ตอนที่ 418

The Divine Nine Dragon Cauldron

บนเกาะเฉินยี่ เขตเซี่ยนหยู

 

จ้าวเฉินยิ่งลอยอยู่กลางอากาศ เขามองดยุคเซี่ยนหยูที่ไม่พอใจอยู่เบื้องล่าง สีหน้าของเขานั้นไม่พอใจเสียยิ่งกว่าของดยุค

 

“ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าให้ซือหยูมาหลบที่นี่ ข้าจะประหารตระกูลเจ้าเก้าชั่วโคตร!”

 

จ้าวเฉินยิ่งตะโกนอย่างหงุดหงิด

 

ดยุคเซี่ยนหยูที่อยู่เบื้องล่างเหงื่อแตกพลั่ก ใบหน้าของเขาเป็นกังวล เขารอจนจ้าวเฉินยิ่งจากไปก่อนจะปริปาก

 

“เกิดอะไรขึ้นกับหยูเอ๋อกัน? ทำไมถึงมีคนจากที่ที่เรียกว่าอาณาจักรทมิฬมาตามตัว?”

 

ดยุคเซี่ยนหยูนั่งคิดอย่างหนัก

 

สตรีคนหนึ่งเดินมาอยู่ข้างเขา นางสวมชุดสีครามและมีเข็มขัดอำพันขัดเอว นางนั้นงดงามอย่างมาก นางดูอ่อนโยนและสง่างาม ในแววตาอันเย็นชานั้นมีความอ่อนโยนอยู่ภายใน

 

“เจ้าไม่ต้องกังวลนักหรอก ดยุค”

 

นางพูดอย่างอ่อนโยน เสียงของนางไพเราะน่าฟัง

 

“เราทั้งคู่ต่างรู้จักน้ำใจของซือหยู เขามิใช่คนชั่วร้าย เขาอาจจะไม่ได้ถูกตามตัวเพราะความผิดบาป อาจจะมีเรื่องอื่นเกิดขึ้น”

 

ดยุคเซี่ยนหยูนั้นนับถือสตรีผู้นี้อย่างมาก

 

“แม่นาง ข้ารู้จักหยูเอ๋อดี ข้าเพียงหวังให้เขาปลอดภัย”

 

นางยิ้ม

 

“เรื่องนั้นก็เช่นกัน ถ้าพวกนั้นยังหาตัวเขาไม่พบก็แสดงว่าเขายังปลอดภัย”

 

แต่แม้ว่านางจะพูดเช่นนั้น นางก็มิอาจปิดบังความไม่สบายใจในแววตา

 

ดยุคเซี่ยนหยูถอนหายใจอย่างรู้สึกผิด

 

“ข้ามันใช้ไม่ได้ ข้ามิอาจปกป้องเหล่าลูกๆอย่างที่ควรจะเป็น…ข้าปล่อยให้เขาไปทวีปเฉินหลงด้วยตัวคนเดียวโดยไร้ที่พึ่งพิง”

 

“ดยุค…”

 

นางพูดขึ้นมา

 

“ข้าคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องลากันแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งที่ข้าต้องจัดการในทวีปเฉินหลง แล้วข้าก็จะได้ตามหาซือหยูด้วย”

 

ดยุคดีใจ

 

“จะไปแล้วรึ?”

 

นางพยักหน้าเบาๆ

 

“ร่างกายข้าถูกรักษาแล้ว ข้าคงไม่รบกวนเจ้าอีก ถึงเวลาเสียที”

 

ดยุคไม่ได้หยุดนางและมองนางจากไป

 

******

 

ในมหาสมุทรกว้างใหญ่ สองผู้ตรวจการข้างจ้าวเฉินยิ่งทำสีหน้าประหลาด

 

“ท่าน…”

 

“พวกเราหาตั้งแต่ในทวีปจนถึงสำนักหลิวเซี่ยน แล้วเราก็ยังมาหาพ่อตาของซือหยูแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ใด เหตุใดไม่จับตัวญาติเขาแล้วประกาศออกไปเล่า ทำแบบนั้นแล้วเขาจะไม่มาอีกรึ?”

