ตอนที่ 190 : เจียงเฉินนั้นเป็นคีย์ที่ 89 บนเปียโนของฉ่หลิงเหยาม
ในเวลานี้ที่ถังเฉินผินฮวาการ์เด้น
บ้านของนักเปียโนสาวคนสวย ฉ่หลิงเหยา!
แม่เลี้ยงของอู่หลิงเหยากําลังแนะนําผู้ชายให้เธอรู้จัก
แม่เลี้ยงของฉ่หลิงเหยา “เหยาเหยา แม่หาคุณชายจากตะกูลใหญ่มาให้เธอได้ คืนนี้ลูกจะไปพบเขาหน่อยไหม?”
นูหลิงเหยาขมวดคิ้วและพูดออกมา “แม่! หนูจะไปหาแฟนเองเรื่องนี้ไม่ต้องมาห่วงหรอก เพราะบ้าไปต่างประเทศแล้วไม่มีคนเล่นไพ่นกกระจอกด้วยก็เลยว่ายังไงกัน?”
“อ๊ะ โดนจับได้ซะแล้ว! จะไม่เชื่อในตัวแม่หน่อยหรอคราวนี้แม่ไปขอร้องทางนั้นตั้งนานเลยนะ”
แม่เลี้ยงซุกซนมาก เธอแกล้งทําเป็นน้อยเนื้อต่ําใจก่อนจะยิ้มแล้วพูดออกมา “ก็ลูกเล่นฝึกเปียโนทุกวันจนตัวเองไม่มีเวลาออกไปหาเพื่อนดูสิแม่นี่ดีแค่ไหนคอยจัดการเบื้องหลังให้อยู่ตลอด…แถมเรื่องนัดบอดก็ยังคอยจัดการให้ด้วยจะไม่ลองคิดดูหน่อยจริงๆ หรอ?”
” หนูไม่ต้องการ!”
อู่หลิงเหยาส่ายหัวและปฏิเสธ!
ตอนนี้เธอนั้นมีใจให้กับเจียงเฉินแล้วและการพยายามให้เธอไปนัดบอดกับผู้ชายคนอื่นมันทําให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ!
เพราะนั้นเป็นการไม่เคารพความรู้สึกของตัวเอง!
“จริงสว”
แม่เลี้ยงเริ่มบ่นอีกครั้ง “เหยาเหยา ไม่ใช่ว่าลูกชอบศิลปะหรอ?คืนนี้มีงานการกุศลครั้งใหญ่ที่พิพิธภัณฑ์ปักกิ่งในเขตเหนือลูกสนใจรึเปล่า?”
อู่หลิงเหยา “อืม…”
เธอรู้สึกสนใจงานนี้ไม่น้อยเลย
เพราะครอบครัวของเธอนั้นเป็นนักวิชาการดังนั้นเธอจึงได้รับอิทธิพลจากของพวกนี้มาตั้งแต่เด็ก
นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์ยังเต็มไปด้วยวัตถุโบราณที่ทั้งดูมีเสน่ห์และ
น่าดึงดูด
ซึ่งมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่เธอนั้นชอบมาก
ปกติแล้วเธอนั้นมักจะยุ่งอยู่กับการฝึกเล่นเปียโนดังนั้นเธอจึงยังไม่เคยไปพิพิธภัณฑ์ปักกิ่งที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงมาก่อน
ดังนั้นเธอจึงรู้สึกสนใจมาก
“พิพิธภัณฑ์ปักกิ่งจะจัดงานการกุศลงั้นหรอ?”
อู่หลิงเหยาขมวดคิ้ว
“หนูจะไปค่ะ”
แม่เลี้ยงของคู่หลิงเหยาเดาคําตอบได้ตั้งนานแล้วดังนั้นก่อนหน้านี้เธอจึงวางแผนมาอย่างดิบดี “งานนี้เป็นงานเลี้ยงอาหารค่ําการกุศลระดับไฮเอนด์และตั๋วเข้างานนั้นก็หายากมาก ค่ะคุณชายตระกูลใหญ่ยังต้องใช้เส้นสายอย่างมากเพื่อให้ได้ตัวมาสองใบ ดังนั้น กต้องไปกับเขา”
“แบบนั้นไม่ได้ หนูไม่ไป!”
ฉ่หลิงเหยาส่ายหัวและปฏิเสธ
ฉ่หลิงเหยานั้นคิดว่าเธอนั้นชอบเจียงเฉินไปแล้วดังนั้นเธอจึงไม่สามารถนัดบอดกับผู้ชายคนอื่นได้!
พอยังไงซะฉันก็เลือกคนที่รักและจะร่วมใช้ชีวิตด้วยไปแล้ว!
“โอ้
”
แม่เลี้ยงของเธอนั้นหดหูมาก
เด็กคนนี้ดื้อรั้นจริงๆเลย!
ถ้าอย่างนั้นเธอต้องพึ่งไม้ตายแล้ว!
