อาคมเซียน 3 ดาว!
อัสนีสะบั้นขอบฟ้า!
เป็นเคล็ดจู่โจมหนึ่งเดียวในวรยุทธ์เซียนระดับมนุษย์โดดเด่นที่เฮ่อจงฝึกปรือ อีกทั้งมันยังฝึกฝนจนบรรลุขั้นตอนที่ 4 เจนจัดอีกด้วย!
พร้อมด้วยท่าร่างอันปราดเปรียวเคลื่อนขอบฟ้า พริบตาร่างเฮ่อจงก็บรรลุถึงเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียน!
ซัววว!
กระบี่ 3 ฉื่อที่เสือกแทงออกมา สภาวะคล้ายดั่งมีหนามแหลมพุ่งทะลวงออกมาเสียบลูกนัยน์ตา!
อัสนีสะบั้นขอบฟ้า!
ด้วยเคล็ดพลังทำให้ตัวกระบี่นับว่าบรรลุความไวสูงล้ำ เสียงกรีดแหวกอากาศเสียดหูนัก!
ราวกับมันสามารถทะลวงได้ทุกสรรพสิ่ง! นำพาให้ทุกผู้คนที่ดูชมอดไม่ได้ที่จะหวาดเสียวในใจ!!
แน่นอนว่าสำหรับศิษย์ฝ่ายนอกที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อย กระทั่งเสียงแหวกอากาศพวกมันยังไม่อาจได้ยิน!
ประทับไท่ซาน!
เผชิญกับกระบี่ที่จ้วงแทงมาอย่างน่าพรั่นพรึง ต้วนหลิงเทียนรีบเรียกดาบใหญ่ที่จารึกอาคมเซียนพันทวีเอาไว้ออกมา ยังเปิดใช้อาคมพันทวี เท้าซ้ายสืบออกเบื้องหน้าจิกพื้น บิดเอวส่งแรงเหวี่ยงดาบจู่โจมออกไปทันที!!
ดาบที่เหวี่ยงฟาดไปนั้น ให้ความรู้สึกเสมือนขุนเขาใหญ่ เปี่ยมล้นไปด้วยพลังอันดุร้ายดิบเถื่อน ถาโถมใส่กระบี่ที่จ้วงแทงมาของเฮ่อจงอย่างเกรี้ยวกราด!
“เจ้าประเมินตัวเองสูงไป!!”
เผชิญหน้ากับฉากนี้ เฮ่อจงแสยะยิ้มเย้ยหยัน ทันใดนั้นปราณแท้จากมือพลันถ่ายทอดสู่ตัวกระบี่ฉับไว ปรากฏเกลียวพลังดั่งอสรพิษรัดพันไปทั่วใบกระบี่!
ทันใดนั้นเองกลิ่นอายพลังแหลมคมเสียดแทงขุมหนึ่งพลันแผ่ออกมาในบรรยากาศ! พาลให้ต้วนหลิงเทียนบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลประการหนึ่ง!!
กลิ่นอายพลังแหลมคมดังกล่าวทำให้เขารู้สึกกดดันไม่น้อย
เพราะมันราวกับว่า กระบี่ของเฮ่อจงได้แปรเปลี่ยนไปเป็นบางสิ่ง…เป็นบางสิ่งที่ไร้เทียมทาน ถึงขั้นที่เขาไม่อาจต้านทานรับมันเอาไว้ได้!
ครืนนน!!
ดาบใหญ่ที่เปิดใช้อาคมพันทวีพร้อมประทับไท่ซานฟาดผ่านอากาศจนบังเกิดเสียงดังครืนๆ รี่เข้าหากระบี่ที่จี้แทงออกมาตามเคล็ดอัสนีสะบั้นฟ้าของเฮ่อจง มุมองศานั้นคำนวณมาอย่างแยบคายหมายปัดกระบี่ทั้งตบฟาดกลางอกเฮ่อจง!!
ด้านกระบี่ของเฮ่อจงนั้น แต่ต้นจนจบเพียงเสือกแทงออกมาตรงๆ ไม่บิดไม่เลี้ยวไปที่ใด ไม่มีความคิดจะหลบดาบใหญ่ในมือต้วนหลิงเทียนแม้แต่น้อย!
กระบี่อ่อนที่จี้แทงมา กลับหาญกล้าคิดปะทะดาบใหญ่ที่เหวี่ยงฟาดมาอย่างเกรี้ยวกราด!