 

จ้าวเฉินยิ่งเลิกคิ้ว

 

“ฮื่ม! เจ้าคิดว่านั่นมันหลักแหลมนักเรอะ? ใช้หัวซะบ้าง! งานฉลองเซ่นสวรรค์กำลังใกล้เข้ามา เราไม่รู้ว่าราชาแห่งความมืดเป็นหรือตาย! ถ้าเขาตาย จ้าวไป่ลั่วก็จะสั่งการ เราจะทำได้ทุกสิ่ง แต่ถ้าราชายังมีชีวิต เจ้าคิดว่าเขาจะทำยังไงถ้าข้าทำเรื่องที่ดูหมิ่นต่ออาณาจักร?”

 

ผู้ตรวจการทั้งสองหมดคำพูด พวกเขาอับอาย

 

สุดท้ายก็มีหนึ่งคนพูดออกมา

 

“แล้วเราจะทำยังไงกันต่อรึ?”

 

จ้าวเฉินยิ่งลูบตอแขนที่ขาดไป ความโศกเศร้าเอ่อล้นออกมา

 

“เราไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่! แต่งานฉลองกำลังจะจัดแล้ว เราไม่มีเวลาพอและต้องกลับไปเดี๋ยวนี้! หลังจากนั้นค่อยพลิกทวีปหาซือหยู!”

 

ทั้งสองเห็นดีด้วยและบินกลับไปกับจ้าวเฉินยิ่ง

 

ที่อีกด้านในมหามสุทรกว้างใหญ่ ม่ออู๋ลอยอยู่กลางอากาศ นางต้องทนทุกข์ทรมานกว่าที่จะรู้ว่าอาจารย์ของนางอยู่ที่ใด และตอนนี้นางก็กำลังบินไปยังเกาะเฉินยี่อย่างมีความสุข

 

******

 

ในก้นบึ้งมังกร ที่ดินแดนกลางก้นบึ้งหวงห้าม

 

ซือหยูกับเซี่ยจิงหยูถูกพามาที่นี่ มันคือซากโบราณที่แผ่ขยายนับหมื่นลี้ สมบัติมากมายยังคงอยู่ที่นี่แต่พลังหยินที่อยู่ล้อมรอบก็แข็งแกร่งอย่างสุดขั้ว ซือหยูรู้สึกหนาวไปจนถึงกระดูก ไม่ง่ายนักที่จะต้องรู้สึกถึงพลังวิญญาณที่ถูกพลังหยินกลืนกินไปอย่างรวดเร็ว

 

เมื่อพวกเขามาถึง สิ่งที่คล้ายมนุษย์สองคนก็บินเข้ามา นั่นคืออสุราหน้าขาวกับอสุราหน้าดำ

 

“ขอแสดงความนับถือต่อภูติสวรรค์!”

 

ทั้งสองประกาศก้อง

 

ทั้งสองมองเห็นซือหยูกับเซี่ยจิงหยู

 

“สองคนนี้ถูกวิชาภูติสวรรค์บงการ”

 

จางตี๋เก้ออธิบาย

 

“พาสองคนนี้ไปที่บ่อผนึกมังกร จากนั้นก็เอาสองคนนั้นมาให้ข้า”

 

จางตี๋เก้อพัดซือหยูกับเซี่ยจิงหยูไปให้อสุราทั้งสองก่อนจะจากไป

 

อสุราทั้งสองไม่กล้าขัดคำสั่งนาง พวกเขาทำตามคำบัญชา

 

“ตามพวกข้ามา!”

 

ซือหยูใจหายและบินตามอสุราทั้งสองไปยังส่วนที่ลึกสุดของซากโบราณ ที่นี่นั้นกว้างใหญ่ ซือหยูเบิกตากว้าง เบื้องล่างนั้นมีซากษสนับหมื่นตนรายล้อมบ่อน้ำที่กว้างหมื่นศอก! ปากบ่อน้ำนั้นถูกปิดด้วยโซ่ทมิฬหนาสิบศอก หมอกทมิฬลอยออกมาจากบ่อน้ำ

 

ซือหยูตกตะลึงยิ่งกว่าเมื่อพบมนุษย์เก้าร้อยเก้าสิบเก้าคนถูกจองจำอยู่ที่นี่ ทั้งหมดถูกพันธนาการโดยกางเขนยักษ์ที่อยู่ข้างบ่อน้ำโบราณ

 

ในตอนนั้นเอง เสียงเห่าเบาๆดังมาจากชุดของซือหยู มันคือสัตว์วิญญาณของหลงเฟยหยู!

