ฉินซินหยิ่งหันหลังกลับและเริ่มออกวิ่ง เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาขณะวิ่ง โทรหาผู้ช่วยของเธอบอกให้จองตั๋วเครื่องบิน “ฉันต้องการเที่ยวบินเที่ยวแรกสุด ไปเมืองหลวง”
เธอหลงรักเฉียวเหลียงมาตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย แต่เขามองเห็นแต่ถังซีผู้หยิ่งยโส ถังซีมีอะไรดีหรือ ก็แค่เจ้าหญิงเอาแต่ใจตัวเองที่อาศัยอยู่ในปราสาท ไม่รับรู้วิถีชีวิตของโลกมนุษย์ เวลาที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันเฉียวเหลียงจะยอมสยบอยู่แทบเท้าเธอ ในฐานะผู้เฝ้าดู ฉินซินหยิ่งรู้สึกว่าเฉียวเหลียงเหนื่อยหน่ายมาก ต่อมาเมื่อจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอก็ได้ยินว่าในที่สุดทั้งสองก็เลิกกันตามความต้องการของเฉียวเหลียง เธอดีใจมากที่ได้ยินเรื่องนี้ ในที่สุดพระเจ้าก็ได้ยินเสียงวิงวอนของเธอ และแยกทั้งสองออกจากกัน
ฉินซินหยิ่งแทบรอไม่ไหวที่จะตามหาเฉียวเหลียงและสารภาพรักกับเขา แต่เมื่อเธอไปถึงเมือง A และพบว่าวิกฤติที่เขากำลังเผชิญในชีวิตนั้นหนักหนาแค่ไหน แม้จะรักเฉียวเหลียง แต่เธอก็ไม่สามารถสารภาพกับเขาได้ในเวลาเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม ภายในหนึ่งปีเขากลับมามีชื่ออยู่ในพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ เขากลายเป็นผู้นำทางธุรกิจของจีน และยังได้นำเฉียวอินเตอร์เนชันแนลกรุป ซึ่งก่อนหน้านี้ล้มละลาย ก้าวสู่หน้าประวัติศาสตร์ใหม่อีกด้วย เธอตื่นเต้นมาก เขาเป็นคนรักที่คู่ควรกับเธอจริงๆ ผู้ชายที่เธอรักนั้นยอดเยี่ยมมาก เธอแทบรอไม่ไหวที่จะบินไปอยู่เคียงข้างเขา
แต่ในเวลานั้นจู่ๆ คนของเขาก็มาหาเธอ ขอให้เธอช่วยติดต่อถังซี บอกเธอว่าเขาต้องการพบถังซี
เขาต้องการพบถังซีอย่างนั้นหรือ
พบทำไม ฉินซินหยิ่งถามพวกเขา
คนเหล่านั้นบอกเธอว่า เหตุที่นายน้อยของพวกเขาเลิกกับถังซีในเวลานั้น เพียงเพราะเขาไม่ต้องการให้ถังซีมีปัญหา แต่ตอนนี้เขาคิดว่าเขามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะยืนเคียงข้างถังซี และจับมือไปกับถังซีได้แล้ว
จับมือไปกับถังซีหรือ นั่นจะไม่มีวันเกิดขึ้น! เธอจะปล่อยให้ถังซีกับเฉียวเหลียงอยู่ด้วยกันได้อย่างไร!