ในที่สุด ดาบใหญ่ในมือต้วนหลิงเทียนก็ปาดถูกกระบี่ที่เสือกแทงมาของเฮ่อจง!
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนแสยะยิ้มมุมปากด้วยคิดว่าดาบใหญ่ที่มาด้วยสภาวะเหี้ยมหาญขนาดนี้ สมควรปัดกระบี่จนปลิดปลิวแน่แท้ ทว่าพริบตานั้นเอง…
พลันบังเกิดความเปลี่ยนแปลงพลิกฟ้าคว่ำดิน!
ฉากเรื่องราวในสายตาเขาเป็นอะไรที่น่ากลัวนัก!
ฉากน่ากลัวดังกล่าวยังทำให้รอยยิ้มมุมปากของเขาจางหายไปทันที!!
กระทั่งมองเห็นอยู่ตรงหน้า ยังน่าตกใจจนเกินจะเชื่อ!
กระบี่อ่อนในมือเฮ่อจงไม่ทราบไฉนกลับกลายเป็นเสมือนอยู่ยงคงกระพันไร้ผู้ต้าน ดาบใหญ่ที่เขาฟาดไปหมายปัด มิคาดไม่อาจปัดกระบี่ที่เสือกแทงมาของเฮ่อจงได้! รวมทั้งรังสีพลังกระบี่ขุมหนึ่งยังพุ่งทะลวงปราณแท้ที่ฉาบคลุมดาบ กระทั่งใบใหญ่ของเขามาอีก!!
หลังจากที่มันทะลวงดาบใหญ่ของเขามาแล้ว กระบี่อ่อนที่เสือกแทงทะลวงคล้ายกลับกลายเป็นอสรพิษร้ายกาจก็ไม่ปาน!
มันเปลี่ยนทิศทางเร็วรี่จี้เข้าหาไหล่ขวาเขาฉับไว ปานอสรพิษฉกกัด!
ม่านตาพิสดาร!
เร็วเท่าอัสนีฟาดผ่า พลังวิญญาณต้วนหลิงเทียนปะทุเร็วรี่ถ่ายทอดลงสู่ตาซ้าย! ใช้ออกด้วยม่านตาพิสดารของเขาทันที!!
ทันใดนั้นวิสัยทัศน์ดวงตาข้างซ้ายของต้วนหลิงเทียนก็แลเห็นสรรพสิ่งเชื่องช้าลง กระบี่ฉับไวยากหลบเลี่ยงเสมือนชะลอตัวลงไปหลายส่วน
เขาเอาศัยการคาดเดาทิศทางกระบี่ในห้วงเวลาเสี้ยวพริบตา เลือกที่จะสืบเท้าเฉียงซ้ายไปด้านหลังฉากร่างหลบเร้นกระบี่ออกไปในแง่มุมที่ดีที่สุด! เป็นการหลบเลี่ยงทั้งฉีกระยะมิให้กระบี่เฮ่อจงลงมือต่อเนื่อง!!
อนิจจากลับช้าไปอยู่บ้าง!
ฉัวะ!
กระบี่ของเฮ่อจงทะลวงถากต้นแขนขวา ฉีกกระชากทั้งเนื้อรวมถึงเสื้อของต้วนหลิงเทียนจนกระจุย โลหิตสดๆพุ่งกระฉูดออกมาทันใด!!
ทะลวงปราณดาบมาก็แล้ว ทะลุใบดาบอันเป็นศาสตราเซียนมาก็แล้ว ทว่ากระบี่นั่นกลับทะลวงผ่านร่างเขาที่มีปราณแท้คุ้มกันได้ง่ายดายนัก!!
ความเจ็บปวดของการถูกกระบี่เสือกแทงถากแขนจนเนื้อหลุดไปหย่อมนึง ทำให้สติต้วนหลิงเทียนสะท้านไปทันใด คิ้วขมวดเป็นปม ฟันกรามขบแน่นในปากดังกรอด! ทว่าสติยังไม่เลอะเลือนร่างยังคงฉากเยื้องถอยไปไม่หยุด!!
ครู่ต่อมาร่างต้วนหลิงเทียนก็ฉากหลบออกมาพ้นรัศมีกระบี่!