 

ซือหยูแอบมองรอบๆและสัมผัสได้ถึงหลงเฟยหยู แต่ซือหยูก็ทำเป็นไม่สนใจ เขาตามอสุราทั้งสองไปอย่างเงียบๆและร่อนลงกับพื้นข้างๆบ่อน้ำ

 

อสุราหน้าดำมองเซี่ยจิงหยูและแสดงสีหน้าประหลาด

 

“มานี่”

 

อสุราหน้าขาวหัวเราะอย่างเยือกเย็น มันกระโดดลงสู่บ่อน้ำ จากนั้นมันก็โผล่ขึ้นมาพร้อมกับแก้วทมิฬสองชิ้น มันบดขยี้แก้วทั้งสอง ของเหลวสีดำไหลกระจายใส่ทั้งสองคน

 

พลังหยินในร่างซือหยูถูกขับออกมาทางรูขุมขน จากนั้นก็มีของเหลวสีดำก่อตัวเป็นม่านทมิฬปกคลุมร่างของสองคน พลังหยินจากภายนอกถูกขับออกมาจนหมด

 

อสุราหน้าขาวหัวเราะ

 

“ท่านภูติสวรรค์ดูเหมือนจะชอบมนุษย์สองคนนี้…ท่านไปจับตัวทั้งสองมาเองแล้วยังใช้แก้วภูติสวรรค์ที่หายากจากบ่อผนึกมังกรเพื่อป้องกันพลังหยินให้อีก”

 

อสุราหน้าดำไม่สนใจ มันพาทั้งสองกลับไปโดยไม่แสดงสีหน้าออกมา

 

ในตอนนั้นอสุราหน้าขาวคิดอะไรขึ้นมาได้

 

“เฮ่ยลั่ว เจ้าไม่มีอะไรกับท่านภูติสวรรค์ใช่หรือไม่? นางวางพลังไว้ในร่างพวกเราและใช้มันสังหารพวกเราได้ตลอดเวลา! แล้วท่านภูติสวรรค์ก็กำลังจะถูกปลดจากพันธนาการและออกจากก้นบึ้งมังกร แต่นางก็ไม่คิดจะปลดปล่อยพลังนั้นออกจากพวกเรา! ถ้าท่านภูติสวรรค์ไม่รักษามันไว้ในทุกสองเดือน พวกเราจะถูกทำลาย ถ้านางไปโดยไม่มีเรา เราก็ต้องตายอย่างแน่นอน!”

 

อสุราหน้าดำตะคอก

 

“ไป่ลั่ว! เราติดหนี้บุญคุณท่านภูติสวรรค์มาจนถึงวันนี้! มิเช่นนั้นก็คงตายด้วยมือมนุษย์ไปแล้วตั้งแต่ที่เป็นรากษส! หลายปีที่ผ่านมานี้ท่านภูติสวรรค์สั่งให้พวกเราจัดการเรื่องการบูชายัญโลหิตเพียงครั้งเดียวในร้อยปี นางไม่เคยทำอะไรพวกเราเลย! ข้าจะถือว่าเจ้ารู้จักกับข้ามาหลายปี ข้าจะทำเป็นไม่ได้ยินที่เจ้าพูด แต่ครั้งหน้าข้าจะกุดหัวเจ้า!”

 

อสุรหน้าขาวใบหน้าบิดเบี้ยว

 

“ฮื่ม! ข้าก็แค่คิดเท่านั้น ข้าจะทรยศต่อท่านภูติสวรรค์ได้ยังไง?”

 

มันพูดจบและบินจากไป

 

เมื่อหนีหายจากระยะ อสุราหน้าขาวสีหน้าดุร้าย

 

“ฮื่ม! ไอ้หน้าดำ! ข้าทนเจ้ามานานเกินไปแล้ว!”