บทที่ 1228 ราชันมังกร

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1228 ราชันมังกร

แปลโดย iPAT

ไป่หนิงปิงรู้ว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหรือจิตวิญญาณสวรรค์เกิดจากเจตจำนงของผู้อมตะที่หลอมรวมกับปราณสวรรค์พิภพ พวกมันเป็นการดำรงอยู่ที่ลึกลับ

เนื่องจากจิตวิญญาณแผ่นดินหรือจิตวิญญาณสวรรค์มีต้นกำเนิดมาจากเจตจำนงของผู้อมตะ ดังนั้นพวกมันจึงไม่สามารถโกหก

อย่างไรก็ตามแม้จิตวิญญาณแผ่นดินหรือจิตวิญญาณสวรรค์จะไม่สามารถโกหก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกมันไม่สามารถกล่าวเรื่องไร้สาระ

หากจิตวิญญาณแผ่นดินหรือจิตวิญญาณสวรรค์ได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง พวกมันสามารถกล่าวตามความเชื่อส่วนตัว นั่นไม่ถือว่าเป็นเรื่องโกหก

คำกล่าวของจิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงยังไม่สามารถเชื่อถือได้

โป้ชิงคือโป้ชิงเพราะเขาเป็นคนประเภทที่หาได้ยากในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

ฉายาของโป้ชิงคือสิ่งใด?

เทพอมตะเทียมที่แยกห้าภูมิภาคด้วยดาบของเขา โชคดีของผู้คนทั้งโลกที่ความรักทำให้เขาเปลี่ยนไป

เขาได้รับการยอมรับจากผู้อมตะทั้งหมดว่าเป็นตัวตนอันดับหนึ่งภายใต้ผู้อมตะระดับเก้า

บุคคลเช่นนี้มีความโดดเด่นและส่องประกายเช่นเดียวกับดวงจันทร์ในยามค่ำคืน ในประวัติศาสตร์มีอัจฉริยะอยู่มากมาย แต่ตัวตนระดับโป้ชิงจะไม่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ได้อย่างไร?

ไป่หนิงปิงเต็มไปด้วยความสงสัย

จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงไม่ได้ตอบคำถามไป่หนิงปิงแต่ถาม “นายน้อย ชีวิตของท่านตกอยู่ในอันตราย เราสามารถใช้วิธีหลอมรวมวิญญาณเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกรเพื่อแก้ไขวิกฤตของท่าน”

“อย่างไรก็ตามวิธีนี้ค่อนข้างอันตราย”

จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงขมวดคิ้วก่อนจะถอนหายใจกล่าว “ท่านต้องรู้ว่าวิธีนี้มีเงื่อนไขที่เข้มงวดมาก กระทั่งผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมยังต้องพิจารณาพลังงานแห่งเต๋าทั้งหมดที่อยู่ในทรัพยากรแต่ละชนิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน”

“วิธีการหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกรใช้ตัวผู้อมตะเป็นวัสดุในการหลอมรวม แต่มันจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลเพราะผู้อมตะแต่ละคนมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่แตกต่างกัน ดังนั้นวิธีการหลอมรวมนี้จึงมีโอกาสประสบความสำเร็จค่อนข้างต่ำ”

“หากนายน้อยมีสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์หรือบ่มเพาะอยู่บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง นั่นจะช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ แต่ท่านกลับมีสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด”

“เห้อ…หากท่านใช้วิธีนี้ มีโอกาสน้อยมากที่จะรอดชีวิต ระหว่างการหลอมรวมวิญญาณ พลังงานแห่งเต๋าทั้งหมดของท่านจะได้รับผลกระทบ นายน้อย ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งหิมะและน้ำแข็งของท่านอาจหายไปอย่างสมบูรณ์”

ดวงตาของไป่หนิงปิงส่องประกายขึ้น

‘หากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งหิมะและน้ำแข็งของข้าหายไป แล้วข้อตกลงพันธมิตรบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่ผูกมัดข้าอยู่จะหายไปด้วยหรือไม่?’