เฮ่อจงไม่ได้ไล่ล่าตามมาลงมือสืบต่อ เพียงถือกระบี่ค้างไว้ ค่อยเหลือบมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาของผู้เหนือกว่าอย่างดูแคลน “ต้วนหลิงเทียน สุดท้ายเจ้าก็มิได้ร้ายกาจอันใดนี่นา…”
‘นั่นมันอาคมเซียนบ้าอะไรกัน ถึงขั้นทะลวงดาบใหญ่ที่เปิดใช้อาคมเซียนพันทวีได้ง่ายๆ…แถมไม่ว่าจะยังไงดาบใหญ่นี่มันก็ศาสตราเซียนระดับปฐพีดั้งเดิมไม่ใช่รึไง? ไฉนมันทิ่มทะลุเหมือนเต้าหู้เล่า!?’
นึกถึงฉากเรื่องราวก่อนหน้าต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความกังวลขึ้นมา ขณะมองไปยังกระบี่ในมือของเฮ่อจงลูกตาเขายังเผยความหวาดกลัวออกมาไม่น้อย..
เพราะกระบี่นั่นไม่เพียงแต่จะทะลวงพลังของดาบใหญ่ กระทั่งทะลวงดาบใหญ่จนทะลุ! แถมเสือกแทงทะลวงถากเนื้อต้นแขน ที่อัดแน่นไปด้วยปราณแท้ที่ใช้ออกด้วยอาภรณ์ทองของเขามาได้ง่ายดาย!
ก้มมองลงไป…ดาบใหญ่ของเขาก็ยังมีรูโบ๋ให้เห็นเด่นชัดนัก!
“สวรรค์ช่วย กระบี่นั่นทะลวงได้กระทั่งดาบใหญ่แฝงอาคมพันทวี…อย่าบอกข้าเชียวว่านั่นคือ อาคมเซียน เจาะทะลวง!?”
ศิษย์ฝ่ายในคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะโพล่งคำออกมาด้วยความตื่นตระหนก
อาคมเซียน เจาะทะลวง!
ยามที่มันกล่าวเรื่องนี้ออกมาทุกผู้คนที่มาชมดูอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก
“กระบี่ในมือศิษย์พี่เฮ่อจง กลับจารึกอาคมเซียนระดับ 3 ดาว ‘เจาะทะลวง’ เอาไว้งั้นเหรอ!?”
“สวรรค์ เท่าที่ข้ารู้มากระทั่งในศาลาอุทิศของพวกเรานานๆครั้งถึงจะมีศาสตราเซียนที่จารึกอาคมเซียนระดับ 3 ดาวมาขายสักเล่ม…อีกทั้งยามมีขายก็มีขายเพียงแค่เล่มเดียวเท่านั้น”
“ในสำนักจันทร์จรัสแสงเรา ผู้ที่จะมีทุนทรัพย์พอซื้อศาสตราเซียนที่จารึกอาคมเซียนระดับ 3 ดาวได้ สมควรมีแต่ชนชั้นอาวุโสฝ่ายในเท่านั้น…”
“ถูกแล้ว ศาสตราเซียนที่มีอาคมเซียนระดับ 3 ดาวจารึกไว้เช่นนี้ ต่ำๆก็มีราคาเหยียบล้านคะแนนอุทิศแล้ว! ศิษย์ที่ไหนจะไปซื้อไหว!!”
……
เหล่าผู้คนที่มาชมดูเริ่มสนทนากันดังอื้ออึง ทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะมองชมกระบี่ของเฮ่อจงด้วยความยำเกรง
“เอ๋…กระบี่เล่มนี้ กล่าวไปแล้วช่างคุ้นตาข้ายิ่ง….”
ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ศิษย์ฝ่ายในที่มองกระบี่ในมือเฮ่อจงคนหนึ่งพลันขมวดคิ้ว กล่าวออกมาคล้ายกับนึกย้อนถึงบางสิ่ง
ครู่ต่อมาลูกตามันก็ทอประกายสว่างโรจน์ เร่งกล่าวตะโกนออกมาเสียงดัง “ข้าจำได้แล้ว! นี่มันกระบี่ของอาวุโสหลิวฮ่วนที่เป็นผู้อาวุโสฝ่ายในนี่นา! ข้าเคยมีโชคได้เห็นอาวุโสหลิวฮ่วนใช้กระบี่สู้คราหนึ่ง…แถมในสำนักจันทร์จรัสแสงเรา ศาสตราเซียนที่มีอาคมเซียน 3 ดาวจารึกไว้ ก็มิมีทางจะมีเล่มที่ 2..กระบี่เล่มนี้สมควรเป็นกระบี่ของผู้อาวุโสหลิวฮ่วน!”
