ตอนที่ 1910 การประลองระหว่างสี่อาณาจักร (1) / ตอนที่ 1911 การประลองระหว่างสี่อาณาจักร (2)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1910 การประลองระหว่างสี่อาณาจักร (1)

“เจ้ารู้หรือไม่ ตระกูลฉีในอาณาจักรหลิวเฟิงพบจุดจบอย่างไร” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มและถามด้วยท่าทางไม่ยี่หระ

เจี่ยนปั๋วเหวินสะดุ้ง ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงสิ่งที่ผู้ติดตามของเขาบอก เรียกได้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่วันนั้นผู้ติดตามของเขาอยู่แถวจวนตระกูลฉีพอดี แล้วยิ่งบังเอิญเมื่อเขาไปเห็นเหตุการณ์การล่มสลายของตระกูลฉีอีกด้วย

เขาบอกว่าระหว่างการปะทะพลังกัน สตรีที่เป็นผู้ฝึกฌานขั้นเซียนสวรรค์คนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยฉีซูให้ได้ตำแหน่งผู้นำตระกูลฉี สตรีผู้นั้นมีทักษะทางการแพทย์เป็นเลิศ แม้แต่จักรพรรดิของอาณาจักรหลิวเฟิงที่ทรมานจากการป่วยหนักก็ได้นางรักษาจนหาย…

หรือว่าสตรีคนนั้นคือคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เจี่ยนปั๋วเหวินเปลี่ยนสีหน้า ถ้านางเป็นผู้ฝึกฌานขั้นเซียนสวรรค์จริงๆ วันนี้เขาก็คงไม่สามารถจัดการกับฉีซูได้

“ฉีซู พวกเราไปกันเถอะ” อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองใบหน้าซีดเผือดของเจี่ยนปั๋วเหวิน นางรู้ว่าคำพูดของนางเป็นการขู่เขา นางไม่ได้อ้อยอิ่งอยู่อีก แล้วพวกเขาก็เดินออกจากตระกูลเจี่ยนไปช้าๆ

“ฉีซู!” เมื่อเห็นว่าฉีซูกำลังจะจากไป สีหน้าก็เจี่ยนอันก็กลายเป็นซีดเผือดราวกับคนตาย นางรีบยืนขึ้นแล้วไล่ตามเขาออกไป ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง “เจ้าจะทำตัวโหดร้ายและทิ้งข้าไว้โดยไม่สนใจจริงๆ หรือ”

อย่าบอกข้านะว่า…เจ้าลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนข้าเคยช่วยเจ้าไว้

“ต่อให้เจ้าไม่ยอมแต่งงานกับข้า แต่ข้ายินดีเป็นอนุของเจ้า” ความจริงแล้วตัวเจี่ยนอันก่อนหน้านี้ไม่มีทางยอมเป็นอนุแน่นอน แล้วยิ่งไม่มีทางยอมเดินตามเส้นทางแบบเดียวกับมารดาของนาง แต่ว่าตอนนี้นางตกหลุมรักบุรุษผู้นี้!

นางยอมทิ้งศักดิ์ศรีและกลายเป็นอนุของเขา ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็มีแค่ฉีซูเท่านั้นที่พานางออกไปจากตระกูลเจี่ยนได้!

ฉีซูหยุดฝีเท้า แล้วหันมามองเจี่ยนอัน ใบหน้าหล่อเหลาของเขาปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายเย็นเยียบ “เจ้าอยากออกไปกับข้ามากขนาดนั้นเลยงั้นหรือ”

เจี่ยนอันไม่รู้ว่าทำไมแต่นางรู้สึกปั่นป่วนเมื่อเห็นสีหน้าของฉีซู

“ใช่แล้ว! อันเอ๋อร์ยินดีติดตามเจ้า!” มารดาของนางรีบวิ่งมาหาเจี่ยนอัน “อันเอ๋อร์ ถึงแม้ว่าเจ้าจะเข้าไปในตระกูลฉีในฐานะอนุแต่เจ้าก็ยังไม่สูญเสียตัวตน รีบตามเขาไปเร็วเข้า บิดาเจ้าเองก็อยากให้เจ้าแต่งงานกับเขามากเหมือนกัน”

ฉีซูแค่ถามคำถามแต่ในความคิดสตรีผู้นี้กลับกลายเป็นว่าฉีซูถามว่าเจี่ยนอันยินดีติดตามเขาออกไปหรือไม่ นางคงลืมไปแล้วว่าเจี่ยนวางแผนใส่ร้ายฉีซูและเขาทำตัวอย่างไรกับนางบ้าง

“ถ้าอย่างนั้น” ฉีซูยิ้มเย็น “บังเอิญจริงที่ผู้ติดตามของข้าคนหนึ่งยังไม่แต่งงาน ข้าจะยกนางให้ผู้ติดตามข้าก็แล้วกัน”

นางจะมาโทษเขาที่ทำตัวไร้หัวใจไม่ได้ เจี่ยนอันต้องโทษตัวเองที่พยายามวางแผนทำทุกอย่างเพื่อใส่ร้ายเขา! เขาไม่เคยมีความเห็นใจกับสตรีแบบนี้!