นี่เป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจของเขาตลอดมา

ย้อนกลับไปที่ภูเขาชิงเหมาของภาคใต้ เนื่องจากวิญญาณกงล้อหยินหยาง เขาเปลี่ยนจากชายกลายเป็นหญิง ตอนนี้เมื่อเขาใช้มิติช่องว่างเทียม เขาจะเปลี่ยนเป็นผู้อมตะ ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจะถูกกดทับทำให้เขากลายเป็นผู้ชายอีกครั้ง หากเขาไม่ใช้มิติช่องว่างเทียมและกลับเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจะทำให้เขากลายเป็นผู้หญิง

แน่นอนว่าข้อตกลงพันธมิตรบนเส้นทางแห่งข้อมูลของนิกายเงาเป็นสิ่งที่ทำให้ไป่หนิงปิงรู้สึกหงุดหงิดมากที่สุด

ไป่หนิงปิงเป็นคนที่ยอมก้มศีรษะให้ผู้อื่นงั้นหรือ?

ตลอดมาเขาเพียงไม่มีวิธีที่จะทำให้ตนเองหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้เท่านั้น

“ข้าจะทำ!” ไป่หนิงปิงตัดสินใจโดยไม่ลังเล

…..

ภาคกลาง วังสวรรค์

ผู้อมตะหญิงถือวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลเอาไว้ในมือและตรวจสอบมันอย่างระมัดระวัง

นางมีรูปร่างที่สง่างามในชุดคลุมสีม่วง เส้นผมของนางยาวลงมาจนถึงเอว ดวงตาของนางเหมือนบ่อน้ำลึก ขณะที่ใบหน้าดูโศกเศร้าเล็กน้อย

นางก็คือผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ดำรงตำแหน่งแทนเจ้าวังสวรรค์คนก่อนเป็นการชั่วคราว เทพธิดาจื่อเว่ย!

นางดึงความสนใจกลับมาจากวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลและเผยรอยยิ้มบาง

“วิญญาณแห่งความรักยอมรับจ้าวเหลียนหยุนงั้นหรือ? น่าสนใจ”

เทพธิดาจื่อเว่ยไม่แปลกใจ

นางรู้ความลับทางประวัติศาสตร์มากมาย วิญญาณแห่งความรักไม่สามารถควบคุม ในอดีตมันตระหนักถึงความรู้สึกของมนุษย์หมึกโม่เหยาและตอนนี้มันจะแปลกอันใดหากมันจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของปีศาจต่างโลกจ้าวเหลียนหยุน?

“ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงผลักความรับผิดชอบมาให้ข้า?”

เทพธิดาจื่อเว่ยถอนหายใจกับตัวเอง

นิกายคฤหาสน์วิญญาณอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก

ผีดิบอมตะโป้ชิงเข้าร่วมกับนิกายเงาและต่อสู้กับวังสวรรค์ที่ภูเขาอี้เทียน และต้องไม่ลืมว่าในอดีตโป้ชิงเคยเป็นสมาชิกของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ ดังนั้นหลังจากการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียนสิ้นสุดลง นิกายคฤหาสน์วิญญาณจึงได้รับแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่

ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณไม่กล้าตัดสินใจยกตำแหน่งผู้นำนิกายรุ่นต่อไปให้กับจ้าวเหลียนหยุน

การผลักปัญหาที่ยากลำบากนี้ให้กับเทพธิดาจื่อเว่ยจะทำให้พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ

แต่เทพธิดาจื่อเว่ยไม่โกรธ

เพราะนางเป็นบุคคลที่มาจากนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

เทพธิดาจื่อเว่ยเคยเป็นสมาชิกของนิกายคฤหาสน์วิญญาณแต่เพราะพรสวรรค์อันโดดเด่นของนาง นางจึงได้รับการยอมรับจากวังสวรรค์

แม้นิกายโบราณทั้งสิบจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของวังสวรรค์ แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไม่ง่ายเหมือนเจ้านายกับลูกน้อง