“อะไรนะ!? กระบี่ของอาวุโสหลิวฮ่วน?! ได้อย่างไรกัน…ข้ามิเคยได้ยินมาก่อนเลยว่าอาวุโสหลิวฮ่วนมีสัมพันธ์อันใดกับเฮ่อจง…แล้วไฉนมันถึงมีกระบี่ของอาวุโสหลิวฮ่วนได้เล่า?”
ศิษย์ฝ่ายในหลายต่อหลายคนมองเฮ่อจงด้วยสายตาประหลาดใจ
“บางทีเฮ่อจงผู้นี้ ได้ถูกอาวุโสหลิวฮ่วนลอบรับตัวไปเป็นศิษย์อย่างลับๆหรือไม่? ข้าพอรู้มาบ้างว่าเหล่าอาวุโสฝ่ายใน ชมชอบมารับศิษย์ในฝ่ายนอกที่มีพรสวรรค์สูงส่งเอาไว้ก่อน จนเมื่อศิษย์ฝ่ายนอกเหล่านั้นเข้าสู่ฝ่ายใน จึงค่อยเปิดเผยฐานะ…”
ศิษย์ฝ่ายในหลายคนเริ่มกล่าวออก
“จักว่าไปแล้วเรื่องเหล่านี้ข้าก็เคยได้ยินมาเช่นกัน เช่นนั้นเฮ่อจงผู้นี้สมควรเป็นศิษย์ส่วนตัวของอาวุโสหลิวฮ่วนไม่ผิดแน่!”
ศิษย์ฝ่ายในคนอื่นเริ่มเห็นด้วย
“อาวุโสหลิวฮ่วน?”
หลังจากได้ยินคำของศิษย์ฝ่ายใน เหล่าศิษย์ฝ่ายนอกถึงกับต้องชมดูด้วยตาลุกวาวทันที!
“อาวุโสหลิวฮ่วนลงมือแล้วงั้นหรือ…น่าเสียดายยิ่งนักที่นี่มิใช่การประลองเป็นตาย!”
ไม่นานหลังจากเรื่องนี้เริ่มลือกันสนั่น ‘อาวุโสหวงเฉิง’ ที่มาแอบดูเรื่องราวอยู่ไกลๆ ก็เผยยิ้มแสยะสองตาลุกวาวขึ้นมาทันใด มุมปากยังเผยยิ้มเย็นชา “แต่ถึงแม้นี่จักมิใช่การประลองเป็นตาย ทว่าความเกลียดชังที่อาวุโสหลิวฮ่วนมีต่อฟางฮุ่ยนับว่าลึกล้ำนัก…หึๆๆ วันนี้ตัวบัดซบต้วนหลิงเทียนมันยากจะรอดพ้นไปได้ง่ายๆแล้ว!!”
ความแค้นและเรื่องราวความบาดหมางระหว่างหลิวฮ่วนกับฟางฮุ่ยนั้นไม่ใช่ความลับในสำนักจันทร์จรัสแสง
ดังนั้นพอรู้ว่าต้วนหลิงเทียนมาจากจวนเจ้าเมืองชงซันของฟางฮุ่ย หวงเฉิงเองก็เฝ้ารอเวลาที่จะเห็นอาวุโสหลิวฮ่วนลงมือมาโดยตลอด!
หวงเฉิงผู้นี้ ได้เสียคะแนนอุทิศให้ต้วนหลิงเทียนไปถึง 360,000 แต้ม เมื่อเดือนกว่าก่อนหน้านี้
และตลอดระยะเวลาเดือนกว่าที่ผ่านมา มันก็ลอบติดตามความเคลื่อนไหวต้วนหลิงเทียนอยู่ตลอดเวลา ด้วยหวังว่าต้วนหลิงเทียนจะเดินทางออกจากสำนัก! เพราะมันจะได้มีโอกาสฆ่าต้วนหลิงเทียนทันที!!
น่าเสียดาย หลังจากที่มันลอบติดตามความเคลื่อนไหวของต้วนหลิงเทียนมาเดือนกว่า มันพบว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้ออกไปไหนเลย ไม่แม้แต่จะมาฝึกซ้อมนอกบ้านด้วยซ้ำ…
“อาวุโสหลิวฮ่วน?”