แม่เลี้ยงของเธอเป็นโรคซึมเศร้าถึงตาย
“ก่อนหน้านี้ลูกบอกว่ามีเด็กกําพร้าในเมืองเล็กๆน่าสงสารมากใช่ไหม? ลูกอยากจะบริจาคเงินให้พวกเขาใช่ไหมล่ะ?”
“ใช่ค่ะ”
ฉ่หลิงเหยาแปลกใจแต่ก็พยักหน้า
“คุณชายจากตระกูลใหญคนนั้นพูดออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่า ”
แม่เลี้ยงยิ้มและพูดออกมา “เขานั้นตัดสินใจในงานเลี้ยงอาหารค่ําเพื่อการกุศลครั้งนี้ เขานั้นจะออกเงินให้ลูก! เขาจะเข้าร่วมการ ประมูล!และบริจาคเงินเพื่อการกุศลทั้งหมดให้เด็กกําพร้า ในชื่อของลูก!”
“แต่หนูไม่เห็นด้วย…
”
ชูหลิงเหยามีความมุ่งมั่นอย่างมาก
แม้ว่าเธอจะเห็นใจเด็กกําพร้าเหล่านี้มาก
แต่ที่สิ่งสําคัญกว่านั้น ครั้งก่อนที่เธอได้พูดคุยกับเจียงเฉินเรื่องภูมิหลังของครอบครัวของเขา และปรากกฏว่าเขานั้นก็เป็นเด็กกําพร้าคนหนึ่ง!
อู่หลิงเหยาที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็รู้สึกสงสารเจียงเฉินเป็นอย่างมากและด้วยความรู้สึกนี้ก็ทําให้เธอนั้นอยากจะบริจาคเงินให้กับบรรดาเด็กกําพร้า
แต่ถ้าจะให้เธอไปนัดบอดกับผู้ชายคนอื่นเธอนั้นทําไม่ได้!
สาหรับเธอนั้นเจียงเฉินนั้นเป็นดั่งคีย์ที่ 89 บนเปียโนของเธอ
[เมื่อสายัณห์ตกหลุมรักคุณ เสียงของฉันก็ล่องลอยไปกับคุณ)
เคีย์ที่ 89 สเกลที่ข้าเล่นไม่ได้ นั่นเป็นสิ่งที่ข้าคิดถึงที่สุดสําหรับ
คุณ)
ดังนั้นเมื่อเจียงเฉินได้เข้ามาอยู่ในส่วนลึกของหัวใจของเธอมันก็ทําให้เธอนั้นปิดกั้นผู้ชายคนอื่นโดยสมบูรณ์
อู่หลิงเหยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและโทรหาเจียงเฉินเพื่อทดสอบความตั้งใจของอีกฝ่าย
เชื่อมต่อแล้ว
อู่หลิงเหยาะ “เจียงเฉิน แม่เลี้ยงของฉันจะแนะนําฉันให้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งผ่านการนัดบอด และเธอยังบอกอีกว่าเขาต้องการให้ฉันไปร่วมประมูลอาหารค่ํากับเขานายคิดว่าฉันควรจะไปไหม?”
อู่หลิงเหยาคิดกับตัวเองถ้าเจียงเฉินห่วงใยเธอจริงเขาจะต้องไม่ปล่อยให้เธอไปแน่นอน!
เจียงเฉินที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรก็พูดออกมา “อย่าไปดีกว่างานเลี้ยงไม่มีอะไรสนุกหรอก!”
เป็นอย่างที่คิด!
เจียงเฉินอาจจะเป็นห่วงฉัน!
ฉ่หลิงเหยามีความสุขและตื่นเต้นมากเธอนั้นพยายามทดสอบเขาต่อไป “เจียงเฉิน เจียงเฉิน- หลังจากที่ฉันได้ฟังเรื่องของนายครั้งก่อนแล้วฉันก็อยากจะช่วยเหลือเด็กกําพร้าจริงๆนะคืนนี้นายไปงานการเลี้ยงกุศลที่พิพิธภัณฑ์ปักกิ่งได้ไหม?ไปช่วยเหลือเด็กกําพร้ากัน!”
“โอ้…
เจียงเฉินผงะไปเล็กน้อยที่ได้ยินแบบนี้ “พิพิธภัณฑ์ปักกิ่ง?งานเลี้ยงเพื่อการกุศล?”
“ใช่แล้ว”
อู่หลิงเหยายิ้มและพูดออกมา “มันเป็นงานเลี้ยงอาหารค่ําที่จัดโดยพิพิธภัณฑ์ปักกิ่งและองค์กรการกุศลหลายสิบแห่งฉันไม่รู้จะเข้าไปงานได้ยังไงเพราะว่าระดับของงานนั้นสูงมากแม้แต่คุณชาย จากตระกูลใหญ่ยังใช้เวลานานมากเพียงเพื่อตัวเฉินเพียงแค่สองใบ”
เจียงเฉินพูดไม่ออก
พิพิธภัณฑ์ปักกิ่ง?
นั่นไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ที่เขาเพิ่งได้มาเป็นรางวัลเหรอ?