เนื่องจากผู้อมตะของวังสวรรค์ส่วนใหญ่มาจากนิกายโบราณทั้งสิบ หลายคนยังไม่ลืมรากเหง้าของตนเอง เมื่อบุตรหลานของพวกเขาหรือสมาชิกนิกายเดิมของพวกเขาเข้าสู่วังสวรรค์ พวกเขาจะกลายเป็นพันธมิตรทางการเมืองโดยธรรมชาติ

ดังนั้นเทพธิดาจื่อเว่ยจึงยินดีแก้ปัญหาให้กับนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

ในความเป็นจริงเทพธิดาจื่อเว่ยกับเทพธิดาไป่ชิงมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด

และเทพธิดาไป่ชิงเป็นมารดารของฟงจินฮวงที่กำลังแย่งชิงตำแหน่งผู้นำนิกายกับจ้าวเหลียนหยุน

หากผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณยอมรับจ้าวเหลียนหยุน ฟงจินฮวงจะพ่ายแพ้ในการชิงตำแหน่งผู้นำรุ่นต่อไป ดังนั้นพวกเขาจึงส่งปัญหานี้ให้กับเทพธิดาจื่อเว่ยและปล่อยให้นางเป็นผู้ตัดสินใจ

แต่ปัญหานี้เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับนาง

เทพธิดาจื่อเว่ยกำลังจะใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลตอบจดหมายแต่ในจังหวะนี้นางกลับรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนบางอย่าง

การสั่นสะเทือนนี้ค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

เทพธิดาจื่อเว่ยผุดลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ

นางตกตะลึง

เพราะตอนนี้นางอยู่ในวังสวรรค์ ที่นี่เป็นสถานที่สำคัญและมีการป้องกันที่หนาแน่น แล้วการสั่นสะเทือนนี้หมายถึงสิ่งใด?

การสั่นสะเทือนยังดำเนินต่อไปและดึงดูดความสนใจของผู้อมตะจำนวนมาก

ยายชาหยุดหลอมรวมวิญญาณและแสดงออกด้วยความตกใจ

เว่ยหลินหยางเดินออกมาจากห้องของเขาและมองไปรอบๆ

เทพธิดาจื่อเว่ยไม่สามารถนิ่งเฉยอีกต่อไป นางออกจากห้องและได้ยินเสียงคำรามของมังกร

เสียงคำรามของมังกรดังขึ้นเรื่อยๆ

ภายใต้การจ้องมองที่ตกตะลึงของเทพธิดาจื่อเว่ย เสาแสงรูปมังกรพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าจากส่วนลึกของวังสวรรค์

“ที่นั่น! สุสานอมตะ? อย่าบอกว่าผู้อาวุโสบางคนตื่นขึ้น!” เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้ว

เป็นเพียงเวลานี้ที่ยายชาและเว่ยหลินหยางมาหานาง

“มันเกิดขึ้นที่สุสานอมตะ มันต้องเป็นผู้อาวุโสบางคนที่ตื่นขึ้น แต่เป็นผู้ใด?” ยายชาคาดเดา

เว่ยหลินหยางกล่าว “สุสานอมตะทั้งลึกลับและไม่อาจหยั่งรู้ กระทั่งพวกเราก็ไม่รู้ว่ามีผู้อมตะจำศีลอยู่ที่นั่นมากเท่าใด แต่แรงสั่นสะเทือนระดับนี้สามารถบอกได้ว่าผู้อาวุโสที่ตื่นขึ้นต้องไม่ธรรมดา”

ยายชาพยักหน้า นางเคยตื่นขึ้นเช่นกัน แต่เมื่อนางตื่นขึ้น วังสวรรค์ยังเงียบสงบมาก สถานการณ์แตกต่างจากตอนนี้อย่างสิ้นเชิง

เทพธิดาจื่อเว่ยสูดหายใจลึก “เราจะรู้หากไปดู”