เจี่ยนอันชะงัก อาจจะเป็นเพราะว่านางไม่เคยคิดมาก่อนว่าบุรุษที่นางรักจะพูดอะไรแบบนี้

เขาทำเหมือนนางเป็นแค่สิ่งของที่จะยกให้ใครก็ได้

สีหน้าของเจี่ยนปั๋วเหวินก็เปลี่ยนไปอย่างมากเหมือนกัน เขาหันไปมองอวิ๋นลั่วเฟิงที่ดูเหมือนว่ากำลังคิดบางอย่างอยู่ หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็กัดฟัน “อันเอ๋อร์ ติดตามเขาออกไป!”

“ท่านพ่อ!” เจี่ยนอันกรีดร้องด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

“ทำตัวว่าง่ายแล้วออกไปกับเขา!” การที่ฉีซูถึงกับเป็นพ่อสื่อให้ด้วยตัวเอง เขาต้องนับถือผู้ติดตามคนนี้มากแน่ หลังจากผ่านไปสักพักเขาค่อยไปโน้มน้าวให้ผู้ติดตามคนนั้นมาทำงานให้ตระกูลเจี่ยน

“อันเอ๋อร์” มารดาของนางปลอบนาง “คำพูดของบิดาเจ้าไม่เคยผิด ถึงแม้ว่าเจ้าจะแต่งงานกับผู้ติดตามแต่อย่างน้อยเจ้าก็ได้เป็นภรรยาของเขา ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลฉีมีอิทธิพลในอาณาจักรหลิวเฟิงมากและพวกเขาไม่มีทางดูแลเจ้าไม่ดี”

สิ่งทำให้หัวใจของเจี่ยนอันแตกสลายก็คือคำพูดของมารดานางเอง ดวงตาของนางแดงก่ำขณะที่เดินโซเซถอยหลังไป

ตอนที่ 1911 การประลองระหว่างสี่อาณาจักร (2)

“ท่านแม่ ข้าใช้ทั้งชีวิตเพื่อท่าน! ท่านบอกว่าสตรีต้องเชื่อฟังคำของบุรุษดังนั้นข้าจึงทำตามคำสั่งของท่านพ่อ ข้ายังทำทุกอย่างที่ท่านต้องการเพื่อเป็นบุตรสาวที่เชื่อฟัง ถึงแม้ว่าท่านพ่อจะให้ข้าไปยั่วยวนฉีซู ข้าก็ทำ เพราะว่าถ้าข้าไม่สามารถแต่งงานกับฉีซูได้ เขาจะสังหารท่าน! เพื่อท่านแล้วข้าเดิมพันกับการเสื่อมเสียชื่อเสียงของข้าและต้องขัดแย้งกับฉีซูเพราะแบบนี้! แต่ว่าสุดท้ายท่านพ่อกลับยกข้าให้ผู้ติดตามคนหนึ่ง ท่านยังขอให้ข้าทำตัวเชื่อฟังอีกเหรอ”

เจี่ยนอันรู้สึกขมขื่นและเคียดแค้น ชีวิตทั้งชีวิตของนางมีแต่เศร้าโศก

“อันเอ๋อร์…” เสียงของมารดาของนางชะงักไป แล้วร่องรอยสำนึกผิดก็ปรากฏในดวงตาของนางวูบหนึ่ง “เชื่อฟังบิดาเจ้า เขาไม่มีทางทำร้ายเจ้าแน่นอน”

เจี่ยนอันหัวเราะอย่างชั่วร้าย นางหลับตาลงแล้วสักพักใหญ่ก็หันไปมองหน้าฉีซู “ก็ได้ ฉีซู ข้าจะไปกับท่าน!”

