ตอนที่ 53 เราไม่ใช่เพื่อนกันเหรอ?

The rise of the white lotus

ตอนที่ 53 เราไม่ใช่เพื่อนกันเหรอ?

 

เล็กซี่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าอีธานกําลังทําอะไรกับปลายผมของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่รู้สึกอึดอัดมาก แต่ก็ยังไม่ชิน

 

“ ชู ชู ชู่!” ชูรูเหมือนผู้บังคับใช้การจราจรแสดงท่าทางให้เล็กซี่หยุดทุกสิ่งที่เธอคิดจะพูดหรือทํา เธอกล่าวเสริมว่า “ ภารกิจเริ่มต้นหลักของคุณนะ….อย่าลืม !” เมื่อนึกถึงระบบของเธอ เล็กซี่จึงหยุดความคิดที่จะโยกหัวของเธอหลบ เพื่อให้ผมของเธอหลุดจากนิ้วของเขา

 

[* ตั้ง! * + 5 คะแนนเสน่ห์! ตอนนี้คุณมีคะแนนเสน่ห์ทั้งหมด 39.6 คะแนน!]

 

“เอ่อ การหว่านเสน่ห์ใส่อีธานนั้นง่ายกว่ามอริสมากจริงๆ …” เล็กซี่คิดในใจ เมื่อมองไปที่การแจ้งเตือนเกี่ยวกับสถิติของเธอซึ่งมีเพียงเธอและชูรูเท่านั้นที่มองเห็น” ยะ! ทําต่อไปชู !” แน่นอนว่าไม่เหมือนกับท่าทีที่ไม่แยแสของเล็กซี ชูรูเฉลิมฉลองขณะที่เธอหมุนตัวเหมือนนักบัลเล่ต์ตัวน้อย จนกระทั่งเธอบินไปในอากาศ

 

ในขณะที่เกี่ยวที่น่ารักตัวน้อยเต้นโดยที่แขนของเธอขยับสลับกันไปมา เธอก็ตอบ “ เพราะมันคือคุณไงชู ” จากการสังเกตอีธานลู่ ชูรูเข้าใจว่าเล็กซี่ไม่จําเป็นต้องพยายามอะไร เหมือนสิ่งที่เธอเคยทําเพื่อดึงดูดความสนใจของมอริสหลิว

 

อย่างไรก็ตาม เธอยังคงต้องการให้พวกเขาอยู่ใกล้ชิดกันและสนิทกันมากกว่านี้ เพราะเธอเป็นชิปเปอร์ที่ไม่ยอมจบง่ายๆยังไงล่ะ จากที่เห็นอีธานสู่ตั้งใจที่จะพยายามเข้าใจทุกรายละเอียดของเล็กซี่ ไม่ว่าจะเป็นข้อบกพร่องของเธอก็ตาม แน่นอนว่าเขาต้องการความช่วยเหลือจากเกี้ยวตัวเล็กๆนี้ เพื่อผลักดันให้เขาก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่างความรู้สึกที่แท้จริงของเขาที่ยึดมั่นว่ามันคือ มิตรภาพ

 

จากนั้นอีธานก็หยุดเล่นปลายผมของเธอและยิ้ม “ ฉันคิดว่าเพื่อนรักของฉัน ควรจะขับรถไปส่งฉันที่บ้าน”

 

“ฮะ?” เล็กซี่เงยหน้าขึ้นมองอย่างสับสนกับรอยยิ้มอันเจิดจ้าของคาสซาโนว่าตรงหน้าก่อน จะเอียงศีรษะไปด้านข้างอย่างงงงวย

 

——–

 

“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่า คุณให้ฉันเป็นคนขับรถของคุณเนี่ย ” เล็กซี่ส่ายหัวขณะขับรถไปที่วิลล่าของอีธานคู่

 

“ ฮะๆ เราไม่ใช่เพื่อนกันเหรอ? ” อีธานลูหัวเราะเบา ๆ บนเบาะผู้โดยสารด้านข้างเนื่องจากตอนนี้เขาไม่มีอาการบาดเจ็บแล้ว แม้ว่าจะไม่เต็มใจแต่อีธานก็ไม่อยากเป็นภาระให้กับตระกูลหยางต่อ แม้ว่าจะรู้ว่าพวกเขาไม่รังเกียจก็ตาม ในขณะที่เขาขอบคุณพ่อแม่ของเธอ พวกเขายังยืนยันให้เขาอยู่ต่ออีกสองสามวัน เพื่อให้แน่ใจว่าเขาสบายดีจริงๆ แต่เขาก็ปฏิเสธอย่างสุภาพ เพราะเขามีธุรกิจที่ต้องดูแลถึงกระนั้นความประทับใจที่เขามีต่อแม่และพ่อหยาง เขายังให้ความเคารพมากกว่าพ่อแม่ของเขาเอง

 

