เธอเป็นใคร ทำไมเธอถึงชอบทานอาหารที่ถังซีชอบ และทำไมเธอถึงพูดเหมือนที่ถังซีเคยพูด ตอนที่เขาพบเธอที่โรงเรียนในวันนั้น
เธอรู้จักอีเมล์และรหัสผ่านของถังซีได้อย่างไร และเธอมีความตั้งใจอย่างไร ที่ส่งอีเมล์นั้นให้เขา!
ทำไม
…
ทางอีกด้านหนึ่ง ผู้กระตุ้นความสงสัยของเฉียวเหลียงกำลังถูกพี่ชายพาไปที่ห้องพิเศษของสโมสร เมื่อถังซีเห็นผู้คนในห้อง ดวงตาเธอก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น ขณะถามว่า “ทุกคนมาทำอะไรกันที่นี่คะ”
เฮ่อหว่านอีวิ่งเข้ามากอดถังซี ตอบอย่างอ่อนหวานว่า “เราต้องมาสิจ๊ะ เพื่อฉลองที่เธอกับเซียวเหยาออกจากโรงพยาบาลไงล่ะ เราต้องมาเมากันวันนี้ จริงไหม”
ถังซียิ้มน้อยๆ มองดูเหล้าบนโต๊ะ แล้วพยักหน้า “ตกลงค่ะ เรามาเมากันค่ะคืนนี้”
ถึงอย่างไรเธอก็ยังกังวลถึงเฉียวเหลียง ถ้าอยู่บ้านคงนอนไม่หลับ จะเป็นการดีกว่าถ้าเธอมาดื่มและพูดคุยกับคนเหล่านี้ที่นี่ ทำแบบนี้เวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเธออาจนอนหลับได้สนิท ถ้าเธอเมา
เมื่อคิดเช่นนี้ ถังซีก็ยกแก้วไวน์ขึ้น และกล่าวว่า “ขอบคุณทุกคนนะคะ ที่ห่วงใยเรา”
ในขณะที่ทุกคนยกแก้วขึ้นชน หนิงเหยี่ยนก็ยืนขึ้นแล้วกล่าวว่า “เฮ้ นางฟ้าน้อย ฉันขอดื่มให้เธอ ขอแสดงความยินดีที่เธอฟื้นขึ้นมาแล้ว”
ถังซีเลิกคิ้วถาม “นี่คือชื่อเล่นใหม่ของฉันเหรอคะ”
หนิงเหยี่ยนเบ้ปาก “ถึงจะไม่ชอบชื่อเล่นหวานแหววเพ้อเจ้อที่พี่ๆ เธอตั้งให้เธอชื่อนี้ แต่ฉันต้องยอมรับว่าเธอเหมือนนางฟ้าจริงๆ เพราะฉะนั้นพวกเราจึงยอมรับอย่างไม่เต็มใจ มาเลยน้องนางฟ้าน้อย ดื่ม!”
ถังซีเลิกคิ้ว ชนแก้วกับหนิงเหยี่ยนพร้อมกับกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ ผู้กำกับหนิง สำหรับคำชมและความห่วงใย ตอนนี้คุณเรียกฉันว่านางฟ้าน้อยแล้ว ก็แปลว่าฉันเหมาะสมที่สุดสำหรับเมจิกบัตเตอร์ฟลายแล้วใช่ไหมคะ ลองจินตนาการดูสิ จะเหมือนอยู่ในความฝันแค่ไหน เมื่อมีนางฟ้าน้อยย่างฉันอยู่ในโฆษณาทีวี จริงไหมคะ”
เมื่อพูดถึงโฆษณาทีวีเฮ่อหว่านหนิงก็ยืนขึ้น ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ใช่ครับ ผมถนัดเรื่องนี้อยู่แล้ว ผมแน่ใจว่าการตัดต่อพิเศษจะเป็นที่น่าพอใจมาก และคุณจะไม่ทำให้พวกเราทุกคนผิดหวังอย่างแน่นนอน”
เฮ่อหว่านอีแกล้งทำเป็นโกรธ ทำปากยื่นพูดอย่างไม่พอใจ “พี่รอง พี่เคยบอกว่าฉันไม่เหมาะกับโฆษณาทีวีชิ้นนี้เพราะฉันไม่สวยพอ แล้วตอนนี้ยังมาพูดต่อหน้าฉันว่าผู้หญิงอีกคนหนึ่งสมบูรณ์แบบสำหรับโฆษณานี้อีกเหรอ ฉันเป็นน้องสาวพี่จริงๆ หรือเปล่าเนี่ย”
เฮ่อหว่านหนิงขมวดคิ้วขณะตอบ “ก็เพราะเธอเป็นน้องสาวพี่น่ะสิ พี่ถึงได้บอกความจริงกับเธอ แล้วรู้ไหมว่าคำพูดแบบที่เธออยากได้น่ะจะส่งผลยังไง ฆ่าผู้ชายคนหนึ่งได้เลยเพราะคำชมเชยเกินจริง แต่แบบที่พี่พูดนี้จะเป็นผลดีต่อเธอ รู้ไหม”