“แม่นางอวิ๋น” ฉีซูยิ่มแล้วหันไปมองอวิ๋นลั่วเฟิง “ดูเหมือนว่าพวกเราจะไม่ได้มาอาณาจักรเทียนฉีอย่างเสียเปล่า อย่างน้อยข้าก็หาภรรยาให้คนทำความสะอาดของตระกูลฉีได้ ในอนาคตเขาจะได้ยิ่งมุ่งมั่นปัดกวาดเช็ดถูตระกูลฉีของพวกเรา”

เจี่ยนอันที่สิ้นหวังอย่างหนักก็เบิกตากว้างทันทีหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา แม้แต่ร่างของนางก็สั่นสะท้าน

ฉีซูตั้งใจจะยกนางให้คนทำความสะอาดงั้นหรือ

“เจี่ยนอันมีพลังอยู่บ้าง” อวิ๋นลั่วเฟิงลูบคาง “ดังนั้นเจ้าควรทำลายฐานพลังนางให้พิการ เพื่อที่นางจะได้ไม่รังแกตาแก่นั่น”

“ท่านพูดถูก ลุงทำความสะอาดใกล้จะอายุร้อยปีแล้ว เขาจะทนรับการทรมานจากเจี่ยนอันได้อย่างไร ดังนั้นพวกเราควรทำให้ฐานพลังนางพิการก่อน”

สีหน้าของเจี่ยนอันซีดเผือด คล้ายกับว่ามีฟ้าผ่าลงมาในความคิดของนางจนทำให้หัวสมองว่างเปล่า

“ฉีซู เจ้าทำเกินไปหรือไม่” สีหน้าของเจี่ยนปั๋วเหวินซีดเผือดจนเส้นเลือดขึ้นหน้าผาก เขากำหมัดแน่นและกดความโกรธในใจของเขาเอาไว้ ใบหน้าของเจี่ยนปั๋วเหวินเต็มไปด้วยความเดือดดาลในขณะที่ฉีซูมีใบหน้านิ่งเฉยจนดูเหมือนไม่สังเกตเห็นแม้แต่น้อย

อวิ๋นลั่วเฟิงบิดขี้เกียจ “ฉีซู ข้าเหนื่อยแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ” ฉีซูพูดด้วยความเคารพ หลังจากนั้นเขาก็จับคอเสื้อของเจี่ยนอันแล้วลากนางออกไปที่ประตูราวกับนางเป็นไม้กวาดด้ามหนึ่ง

“เดี๋ยวก่อน!” เจี่ยนปั๋วเหวินตั้งใจจะระบายความโกรธ เขาก็เห็นสตรีชุดขาวค่อยๆ หยุดเดินภายใต้แสงจันทร์

นางหันหลังให้ทุกคน และเสียงทรงอำนาจของนางก็ค่อยๆ ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันในเวลากลางคืน

“ใครก็ตามที่กล้าก้าวออกมา ข้าจะหักขามัน!” ประโยคนี้ทำให้เจี่ยนปั๋วเหวินเผลอหยุดฝีเท้า จากนั้นเขาก็มองอวิ๋นลั่วเฟิงเดินออกไปอย่างหมดหนทาง แต่ว่าในใจของเขารู้สึกเสียใจมาก ครั้งนี้เขาเสียบุตรสาวไปโดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย!

ถ้าเขาไม่ได้บังคับให้เจี่ยนอันแต่งงานกับฉีซู ไม่แน่…ต่อให้เขาสุ่มหาใครสักคนเขาก็ยังสามารถแลกเปลี่ยนบุตรสาวคนนี้กับเงินจำนวนหนึ่งได้!

“ผู้นำตระกูล ท่านเป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ” มารดาของเจี่ยนอันยืนอย่างอ่อนแรงอยู่ด้านหนึ่ง นางไม่ได้โกรธที่บุตรสาวของนางออกไป ในหัวใจของนางบุรุษของนางสำคัญที่สุด และตราบใดที่เจี่ยนปั๋วเหวินสบายดีนางก็พอใจ

“ดูสิว่าเจ้าเลี้ยงบุตรสาวแบบไหนมา!” เจี่ยนปั๋วเหวินตบหน้านางแล้วสะบัดแขนเสื้อจากไป นางยืนอยู่ด้านหลังเขาขณะที่ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ทั้งหมดเป็นความผิดของนางเองที่ไม่สั่งสอนบุตรสาวให้ดีดังนั้นจึงทำให้ผู้นำตระกูลโกรธ

จวนองค์ชายรอง

หญิงสาวคนหนึ่งมีสีหน้าซีดเผือดซุกตัวอยู่บนที่นอนนุ่ม นางหลับตาแน่นด้วยสีหน้าเจ็บปวดทรมาน