แดนนิรมิตเทพ บทที่ 501
“เขาคือเฉินไต้ซือ!”

“เขาเป็นเฉินไต้ซือได้อย่างไร?”

“เขาเป็นเฉินไต้ซือจริง ๆ”

เมื่อมองเหล่าผู้ทรงอิทธิพลที่ก้มศีรษะลง ถึงไม่ว่าทุกคนจะไม่อยากจะเชื่อ แต่พวกเขาทำได้เพียงยอมรับความจริงที่อยู่ตรงหน้าด้วยความจำใจ

นักเรียนมัธยมปลายที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งมีอายุเพียงสิบเจ็ดสิบแปดปีเท่านั้น คือเฉินไต้ซือที่ชื่อเสียงสั่นสะท้านไปทั่วฮ่านหยาง!

พวกเขาคิดว่าถึงแม้เฉินไต้ซือจะอายุน้อยเพียงใด อย่างน้อยเขาก็ต้องเป็นชายวัยกลางคนที่อายุสี่สิบขึ้นไป แต่ความเป็นจริงกลับเกินความคาดหมาย เฉินไต้ซือกลับเป็นเด็กหนุ่ม!

เจี่ยงหยาวใช้มือเล็กขาวนวลปิดปากของตนเองไว้ มองเฉินโม่ด้วยท่าทางตกใจ “พี่เฉินโม่ ก็คือเฉินไต้ซือในตำนาน!”

เมื่อนึกถึงเรื่องที่เฉินโม่ช่วยเธอแก้ไขวิกฤตครั้งแล้วครั้งเล่า เจี่ยงหยาวยอมรับความจริงนี้อย่างช้า ๆ

“มิน่าพี่เฉินโม่ถึงได้เก่งขนาดนั้น ตอนที่คนสารเลวพวกนั้นเห็นเขาแล้ว ก็แสดงความหวาดกลัว ที่แท้เขาคือเฉินไต้ซือที่ชื่อเสียงสั่นสะท้านไปทั่วฮ่านหยาง!”

จางหู่ที่อยู่ด้านข้างตื่นเต้นเช่นกัน ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สถานะของเฉินโม่นานแล้ว แต่เมื่อได้ยินเฉินโม่ยอมรับด้วยตนเอง ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นอยู่ชั่วขณะหนึ่ง

“นี่คือคนใหญ่คนโตอย่างแท้จริง! แต่เมื่อผู้ทรงอิทธิพลของฮ่านหยางอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว ทุกคนกลับอ่อนน้อมถ่อมตน เมื่อก่อนผมรู้สึกเคารพเลื่อมใสผู้ทรงอิทธิพลเหล่านี้ ที่ไม่มีนัยสำคัญ”
หยางเชี่ยนเชี่ยนอ้าปากกว้าง มองเฉินโม่ด้วยความอึ้ง “เฉินโม่คือเฉินไต้ซือ! ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”
ใบหน้าของจางเสี่ยนเต็มไปด้วยความตกใจ และแอบดีใจที่หลังจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์คราวที่แล้ว เขาก็ไม่ได้ยั่วยุเฉินโม่อีก มิฉะนั้นเกรงว่าเขาจะมีจุดจบเหมือนกับเหรินเทียนหยู่
ดวงตาของเจิ้งหยวนฮ่าวมีความหวาดกลัว ก่อนหน้านั้นเขาคาดเดาสถานะของเฉินโม่นับครั้งไม่ถ้วน บางทีเฉินโม่อาจจะได้เจอผู้มีอิทธิพล และได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอิทธิพล ดังนั้นเขาจึงมีความแข็งแกร่งที่น่าทึ่ง บางทีเขาอาจได้พบอาจารย์ที่มีชื่อเสียงและได้เรียนรู้จนมีทักษะฝีมือที่ยอดเยี่ยม…..
แต่เขาไม่เคยคิดฝันว่าเฉินโม่ก็คือเฉินไต้ซือที่มีชื่อเสียงในฮ่านหยาง!
ทันใดนั้นเจิ้งหยวนฮ่าวก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรง และอดไม่ได้ที่จะแอบยิ้มด้วยความขมขื่นและคิดอยู่ในใจว่า “หือ ๆ เฉินไต้ซือ ที่แท้แกก็คือเฉินไต้ซือนี่เอง ฉันคิดว่าแกแค่ต่อสู้เก่งเท่านั้น แกเรียนด้อยกว่าฉัน ฐานะครอบครัวด้อยกว่าฉัน และด้อยกว่าฉันเกือบทุกด้าน เมื่อแกเทียบกับฉันแล้ว แกก็เป็นได้แค่นักบู๊ที่ต่อสู้เก่งเท่านั้น ซึ่งฉันมีเป็นหมื่นวิธีที่จะสามารถเอาชนะแกได้”

“แต่ตอนนี้แกบอกฉันว่าแกคือเฉินไต้ซือ! เฉินไต้ซือที่ชื่อเสียงสั่นสะท้านไปทั่วฮ่านหยาง! ซึ่งฉันเป็นเพียงนักเรียนมัธยมปลายของโรงเรียนตี้ยีแห่งอู่โจวคนหนึ่งเท่านั้น แต่แกมีชื่อเสียงแบบนี้ เป็นเฉินไต้ซือที่สามารถครอบงำผู้ทรงอิทธิพลทั่วฮ่านหยางได้! ถึงแม้ว่าฉันจะยอดเยี่ยมขนาดไหน พยายามขนาดไหน จะให้ฉันไล่ตามแกได้อย่างไร?”

เจิ้งหยวนฮ่าวรู้สึกว่าสวรรค์เล่นตลกกับเขา มันเหมือนกับคนสองคนกำลังวิ่งมาราธอน เขาเพิ่งเริ่มวิ่งจากจุดเริ่มต้น แต่เฉินโม่รอเขาอยู่ที่เส้นชัยแล้ว การแข่งขันนี้จะแข่งได้อย่างไร?

นี่เป็นครั้งแรกที่เจิ้งหยวนฮ่าวที่เป็นอัจฉริยะ รู้สึกผิดหวังอย่างสุดซึ้ง

เจิ้งซิ่วลี่มองสีหน้าที่ราบเรียบของเฉินโม่ มีคลื่นลูกใหญ่อยู่ในใจ ตะโกนอยู่ในใจว่า “เป็นไปได้อย่างไร? เป็นไปได้อย่างไร? เขาจะเป็นเฉินไต้ซือได้อย่างไร? ถ้าหากเขาเป็นเฉินไต้ซือ แล้วฉันจะแก้แค้นเขากับความอัปยศที่ฉันเคยได้รับก่อนหน้านั้นได้อย่างไร!”

“ไม่ เป็นไปไม่ได้ เขาไม่ใช่เฉินไต้ซืออย่างแน่นอน ไม่ใช่อย่างแน่นอน!”

ใบหน้ารูปไข่ที่สวยของเจิ้งซิ่วลี่กลายเป็นดุร้ายอย่างยิ่ง และเหมือนว่าเธอกำลังจะเป็นบ้า

“ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่อ เขาไม่ใช่เฉินไต้ซือ ไม่ใช่!”  

ใบหน้าของกงซุนหลีเปลี่ยนเป็นอารมณ์หลากหลาย ตกใจ สงสัย โกรธ และสุดท้ายก็ตื่นตระหนกผสมกับอารมณ์ต่าง ๆ ทำให้ใบหน้าที่หล่อเหลาของกงซุนหลีดูน่าเกลียดอย่างยิ่ง