่าพร้อมบอก “เอาอันนี้ไปให้เด็กผู้หญิงที่ช่วยลูกไว้นะ โอเคไหม อย่ากินเองละ”

โม่จื่อซีพยักหน้ารับอย่างงงๆ ในขณะที่โม่จื่อเฉินนิ่งเงียบเหมือนอย่างเคย

“โยวหราน ขอบคุณนะ”

ซูโยวหรานจับมือเด็กชายตัวน้อยทั้งสองคนเอาไว้ก่อนส่งยิ้มให้ “ไม่มีปัญหาเลยค่ะ ฉันจะพาพวกเขาไปขอบคุณเด็กผู้หญิงคนนั้นเอง!”

ถังหนิงลุกขึ้นและมองทั้งสามคนเดินจากไป ตอนนั้นเองที่เธอนึกสงสัยว่าหรือมันจะเป็นโชคชะตาอันน่าเศร้าที่กำลังจะเกิดขึ้น…

เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวศัตรูของพวกเขา

แต่ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่ได้ทะเลาะกัน ซ้ำยังมาเกี่ยวพันกันขนาดนี้เสียด้วย!