แดนนิรมิตเทพ บทที่ 505
ฟางปู้ถงทำสัญญาลักษณ์มือเพื่อเชิญเฉินโม่ และกล่าวว่า “เฉินไต้ซือ เชิญครับ!”

เฉินโม่ก็ไม่ได้เกรงใจแต่อย่างไร เดินขึ้นไปบนเวทีด้วยท่าทางสงบ ฟางปู้ถงเดินตามหลังอย่างใกล้ชิดและยืนอยู่บนเวทีเช่นกัน

เมื่อมองแขกผู้มีเกียรติมากมายที่อยู่ด้านล่างเวที ใบหน้าของเฉินโม่เฉยเมย ส่วนสีหน้าของฟางปู้ถงเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ สถานะของคนมากมายที่อยู่ด้านล่างไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา แต่ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่บนเวทีและเป็นเจ้าภาพในงานเลี้ยงคราวนี้

ทั้งหมดนี้ล้วนอาศัยเฉินไต้ซือที่อยู่ด้านข้าง ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินไต้ซือ เขาคงไม่สามารถจัดงานเลี้ยงเช่นนี้ได้

“ทุกท่าน ผมคิดว่าทุกท่านคงจะทราบว่างานเลี้ยงคราวนี้เฉินไต้ซือเป็นคนเชิญทุกท่านมา และตอนนี้ทุกคนก็รู้สถานะของเฉินไต้ซือแล้ว”

“ถูกต้อง คนที่อยู่ข้างกายผมคือเฉินไต้ซือที่ชื่อเสียงสั่นสะท้านไปทั่วฮ่านหยาง!” ฟางปู้ถงชี้ไปที่เฉินโม่เพื่อแนะนำให้ทุกคนรู้จัก

เสียงปรบมืออบอุ่นดังขึ้น เพราะในฮ่านหยาง ไม่มีใครกล้าให้เกียรติเฉินไต้ซือ

ตอนนี้ ในใจของทุกคนไม่มีข้อสงสัยอีกต่อไปแล้ว ถึงแม้ว่าเฉินโม่จะเป็นเพียงนักเรียนมัธยมปลาย ถึงแม้ว่าอายุเฉินโม่จะน้อยกว่าลูกชายของพวกเขาบางคน แต่เขาก็ยังสามารถยืนบนเวทีและดื่มด่ำกับการเคารพจากผู้ทรงอิทธิพลของฮ่านหยาง และทั่วทั้งฮ่านหยางก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้น แม้แต่คุณท่านจินที่ชื่อเสียงสั่นสะท้านไปทั่วฮ่านหยางก็ยังไม่ถึงระดับนี้

ฟางปู้ถงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ต่อไป ขอเชิญเฉินไต้ซือกล่าวอะไรกับพวกเรา!”

แปะ ๆ ๆ ……

เสียงปรบมือที่อบอุ่นดังขึ้นอีกครั้ง และดังเป็นเวลานาน

เฉินโม่กล่าวคำสุภาพสองสามประโยค จากนั้นเดินลงมาจากเวทีอย่างรวดเร็ว แล้วไปคารวะเหล้าทุกโต๊ะโดยมีฟางปู้ถงเดินเป็นเพื่อนอยู่ข้างกาย ราวกับราชาสำรวจตรวจตราประชาชน

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงขั้นตอนของงานเลี้ยงเท่านั้น ด้วยสถานะของเฉินโม่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้เลย

และก่อนที่เฉินโม่จะเดินไปถึง คนบางคนที่รอไม่ไหวนั้นได้ยืนขึ้นพร้อมแก้วเหล้าแล้ว และเป็นฝ่ายคารวะเหล้าให้เฉินโม่แทน

“เฉินไต้ซือ คนนี้คือลูกชายของผม เพิ่งเข้าวิทยาลัยปีนี้ หวังว่าต่อไปคุณจะช่วยดูแล!”

“เฉินไต้ซือ โชว์รูมรถยนต์ของผมจะเปิดกิจการในวันศุกร์หน้า เมื่อถึงเวลาแล้ว ขอเชิญคุณไปร่วมงานด้วย!”

“เฉินไต้ซือ อีกห้าวันลูกชายคนเล็กของผมจะครบหนึ่งเดือน คุณช่วยตั้งชื่อให้เขาหน่อยได้ไหม!”

ผู้ทรงอิทธิพล ประธานบริษัท และประธานกรุ๊ปแต่ละคนที่มีชื่อเสียง ตอนนี้พวกเขาเปรียบเสมือนคนธรรมดาที่จุดธูปบูชาและขอให้เทพเจ้าปกปักรักษา

และเฉินโม่กลายเป็นเทพเจ้าในหัวใจของพวกเขาแล้ว!

เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่มีชื่อเสียงของฮ่านหยางที่แย่งกันพูดเหล่านี้ เฉินโม่ยังคงมีสีหน้าที่ราบเรียบ

ชาติก่อนเขาแสวงหาตามความนิยมแบบนี้มาโดยตลอด และไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็จะกลายเป็นจุดสนใจของคนในแวดวงนั้น ตอนนี้ความปรารถนากลายเป็นความจริงแล้ว แต่เขากลับไม่รู้สึกตื่นเต้นเลย ตรงกันข้ามเขากลับเกลียดชังคนที่หน้าไหว้หลังหลอกพวกนี้

ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงผ้าเช็ดหน้าที่เป็นของที่ระลึกของศิษย์น้องหญิง ที่เขาได้มาจากการประมูล สองบรรทัดสุดท้ายของสี่บรรทัดนั้น พรรณนาถึงความจริงที่เขาคิดอยู่ในตอนนี้

ต่อให้ผิวดีแค่ไหนเมื่อตายไปแล้วก็จะกลายเป็นกองกระดูกสีขาว เทียบไม่ได้กับตอนที่จิงเคอให้คำมั่นว่าจะลอบสังหารอ๋องฉินที่ริมแม่นํ้าอี้

ไม่ว่าคุณจะสวยงามและมีความสามารถเพียงใด มันจะอยู่เพียงไม่กี่สิบปีเท่านั้น ไม่ว่าคุณจะมีความมั่งคั่งและอำนาจมากเพียงใด เมื่อตายไปแล้วคุณก็จะกลายเป็นผงธุลี

มีเพียงคนที่คิดจะต่อสู้กับมติของสวรรค์อย่างแท้จริง เพื่อแสวงหาความจริงของสัจธรรมและความลึกลับของจักรวาล ถึงจะสามารถอยู่รอดในโลกนี้ได้ตลอดไป ถึงแม้เวลาจะเปลี่ยนไป ฟ้าดินล่มสลาย เรื่องพวกนี้มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน

หลังจากนั้น เฉินโม่เดินตามฟางปู้ถงมาถึงโต๊ะของเจิ้งหยวนฮ่าวกับอานเข่อเยว่  

มองเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายเหล่านี้แล้ว มีคนที่เขาแอบชอบเมื่อชาติก่อน เฉินโม่ยกแก้วเหล้าขึ้นเบา ๆ แต่ไม่ได้หยุดฝีเท้า แล้วเดินจากไปด้วยความไม่แยแส