ถังซีถามพร้อมกับหัวเราะ “แล้วนี่ผู้อำนวยการเฮ่อพยายามฆ่าฉันด้วยคำชมเชยเกินจริงหรือเปล่าคะ เรายังไม่ได้เริ่มถ่ายโฆษณากันเลย คุณเริ่มคิดหาวิธีสกัดกั้นฉันแล้วเหรอ”
เฮ่อหว่านหนิงอึ้ง หน้าแดงก่ำ “ผมไม่เคยโกหกนะครับ เซียวโหรว คุณสวยมากจริงๆ คุณเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา”
ด้วยความดีใจที่ได้ยินเช่นนี้ ถังซีจึงยกแก้วขึ้น “ถ้าอย่างนั้น ฉันขอขอบคุณผู้อำนวยการเฮ่อค่ะ”
เซียวเหยาซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ โดยไม่ดื่ม เอื้อมมือไปห้ามถังซี และกล่าวว่า “ดื่มให้น้อยๆ หน่อย เธอดื่มมากเกินไปแล้ว”
ถังซีหัวเราะเบาๆ หลบมือเซียวเหยา นั่งลงระหว่างเซียวจิ่งกับเซียวส่าแล้วยกแก้วขึ้นดื่ม พร้อมกับบอกว่า “พี่เหยา ฉันเพิ่งเริ่มดื่มเอง พี่อย่ามาห้ามไม่ให้ฉันดื่มสิคะ ไม่อย่างนั้นเราจะมาที่นี่กันทำไมล่ะ”
“ใช่ เซียวเหยา” เฮ่อหว่านโจวพยักหน้าเห็นด้วย “อย่าจริงจังนักเลย ตอนนี้นายไม่ได้อยู่ในกองทัพนะ มาถึงที่นี่แล้วทำตัวให้สนุกสนานหน่อย อย่าสนใจกับอะไรมากมาย” ขณะกล่าวว่าเขาเทเหล้าให้เซียวเหยาแก้วหนึ่ง “มาเร็ว ดื่ม ถ้าเมานายก็ขึ้นไปนอนที่ห้องรับรองชั้นบนได้น่า”
เซียวเหยายังคงนิ่งเฉยไม่รับแก้วเหล้าที่เฮ่อหว่านโจวส่งให้ เฮ่อหว่านโจวเบ้ปาก วางแก้วลงบนโต๊ะ และคุยกับถังซีต่อไป
ในเวลานั้นหยางมู่คุนซึ่งนั่งหน้าเศร้าอยู่ทางด้านข้าง ก็เดินเข้ามาหยิบแก้วใบนั้น แล้วนั่งลงข้างเซียวเหยา จากนั้นก็เริ่มบ่น “ญาติเหยา นายต้องร่วมดื่มกับฉัน! พี่น้องฉันทุกคนทั้งผู้หญิงผู้ชายเป็นทหารกันหมด มีแต่ฉันที่ไม่ได้เป็น เมื่อก่อนถึงแม้ฉันจะไม่เคยมีความสำคัญในครอบครัวมาตั้งแต่เด็กๆ ชีวิตฉันก็ไม่ถึงกับเลวร้าย แต่นับจากวันนั้น วันที่คุณพ่อไปเยี่ยมนายที่โรงพยาบาล ชีวิตฉันถึงขั้นหายนะ! นายรู้ไหมว่าทุกวันนี้ฉันอยู่ที่บ้านด้วยความทุกข์ระทมแสนสาหัสแค่ไหน”
เซียวเหยารับแก้วมาจิบแล้วพยักหน้า หยางมู่คุนกล่าวต่อไป “เมื่อฉันกลับถึงบ้านในวันนั้น คุณพ่อขังฉันไว้ในห้องกักบริเวณ ให้ฉันสำนึกถึงการกระทำผิด ใช่ ฉันไม่ได้เข้าร่วมกองทัพ! แต่นั่นเป็นความผิดตรงไหนหรือ ทุกคนในครอบครัวฉันเป็นทหาร แล้วฉันไม่เป็นไม่ได้หรือ” จบคำพูดเขาก็ยกแก้วขึ้นชนกับเซียวเหยา
เซียวเหยาชนแก้วกับเขา หยางมู่คุนมีท่าทางพอใจในทันที เขาจิบเหล้าแล้วกล่าวว่า “นายรู้อะไรไหม หลังจากนั้นฉันถามคุณพ่อว่า การเป็นทหารนี่มันดีอะไรมากมายขนาดไหนหรือ ฉันบอกท่านว่า ลูกชายท่านเป็นแค่ร้อยเอก ทั้งที่ท่านคอยสนับสนุนในอาชีพการงานของพวกเขาตลอดมา ในขณะที่ญาติเหยาเป็นพันโทแล้ว!”