ผู้ดูแลฝ่ายนอก ‘เติ้งเหว่ย’ ที่มาชมดูเรื่องราวอยู่เช่นกันพลันหัวเราะสะใจออกมา “วันนี้ต้วนหลิงเทียนแม้ไม่ตายแต่ก็ต้องพิการแน่แท้! เพราะอย่างไรเสียหากลงมือทำต้วนหลิงเทียนพิการ อาศัยสถานะศิษย์อาวุโสฝ่ายใน…บทลงโทษก็มิแน่ว่าจะหนักหนาเท่าไร”
ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนจะเป็นอัจฉริยะมากพรสวรรค์ ทว่าหากพิการไป หลังจากนี้คิดมีตำแหน่งฐานะระดับสูงอะไรในสำนักก็ยากแล้ว…
เช่นนั้นหมายความว่าเฮ่อจงย่อมมีคุณค่าต่อสำนักมากกว่า!
สำนักจันทร์จรัสแสงแน่นอนว่าแม้จะลงโทษเฮ่อจง แต่ก็คงไม่ถึงขั้นเอาชีวิตหรือถึงขั้นทำให้พิการ
แต่แน่นอนว่าถ้าเฮ่อจงฆ่าต้วนหลิงเทียน ก็ยากจะหนีโทษตายไปได้…!
เพราะนั่นคือกฏเหล็กของสำนักจันทร์จรัสแสง! ไม่ว่าเป็นผู้ใดใหญ่มาจากไหนก็มิอาจรอดพ้นกฎชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต! หาไม่แล้วกฏย่อมไร้ความหมายและไร้ความศักดิ์สิทธิ์อีกสืบไป!!
“ต้วนหลิงเทียน…”
เยี่ยหมานเองก็อยู่ด้วยเช่นกัน ในแววตายังเผยความคาดหวังออกมา
เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนมาจากเมืองชงซันมันย่อมรู้ดี อีกทั้งหลังจากที่เข้ามาอยู่ในสำนักจันทร์จรัสแสงได้ระยะหนึ่ง มันก็ได้รับรู้เรื่องราวความบาดหมางระหว่างอาวุโสหลิวฮ่วนกับฟางฮุ่ยเช่นกัน…
ดังนั้นมันเองก็คิดว่าวันนี้เฮ่อจงไม่น่าจะปล่อยต้วนหลิงเทียนไปง่ายๆ
ตอนนี้เยี่ยหมานแทบรอเห็นต้วนหลิงเทียนถูกเฮ่อจงทำร้ายจนพิการไม่ไหวแล้ว! เพราะหากต้วนหลิงเทียนพิการไป มันคิดฆ่าต้วนหลิงเทียนวันหลังย่อมง่ายขึ้นแน่นอน!!
“อาคมเซียนระดับ 3 ดาว? อาคมเซียนเจาะทะลวง? กระบี่ของหลิวฮ่วน?”
สีหน้าต้วนหลิงเทียนเคร่งขรึมขึ้นมาทันใด เขาเองก็มีคิดไว้แล้วว่าหลิวฮ่วนสมควรมอบศาสตราดีๆให้เฮ่อจงใช้เล่นงานเขา…
อย่างไรก็ตาม อานุภาพของอาคมเซียนเจาะทะลวง นับว่าอยู่เหนือความคาดหมายของเขาไปมาก! เรื่องนี้ทำให้เขาประหลาดใจไม่น้อย!!
ครั้งสุดท้ายที่เขาไปศาลาอุทิศ เขาก็ไม่เห็นว่าจะมีศาสตราเซียนเล่มใดที่มีอาคมเซียนระดับ 3 ดาวจารึกไว้ขายเลย! หาไม่แล้วเขาคงซื้อมันมาไว้ใช้เองสักเล่มแล้ว!!
เคลื่อนขอบฟ้า!
อัสนีสะบั้นขอบฟ้า!
ท่ามกลางสายตาของผู้คน เฮ่อจงพลันเริ่มลงมือเคลื่อนไหวออกมาอีกครั้ง และเป้าหมายกระบี่คราวนี้มิใช่ทะลวงแทง !
คราวนี้เป้าหมายกระบี่ของเฮ่อจง เพียงดูก็รู้ว่ามันคิดตัดแขนขวาของต้วนหลิงเทียนให้ขาดในกระบี่เดียว!