เธอตกลงจะช่วยให้เขาได้พบถังซี เธอรู้ว่าถ้าเธอตกลงช่วยเขา เธอจะได้เข้าใกล้เฉียวเหลียง
แต่ฉินซินหยิ่งไม่เคยได้พบเขาเลย จนกระทั่งเฉียวเหลียงมาหาถังซีที่หน้าปราสาทตระกูลถัง เธอแอบออกมาบอกเฉียวเหลียงว่าถังซีไม่ต้องการพบเขา แม้เธอจะพยายามเกลี้ยกล่อมอยู่เป็นเวลานานก็ตาม เธอเห็นสีหน้าเขาซีดเผือดลงทันที และเห็นความขุ่นเคืองในสายตาเขา เธอรู้ว่าเธอกำลังจะประสบความสำเร็จ ตราบใดที่เฉียวเหลียงไม่รักถังซีอีกต่อไปแล้ว ถังซีผู้หยิ่งยโสก็จะไม่มีวันได้พบเจอเฉียวเหลียง บางทีถังซีอาจไม่อยากได้ยินข่าวเฉียวเหลียงอีกเลยก็เป็นได้
ขณะที่เธอคิดว่าเฉียวเหลียงจะยอมแพ้ เขาก็พูดขึ้นว่า “ได้โปรดบอกให้เธออ่านอีเมล์ของผมด้วย”
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉียวเหลียงพูดกับเธอเป็นเวลานาน น้ำเสียงเขามีอำนาจและเด็ดขาดมาก
ในเวลานั้นเธอรู้ว่าเฉียวเหลียงส่งอีเมล์ถึงถังซีมากมาย แต่ถังซีไม่เคยอ่านเลย เธอให้สัญญากับเฉียวเหลียงว่าจะทำตามที่เขาขอ แต่เธอไม่ได้บอกถังซี ตราบใดที่ถังซีไม่สนใจเขา เขาก็จะลืมถังซีไปโดยปริยายในที่สุด
ท่ามกลางความประหลาดใจของฉินซินหยิ่ง เฉียวเหลียงมีความมั่นคงอย่างมาก แม้จะไม่ค่อยมาปรากฏตัวในบริเวณปราสาทตระกูลถัง หรือแม้แต่ในเมืองหลวง เขาก็ยังคงส่งคนมาฟังข่าวถังซีจากเธอเสมอ
เขาโหดร้ายกับเธออย่างนี้ได้อย่างไร!
เขาก็รู้ว่าเธอชอบเขา
เธอไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะไม่รู้เรื่องนี้ เขาแค่เมินเฉยต่อความรักของเธอ
หลายปีผ่านไปในระหว่างที่เขาพยายามหาวิธีพบกับถังซี ฉินซินหยิ่งรู้หมดทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำเพื่อถังซี เช่น เมื่อรู้ว่าถังซีจะเดินทาง เขาจะจัดเตรียมสถานการณ์ให้ทั้งสองได้พบกันอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด แต่เธอก็จงใจจัดการให้ทั้งสองได้คลาดกันอย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน
อย่างเช่นตอนที่เขาไปร่วมงานเลี้ยงที่เมืองหลวง ซึ่งเป็นงานที่ถังซีไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เขาสวมชุดสูทแบบที่เขารู้ว่าถังซีชอบ และเธอก็ทำให้รถถังซีเสียกลางทาง เป็นเหตุให้เขาคิดว่าถังซีรู้ว่าเขาจะมางาน และจงใจหลีกเลี่ยงไม่อยากเจอเขา
เธอทำหลายสิ่งหลายอย่างมากมาย แต่เขาไม่รู้ และถังซีก็ไม่รู้เช่นกัน
เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะยังคงปฏิเสธไม่ยอมแพ้ เพราะฉะนั้นถังซีจึงต้องตาย เมื่อถังซีตายเท่านั้นสถานการณ์เช่นนี้จึงจะเปลี่ยนไป!
ฉินซินหยิ่งนั่งอยู่ในรถด้วยใบหน้าซีดเผือด ถังซี เธอมีทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ใครต่อใครประเคนทุกอย่างให้ตามที่เธอต้องการ ทำไมเธอถึงยังเอาเฉียวเหลียงไปจากฉันอีก ถ้าเธอไม่ทำแบบนี้เธอก็ไม่ต้องตาย เพราะฉันจะเห็นเธอเป็นเพื่อน และไม่ปล่อยให้คนเหล่านั้นลงมือตามแผนการของพวกเขา แต่เธอต้องตายเพราะเธอมาขวางทางฉัน ฉันจึงต้องยืมมือพวกเขา