” คงงั้นแหละ “ เล็กซี่ตอบในขณะที่เธอขับรถพาเพื่อนใหม่ที่ไร้ยางอายของเธอ กลับไปที่วิลล่าของเขาเอง

 

ในขณะที่พวกเขาเดินทางอยู่นั้น จู่ๆอีธานลู่ก็ร้องขอว่า ” เราแวะกินข้าวกันได้ไหม”

 

“ คุณเพิ่งกินข้าวก่อนออกจากบ้านไม่ใช่เหรอ? ” เล็กที่ไม่ทราบถึงกลยุทธ์การถ่วงเวลาของอีธานก็โต้แย้ง

 

“ แต่ผมหิว…” อีธานสู่ขมวดคิ้วเหมือนเด็กน้อยที่ต้องการความสนใจ เธอมองด้านข้างเขาก่อนที่เธอจะถอนหายใจ เป็นสัญญาณของความพ่ายแพ้ “โอเค .. แต่ฉันแน่ใจว่ามันไม่มีคนพลุกพล่าน… เรื่องอื้อฉาวที่คุณก็รู้” เธอเตือนเขาว่าเธอยังคงเป็นคนดังและมีชื่อเสียงที่แปดเปื้อน

 

ในความคิดของเธออีธานลู่ อาจจะมีร้านอาหารเล็ก ๆ อยู่ในใจเหมือนกับร้านก๋วยเตี๋ยวที่เขาแนะนําเธอ ที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและไม่ให้ความสําคัญกับดราม่าในวงการบันเทิง

 

“ อ่า แน่นอนอยู่แล้ว ” อีธานพยักหน้าขณะที่เขาเกือบจะลืมภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเล็กซี แม้ว่าเขาจะไม่สนใจว่าชื่อของเขากับเธอจะถูกเขียนในหน้าข่าวเดียวกันบนอินเทอร์เน็ต หรือมีบทความที่คลุมเครือก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็รู้ว่าระหว่างคนที่จะได้รับคําวิจารณ์มากกว่านั่นคือเธอ ดังนั้นเขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เนื่องจากร้านก๋วยเตี๋ยวจะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าจะไปถึง และมันจะทําให้เธอเบื่อที่จะขับรถจากอีกฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่ง

 

“ แวะร้านสะดวกซื้อข้างหน้าละกัน “ อีธานสู่ยิ้มกว้างในที่สุดเขาก็คิดได้ถึงสถานที่ที่ไม่มีคนพลุกพล่านและที่สําคัญที่สุดคือไม่มีใครจําเธอได้ ขณะเดียวกันอีธานร้องขอเธอหยุดรถที่ร้านสะดวกซื้อถัดไปที่พวกเขาขับผ่าน และเขาลงไปเพื่อซื้อขนมและบะหมีกึ่งสําเร็จรูปเพียงอย่างเดียว

 

เมื่อเล็กซี่เห็นสิ่งที่เขาซื้อ คิ้วของเธอก็โค้งขึ้นและเธอก็เห็นลางสังหรณ์ที่ไม่ดีจากรอยยิ้มซุกชนของเขา ชูรูที่ร่วมมือกับอีธานโดยอยู่บนไหล่กว้างของเขา หัวเราะคิกคักราวกับว่าเธอรู้ว่าเขากําลังทําอะไรอยู่

 

“ไปกันเถอะเพื่อน!” โดยไม่รอให้เธอพูด อีธานรีบโยนอาหารไปที่เบาะหลัง ราวกับว่าเขาพยายามซ่อนสิ่งที่ซื้อมา เล็กซู่รู้สึกพูดไม่ออกจากการกระทําที่คลุมเครือของอีธานและชูรู เธอได้แต่ส่ายหัวและเป็นคนขับต่อไป

 

“ทําไมฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างปิดบังอยู่นะ?” เธอคิดในใจขณะที่อีธานบอกว่าเขารู้จักที่ทานอาหารที่สมบูรณ์แบบ

 

เมื่อมองไปที่วิลล่าส่วนตัวที่สวยงามของอีธานลู่ เล็กซี่ก็อ้าปากค้างด้วยความไม่เชื่อ” ร้านอาหารที่คนไม่พลุกพล่าน และไม่มีใครจําฉันได้…คุณหมายถึงบ้านของคุณใช่ไหม!” เล็กซี่บ่นในขณะที่เธอหันหน้าไปทางใบหน้าสดใสและไม่เป็นอันตรายของอีธาน “ใช่!”

 

“สมบูรณ์แบบมากเลยชู” ชูรูส่งเสียงเชียร์ขณะที่เธอกระโดดบนไหล่ของเล็กซี่ เหมือนเกี้ยวที่ตื่นเต้น ” เข้ามาสิ! คุณสัญญาว่าจะกินข้าวกับผมนะ “ อีธานเอ่ยชวนและจับไหล่ของเธอจากด้านหลังเบา ๆ ในขณะที่เขาค่อยๆผลักเธอเข้าไปในวิลล่าของเขาเอง

 

“ ฉันพูดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”