ทันใดนั้นถังซีก็หันมาถามด้วยเสียงหัวเราะ “ลูกผู้พี่คะ จากนั้นพี่ก็ถูกพวกเขารุมประชาทัณฑ์เลยใช่ไหม”
“ฉันถูกลงโทษด้วยไม้เรียว” หยางมู่คุนตอบอย่างเศร้าใจ “ฉันแค่พูดความจริง แต่คุณพ่อลงโทษฉันด้วยไม้เรียว! ฉันไม่ใช่ทหารของท่าน! ท่านทำอย่างนั้นกับฉันได้อย่างไร”
ทุกคนไม่ได้อยู่ในสังคมที่ปกครองโดยกฎหมายหรอกหรือ!
ถังซียกแก้วขึ้น กล่าวด้วยความเห็นอกเห็นใจ “ฉันเสียใจด้วยนะคะ ที่พี่มีพี่เหยา อัจฉริยะที่หาใครเปรียบไม่ได้เป็นญาติ”
“นั่นยังไม่ใช่เรื่องที่แย่ที่สุด!” หยางมู่คุนครวญคราง “หลังจากพี่น้องของฉันกลับมา และได้ยินว่าฉันดูหมิ่นพวกเขา ทุกคนก็ผลัดกันตีฉัน และตีจนฉันเกือบตาย!”
หางตาข้างหนึ่งของเฮ่อหว่านโจวหรี่ลงเมื่อได้ฟัง ในที่สุดเขาก็เอ่ยขึ้น “มู่คุน ฉันคิดว่านายน่าจะมาอยู่บ้านฉันดีกว่า ฉันจะเลี้ยงดูนายเอง สัญญาว่าจะไม่ตีหรือดุด่านายเลย”
ถังซีเอนพิงพนักเก้าอี้พร้อมกับอ้าปากค้าง ขณะที่เฮ่อหว่านอีกล่าวเสียงดัง “พี่ใหญ่คะ นี่พี่ตกหลุมรักหยางมู่คุนตั้งแต่เมื่อไร โอ… คือแบบ…น่ากลัวสุดๆ!”
เมื่อได้ยินอย่างนี้หยางมู่คุนก็โถมเข้ากอดเซียวเหยาทันที และตะโกนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ญาติเหยา ดูสิ เป็นเพราะนายคนเดียว! ตอนนี้แม้แต่เฮ่อหว่านโจวก็กล้ารังแกฉัน! นายต้องปกป้องฉัน!”
เซียวเหยาแงะนิ้วหยางมู่คุนออกทีละนิ้ว กล่าวอย่างเยือกเย็น “นายอยากให้ฉันตีนายด้วยอย่างนั้นหรือ นายอาจเจ็บหนักเลยนะ”
หยางมู่คุนคำรามลั่น “ทำไมทุกคนถึงใจร้ายกับฉันอย่างนี้”
“อ้าว มู่คุน ฉันก็เสียใจกับนายอยู่นี่ไงล่ะ ถึงได้เสนอจะเลี้ยงดูนายเอง นายยังไม่เห็นบุญคุณอีกหรือ” เฮ่อหว่านโจวกล่าวพร้อมกับหัวเราะอย่างชั่วร้าย
หยางมู่คุนวิ่งไปหาเฮ่อหว่านโจวอย่างน่าสงสาร เหมือนสุนัขเลี้ยงแกะตัวน้อย “นายมีอาหารและที่อยู่ให้ฉันฟรีใช่ไหม”
“โอ๊ย ออกไปให้พ้นจากหน้าฉัน” เฮ่อหว่านโจวตอบกลับ พร้อมกับผลักหยางมู่คุนออกไป “ฉันจะไม่พานายไปอยู่ด้วย นอกจากนายจะยอมเป็นเครื่องทำความร้อนให้เตียงฉัน”