เมื่อรู้ว่ามีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งต้องการฆ่าถังซี เธอตื่นเต้นมาก เพราะเธอไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตัวเองแล้ว และจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ช่างสมบูรณ์แบบอะไรเช่นนี้! เธอเพียงแค่โหมไฟขณะที่ไฟลุกโพลงก็พอ หลังจากนั้นถังซีก็จะถูกรายงานว่าเสียชีวิต เธอคิดว่าเรื่องจะจบลงง่ายๆ อย่างไรก็ตาม โดยที่เธอไม่คาดคิด เฉียวเหลียงปรากฏตัวขึ้นในเวลานั้น เขาปิดล้อมพื้นที่ทั้งหมดในทะเลแปซิฟิกบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุ และซื้อเกาะใกล้เคียง ไม่อนุญาตให้ใครค้นหาร่างถังซี ตลอดจนปิดกั้นไม่ให้ข่าวการเสียชีวิตของถังซีรั่วไหล
ไม่ยุติธรรมเลยสำหรับเธอ แต่เธอไม่สามารถเปิดเผยตัวเองต่อหน้าเฉียวเหลียงได้
เมื่อรถมาถึงสนามบินฉินซินหยิ่งนำพาสปอร์ตไปรับตั๋วเครื่องบิน ขณะเดินเข้าไปในห้องรับรองของสนามบินเธอกำมือแน่น ตราบใดที่… ตราบใดที่เธอยังคงรอคอย เธอก็จะได้ครอบครองเฉียวเหลียง ถึงอย่างไรถังซีก็ตายไปแล้ว และไม่มีใครรู้ว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของถังซี เธอเพียงแต่ต้องรอเวลา เมื่อเฉียวเหลียงอยู่ในความโศกเศร้าเธอจะไปปลอบใจเขา ใช้ประโยชน์จากความทรงจำของเฉียวเหลียงเกี่ยวกับถังซี จากนั้นโอกาสก็จะเป็นของเธอ
เฉียวเหลียง รอฉันอยู่ที่เมืองหลวงนะ ฉันกำลังจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้
หลังจากสิบชั่วโมงบนเครื่องบิน ฉินซินหยิ่งก็มาถึงสนามบินนานาชาติของเมืองหลวง เธอลากกระเป๋าเดินทางออกมา แต่ก่อนจะถึงด่านศุลกากรเธอก็ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์สวมสูทสีดำเข้าคุมตัว
ฉินซินหยิ่งดิ้นรนอย่างหนักให้ตัวเองเป็นอิสระ ขณะจ้องมองผู้ชายเหล่านั้นด้วยความสะพรึงกลัว และร้องออกมาเสียงดัง “พวกแกเป็นใคร จะทำอะไร!”
เสียงตะโกนของเธอดึงดูดผู้คนจำนวนมากจากบริเวณใกล้เคียงให้หันมามอง แต่ผู้ชายเหล่านั้นกล่าวโดยไม่สนใจ “คุณฉิน นายน้อยให้เรามารับคุณ กรุณาให้ความร่วมมือด้วย”
“เฉียวเหลียงหรือ” ฉินซินหยิ่งถาม พร้อมกับพยายามสงบสติอารมณ์
หนึ่งในชายชุดดำพยักหน้า “ใช่ นายน้อยรออยู่ชั้นบน โปรดมากับพวกเรา”
ขณะนี้เป็นเวลาสิบเอ็ดนาฬิกา มีคนไม่มากนักในสนามบิน การที่คนเหล่านี้กล้าคุมตัวใครสักคนเดินไปอย่างโจ่งแจ้งในสนามบิน แสดงว่าพวกเขามีอิทธิพลไม่น้อย ผู้โดยสารทั้งหลายจึงได้แต่มองดู ก่อนจะรีบไปให้พ้นอย่างรวดเร็ว ฉินซินหยิ่งเดินตามชายชุดดำขึ้นบันไดไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัวในหัวใจ
‘เฉียวเหลียงมารอฉันอยู่ที่นี่โดยเฉพาะ เพราะรู้ว่าฉันกำลังกลับมาเมืองจีนอย่างนั้นหรือ’ ฉินซินหยิ่งคิดในใจ
เมื่อคิดอย่างนี้ฉินซินหยิ่งก็แอบยิ้ม เธอรู้ว่าเฉียวเหลียงจะยอมรับความตั้งใจดีของเธอที่มีต่อเขาสักวันหนึ่ง
ทั้งหมดขึ้นไปชั้นบน ไปที่ห้องรับรองวีไอพี กลุ่มชายชุดดำหยุดที่หน้าห้องและเคาะประตู ใครคนหนึ่งที่อยู่ข้างในตอบรับ ชายสวมแว่นดำคนหนึ่งเปิดประตูแล้วผลักฉินซินหยิ่งเข้าไป และตอนนี้เธอก็เข้ามาอยู่ในห้องรับรอง