เขานั้นรู้สึกว่างานเลี้ยงอาหารค่ํานั้นน่าเบื่อเขาก็เลยตัดสินใจไม่ไปและเมื่อรู่หลิงเหยาถามคําถามนี้ออกมาเขาก็เลยไม่คิดอะไรมาก และตอบปฏิเสธไป
“ครั้งนี้ฉันได้ยินมาว่าพิพิธภัณฑ์ปักกิ่งนั้นนั้นทุ่มถึงขนาดที่ว่านําสมบัติที่ไม่เคยจะแสดงออกมาก่อนนําเข้ามาร่วมประมูลในครั้งนี้”
ซูหลิงเหยาพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ฉันชอบพิพิธภัณฑ์นี้มากจริงๆ”
“แต่ก็นะ
ฉ่หลิงเหยายิ้ม “ในเมื่อนายเจียงเฉินไม่ได้ไปงั้นฉันก็ไม่ไปดีก ”
ว่า
สําหรับเธอนั้นไม่สําคัญว่าเธอจะไปหรือไม่ เพราะจุดประสงค์หลักของเธอนั่นคือการแสดงความน่ารักออกมาต่อหน้าเจียงเฉินและแสดงความรักของเขา
ชูหลิงเหยายิ้มหวาน
ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ….
เจียงเฉินยิ้มเล็กน้อยและพูดออกไป “ถ้าจะไปก็ไปได้ไม่มีปัญ
หา!”
“อะไรนะ?”
ฉ่หลิงเหยากระเด้งขึ้นมาจากเจียงก่อนจะตกลงไปบนพื้นแล้วพูดออกมาอย่างเจ็บปวด “เจียงเฉิน… ไม่อยากให้ฉันไปเดทกับคนอื่นจริงๆเหรอ?”
“ไม่ไม่ไม่”
เจียงเฉินพูด “ก็ในเมื่อเธอจะไปงานเลี้ยง ฉันก็จะไปกับเธอเอง!คุณชายจากตระกูลใหญ่คนนั้นคงไม่ใช่คนดีอะไร เขาอาจจะต้องการเดทกับเธอก็เพราะว่าอยากฟันเธอมากกว่า!”
.. “อมมะ”
นูหลิงเหยากระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขก่อนจะพูดออกมา “เจียงเฉินนายพูดให้สุภาพกว่านี้หน่อยสิพิพิธภัณฑ์ปักกิ่งนั้นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สําหรับสิ่งที่ถูกตกทอดมาจากโบราณเชียวนะ”
“อืม ฉันก็พอรู้มานิดหน่อย”
เจียงเฉินพยักหน้าเพราะยังไงซะมันก็เป็นของๆเขาไปแล้ว!
“แล้วบัตรเชิญละจะหามายังไง?”
ฉ่หลิงเหยากังวล “ว่ากันว่าเผชิญหาได้ยากมาก นอกจากนั้นต้องเป็นคนที่ดูเรื่องนี้เท่านั้น”
“นี่ไม่ใช่ปัญหาสําหรับฉันหรอก!”
มุมปากของเจียงเฉินยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
“เยี่ยม”
ดวงตาที่สวยงามของอู่หลิงเหยาโค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยวในหัวใจของเธอเจียงเฉินนั้นมีอิทธิพลอย่างมาก เธอพูดออก มาในใจของเธอ “ไม่ว่ายังไงคืนนี้นายก็จะต้องมากับฉัน!”
(อันที่จริงเธอนั้นตอบปฏิเสธไปตั้งนานแล้วเพียงแต่ต้องการทราบความรู้สึกของเจียงเฉินที่มีต่อเธอ)
“โอเค”
เจียงเฉินยิ้ม “งั้นก็ตัดสินใจได้แล้วสินะ”
ฉ่หลิงเหยากดวางสายหัวใจของเธอนั้นเต็มไปด้วยความหวาน
ออม
เจียงเฉินนั้นต้องการพาฉันไปที่พิพิธภัณฑ์ปักกิ่งและเข้าร่วมการประมูลเพื่อการกุศล?
จริงๆด้วย!
ฉันเดาถูกแล้วเจียงเฉินนั้นห่วงใยฉันจริงๆ!
มีความสุข
.
ในเวลานี้เอง
แม่เลี้ยงของอู่หลิงเหยาถามอีกครั้ง “เหยาเหยา ลองคิดดูอีกที่ดี ไหม?คุณชายจะกูลใหญ่คนนี้เป็นถึงผู้ท้าชิงรายชื่อเศรษฐีในนิตยสาร Forbesเลยนะ…
ใบหน้าของอู่หลิงเหยาแดงเธอยิ้มออกมาอย่างอ่อนหวาน “พอดีหนูมีแฟนแล้วค่ะ!”
“อะไรนะ? เธอมีแฟนแล้ว?”
แม่เลี้ยงถึงกับช็อคและตกตะลึง–
อะไรนะ!
ทําไมถึงได้มีแฟนหลังจากโทรศัพท์เพียงแค่สายเดียว!