ผู้อมตะทั้งสามบินไปยังสุสานอมตะเพียงเพื่อพบกับหลุมขนาดใหญ่บนทุ่งหญ้า

ในหลุมมีชายชราร่างกายเหี่ยวแห้งและอ่อนแอนอนอยู่

ชายชราเห็นผู้อมตะทั้งสามและเริ่มเปิดปากกล่าวอย่างยากลำบาก “น้ำ…น้ำ…”

เทพธิดาจื่อเว่ยเดินไปข้างหน้าและรีบใช้วิธีรักษาของนาง

ยายชาและเว่ยหลินหยางมองหน้ากัน

เหตุการณ์นี้ค่อนข้างประหลาด

“วิธีรักษาของข้าไม่ได้ผล” เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้วกล่าว

เว่ยหลินหยางรีบเดินเข้าไปและใช้วิธีการทั้งหมดของเขาแต่ยังไร้ผล

เว่ยหลินหยางกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ไม่ดีแล้ว ร่างกายของผู้อาวุโสผู้นี้แปลกมาก วิธีการของข้าไม่ได้ผล พลังชีวิตของผู้อาวุโสกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว เขาจะตายภานยในไม่กี่นาที”

ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายขึ้น “ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสกล่าวว่าน้ำ มันต้องเป็นวิธีช่วยเขา น้ำธรรมดาใช้ไม่ได้ แต่เขาต้องการน้ำชนิดใด?”

ยายชาเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม นางกล่าว “มีไฟสามชนิดบนโลกใบนี้และมีน้ำสามชนิดที่เป็นทรัพยากรอมตะระดับเก้า วังสวรรค์มีพวกมันเก็บไว้ทั้งหมด เราต้องนำพวกมันมาที่นี่”

แต่น้ำทั้งสามชนิดยังไร้ประโยชน์

ชายชราแทบไม่สามารถหายใจ เขากำลังจะตาย

ผู้อมตะทั้งสามกังวลมากแต่พวกเขาควรทำอย่างไร?

เทพธิดาจื่อเว่ยชี้นิ้วไปที่ศีรษะของชานยชรา “หน้าผากของผู้อาวุโสมีติ่งเหมือนหินอยู่สองข้าง พวกมันคือสิ่งใด?”

ยายชาเกิดแรงบันดาลใจขึ้นทันที “ข้ารู้แล้วว่ามันคือน้ำชนิดใด!”

นางหยิบวารีมังกรสวรรค์ที่แท้จริงออกมาและเททรัพยากรอมตะระดับแปดนี้ลงในปากของชายชรารา

เมื่อชายชราได้รับน้ำชนิดนี้ พลังชีวิตของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วขณะที่ร่างกายเริ่มขยายขึ้น ในไม่ช้าเขาก็สามารถดื่มน้ำชนิดนี้ได้ด้วยตนเอง

ผลลัพธ์ปรากฏทันที!

ผู้อมตะทั้งสามมีความสุขมาก

หลังจากชายชราดื่มวารีมังกรสวรรค์ที่แท้จริงเข้าไปจำนวนหนึ่ง เขาก็ผลักมือยายชาออกไป

ยายชาเข้าใจและหยุดให้น้ำกับเขา

ชายชราลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่ยังสั่นเทา

เขาแตกต่างจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง

ตอนนี้เขาดูแข็งแรงขึ้นมาก

เขาเปิดเปลือกตาขึ้นและมองผู้อมตะทั้งสามก่อนจะถอนหายใจ “นี่เป็นครั้งครั้งสุดท้ายที่ข้าสามารถตื่นขึ้น วารีมังกรสวรรค์ที่แท้จริงไม่มีประโยชน์อีกต่อไป ข้าสัมผัสได้ว่าบางคนกำลังใช้วิธีหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกร ข้าได้กลิ่นร่องรอยเล็กๆของโชคชะตา ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตื่นขึ้น”

“ท่าน…ท่านคือราชันมังกร!?” เทพธิดาจื่อเว่ยเบิกตากว้างและรู้สึกพูดไม่ออก

“นั่นคือข้า”