เผชิญกับการลงมืออำมหิตของเฮ่อจง สีหน้าต้วนหลิงเทียนก็มืดครึ้มทันใด
พริบตาต่อมาเขาเปิดใช้ม่านตาพิสดารทันที!
พลังวิญญาณทั่วกายหลั่งไหลลงสู่นัยน์ตาซ้าย บังเกิดเป็นวังวนทมิฬน่าพรั่นพรึงหมุนวนเร็วจี๋
ยิ่งมาวังวนดังกล่าวยังยิ่งทวีความเร็วในการหมุนวนขึ้น คล้ายกำลังจะบรรลุถึงขีดจำกัด!
จังหวะนี้เขาคิดใช้อำนาจของ ‘ม่านตาพิสดาร’ เต็มกำลัง!
ในฐานะศิษย์ฝ่ายนอกอันดับ 3 พลังฝีมือเฮ่อจงย่อมกล้าแข็งมิใช่ชั่ว กอปรกับอาคมเซียนทะลวงระดับ 3 ดาวนั่น ทำให้ต้วนหลิงเทียนไม่มีวิธีรับมือมันตรงๆอยู่เลย!
ม่านตาพิสดาร! เคลื่อนมิติ!!
ทันใดนั้นกระบี่ที่วาดมาฉับไวหมายสะบั้นแขนของต้วนหลิงเทียน ก็เบี่ยงออกข้างไปสะบั้นหั่นลมอย่างอัศจรรย์!
ต้วนหลิงเทียนเพียงโล่งใจได้เปราะหนึ่ง…ก็กลับต้องชักสีหน้าตึงเครียด! เพราะเฮ่อจงที่ลงมือพลาดเป้ากลับมิได้แตกตื่นลนลานแม้แต่น้อย แววตาอีกฝ่ายยังจับจ้องเขาไม่วาง ไม่เผยช่องว่างแม้แต่น้อย!!
ราวกับมันรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้!!
‘มันรู้งั้นเหรอ!?’
ใจต้วนหลิงเทียนสะท้านไปทันใด สังหรณ์อัปมงคลหนึ่งบังเกิดขึ้นในใจ!
“ต้วนหลิงเทียน…เฝิงฟ่านสมควรพลาดท่าเสียทีจนตกตาย เพราะทักษะวิญญาณประหลาดๆนี้ของเจ้าใช่หรือไม่? แต่จะว่าไปแล้วนับว่าทักษะวิญญาณของเจ้าน่าทึ่งยิ่งนัก ถึงขั้นเคลื่อนกระบี่ที่ข้าใช้ออกด้วยอัสนีสะบั้นขอบฟ้าได้เช่นนี้…ทว่ามันจบแล้ว!!”
น้ำเสียงดุร้ายแฝงอำมหิตดังสนั่นผ่านปราณแท้ของเฮ่อจงส่งตรงถึงหูต้วนหลิงเทียน ให้ความรู้สึกหลอกหลอนแก่ต้วนหลิงเทียนไม่น้อย เขาเร่งสืบเท้าพุ่งร่างถอยออกไปตามสัญชาตญาณ พลังทั่วร่างเร่งเร้าถึงขีดสุด จับจ้องความเคลื่อนไหวเฮ่อจงเขม็ง!!
พริบตาต่อมาต้วนหลิงเทียนพบว่า ในมือเฮ่อจงมิทราบว่าตั้งแต่เมื่อใด แต่ยามนี้ปรากฏแผ่นยันต์สีเหลือขึ้นมาหนึ่งแผ่น อักขระตัวยันต์ซับซ้อนชวนให้ขนลุกนัก
‘ยันต์เต๋าสายจู่โจม!!’
มองอักขระที่วาดเขียนบนแผ่นยันต์ ต้วนหลิงเทียนสามารถจำแนกประเภทของยันต์ได้ทันที!
ทันใดนั้นเฮ่อจงพลันซัดยันต์มาทางต้วนหลิงเทียน สองตายังมองต้วนหลิงเทียนเขม็ง!
“สำแดง!!”
ยันต์ที่ถูกซัดมาทางต้วนหลิงเทียนไม่ทันไร เสียงเฮ่อจงที่มองต้วนหลิงเทียนเขม็งพลันตะโกนออกมาดังก้องปานฟ้าลั่น!!